ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年] – บทที่ 325 ข้าผู้นี้จะส่งเจ้าไปสู่ขุมนรกอาจมเดือดพล่าน

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

บทที่ 325 ข้าผู้นี้จะส่งเจ้าไปสู่ขุมนรกอาจมเดือดพล่าน

บทที่ 325 ข้าผู้นี้จะส่งเจ้าไปสู่ขุมนรกอาจมเดือดพล่าน

มันสายเกินกว่าจะหันหลังกลับแล้ว กองเรือหยุดแล่นรอบนอกยมโลก แต่กลับพบว่าตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบที่ถูกห้อมล้อมด้วยหมอกบาง

ในม่านหมอก เรือรบนับไม่ถ้วนต่างตีกลองสนั่น ล่องไปทางกองเรือเสวียนเทียนล้อมรอบพวกเขาเอาไว้ตรงกลาง มันคือเรือรบภูตผีของยมโลก!

เรือภูตผีเหล่านี้กำลังใกล้เข้ามา ภายในเรือเต็มไปด้วยภูตผีซีดเซียว สวมชุดคลุมสีขาวบ้างสีดำบ้าง ในมือถือโคมไฟกระดาษ ดูหมองหม่นน่าขนลุก แววตาเฉยชาไร้ชีวิต อีกทั้งยังน่าขนลุกนัก!

หนึ่งในเรือลำใหญ่ที่สุดล่องมาจากหน้ากองเรือ บนหัวเรือ มีชายหนุ่มสวมชุดหนังสัตว์สีขาวและมงกุฎสีทอง อีกทั้งยังมีสตรีน่ารักที่มาพร้อมกลุ่มผู้อาวุโสขนาดใหญ่จากยมโลก พวกเขายิ้มให้เซียนอาวุโสในกองเรือเสวียนเทียน

“นายท่านของพวกท่านคงคิดสินะว่าจะสามารถเชิญทุกท่านมายมโลกได้ แต่ถึงอย่างไร ในกองเรือนี้มีอยู่หลายคนที่สมควรไปเกิดใหม่ แต่กลับหลบหนีจากการลงโทษ ข้าไม่คิดเลยว่าจะจงใจเดินทางหลายพันลี้ เดินทางมาไกลแสนไกล จิตใจแน่วแน่ เพื่อมุ่งสู่ตำหนักนี้ ตำหนักนี้จะเป็นตัวแทนความยิ่งใหญ่ของพวกท่าน ข้าต้องให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว เช่นนั้นก็มาสะสางบัญชีที่ค้างคากันก่อนเถิด”

ขณะสัมผัสกลิ่นอายทรงพลังที่มาจากสตรีอายุสิบสามถึงสิบสี่ปีนี้ เซียนอาวุโสสองสามคนเกิดหวาดกลัวเล็กน้อย

เซียนอาวุโสไป๋เหลี่ยนที่เป็นผู้นำสูดหายใจเข้าลึกขณะขาก้าวไปข้างหน้า เผยรอยยิ้มให้เจียงหลานเป็นพิเศษและกล่าวว่า

“ขอบังอาจถามหญิงสาวผู้นี้… ว่าท่านเป็นผู้ใดหรือ?”

ขณะเผชิญหน้ากับหญิงสาวงดงามพราวเสน่ห์ เขาแสดงวิธีปฏิบัติเหมือนกับจักรพรรดิเฮยแห่งแดนเซียนเหนือโดยไม่รู้ตัว แต่รอยยิ้มมีเสน่ห์ที่ส่งให้หญิงสาวในครั้งนี้ กลับทำให้เจียงหลานไม่พอใจ

“ข้าคือ เจียงหลาน ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งยมโลก”

เจียงหลานขมวดคิ้วขณะตอบ

“เจ้าช่างเป็นผู้ชายที่ขี้เล่นนัก แต่ความขี้เล่นที่นำมาใช้กับหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว ช่างไร้ยางอายสิ้นดี ข้าผู้นี้ขอตัดสินเพิ่มเติมว่า เจ้าจะถูกส่งไปขุมนรกอาจมเดือดพล่าน”

นางไม่ให้เวลาเซียนอาวุโสเหล่านี้ตอบสนองและยกมือขึ้นทันที

“โจมตี”

เพียงคำสั่งเดียว เรือภูตผีรอบข้างกระแทกเข้าใส่กองเรือเสวียนเทียน ราวกับตั้งใจเข้าไปฆ่าตัวตาย ถึงแม้กองเรือเสวียนเทียนมีปีนใหญ่ที่แข็งแกร่ง แต่ไม่กล้ายิงในระยะขนาดนี้ เพราะแรงระเบิดที่ทรงพลังเกินไปจะทำลายพวกเขาตายไปพร้อมกัน

“เตรียมต่อสู้ระยะประชิด!”

กลุ่มเซียนอาวุโสทำได้เพียงยกมือเพื่อถ่ายทอดคำสั่งอย่างสิ้นหวัง จากนั้นเซียนอาวุโสไป๋เหลี่ยนแสดงท่าทีถ่อมตนต่อหน้าเจียงหลานและไม่พูดอะไรออกมา

“โปรดชี้แนะด้วย ท่านราชินีผู้งดงาม”

เจียงหลานเมินเสียงนกเสียงกา นางถอดชุดหนังสัตว์ออกจากร่างกายอย่างอ่อนโยน ก่อนจะส่งให้สาวใช้ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นเพียงพริบตา นางพลันปรากฏตัวตรงหน้าผู้อาวุโสเซียนหน้าขาว

มือราบเรียบของนางเร็วเกินกว่าที่เซียนอาวุโสไป๋เหลี่ยนจะตอบสนองทัน มันกดลงตรงหน้าเขา ส่งให้หมอกพิษระเบิดออกจากฝ่ามือ เซียนอาวุโสไป๋เหลี่ยนส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน ภายในไม่กี่ลมหายใจ ร่างกายกลายเป็นแอ่งโลหิตและถูกกลืนกินโดยความว่างเปล่า…

“พิษหรือ?”

เซียนอาวุโสคนอื่นก้าวถอยหลังสองสามก้าวด้วยความหวาดกลัว ทันใดนั้นเห็นกงล้อแสงศักดิ์สิทธิ์สาดส่องอยู่หลังศีรษะของเจียงหลาน กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์พุ่งทะยาน เบื้องหลังคือนภากว้างใหญ่ หมู่ดาราส่องแสงระยิบระยับ ซึ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิเฮยเสียอีก!

เจียงหลานยกมือขึ้นกอดอกและทะยานขึ้นจุดสูงสุดของนภา นั่งอยู่บนบัลลังก์ขณะสายตาทอดมองเซียนอาวุโสหล่อเหลาเหล่านี้อย่างไม่ใส่ใจ

“จักรพรรดิเซียนระดับสวรรค์ขั้นสูงสุด”

เซียนอาวุโสจำนวนมากสูดไอเย็นเข้าไป

โดยไม่มอบโอกาสให้กองเรือเหล่านั้น เจียงหลานกระตุ้นพลังเซียน เรียกทะเลขึ้นมา… ทะเลปั่นป่วนไปด้วยพิษมากมาย!

เซียนอาวุโสจำนวนมากที่มีระดับเหนือกว่าสองขั้นยังไม่สามารถขัดขืนได้ ก่อนเข้าไปพัวพันกับทะเลมีพิษร้ายแรงทันที เนื้อหนังหลอมละลาย กระดูกและโลหิตสึกกร่อน วิญญาณถูกนำเข้าสู่โคมไฟโดยยมทูต

ส่วนผู้อาวุโสของยมโลก เชวียหลิง ท่านผู้ทรงเกียรติกุ้ย ท่านผู้ทรงเกียรติหยิน ท่านผู้ทรงเกียรติเสวี่ย ท่านผู้ทรงเกียรติกู่ ทะลวงเข้าสู่กองเรือเสวียนเทียนทันที อาศัยการบดขยี้ของระดับการฝึกฝนนำพาหัวกะทิของยมโลกเข้ามา ไม่ช้ากองทัพเซียนทั้งหมดของกองเรือเสวียนเทียนก็ถูกกวาดล้างจนสิ้น!

วิญญาณของพวกเขาไม่รอดเช่นกัน ทั้งหมดถูกยมทูตนำเข้าไปในโคมไฟกระดาษ…

หลังจากการต่อสู้จบลง เจียงหลานสั่งให้ยมทูตรีบเก็บกวาดสมรภูมิ จากนั้นโซ่เหล็กถูกโยนออกจากเรือสงครามของยมโลก ไปมัดกับเรือสงครามที่เหลือของกองเรือเสวียนเทียน ก่อนพาเข้าสู่ยมโลก

“มันจบแล้ว”

ไป๋ชิวหรานผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดของเมืองจักรพรรดิในสวรรค์ตะวันออกกับจักรพรรดิเซียนกลางพลันกล่าวขึ้นว่า

“กองเรือเสวียนเทียนของจักรพรรดิเฮยถูกทำลายจนสิ้นแล้ว”

“ท่านย่า คุณลุงสามและน้องสามนำกองกำลังของตัวเองไปทางเหนือ ใต้และตะวันตก”

จักรพรรดิเซียนกลางกล่าว

“ครั้งนี้ กลุ่มของจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ทิศล้วนถูกทำลาย… ทั้งหมดต้องขอบคุณท่าน… ท่านอาจารย์”

“ไม่ เจ้าผิดแล้ว”

ไป๋ชิวหรานยิ้มก่อนส่ายหน้า

“ข้าไม่ได้มีอำนาจทุกอย่าง ดูตรงนั้นสิ ของแบบนั้น ข้าไม่สามารถทำได้หรอก”

เขาเชยคางขึ้น จักรพรรดิเซียนกลางมองไปทางที่คางของเขา จากนั้นจึงได้เห็น จักรพรรดิเซียนองค์แรกผู้เป็นอาจารย์ ขณะยิ้ม เขาถือศีรษะของจักรพรรดิชิงแห่งแดนตะวันออกเอาไว้ ฝีเท้าก้าวเดินบนขั้นบันไดเมฆาที่นำไปสู่เมืองจักรพรรดิจากสวรรค์ชั้นแปดของแดนเซียนตะวันออก

ด้านหลังของเขา เซียนนับไม่ถ้วนรวมกลุ่มกันติดตามไป๋ลี่ เพื่อออกเดินทางไปยังเมืองจักรพรรดิที่เคยเป็นของจักรพรรดิชิง

จำนวนของเซียนเหล่านี้มากเกินไป แม้แต่เมืองเซียนอันโอ่อ่าก็ไม่สามารถบรรจุพวกเขาทั้งหมดได้ มีผู้คนมากมายรวมตัวในเมืองเซียนของสวรรค์ชั้นแปด พวกเขาล้วนติดตามคนตรงหน้าเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า

เพราะพวกเขารู้ว่าคนที่เดินอยู่ข้างหน้าคือจักรพรรดิเซียนองค์แรก!

ส่วนลูกน้องของจักรพรรดิชิงที่เดิมคุ้มกันประตูเหล่านั้นและเคยเป็นวิญญาณรับใช้เสือที่คอยกดขี่เหล่าเซียนคนอื่น เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิเซียนองค์แรกกำลังมา จะทำให้คนทั้งสองกลุ่มปะทะกัน พวกเขาจึงไม่กล้าเผยร่องรอยของการต่อต้าน

เมืองจักรพรรดิเปิดกว้างออก ทหารยามที่เฝ้าประตูต่างหวาดหวั่นระคนมีความหวังอยู่ลึก ๆ พวกเขามองมาทางจักรพรรดิเซียนองค์แรกที่ถือศีรษะนายท่าน กำลังเดินเข้าในเมืองจักรพรรดิก้าวแล้วก้าวเล่า

“นี่คือพลังจิตใจของมนุษย์”

ไป๋ชิวหรานตบบ่าจักรพรรดิเซียนกลาง

“บทบาทนี้ ข้าไม่สามารถทำได้… แต่เจ้าต้องเรียนรู้บางสิ่งเอาไว้ เพราะอีกห้าร้อยปีต่อมา ในช่วงเวลาถัดไป… เจ้าควรรับบทบาทนั้น”

จักรพรรดิเซียนกลางก้มศีรษะ มองกลุ่มคนที่กำลังไหลหลั่งเข้าเมืองจากประตูเมืองจักรพรรดิและรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล

ทั้งสองเคลื่อนลงจากกำแพงเข้าไปปะปนไปกับกลุ่มคนอย่างเงียบงัน ผ่านกลุ่มคนอีกครั้งก่อนมาอยู่ฝั่งซ้ายและขวาของไป๋ลี่

“อาจารย์”

เล่อเจิ้นเทียนกล่าวเสียงต่ำ

“ทุกอย่างจบแล้ว”

ไป๋ลี่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่ารับรู้ จากนั้นยกแขนขึ้นแล้วตะโกน พวกเซียนกระสับกระส่ายทันที พวกเขาตามติดเด็กหนุ่มเข้าสู่ใจกลางของเมืองจักรพรรดิ มุ่งสู่ไท่เหอเตี้ยนที่จักรพรรดิชิงเคยอยู่

ภายในไท่เหอเตี้ยน ชายชราคนหนึ่งมีผิวคล้ำ ร่างผอม กำลังนำกลุ่มเซียนที่แต่งตัวเป็นช่างฝีมือมาคุกเข่าตรงหน้าไป๋ลี่

“คารวะ ท่านจักรพรรดิเซียนองค์แรก”

ไป๋ลี่พยุงเขาขึ้นมา จากนั้นถามว่า

“ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเจ้า…”

“คนด้านข้างคือคนบาปที่ช่วยจักรพรรดิชิงในการสร้างทลายพันธนาการเซียน”

ช่างฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ก้มศีรษะตอบว่า

“ข้าเต็มใจยอมรับอาชญากรรมนี้ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี แต่ต้องขอให้จักรพรรดิเซียนองค์แรกโปรดเมตตา อย่าทำอะไรช่างฝีมือที่อยู่ด้านหลัง ครอบครัวของพวกเขาถูกจองจำเอาไว้ และไม่ได้สมัครใจทำแต่อย่างใด”

“การช่วยจักรพรรดิชิงในการสร้างศาสตราเช่นนั้นเพื่อเข่นฆ่าผู้คน นับว่ามีความผิดจริง”

ไป๋ลี่กล่าวโดยเอามือไพล่หลัง

“แต่ในท้ายที่สุดแล้ว เจ้ายื่นมือกระทำบางอย่างในกระบวนการหลอม ทำให้ทลายพันธนาการเซียนแตกสลายอย่างรวดเร็ว นี่คือความสำเร็จอันยอดเยี่ยม ประกอบกับเจ้าไม่ได้เข้าร่วมกระทำเรื่องโสมมร่วมกับจักรพรรดิชิงโดยตรง ดังนั้นบุญและบาปจึงเท่ากัน ข้าจะไม่ทำให้เจ้าอับอายอีกแล้ว ลุกขึ้นเถิด”

“ขอบคุณท่านจักรพรรดิเซียนองค์แรก”

เหล่าช่างฝีมือยินดีลุกขึ้นจากพื้น ช่างฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ครุ่นคิดสักพักและกล่าวว่า

“มีอีกเรื่องหนึ่ง นายท่าน เซียนอาวุโสชื่อชิง… โปรดมอบบางอย่างให้ข้า”

เขาหันหลัง ช่างฝีมือที่อยู่ด้านหลังยื่นถาดมาให้ วัตถุทรงกลมที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าสีดำอยู่บนถาด

ไป๋ลี่ยกผ้าสีดำเพื่อมองดูและพบว่าบนถาดนี้ มันคือศีรษะขององค์ชายชื่อชิง!

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

Status: Ongoing
ณ สำนักกระบี่ชิงหมิง ที่แห่งนี้ยังมี ‘อาจารย์ลุง’ ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญและพบหน้าค่าตาได้ยากอยู่คนหนึ่ง …ที่ถึงแม้จะอยู่เพียงแค่ขั้นพลังชั้นต่ำสุดอย่างกลั่นลมปราณ แต่จะหาใครแกร่งเท่า คงไม่มีอีกแล้ว!‘ไป๋ชิวหราน’ ชื่อนี้ไม่มีใครที่เป็นศิษย์ในสำนักกระบี่ชิงหมิงจะไม่รู้จัก ศิษย์ลูกรักของผู้ก่อตั้งสำนัก อีกทั้งยังเคยเป็นถึงความหวังของสำนักอีกด้วย ใครต่อใครก็บอกว่าเขาเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่การที่ไปชิวหรานผู้นี้ต้องมาติดแหง็กอยู่ที่ขั้น ๆ เดิมมาถึงสามพันปี มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ สวรรค์ต้องเล่นตลกกับเขาอยู่แน่นอน นอกจากจะต้องเร่งบรรลุไปที่ขั้นสูงกว่านี้ให้ไว ๆ เพื่อหลีกหนีความตายแล้ว ยังต้องมารับมือกับเรื่องวุ่นวายทางโลกที่ ‘คนอื่น ๆ’ ชอบพามาหาเขาแบบไม่หยุดไม่หย่อนอีก เห็นเขาใจดีแบบนี้ใช่ว่าจะทำอะไรกับเขาก็ได้นะ!เส้นทางการฝึกตนนั้นไม่เคยง่ายดาย ไป๋ชิวหรานผู้นี้รู้ซึ้งดี ฉะนั้นใครก็ตามที่กล้ามาดูถูกขั้นพลังของเขา ก็เตรียมตัวชักกระบี่มาคุยกันได้เลย!ความตายที่คอยรังควาญไป๋ชิวหรานคือสิ่งใด ขั้นพลังที่เขามักแอบตัดพ้อถึงมันนั้นสูงส่งหรือต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียงไหน โปรดติดตามได้ใน ‘ข้าก็แค่กลั่นลมปราณสามพันปี’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท