ตอนที่ 767 พร้อมหน้า
หากเจ้าเหมียวสีขาวพูดเป็น มันคงกำลังพูดว่า “เจ้าว่าอะไรนะ ไม่กลับไป? พูดเป็นเล่น”
อย่าว่าแต่มันไม่อยากจะเชื่อเลย… เยี่ยนอวี๋เองก็ตะลึง “ไม่กลับ?”
“อะไรนะ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ฟังไม่รู้เรื่องก็ถาม
ต้าซือมิ่งที่กอดสองแม่ลูกแน่นขึ้นกว่าเดิม เขามองม่านเตียงด้วยสายตาลึกซึ้งกว่าเดิม “ไม่กลับก่อน ยังไม่ใช่เวลา ให้พวกเขามาก่อน”
“เหมียว…” เจ้าเหมียวสีขาวจึงวางใจลง มุดตัวกลับไปในอ้อมอกของเด็กน้อยต่อไป เขาก็ว่าอี้เอ๋อร์จะไม่กลับไปได้อย่างไร
เยี่ยนอวี๋กลับขมวดคิ้ว “มีปัญหาอีกหรือ”
“เจ้าค้างอะไรข้า” ต้าซือมิ่งย้อนถาม
เยี่ยนอวี๋ลุกขึ้นมองต้าซือมิ่ง ไม่ได้ลืมเรื่องสำคัญ “งานแต่งงาน” นางเคยบอกว่าจะชดเชยงานแต่งงานที่สมบูรณ์ให้เขาที่ตำหนักสวรรค์
ทว่า…
“ที่ข้าเคยพูดก็คือให้เจ้ากำหนดเวลาหลังงานแต่งงาน” เยี่ยนอวี๋พูดพลางยื่นมือไปลูบหน้าของสามีคนนี้ของนาง และยื่นหน้าเข้าไปจูบเขาเบาๆ
เด็กน้อยที่ถูกเมินอย่างสิ้นเชิงไม่ค่อยพอใจ เขาปีนขึ้นมานอนบนแผ่นอกของท่านพ่อเขาทันที และถามต่อหน้าท่านพ่อเขาว่า “เป่ายังไม่ เข้าใจเลย”
ต้าซือมิ่งที่จูบสองแม่ลูกคนละที เขาก็อธิบายให้เด็กน้อยฟังว่า “กำลังคุยว่าจะพาเจ้ากลับไปหาท่านปู่ท่านย่า และปู่ทวดและยายทวด”
“อ๋อ…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่ได้รู้สึกสนใจนักตีท่านพ่อเขาเบาๆ “แล้ว?”
ต้าซือมิ่งที่หยิกเด็กน้อยเบาๆ มือข้างหนึ่งที่เดิมทีโอบเอวภรรยาไว้ก็ย้ายมาบนท้ายทอยของภรรยา “เรื่องเวลา ค่อยกำหนด ไม่รีบ”
เยี่ยนอวี๋ที่ได้ยินดังนั้น นางก็ทำตามลูกของนาง นอนบนตัวของสามี มือข้างหนึ่งก็โอบเด็กน้อยไว้ ศีรษะมุดเข้าไปในซอกคอของสามีนาง “อื้ม ตัดสินใจได้แล้วบอกข้า”
ต้าซือมิ่งที่จูบไรผมของภรรยาเบาๆ ก็ตอบเสียงเบาว่า “อื้ม” เขาจะจัดการทุกอย่างให้ดี
เยี่ยนอวี๋ก็จูบสามีของนางเบาๆ ก่อนจะจูบผมอ่อนสีเขียวของเด็กน้อยเบาๆ เสียงเจือความเกียจคร้าน “เช่นนั้นก็นอนก่อนเถอะ”
ต้าซือมิ่งยังไม่ทันตอบ เด็กน้อยตอบอย่างเชื่อฟังว่า “ขอรับ…”
เยี่ยนอวี๋จึงจูบเด็กน้อยผู้น่ารักน่าชัง นอนหลับในอ้อมอกของสามีไปอย่างพึงพอใจ
แต่หลังจากที่นางหลับไปแล้ว ต้าซือมิ่งกลับค่อยๆ ขยับสองแม่ลูกออกเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้น
เพียงแต่ว่าเขาเพิ่งจะลงจากเตียง หันไปก็เห็นลูกของเขาลุกขึ้นตาม
เด็กน้อยที่ลอยเข้าไปในอ้อมอกของท่านพ่ออย่างเฉลียวฉลาด ยังมองท่านพ่อของเขา “เนะ?”
ต้าซือมิ่งที่เลิกคิ้วขึ้นจะทำอย่างไรได้ ได้แต่พาเด็กน้อยไปดื่มน้ำอุ่นข้างๆ
“เอา…” เด็กน้อยที่จะดื่มด้วยทำปากมุ่ย
ในขณะที่ต้าซือมิ่งที่เหมือนจะรังเกียจเด็กน้อยป้อนน้ำให้เด็กน้อยดื่มก็ถามว่า “ทำไมไม่นอน”
“ก็ ไม่ง่วง นี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าบอกว่าเขาเพิ่งตื่นเองนะ…
หรงต้าซือมิ่งที่ลูบเด็กน้อยทีหนึ่ง เขาก็รวบตัวเด็กน้อยเข้าไปในอ้อมอกและตบเบาๆ “ไม่นอนผมจะหดกลับไปนะ”
“อ้ะ” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ไม่อยากกลายเป็นเด็กหัวโล้นต่อยท่านพ่อเขาทีหนึ่ง
“นอนเถอะ” ต้าซือมิ่งที่ลูบหัวสีเขียวของเด็กน้อยก็อุ้มเด็กน้อยลงไปนอนอีกครั้ง จากนั้นก็กอดภรรยาผู้งดงามเข้ามา
“หาววว…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าหาว เหมือนกับง่วงเพราะน้ำอุ่นที่ดื่มลงไปเมื่อครู่นี้ เขานอนหลับในอ้อมกอดของท่านพ่อท่านแม่เขาอีกครั้ง
ต้าซือมิ่งที่กอดสองแม่ลูกไว้ก็หลับไปอย่างสงบ
ค่ำคืนเงียบสงบ
วันต่อมา เมื่อจักรวาลดั้งเดิมสว่าง ต้าซือมิ่งผู้ที่ลืมตาคนแรก เขากำลังหรี่ตามองภรรยาที่ยังนอนหลับอยู่และเด็กน้อยที่ยังไม่ถูกเขาเบียดออกไป
“เหมียว?” เจ้าเหมียวสีขาวที่ยื่นศีรษะออกมาเบาๆ มันก็กระโดดขึ้นไปบนไหล่ของต้าซือมิ่ง มองเยี่ยนอวี๋และเด็กน้อยพร้อมเขา ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกงดงามและน่ารัก
จากนั้นเจ้าเหมียวสีขาวก็กระโดดออกไปทำท่าจะเลียเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ของต้าซือมิ่ง แต่มันถูกปัดออกไปอย่างไร้ความปรานีทันที
“เมี๊ยว” เจ้าเหมียวสีขาวที่ชนเข้ากับขอบเตียง มันก็หันกลับมาทำหน้าบูดบึ้งใส่ต้าซือมิ่ง “เมี๊ยว” อี้เอ๋อร์ขี้งก
เด็กน้อยที่ได้ยินเสียงก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งทันทีจึงเห็นเข้า เขาหัวเราะ “ฮ่า…”
เจ้าเหมียวสีขาวเห็นดังนั้นก็ใจละลาย มันกระโดดขึ้นไปเลียเจ้าตัวน้อยตัวนุ่มนิ่ม
ต้าซือมิ่งไม่ได้ห้าม ขอแค่ไม่เลียภรรยาของเขาก็พอ
ทว่าครานี้เยี่ยนอวี๋ก็ตื่นแล้ว ดวงตางดงามที่เพิ่มลืมตาขึ้นอย่างงัวเงียกำลังมองต้าซือมิ่ง
“เสียงดังจนตื่นหรือ” หรงอี้ที่จูบดวงตาของภรรยาเบาๆ น้ำเสียงอ่อนโยนมาก “นอนต่ออีกสักหน่อย?”
“อื้อ…” เยี่ยนอวี๋ที่ขานตอบเบาๆ ถูไถสามีของนาง ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กน้อยที่กำลังเล่นกับเจ้าเหมียวสีขาว
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ถูกเลียจนจั๊กจี้หัวเราะอย่างมีความสุขกว่าเดิม
เจ้าเหมียวสีขาวสนุกกว่าเดิม มันทำหน้าตาบูดบึ้งหยอกเล่นเขา “เหมียวๆ”
“ฮ่า…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าน่ารักน่าชังจับเสี่ยวไป๋ไว้ทันทีและยังยื่นปากเข้าไปใกล้จูบไม่หยุด “รัก ไป๋ไป๋…”
“เหมียว…” เจ้าเหมียวสีขาวก็บอกว่า ข้าก็รักเสี่ยวเป่ามากเลยเหมียว
เยี่ยนอวี๋หันไปมองพวกเขาและยิ้มออกมา “ทุกครั้งที่เห็นเสี่ยวเป่าจูบเสี่ยวไป๋ ข้ากลัวเขาจะกินเสี่ยวไป๋จริงๆ”
“ไม่ต้องกลัว แม้จะถูกกลืนลงไป เสี่ยวไป๋ก็สามารถปีนออกมาได้” หรงต้าซือมิ่งที่โอบภรรยานอนต่อไป เห็นได้ชัดว่าไม่กังวลแม้แต่น้อย
ทว่าเยี่ยนเสี่ยวเป่ายังคงรักหวนแหนเสี่ยวไป๋ ไม่ได้กินมันลงไป เขาคลานมาหาท่านพ่อของเขาแล้ว “พ่อ เป่าหิว…”
พรวด เยี่ยนอวี๋หัวเราะเบาๆ ลุกขึ้น นางอุ้มเด็กน้อยเข้ามาจูบทีหนึ่ง “เสี่ยวเป่าของแม่ วันนี้น่ารักกว่าเดิมเยอะเลย”
“ฮี่…” เยี่ยนเสี่ยวเป่าอารมณ์ดีกว่าเดิมจะบินขึ้นมาแล้ว
ท่านพ่อเลี้ยงที่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนจำใจต้องลุกขึ้น ก่อนจะสวมเสื้อคลุมให้สองแม่ลูกและส่งจูบของชายรูปงามให้คนละที จากนั้นจึงลุกไปห้องครัว
เยี่ยนเสี่ยวเป่าที่ดีอกดีใจวิ่งเตาะแตะตามไป เยี่ยนอวี๋ยืดเส้นยืดสายเสร็จก็ตามเข้าไปเช่นกัน
เมื่อทั้งครอบครัวทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว คนอื่นๆ ที่เมาค้างก็เพิ่งทยอยกันตื่นขึ้นมา และก็ได้ทานข้าวต้มร้อนๆ ของต้าซือมิ่ง มีความสุขเสียไม่มี
เยี่ยนชิงตบโต๊ะลำพึงว่า “นี่น่ะสิเรียกว่าชีวิต” เมื่อก่อนเอาแต่เป็นกังวล เขาลืมไปแล้วว่าไม่ได้ทานอาหารเช้าอย่างสบายใจเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว
แม้เขาจะอยู่ได้โดยปราศจากการทานธัญญาหารมานานแล้ว แต่กิจวัตรสบายๆ เช่นนี้ก็ทำให้เยี่ยนชิงคิดถึงมาก โชคดีที่วันเวลาแบบนี้กลับมาอีกครั้ง มีความสุขมากจริงๆ…
“เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ น้องเขย กินเสร็จเรากลับชางอู๋กันเถอะ ปู่ทวดคงกำลังรออยู่” เยี่ยนจื่อเสาเอ่ยขึ้น เดิมทีเขาไปชิงชิวกับเยี่ยนหงชวน ต่อมา… เมื่อรู้ว่าเยี่ยนอวี่ไปยุคคุนหลุน เยี่ยนจื่อเสาจึงกลับไปรอที่จักรวาลดั้งเดิม ส่วนเยี่ยนหงชวนก็คิดว่าเขาอายุมากแล้ว ตบะก็ไม่ได้สูงส่ง อยู่จักรวาลดั้งเดิมไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ อาจจะรบกวนอีก สู้กลับชางอู๋ก่อนดีกว่า พวกเขาสองคนจึงแยกทางกัน
บัดนี้ครอบครัวพร้อมหน้าแล้ว เยี่ยนจื่อเสาก็ไม่ได้ลืมปู่ทวด “ถึงอย่างไรเราก็ต้องกลับไป กลับเร็วหน่อยให้ปู่ทวดดีใจเสียหน่อย”
“ข้าส่งจดหมายให้ชางอู๋แล้ว” เทียนตี้พูดทันที เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทางผู้อาวุโสนั่นได้รับข่าวว่าปลอดภัยแล้ว
ทว่าเยี่ยนชิงยังคงพูดว่า “แต่ไม่เหมือนกับการกลับไปด้วยตนเองแน่นอน เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ถ้าไม่มีธุระอะไร เรากลับไปชางอู๋เร็วหน่อยก็ดี แล้วก็อีกอย่าง… งานแต่งงานของเจ้าและลูกเขย พ่อกำลังครุ่นคิดว่าครั้งที่แล้วจากไปอย่างรีบร้อน ทุกคนยังไม่ได้ดื่มอวยพรเลย คงต้องเชิญญาติสนิทมิตรสหายมาดื่มอีกครั้งหรือไม่”
“เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ตอบ
เยี่ยนชิงยิ้มแย้ม “เช่นนั้นประเดี๋ยวกลับไปกันเลย”
“เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี๋ก็อยากกลับไปดูโลกมนุษย์เหมือนกัน
ต้าซือมิ่งที่รู้ความคิดในใจของนางก็พูดว่า “ท่านพ่อท่านแม่และท่านพี่ทั้งสอง พวกท่านกลับไปชางอู๋ก่อน ข้าจะพาเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์และเสี่ยวเป่าไปตี้ชิวสักครู่”
“พาข้าไปด้วย ข้าอยากไปหาท่านพ่อข้า” อินหลิวเฟิงรีบพูด
เอ้อร์เหมาลุกขึ้นทันที “ข้าน้อยด้วย”
“เจ้าไปทำไม”
“นายน้อยท่านห้ามไปบอกท่านอ๋องลับหลังว่าไม่ต้องการองครักษ์เช่นข้าน้อยแล้ว”
“เจ้าจะสะกดรอยตามข้ารึ”
“นายน้อยท่านอย่าพูดเช่นนี้ ข้าน้อยกลัว ข้าน้อยทำไม่ดีตรงไหน ท่านบอกได้เลย ข้าน้อยปรับปรุงแน่นอน”
“…”
อินหลิวเฟิงที่ไม่เชื่อแม้แต่น้อยพูดประชดก็ส่วนประชด แต่ยังคงต้องพาลูกน้องไปด้วยอยู่ดี
แต่ว่าเอ้อร์เหมากลับยังพูดว่า “เช่นนั้นชุนซิ่นจวินก็ต้องกลับไปเจอท่านอ๋องด้วยหรือไม่ขอรับ”
“หุบปากสุนัขของเจ้าเสีย” อินหลิวเฟิงเตรียมจะต่อยลูกน้องแล้ว เทพโบราณวิหคทมิฬผู้ปราดเปรื่องเช่นเขา เหตุใดกลับชาติมาเกิดแล้วมีนกเผิงปลาคุนโง่เขลาเช่นนี้นะ เวรกรรมจริงๆ
จากนั้น เหล่าทวยเทพก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัว
ต้าซือมิ่งกลับเรียกเจ้าเหมียวสีขาวมาขณะที่ภรรยาพาเด็กน้อยไปฝากฝังเรื่องบางเรื่องให้เทียนตี้
“เหมียว?” เจ้าเหมียวสีขาวที่งุนงงยืนบนโต๊ะ มันไม่ค่อยเข้าใจ เหตุใดอี้เอ๋อร์จึงจริงจังเช่นนี้ มันรู้สึกกลัวนะเหมียว…
ต้าซือมิ่งที่สีหน้าจริงจังมากจริงๆ กลับถามว่า “เสี่ยวไป๋ เจ้าอาจจะต้องกลับเขาพระสุเมรุ ส่งจดหมายให้ท่านพ่อ ท่านแม่ และท่านปู่ท่านย่า”
*********************