ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年] – บทที่ 316 ข้าปิดกั้นการสื่อสารของเจ้า

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

บทที่ 316 ข้าปิดกั้นการสื่อสารของเจ้า

บทที่ 316 ข้าปิดกั้นการสื่อสารของเจ้า

ไป๋ชิวหรานเข้าสู่วิถีสวรรค์โดยการกระทืบสิ่งนั้นโดยตรง ทว่าวิถีสวรรค์ยังคงไม่ตอบสนอง

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายหนุ่มจึงร่ายเวทคาถาใส่วิถีสวรรค์อีกครั้ง แต่มันยังคงปฏิเสธที่จะออกมา!

“ได้!”

ความอดทนของไป๋ชิวหรานหมดลง เขาเหยียดมือออกไปคว้าวิถีสวรรค์เอาไว้ก่อนจะเหยียบย่ำลงไปด้วยฝ่าเท้า พลังปราณที่แท้จริงถูกควบแน่นข่มเหงวิถีสวรรค์ที่ไม่อาจฆ่าตายใต้ฝ่าเท้า ก่อนจะกล่าวข่มขู่

“หากไม่ออกมา ข้าจะปิดกั้นการสื่อสารของพวกเจ้าเสีย!”

ชั่วขณะนั้น เกิดการเคลื่อนไหวในพริบตา ครู่ถัดมา วิถีสวรรค์ที่ไป๋ชิวหรานคว้ามาเปล่งแสงสีทองหลอมรวมกันเป็นร่างของวิถีสวรรค์ ก่อเกิดเป็นสตรีผมขาวที่เคยพบพานเมื่อสามแสนปีที่แล้ว

“เหตุใดถึงเป็นเจ้าอีกแล้ว”

หลังจากออกมา วิถีสวรรค์บ่นอุบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

“แล้วอย่างไร? มีธุระใดกับข้า?”

“แลกเปลี่ยน”

ไป๋ชิวหรานกล่าวตอบเสียงเรียบ

“ข้ามีเรื่องอยากถาม เมื่อหลายปีก่อนจักรพรรดิตะวันออกชิงใช้โลก ภรรยาและบุตรสาวของเขาเพื่อแลกเปลี่ยนบางอย่างกับเจ้า… เขาร้องขอสิ่งใดกัน?”

“ข้อมูลพวกนั้น…”

วิถีสวรรค์ลังเลครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวตอบ

“ข้าจะทราบได้อย่างไร เพราะข้าแลกเปลี่ยนกับเซียนนับร้อยพัน”

“อย่าแม้แต่จะคิดหลีกเลี่ยง”

ไป๋ชิวหรานมองนางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างจับผิด

“ประหลาดไม่น้อย วันนั้นเจ้าบอกข้อมูลทุกสิ่งกับข้าชัดเจน และขอให้ข้าช่วยสังหารจักรพรรดิตะวันออกไท่อี… เหตุใดเจ้าถึงพยายามช่วยจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ทิศเพื่อปกปิดเรื่องชั่วร้าย พวกเจ้าคิดทำสิ่งใด?”

วิถีสวรรค์ปิดปากแน่นโดยไม่กล่าวตอบ

“หากให้ข้าเดา…”

นัยน์ตาของไป๋ชิวหรานกวาดไปรอบ ๆ ห้วงกระแสความว่างเปล่า และในขณะเดียวกันก็เดินวนรอบร่างกายของวิถีสวรรค์อย่างเนิบนาบ

ดวงตาของเขากวาดไปทั่ว ทันใดนั้นนึกถึงอีกด้านหนึ่งของกำแพงแห่งความตระหนักรู้ รอยแตกนั่น…

ในความว่างเปล่า เขตแดนจิตสำนึกใช้วิธีการที่คล้ายกันในการเชื่อมโยงโลกนับไม่ถ้วนให้เชื่อมต่อกันในความว่างเปล่าขนาดใหญ่

ไป๋ชิวหรานตระหนักได้ถึงบางอย่าง เขาหันกลับไปมองร่างจำแลงของวิถีสวรรค์แล้วถามว่า

“เขตแดนจิตสำนึกที่เป็นต้นกำเนิดอาจารย์อสูรไม่เกี่ยวกับเจ้าใช่หรือไม่?”

ร่างจำแลงวิถีสวรรค์ยังคงเงียบงัน

“ความต้องการของเจ้าคือการไล่ตามอยากจะควบคุมโลกใบนี้ ซ้ำยังคิดวิวัฒนาการชีวิตในโลกด้วยตนเอง ความคิดของเจ้าไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ที่โง่เขลา และชอบการต่อสู้แบบประจัญบาน ตราบใดที่พวกมันสามารถถือกำเนิดขึ้นในเขตแดนจิตสำนึก เหล่าเซียนทั้งหมดจะไม่สามารถล้มล้างได้ ส่วนอสูรจะแข็งแกร่งก้าวหน้าขึ้นไป ดังนั้นเจ้าจึงไม่ได้ช่วยจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ทิศเก็บความลับเท่านั้น ทว่ายังรอให้พวกเขาล้มล้างการต่อสู้ภายในเสร็จสิ้น จากนั้นจะนำเขตแดนจิตสำนึกมาสู่โลกนี้ แล้วให้มันครอบงำโลกทั้งหมด… ดูเหมือนว่าเจ้าจะใช้กำแพงแห่งความตระหนักรู้เพื่อบุกรุกกับโลกที่อยู่ใกล้เคียง”

ไป๋ชิวหรานสูดหายใจลึก

“ข้าประเมินความโลภของเจ้าต่ำเกินไป ความโลภของผู้ที่สร้างมนุษย์และเทพเจ้า”

เขามองร่างจำแลงของวิถีสวรรค์ก่อนจะกล่าวเสียงเข้ม

“ข้าจะถามอีกครั้ง จักรพรรดิเซียนตะวันออกชิงแลกเปลี่ยนสิ่งใด?”

“อสูรเซียนหนึ่งร้อยตน”

ร่างจำแลงของวิถีสวรรค์ยังคงดื้อรั้น

ฟุบ!

ไป๋ชิวหรานทุบมันด้วยฝ่ามือเดียว ก่อนจะเปลี่ยนร่างจำแลงของวิถีสวรรค์ให้กลายเป็นเนื้อสับ!

ครู่ต่อมา ร่างจำแลงของวิถีสวรรค์ที่เหมือนเดิมปรากฏขึ้น นางมองไป๋ชิวหรานด้วยแววตาเย็นเยียบ

“ข้าบอกว่าต้องการหนึ่งร้อยก็ต้องเป็นหนึ่งร้อย วิถีสวรรค์ไม่อาจถูกละเมิด!”

ไป๋ชิวหรานดึงวารีสารทกระจ่างฟ้าออกมา ก่อนจะตบใบหน้าของร่างจำแลงวิถีสวรรค์ด้วยสันกระบี่ ส่งให้แววตาชั่วร้ายเปิดเผยออก

“เชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถทำลายเจ้าได้… พี่น้องเอ๋ย”

“ฮึ่ม สวรรค์ริษยา อย่าคิดว่าเจ้ากับข้าไม่มีสิ่งใดแลกเปลี่ยนต่อกัน เจ้าตกสู่ห้วงเวลาอันยาวนานกว่าสามแสนสามหมื่นปี และทั้งหมดย่อมไม่สูญเปล่า หากเทียบกับข้าในเมื่อก่อน วันนี้ข้าไม่ใช่คนเดิมแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหากทำลายข้า โลกที่เจ้าหวงแหนจะถูกทำลายไปพร้อมกัน”

ร่างจำแลงวิถีสวรรค์เย้ยหยัน

“หากเจ้าไม่จ่ายราคาที่เหมาะสม ข้าก็ไม่คิดบอกกล่าวข้อมูลพวกนั้น”

“มันสมเหตุสมผลแล้ว”

ไป๋ชิวหรานเกาศีรษะก่อนจะขยี้ฝ่าเท้าให้หนักขึ้น

“เช่นนั้นข้าจะตัดการสื่อสารของเจ้าซะ!”

ไม่กี่อึดใจต่อมา ร่างจำแลงของวิถีสวรรค์กางแขนออกพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึก นางหยุดอยู่ตรงหน้าไป๋ชิวหรานก่อนจะกล่าวกับเขาว่า

“เอาล่ะ เจ้าชนะ ข้ายอมแล้ว”

รอบข้างของนาง สายใยสื่อสารถูกตัดขาดหมดสิ้น หลังจากที่วิถีสวรรค์ถูกปิดกั้น พวกเขาจะเลือนหายไปจากแดนเซียนทันที และหวนกลับคืนสู่โลกของตนเอง ในโลกนั้น วิถีสวรรค์จะพลันถือกำเนิดขึ้นใหม่

ร่างจำแลงวิถีสวรรค์ขมวดคิ้วยุ่ง เหนือแดนเซียนทั้งห้าทิศมีวิถีสวรรค์มากมายนับไม่ถ้วนที่เจาะทะลุทะลวงเข้าสู่โลกที่ห่างไกล ทั้งหมดซึมซับวิถีสวรรค์ภายในโลกที่เกิดใหม่เอาไว้มากมาย

มันอดไม่ได้ที่จะขุ่นเคือง ไป๋ชิวหรานมองเจตนาของมันออกหมดสิ้น

หากไป๋ชิวหรานตัดวิถีสวรรค์ทั้งหมดที่เชื่อมโยงกันไว้ วิถีสวรรค์เคยเป็นหนึ่งเดียวจะถูกแยกออกกลายเป็นอิสระในทันที และการสร้างวิถีสวรรค์ขึ้นใหม่จะกลายเป็นการแบ่งแยกอาณาเขต เมื่อถึงเวลา เขตแดนจิตสำนึกจะถูกรุกราน และระหว่างมันกับวิถีสวรรค์เหล่านี้ กล่าวได้ยากว่าผู้ใดจะชนะ!

มันยังคงเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ และไม่สามารถแยกออกจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้โดยสมบูรณ์

“เช่นนั้นก็รีบกล่าวมาเสีย”

ไป๋ชิวหรานแคะหูอย่างใจร้อน

“ข้าบอกได้เพียงแค่… ข้ามอบวิธีผลิตอาวุธวิเศษให้กับเขา ซึ่งมันสามารถควบคุมผู้ฝึกตนทุกคนได้”

ร่างจำแลงของวิถีสวรรค์ตอบกลับอย่างเย็นชา

“เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งนั้น แม้แต่จักรพรรดิเซียนยังไร้อำนาจ ตราบใดที่เจ้าได้เผชิญหน้ากับมัน นั่นมีเพียงความตายที่รออยู่”

“แข็งแกร่งเพียงนั้น?”

ไป๋ชิวหรานชี้ปลายกระบี่ไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายพร้อมข่มขู่

“แล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่บอกข้าว่ามันคือสิ่งใด? เจ้ามีแผนผังของมันด้วยหรือไม่”

“เหตุใดถึงสนใจมันนัก? สิ่งนี้ไม่มีประโยชน์กับเจ้า มิฉะนั้นข้าจะใช้มันเพื่อผูกมัดเจ้าแทน”

ร่างจำแลงของวิถีสวรรค์มองไป๋ชิวหรานด้วยแววตาเย็นยะเยือก

“อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาจักรพรรดิเซียนตะวันออกจะใช้มันเพื่อจัดการกับศิษย์ของเจ้า เหตุใดเจ้าถึงไม่ขึ้นไปที่นั่นแล้วปิดกั้นพลังของมันเสียล่ะ?”

“เจ้าพูดชัดเจนว่ามันคืออาวุธวิเศษที่จะจัดการกับผู้ฝึกตน และยังบอกให้ข้าปิดกั้นพลังของกระบี่นั้น”

แววตาของไป๋ชิวหรานเต็มไปด้วยความสงสัย

“หรือเจ้าพยายามที่จะทำร้ายข้า”

“เจ้าหวาดกลัวสิ่งใด นั่นคืออาวุธวิเศษที่จะจัดการกับผู้ฝึกตน… เจ้าเป็นผู้ฝึกตนอย่างนั้นหรือ?”

ร่างจำแลงวิถีสวรรค์กล่าว

“เจ้าไม่ได้แปลงปราณที่แท้จริงในร่างกายแล้วหรือไร อาวุธวิเศษของจักรพรรดิตะวันออกมีเป้าหมายคือจุดจื่อฝู่ แล้วมันจะมีประโยชน์อันใดกับเจ้า?”

ไป๋ชิวหรานครุ่นคิด

“นี่เจ้าล้อเลียนข้าหรือไร?”

“ข้าเพียงกล่าวตามตรง”

ร่างจำแลงวิถีสวรรค์กล่าวคำเบา

“ในโลกทั้งหมดที่อยู่ภายใต้อำนาจของโลกเซียนที่มีการฝึกฝนเซียน สามัญสำนึกของพวกเขาคือหลังจากสร้างรากฐานเสร็จสิ้นก็จะถือว่าเป็นผู้ฝึกตน ในบางโลกที่แยกโลกของการฝึกฝนออกจากโลกมรรตัยยิ่งต้องก้าวหน้าต่อไป เมื่อพ้นขั้นการสร้างรากฐานแล้ว ผู้ฝึกตนถึงจะสามารถเข้าสู่โลกแห่งการฝึกฝนได้หลังจากผ่านพ้นโลกโลกีย์ได้”

ใบหน้าของไป๋ชิวหรานแดงก่ำ เขากำหมัดไว้แน่น

“สวรรค์ริษยา เจ้าทราบเรื่องทั้งหมดดีอยู่แล้ว”

ร่างจำแลงวิถีสวรรค์กล่าวกับไป๋ชิวหรานอีกครั้ง

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปซะ”

“ข้ายังมีบางสิ่งที่ต้องทำ”

รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไป๋ชิวหราน เขาเหยียดมือออกไปจับไหล่ของร่างจำแลงวิถีสวรรค์แล้วกล่าวขึ้น

“ฟังข้า… แม้ว่าเราจะรู้จักกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมกันเพียงนั้น?”

“เรื่องความสนิทสนมพวกนั้นมันไม่มีความหมายสำหรับข้า”

ร่างจำแลงวิถีสวรรค์ตอบกลับอย่างเย็นชา

“การใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดเพื่อสนิทกับข้า เป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย”

“เอาล่ะ ข้าไม่อยากมีเรื่องกับเจ้า”

ชายหนุ่มยกยิ้มก่อนจะกระชับไหล่ของร่างจำแลงแน่นขึ้น เกิดเสียงดังขึ้นจากสะบักของร่างจำแลง มันแตกหักในกำมือของเขา!

“ข้าเพียงแค่อยากยืมร่างกายเจ้ามาระบายอารมณ์สักหน่อย!”

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

Status: Ongoing
ณ สำนักกระบี่ชิงหมิง ที่แห่งนี้ยังมี ‘อาจารย์ลุง’ ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญและพบหน้าค่าตาได้ยากอยู่คนหนึ่ง …ที่ถึงแม้จะอยู่เพียงแค่ขั้นพลังชั้นต่ำสุดอย่างกลั่นลมปราณ แต่จะหาใครแกร่งเท่า คงไม่มีอีกแล้ว!‘ไป๋ชิวหราน’ ชื่อนี้ไม่มีใครที่เป็นศิษย์ในสำนักกระบี่ชิงหมิงจะไม่รู้จัก ศิษย์ลูกรักของผู้ก่อตั้งสำนัก อีกทั้งยังเคยเป็นถึงความหวังของสำนักอีกด้วย ใครต่อใครก็บอกว่าเขาเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่การที่ไปชิวหรานผู้นี้ต้องมาติดแหง็กอยู่ที่ขั้น ๆ เดิมมาถึงสามพันปี มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ สวรรค์ต้องเล่นตลกกับเขาอยู่แน่นอน นอกจากจะต้องเร่งบรรลุไปที่ขั้นสูงกว่านี้ให้ไว ๆ เพื่อหลีกหนีความตายแล้ว ยังต้องมารับมือกับเรื่องวุ่นวายทางโลกที่ ‘คนอื่น ๆ’ ชอบพามาหาเขาแบบไม่หยุดไม่หย่อนอีก เห็นเขาใจดีแบบนี้ใช่ว่าจะทำอะไรกับเขาก็ได้นะ!เส้นทางการฝึกตนนั้นไม่เคยง่ายดาย ไป๋ชิวหรานผู้นี้รู้ซึ้งดี ฉะนั้นใครก็ตามที่กล้ามาดูถูกขั้นพลังของเขา ก็เตรียมตัวชักกระบี่มาคุยกันได้เลย!ความตายที่คอยรังควาญไป๋ชิวหรานคือสิ่งใด ขั้นพลังที่เขามักแอบตัดพ้อถึงมันนั้นสูงส่งหรือต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียงไหน โปรดติดตามได้ใน ‘ข้าก็แค่กลั่นลมปราณสามพันปี’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท