บทที่ 400 สำนักดาบปีกผีเสื้อทองคำ ปะทะ สำนักกระบี่แปดทำนาย
บทที่ 400 สำนักดาบปีกผีเสื้อทองคำ ปะทะ สำนักกระบี่แปดทำนาย
การต่อสู้บนเวทีกำลังจะเริ่มขึ้นเร็ว ๆ นี้ หลังจากทั้งสองทำความเคารพกันแล้ว จินเฟิ่งหลายและซ่างเซียนก็ขึ้นมาบนเวทีพร้อมกระชับกระบี่ในมือไว้แน่น
“หลานชายจิน ไม่นึกเลยว่าจะได้พบเจอเจ้าที่นี่”
เจ้าสำนักกระบี่แปดทำนายยังคงโซเซเล็กน้อย เพราะรูปร่างที่เล็กของเขา ทำให้ดูคล้ายคลึงกับหนูตัวน้อยที่พยายามถือกระบี่
ทันทีที่เขาขึ้นสู่เวที… ซ่างเซียนก็เริ่มล้อเลียนจินเฟิ่งหลาย
“แม้ลูกชายของข้าจะไม่เข้าสู่แปดอันดับแรก แต่ข้าก็ไม่เคยหวังว่าบุตรชายของน้องชายหลินจุนและโสเภณีผู้นั้นจะมาเผชิญหน้ากับข้าในการแข่งขันสมาพันธ์กระบี่ครั้งนี้ได้!”
นิสัยของสำนักกระบี่แปดทำนายทำให้เหล่าผู้รับชมต่างพากันหงุดหงิด ช่างน่ารังเกียจที่เขามีความสุขในการเหยียดหยามผู้อื่นก่อนจะต่อสู้ สิ่งนี้อาจกระตุ้นให้อีกฝ่ายเกิดความโกรธและขาดสติ จากนั้นก็จะเพิ่มโอกาสให้ตัวเองได้รับชัยชนะ
แน่นอนว่ามารดาของจินเฟิ่งหลายไม่ใช่โสเภณี เพราะก่อนที่จะแต่งงานกับบิดาของเขา นางเป็นแม่ม่ายที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว บิดาของเขาเพียงแค่เป็นความรักในช่วงชีวิตต่อจากนั้นและไม่ได้มีบุตรเพิ่ม เมื่อจินเฟิ่งหลายอยู่กับบิดาผู้นี้ตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งสองจึงมีนิสัยคล้ายคลึงกันเป็นพิมพ์เดียว
หากไม่ใช่เพราะความรัก… ผู้ใดจะปรารถนาหญิงม่ายมาเป็นภรรยา? บิดาของจินเฟิ่งหลายคือแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมในชีวิตของเขา
แต่เมื่อเรื่องราวนี้ถึงหูของซ่างเซียน มารดาผู้เป็นที่รักของเขาก็ถูกกล่าวว่าเป็นโสเภณี เห็นได้ชัดว่าเหล่าสำนักกระบี่แปดทำนายนั้นปากร้าย และไร้ยางอายยิ่ง!
ฝีปากเช่นนี้สร้างความไม่พอใจให้กับหลายคนบนสังเวียน และเหตุใดสำนักกระบี่แปดทำนายยังคงอยู่ได้จวบจนทุกวันนี้ อาจมีเพียงสองอย่างเท่านั้น หนึ่ง คือทราบดีว่าไม่ควรรุกรานผู้ใด… และสอง คือพวกเขาแข็งแกร่งมากพอ
ดังนั้น ผู้ชมทั้งหมดจึงเข้าใจว่าจินเฟิ่งหลายไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของซ่างเซียนได้
หากเป็นอดีต จินเฟิ่งหลายย่อมขุ่นเคืองแน่นอน และคงออกกระบวนท่าในทันที แต่ตอนนี้เขาได้ยินเรื่องราวเน่าเสียของซ่างเซียนแล้ว มันเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านใบหน้าของไปเท่านั้น เขาไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองอะไร
“ท่านลุงซ่างเซียน การยั่วยุของท่านราวกับหนูขยะที่ร้องขออาหารในท่อระบายน้ำ…”
จินเฟิ่งหลายกล่าวขณะชักกระบี่ออกจากฝักที่อยู่บนหลังของตัวเอง
เมื่อลำแสงกระบี่ถูกปลดปล่อย ปราณกระบี่ก็พุ่งออกไปในแนวตั้งและแนวนอนพร้อมกัน สลักด้วยอักขระพิเศษพุ่งตรงเข้าหาฝ่ายตรงข้าม
ซ่างเซียนถึงกับตื่นตระหนกพร้อมกระโดดหลบอย่างทุลักทุเล! แต่สิ่งนั้นก็ยังฝากรอยแผลไว้ที่แก้มของเขาอย่างชัดเจน!
ปราณดาบที่สัมผัสใบหน้าของซ่างเซียนทำให้ฝ่ามือเขาร่อนรุ่ม โลหิตพลันเดือดพล่านอย่างโกรธเกรี้ยว!
“หลานชาย ดูเหมือนข้าจะประเมินเจ้าต่ำเกินไปหน่อย…”
ซ่างเซียนเริ่มอารมณ์เสีย เขาดึงกระบี่ออกพร้อมกับเผยท่าทีดุดัน
ในดินแดนเจียงหู ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องไร้สาระที่เกิดขึ้นในทุกวัน แต่ทุกสิ่งยังง่ายต่อการถูกทุบตีจนตาย ดังนั้นซ่างเซียนที่อยู่ในขั้นนักบวชแห่งกระบี่จึงไม่ควรคิดประมาท
ท่วงท่ากระบี่ที่ดุร้ายนี้กระตุ้นเสียงโห่ร้องจากผู้ชมโดยรอบ พวกเขาทั้งหมดตระหนักได้ว่าตนเองประเมินความก้าวหน้าของจินเฟิ่งหลายต่ำเกินไป ตอนนี้ทุกคนจึงตั้งตารอท่วงท่าต่อไปที่จะถูกเปิดเผยออก
“เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานโปรดรับชมข้า…”
จินเฟิ่งหลายกระชับกระบี่ในมือทั้งสองข้างไว้แน่น ก่อนจะกล่าวยกย่องนามของเซียนผู้หนึ่งด้วยความเคารพ จากนั้นก็เริ่มแสดงกระบวนท่าแรกเริ่มของสำนักดาบปีกผีเสื้อทองคำ
“เจ้าสำนักกระบี่แปดทำนาย… โปรดชี้แนะข้า!”
ไม่มีสิ่งใดต้องลังเลอีกต่อไป ทั้งสองเผยท่วงท่าและเผชิญหน้ากัน ปลดปล่อยพลังปราณออกมา และจินเฟิ่งหลายเป็นผู้เปิดฉากลงมือก่อน!
เขาฟันดาบเฉียงออกไป ปราณดาบปรากฏปีกสีทองอร่ามพุ่งทะยานออกไปในอากาศ
ซ่างเซียนที่ประหม่าเล็กน้อยในคราวแรก เมื่อเห็นจินเฟิ่งหลายใช้ท่วงท่าอันคุ้นเคย เขาก็ปลดปล่อยท่วงท่าเดียวกัน!
แม้การเคลื่อนไหวนี้จะรวดเร็วและซับซ้อน แต่ซ่างเซียนก็มองเห็นว่าอีกฝ่ายพัฒนาไปไกลมาก แต่อย่างไรแล้ว เขาก็ไม่ได้กดดันมากนัก… ทั้งยังผ่อนคลายอีกด้วย
ในฐานะศัตรูเก่าของสำนักดาบปีกผีเสื้อทองคำ ซ่างเซียนเคยต่อสู้กับบิดาของจินเฟิ่งหลายบ่อยครั้ง แน่นอนว่าเขาย่อมทราบท่วงท่าของสำนักดาบปีกผีเสื้อทองคำดีทั้งหมด อย่างไรแล้วเขาคือผู้ฝึกตนที่ศึกษาวิชาของคู่ต่อสู้มาโดยละเอียด
หากเป็นเจ้าสำนักดาบปีกผีเสื้อทองคำก็ว่าไปอย่าง แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่ศิษย์รุ่นเยาว์ของสำนักดาบปีกผีเสื้อทองคำจะใช้เคล็ดดาบปีกผีเสื้อทองคำเพื่อเอาชนะเขาในวันนี้ได้!
เมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งนี้แล้ว ซ่างเซียนก็ปลดปล่อยพลังลมปราณที่แท้จริงออกมา ปราณกระบี่ลุกโชน! การเคลื่อนไหวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสำนักกระบี่แปดทำนายจึงเผยออกมา
ใบมีดทั้งสองปะทะกันกลางอากาศ เกิดเสียงเฉือนคมและเดือดพล่าน ระหว่างการประทะ รากฐานการฝึกฝนของทั้งสองฝ่ายเผยออกชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับซ่างเซียนแล้ว ฐานการฝึกฝนปราณของจินเฟิ่งหลายด้อยกว่าเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งสองก้าวถอยหลัง ก่อนที่จินเฟิ่งหลายจะออกกระบวนท่าอีกครั้ง! เขาฟันดาบจากบนลงล่างก่อตัวเป็นกรงเล็บวิหคอันแหลมคม ก่อนจะพุ่งตรงเข้าหาใบหน้าซ่างเซียน! แน่นอนว่าซ่างเซียนเห็นการเคลื่อนไหวนี้ก็เผยท่าวิชาตัวเบา ก่อนจะกำจัดปราณกระบี่ให้หายไปอย่างง่ายดาย
สองทักษะที่ถูกใช้ออกมานั้นทำให้ซ่างเซียนโล่งใจ ดูเหมือนว่าจิ่นเฟิ่งหลายจะไม่ได้เรียนรู้ทักษะดาบอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่คิดปิดบังสิ่งใดอีกต่อไป สำนักกระบี่แปดทำนายผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก และตอนนี้ก็ถึงเวลาปลดปล่อยปราณกระบี่อันพุ่งพล่าน… ปราณกระบี่มากมายพุ่งเข้าโจมตีจินเฟิ่งหลายอย่างต่อเนื่องและดุดัน!
จินเฟิ่งหลายยังคงใช้ทักษะดาบปีกผีเสื้อทองคำอย่างช่ำชอง ตั้งแต่กระบวนท่าที่สามไปจนถึงกระบวนท่าที่แปด เขาแทบไม่อาจต้านทานปราณกระบี่ของสำนักแปดทำนายได้! ตอนนี้จึงเกิดรอยแผลมากมายตามร่างกาย
“จินเฟิ่งหลายกำลังจะพ่ายแพ้!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ หมอดูที่อยู่ในฝูงชนก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้น
“หากใช้เพียงทักษะดาบปีกผีเสื้อทองคำ เขาจะพ่ายแพ้… แต่เห็นได้ชัดว่าเขามีความเข้าใจในทักษะของตนอย่างถ่องแท้”
“ดูเหมือนว่าน้องชายคนเล็กของเจ้าจะได้ลิ้มลองอาหารรสจัดในวันนี้แล้ว!”
ชายอ้วนที่สัตย์ซื่อกล่าวกับไป๋ชิวหรานอย่างสบายอารมณ์
“สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารเลยพี่ชาย”
ไป๋ชิวหรานยังคงสงบ
ในเวลานี้ ซ่างเซียนอดไม่ได้ที่จะกล่าวประชดประชัน..
“หลานชาย ข้าคิดว่าเจ้าคงได้เรียนรู้วิชากระบี่ยอดเยี่ยม! แต่ดูเหมือนว่าความก้าวหน้าของเจ้ามีเพียงการฝึกฝนเท่านั้นกระมัง”
จินเฟิ่งหลายต่อต้านอีกฝ่ายด้วยการฟันดาบออกไปในแนวนอน ถอยหลังหนึ่งก้าวก่อนจะเคาะเท้า และหลบหนีออกจากวงล้อมของซ่างเซียนชั่วคราว
“ไม่กี่วันก่อน… หลังจากที่ข้าสวดภาวนาในวิหารเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน ข้าฝันถึงเทพเจ้าอาวุโส”
จินเฟิ่งหลายกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อาวุโสผู้นั้นสั่งสอนข้าไว้อย่างหนึ่ง”
“งั้นหรือ? ฮ่าฮ่า” ซ่างเซียนหัวเราะร่า “ข้าไม่คิดจริง ๆ ว่าหลานชายผู้นี้จะบูชาเทพเจ้าด้วย ฮ่าฮ่า! แล้วเทพเจ้าองค์นั้นบอกความจริงใดแก่เจ้างั้นหรือ?”
“เขาสั่งสอนทักษะพื้นฐานของวิชาดาบให้กับข้า แล้วบอกว่าวิชาดาบและกระบี่ในโลกนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการผสมผสานของทักษะพื้นฐานเหล่านี้ เคล็ดวิชาในเจียงหูทั่วไปแล้วคือการเพิ่มทักษะพื้นฐานบางสิ่งเท่านั้นเพื่อให้โจมตีศัตรูได้… ส่วนขั้นต่อไปคือการเลียนแบบธรรมชาติ เลียนแบบสิ่งมีชีวิต และพยายามทำให้ท่วงท่ากระบี่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด อย่างเช่นทักษะกระบี่แปดทำนายของลุงซ่างเซียน มันคือทักษะกระบี่ที่เหนือกว่าของข้า”
จินเฟิ่งหลายไม่คิดสนใจการเสียดสีของซ่างเซียน เขายังกล่าวต่ออีกว่า
“แต่ในโลกของดาบและกระบี่ แท้จริงแล้วหากมีจุดมุ่งหมายที่แน่นอน ย่อมมีขีดจำกัดเกิดขึ้น วิชาที่ยอดเยี่ยมที่สุดจริง ๆ แล้วคือการมองผ่านจุดอ่อนของท่วงท่าคู่ต่อสู้ แล้วใช้ท่วงท่าที่คุ้นเคยเพื่อรับมือ… นี่คือทักษะกระบี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด!”
คำพูดของเขาปลุกเร้าความคิดของนักกระบี่หลายคนในลานประลอง หลังจากซ่างเซียนรับฟังแล้ว เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเย้ยหยัน
“อืม! ข้าคิดว่าสิ่งนี้สมเหตุสมผล แล้วหลานชายตัวน้อยสามารถกระทำอย่างที่กล่าวได้หรือไม่?”
“ข้ายังอยู่ห่างไกลจากสิ่งนั้นหลายพันลี้” จินเฟิ่งหลายยกกระบี่ขึ้นอีกครั้ง “แต่อย่างไรแล้ว ข้าก็ยังมองเห็นข้อบกพร่องจากทักษะกระบี่ของท่านอยู่บ้าง”
เขากล่าวจบพร้อมกับพุ่งทะยานเข้าหาซ่างเซียน! ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยปราณรูปปีกสีทองจาง ๆ ปรากฏอยู่บนแผ่นหลัง
ซ่างเซียนยกกระบี่ขึ้นมาสะบัด… ปราณกระบี่หมุนวนก่อเกิดเป็นแปดพลังขนาดใหญ่ กระบี่แปดทำนายเผยตัวออกเป็นเงาใหญ่ครอบคลุมทวิบาทยักษ์ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
“สำนักกระบี่แปดทำนายยังคงคิดใช้วิธีการไร้ยางอายเช่นเคย ส่วนกระบวนท่าของกระบี่นั้นละเอียดอ่อน และมีความใกล้เคียงกับทักษะกระบี่ ‘ที่แท้จริง’ มากเลยทีเดียว”
ก่อนที่ทั้งสองจะปะทะกัน ดาบของจินเฟิ่งหลายก็ถูกชักกลับคืน และวิหคยักษ์ก็พุ่งเข้าหาประตูด้านหนึ่งของกระบี่แปดทำนาย
“เพราะมีแปดประตู และประตูทั้งแปดนั้นมีชีวิต ทักษะกระบี่แปดทำนายยังมีข้อบกพร่องอยู่มาก แต่ท่านลุงซ่างเซียนคงไม่ค้นพบ!!”
วิหคปีกทองตัวใหญ่พุ่งชนอย่างแรง และประตูของทักษะแปดทำนายเปิดกว้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจนัก ตอนนี้วิหคยักษ์ปีกทองได้พุ่งออกจากประตูนั้น และทะยานเข้าหาร่างของซ่างเซียน
ตูม!
จินเฟิ่งหลายปลดปล่อยปราณกระบี่ออกอย่างรุนแรง กระบี่ในมือซ่างเซียนร่วงหล่นกระเด็นออกไปด้านหลัง
ขณะนี้คมกระบี่ของจินเฟิ่งหลายหยุดอยู่ที่ลำคอของซ่างเซียน… ใบมีดคมปลาบนั้นกำลังคุกคามอาวุโสผู้นี้อย่างรุนแรง!!