บทที่ 951 นี่มันอู๋โยว?
ชายชุดเทาเปิดรูปใบแรก เพิ่งเห็นรูปนั้นเขาก็ชะงักแล้ว “คุณภรรยา! คุณรีบมาดูเร็ว!”
หญิงวัยกลางคนเดิมทีไม่มีกะจิตกะใจไปดูรูปอะไร แต่พอหางตาเหลือบเห็น สีหน้าเธอกลับเปลี่ยนไปทันที และแย่งโทรศัพท์ในมือสามีมา “นี่…นี่คือถังถังของพวกเรา?”
เห็นแค่ว่าในรูปนั้น หลานสุดที่รักของพวกเขากำลังสวมชุดนอนการ์ตูนขนฟู มือเล็กทำรูปหัวใจให้กล้อง ไม่ต้องพูดเลยว่าน่ารักนุ่มนิ่มขนาดไหน
เธอไม่เคยเห็นหลานสุดที่รักของบ้านพวกตนน่ารักขนาดนี้ มีท่าทางเหมือนกับเด็กเล็กแบบนี้…
ชายชุดเทาก็เอ่ยอย่างตื่นเต้น “เป็นถังถังไม่ผิดแน่!”
หญิงวัยกลางคนถือโทรศัพท์ดุจสมบัติล้ำค่า มองแล้วมองอีก สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ “เป็นถังถังจริงๆ…”
“ภรรยา เท่านี้คุณก็วางใจได้แล้วสินะ ดูท่าทางถังถังก็เป็นอยู่ไม่เลว คนที่เจ้าเด็กบ้านั่นหามาครั้งนี้น่าจะพึ่งพาได้” ชายชุดเทาพูดเกลี้ยกล่อม
หญิงวัยกลางคนละสายตาไปจากรูปอย่างอาลัยอาวรณ์ ถามด้วยน้ำเสียงร้อนใจว่า “ยังมีรูปอื่นอีกไหม”
“ด้านหลังเหมือนจะยังมีอีกรูปนะ…”
หญิงวัยกลางคนได้ยินอย่างนั้น ก็รีบกดเปิดรูปอีกใบ
ยังมีรูปอีกใบหนึ่ง ทว่าเป็นรูปคู่ ในภาพนอกจากถังถังยังมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งด้วย
หญิงสาวนั่งบนโซฟาด้วยกันกับถังถัง หนึ่งผู้ใหญ่หนึ่งเด็กมองกล้องอย่างมีความสุขพลางทำท่ามือรูปหัวใจ
“นี่…” พริบตาที่หญิงวัยกลางคนเห็นรูปนี้ แรกเริ่มมีสีหน้าอึ้งค้าง จากนั้นเบ้าตาพลันแดงเรื่อ “อู๋โยว…นี่มันอู๋โยวนี่!”
ชายชุดเทาก็มีสีหน้าสะเทือนใจอยู่บ้าง แต่สงบลงได้อย่างรวดเร็ว “นี่น่าจะเป็นคนที่ลูกพูดถึงก่อนหน้านี้ เขาหาผู้หญิงมาปลอมเป็นอู๋โยวน่ะ”
ตามหาลูกสาวมาหลายปีขนาดนี้ พวกเขาสิ้นหวังหลายครั้งเกินไป จนตอนนี้ไม่กล้ามีความหวังอีกแล้ว
หญิงวัยกลางคนจ้องหญิงสาวในรูปไม่วางตา “แต่ว่า ทำไมแวบแรกที่ฉันเห็นเด็กคนนี้ ก็รู้สึกว่าเธอคืออู๋โยว ที่ผ่านมาฉันไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนี้เลยนะ…”
ชายชุดเทาโอบภรรยาไว้ในอ้อมกอด ตบไหล่ของเธอเบาๆ “ถ้าใช่ ไม่มีทางที่จะสืบหาไม่เจอหรอก ภรรยา คุณคิดถึงอู๋โยวมากเกินไปแล้ว!”
หญิงวัยกลางคนหลับตาลง ปกปิดแววสิ้นหวังในดวงตา…
ชายชุดเทาถอนหายใจ ดวงตาวาบประกายเย็นเยือก “ความจริงอู๋โยวไม่มีข่าวคราวก็เป็นข่าวดีเหมือนกัน…ถ้าอู๋โยวกลับมา รู้สถานการณ์ในตอนนี้ของทางนั้น รับรองว่าลูกไม่นั่งดูอยู่เฉยๆ แน่ ถึงตอนนั้นจะกลายเป็นตกอยู่ในอันตรายแทน…”
…
ประเทศจีน คฤหาสน์กุหลาบ
เช้าตรู่วันถัดมา
หลังจากผ่านเรื่องเมื่อคืนวาน เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นอยากจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนถังถังให้มาก แต่วันนี้มีพิธีเปิดกองเรื่อง ‘เป็นหรือตาย’ เธอจำเป็นต้องไปปรากฏตัว
แต่เธอก็ทำใจให้ถังถังอยู่ในบ้านคนเดียวอีกไม่ได้เช่นกัน
คิดไปคิดมา เธอตัดสินใจพาถังถังไปกองถ่ายด้วยกันเสียเลย
ส่วนเรื่องที่เธอปลอมตัวเป็นผู้ชายเวลาทำงาน เมื่อวานเธออธิบายกับถังถังแล้ว แต่เดิมเธอนึกว่าต้องเปลืองน้ำลายสักรอบ แต่ระดับการรับเรื่องราวของถังถังสูงมาก เธอแค่อธิบายนิดหน่อยเขาก็เข้าใจแล้ว แถมยังรู้ว่าตอนที่เธอปลอมเป็นผู้ชาย เขาต้องร่วมมือกับเธอ ห้ามเรียกเธอว่าแม่
พึ่งพาได้กว่าลุงของเขาตั้งเยอะ!
ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นจึงไม่ห่วงแม้แต่น้อยว่าพาถังถังไปแล้วจะไม่สะดวก
ด้วยเหตุนี้ สุดท้ายเยี่ยหวันหวั่นจึงยังตัดสินใจพาถังถังไปด้วยกัน
“ลูกรัก รอแม่บนรถแป๊บหนึ่งนะ แม่ลืมของน่ะ!”
“ครับ” เด็กน้อยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเดินไปได้ไม่นาน มือถือที่เธอวางไว้บนรถก็พลันส่งเสียงดังขึ้นมา
เนี่ยถังเซียวเหลือบมองมือถือ เห็นแค่ว่าสายโทรเข้าบนมือถือนั้นคือ ‘เบบี๋สุดที่รัก’…
—————————————————————————
บทที่ 952 ฉันเป็นคนที่เธอสนิทด้วยที่สุด!
เบบี๋สุดที่รัก…
เนี่ยถังเซียวมองห้าพยางค์นั้น ใบหน้าเล็กราวหยกสลักเหมือนกับถูกแช่แข็งไปแล้ว
โทรศัพท์ดังอย่างต่อเนื่อง
ชื่อสายโทรเข้าก็กะพริบส่องสว่างบนหน้าจอไม่หยุด
ต่างประเทศ ในห้องสวีทของโรงแรมหรูหราแห่งหนึ่ง
ซือเยี่ยหานมองโทรศัพท์มือถือในมือ คิ้วขมวดน้อยๆ
ทุกครั้งที่เขาโทรหาเยี่ยหวันหวั่นล้วนกะเวลาแม่นยำแล้ว แน่ใจว่าเป็นเวลาที่เธอสะดวกรับสาย ที่ผ่านมาเธอก็รับแทบจะทันที แต่ครั้งนี้กลับไม่มีใครรับสายเลย
สวี่อวี้อุ้มเอกสารกองใหญ่รออยู่ด้านข้าง “คุณชายเก้า ทำไมเหรอครับ คุณหนูหวันหวั่นไม่รับสายเหรอครับ”
ซือเยี่ยหานไม่เอ่ยปาก เขายกมือนวดหัวคิ้ว รู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองเหมือนจะคิดมากเกินไปหน่อย มักรู้สึกว่าจิตใจไม่สงบ
คงเพราะเธอไม่อยู่ในสายตา…
สวี่อวี้เห็นดังนั้นก็เอ่ยปาก “วันนี้ทางคุณหนูหวันหวั่นจัดพิธีเปิดกอง คงไปกองถ่ายล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้อาจกำลังยุ่งอยู่ก็ได้ครับ…”
สวี่อวี้ถอนหายใจอยู่ในใจ เจ้านายของเขาดูเหมือนน่ากลัวทั้งยังเย็นชา ไม่มีเรื่องใดส่งผลกระทบต่อเขาได้ นอกจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณหนูหวันหวั่น…
ผ่านไปเนิ่นนาน ปลายสายก็ยังไม่มีคนรับ อีกไม่นานจะตัดสายโดยอัตโนมัติแล้ว
ซือเยี่ยหานทำท่าจะเก็บมือถือ แต่ในเวลานี้เอง อีกฝ่ายก็รับสายจนได้
แต่ถึงจะรับสายแล้ว ปลายสายกลับไม่มีใครพูดอะไร
เวลานี้หน้าจอเปลี่ยนเป็นภาพนับเวลาแล้ว หน่วยวินาทีของเวลาสนทนาเปลี่ยนไปทีละน้อย
ห้าวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปลายสายยังคงเงียบงัน
นัยน์ตาลึกล้ำราวบ่อน้ำลึกของซือเยี่ยหานหรี่เล็กลงตามเวลาที่ผ่านไปแต่ละวินาที…
สวี่อี้ที่อยู่ด้านข้างยืนเงียบเชียบ เห็นสีหน้าของเจ้านายตนดูไม่ค่อยชอบมาพากล ก็มีสีหน้าท่าทีสงสัย
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน?
ทำไมไม่พูดอะไรเลย
ผ่านไปอีกหลายวินาที ปลายสายก็ยังคงไม่มีคนเอ่ยอะไร
ซือเยี่ยหานชำเลืองตามองหน้าจอมือถือ ต่อมาถึงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “คุณเป็นใคร”
ได้ยินเจ้านายตัวเองพูดสามคำนี้แล้ว สวี่อวี้สะดุ้งโหยงทันควัน
เชี่ย! เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
คนที่รับโทรศัพท์ไม่ใช่คุณหนูหวันหวั่นเหรอ
แต่ว่าเขาอยู่ใกล้ๆ เมื่อครู่นี้ตั้งแต่เริ่มต้นก็ไม่ได้ยินปลายสายมีคนพูดแท้ๆ แล้วทำไมเจ้านายถึงรู้ว่าคนที่รับโทรศัพท์ไม่ใช่คุณหนูหวันหวั่น?
ซือเยี่ยหานพูดสามคำนี้จบ กลับไม่ได้คำตอบจากปลายสาย
‘ตู๊ดๆๆ…’ ไม่นานนัก ปลายสายก็มีเสียงตัดสายดังขึ้นมา
สวี่อวี้เหลือบดูมือถือที่ถูกตัดสาย ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ทำไมมือถือของคุณหนูหวันหวั่นถึงไปอยู่ในมือคนอื่นได้?
เวลานี้เอง มือถือของซือเยี่ยหานส่งเสียงดังหนึ่งครั้ง เป็นข้อความที่ส่งมาจากเบอร์มือถือของเยี่ยหวันหวั่น
ซือเยี่ยหานชายตามองการแจ้งเตือนข้อความนั้น สายตาหยุดนิ่งเล็กน้อย จากนั้นนิ้วเรียวยาวก็กดเปิดข้อความ
[แล้วคุณล่ะเป็นใคร?]
ข้อความนี้ยอมรับแล้วว่าเขาไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่น!
บรรยากาศในห้องตึงเครียดขึ้นมากโดยพลัน
ซือเยี่ยหานตอบหนึ่งประโยคทันที [ชื่อที่เธอตั้งให้ผม ตอบคำถามคุณได้]
ประโยคนี้!
พอๆ กับการฆ่าสายฟ้าแลบเลย!
ชื่อเบอร์ที่ตั้งไว้คือเบบี๋สุดที่รัก!
เขาเป็นใคร นี่ยังต้องถามต่ออีกเหรอ?
แน่นอนว่าความสัมพันธ์ต้องไม่ธรรมดา ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นคนที่สนิทสนมที่สุดทีเดียว!
เมื่อซือเยี่ยหานส่งข้อความนี้ไป ทางฝั่งโทรศัพท์ของเยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ตอบกลับเป็นเวลานาน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดก็มีข้อความใหม่ส่งมา พลันปรากฏอยู่ในกล่องข้อความ…
[เมื่อวานผมกับเธอนอนด้วยกัน]
………………….