ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年] – บทที่ 426 บุรุษจากส่วนลึก

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

บทที่ 426 บุรุษจากส่วนลึก

บทที่ 426 บุรุษจากส่วนลึก

“มีเรื่องสำคัญหรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อสูรอสรพิษไม่เปลี่ยนสีหน้า มีเพียงรอยยิ้มที่ดูฝืดฝืนปรากฏขึ้น

“แน่นอน ข้ามาหาเจ้าเพื่อสร้างพันธมิตร เพื่อจัดการกับบุรุษผู้ที่ถูกขับไล่ออกมาจากส่วนลึก”

“ส่วนลึก?”

เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานจับจ้องอีกฝ่ายอย่างสับสน

“ข้าถือกำเนิดเมื่อไม่นานนี้ จึงไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้ากล่าว ส่วนลึกอะไร เหมือนกันอะไร?”

อสูรอสรพิษมองมาที่เขา และรู้สึกว่าเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานไม่ได้เสแสร้ง อีกฝ่ายน่าจะเป็นอสูรที่เพิ่งถือกำเนิดใหม่จริง ๆ

มันจับจ้องเขตแดนจิตสำนึกด้านหลังของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานอีกครั้ง หลังจากใช้ตาข่ายปิดล้อมเขตแดนจิตสำนึกก็มีเมืองงดงามปรากฏ ขึ้น มองเห็นหน้าด่านชัดเจน แม้ว่าอสูรตนนี้จะเพิ่งถือกำเนิด แต่พลังกลับไม่ใช่ อสูรอสรพิษไม่อาจประเมินอีกฝ่ายต่ำต้อยเกินไปได้

สมัยก่อนเกิดสงครามอันน่าสลดใจ ณ ที่แห่งนี้ มีอสูรอสรพิษหลับใหลอยู่ในโลกใบหนึ่งใกล้กับสนามรบ และได้สัมผัสสงครามในระยะประชิด สงครามนั้นไม่น่าแปลกเท่าไหร่นักที่อสูรต่าง ๆ เช่นเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานจะสามารถถือกำเนิดในสนามรบได้

บางทีข้าอาจจะหาทางกลืนกินเขาในภายหลัง…

อสรพิษที่เปรียบกับพญางูลอบคิดในใจอย่างกระตือรือร้น ความสามารถของมันไม่เพียงพอหากต่อสู้แบบเผชิญหน้า เช่นนั้นมันจึงถนัดการต่อสู้แบบลอบกัดมากกว่า

หากสามารถยั่วยุให้พวกเขาออกมาต่อสู้ได้ จากนั้นก็ค่อยแทรกตัวลงในรอยร้าว แล้วกลืนกินเข้าไป ข้าก็จะกลายเป็นผู้ปกครองพื้นที่แห่งนี้… แต่ว่าเป็นไปได้ยากที่จะเอาชนะเขตแดนจิตสำนึกที่กว้างใหญ่นี้เพียงผู้เดียว…

แผนการลับค่อย ๆ ปรากฏในใจของอสูรอสรพิษ มันกำลังคาดหวังผลประโยชน์มหาศาล

“ในเมื่อเจ้าไม่อธิบายเจตจำนงของตนเอง ก็ลืมเรื่องนี้ไปซะ”

เมื่อเห็นว่าอสูรอสรพิษตกตะลึงในต้นกำเนิดและมองดูตนเองโดยไม่กล่าวอะไร เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานจึงแสดงให้เห็นทันทีว่าอาจารย์อสูรที่เกิดใหม่ควรเป็นเช่นไร

“จงเป็นอาหารของข้า เผ่าพันธุ์ของข้า ตราบใดที่ข้ากลืนกินเจ้า ข้าก็จะแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเจ้าจะกล่าวอะไรออกมาในตอนนี้มันไม่สำคัญอีกแล้ว!”

อาจารย์อสูรที่กำเนิดใหม่ไม่เข้าใจกลอุบายและไม่มีความคิดซับซ้อน มีเพียงความคิดเดียวคือการตอบสนองความหิวของตนเอง และความต้องการพื้นฐานของอาจารย์อสูรที่เพิ่งถือกำเนิดคือการกลืนกินและพัฒนาร่างกาย ทั้งหมดคือความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียว

กลืนกินร่างที่เหมือนกัน กลืนกินแนวคิดเดียวกัน และแข็งแกร่งขึ้น อาจารย์อสูรทั้งหมดย่อมไล่ล่าความปรารถนานี้เพียงเท่านั้น

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานจะกล่าวกับอสูรอสรพิษเช่นนี้

“ช้าก่อน! ช้าก่อน!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน อสูรอสรพิษจึงรีบหยุดหยั้ง ในขณะเดียวกันร่างของมันก็กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเผยช่องว่างระหว่างเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน

“ดูเจ้าก็เจ้าเล่ห์ไม่น้อย ต้องการเป็นพันธมิตรจริงหรือ?”

เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานมีความคิดมากมายอยู่ในใจ เพียงแต่แสร้งเผยท่าทีโง่เขลาและอ่อนไหวออกมา

“ความจริงแล้วข้าเพิ่งเกิดเมื่อไม่นานนี้ หลังจากข้าตระหนักถึงการมีอยู่ของตนเอง ข้าก็เพียงกินทุกสิ่งที่ข้าพบเห็น และเจ้าคือรายต่อไป”

“เจ้าคิดจะกลืนกินผู้ใด? ชีวิตจะไม่ยืนยาว!”

อสูรอสรพิษกล่าวเสียงดัง

“แม้เจ้าจะแข็งแกร่งมาก แต่เขตแดนจิตสำนึกนั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต สิ่งมีชีวิตทรงพลังมากมายอยู่ที่นั่น หากเจ้ากระทำเช่นนั้น ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจะถูกกลืนกินโดยเหล่าผู้มีอำนาจเหนือกว่า!”

เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานไม่คิดสนใจ เขายกกระบี่และหอกในมือขึ้นสูงก่อนจะขว้างออกไปบนฟ้า ด้านบนเกิดการปะทะเสียงดัง กระบี่และหอกแตกออกเป็นห่าฝน ภายในสายธารแห่งความว่างเปล่า ทุกสรรพสิ่งพุ่งเข้าหาอสูรอสรพิษอย่างโหดเหี้ยม!

แม้อสูรอสรพิษจะพยายามปัดป้อง… แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บ

มันเคลื่อนที่หลบหนีอย่างไม่เต็มใจ แต่เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานกระชับกระบี่และหอกในมือแน่น ตั้งท่าจะขว้างไปที่ตำแหน่งของศัตรู

อสูรอสรพิษรู้สึกว่าหากมันเผชิญหน้ากับสิ่งนั้น ร่างกายของมันย่อมไม่อาจต้านทาน ในช่วงเวลาวิกฤต มันจึงตะโกนบอกกล่าวกับเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน

“ถึงเจ้าจะกลืนกินข้า! แต่เจ้าก็ไม่คู่ควรกับบุรุษผู้นั้น! มีเพียงข้าเท่านั้นที่ทราบวิธีจัดการกับมัน!”

“มันคือผู้ใด?”

ในที่สุดเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานก็หยุดมือ และค่อย ๆ คลายอาวุธในมือลง

“มันคือสหายทรงพลังจากส่วนลึกของเขตแดนจิตสำนึก ด้วยเจตจำนงของผู้ปกครอง เราจึงต้องทวงคืนพื้นที่นั้น!”

เมื่อเห็นว่าเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานหยุดมือแล้ว อสูรอสรพิษก็กล่าวคำออกมาอย่างเร่งรีบ

“เจ้าไม่อาจต่อสู้มันได้ เพราะข้าทราบวิธีจัดการมัน! แต่ความแข็งแกร่งของข้าไม่เพียงพอ เช่นนั้นเจ้ากับข้าร่วมมือกันไม่ดีกว่าหรือ? เจ้าช่วยข้าจัดการกับสิ่งทรงพลังนั้น แล้วข้าจะบอกทุกสิ่งที่ทราบเกี่ยวกับสิ่งทรงพลังนั้น แล้วจากนั้นเจ้ากับข้าค่อยเผยความคิดเช่นเดียวกันในภายหลัง ดีกว่าหรือไม่?”

เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานคิดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวตอบ

“ก็ดี”

ในที่สุดอสูรอสรพิษก็ผ่อนคลายลงโดยสมบูรณ์ มันมองทุ่งที่สว่างไสวด้านหลังเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เช่นนั้น หากเราเป็นพันธมิตรกันแล้ว เป็นพวกพ้องเดียวกัน เจ้าเชิญข้าเป็นแขกในเขตแดนของเจ้าได้หรือไม่?”

“ไม่!”

เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานปฏิเสธหนักแน่น

“ข้าไม่ไว้ใจเจ้า! ใครรู้ว่าเจ้าคิดทำสิ่งใดกับเขตแดนของข้า”

บัดซบ เจ้าอสูรเกิดใหม่นี่ฉลาดกว่าที่คิด!

อสูรอสรพิษขุ่นเคือง และจากนั้นก็มีคลื่นพลังแห่งจิตสำนึกอยู่ในปากของมัน

“เช่นนั้น ข้าขอเชิญเจ้ามาเป็นแขกในเขตแดนของข้า”

“ดี”

เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานตอบตกลงในทันที และเดินตามอสูรอสรพิษออกไป

“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเชิญเจ้ามาเป็นแขกและวางแผนจัดการเจ้าภายหลังหรือ?”

อสูรอสรพิษถามขึ้นมา

“ไม่กลัว เพราะเจ้าไม่มีความสามารถ…”

เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานตอบอย่างเรียบง่าย

“ข้าไม่เต็มใจที่จะสังหารเจ้าในเขตแดนของข้า แต่หากกล่าวถึงเขตแดนของเจ้า เจ้าจะทำสิ่งใดก็ย่อมได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดการต่อสู้ขึ้น มันก็คือบ้านของเจ้า”

ไอ้บัดซบ!

อสูรอสรพิษรู้สึกรำคาญเล็กน้อย เขาเพ่งพิศเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานโดยละเอียด

อสูรล้วนเกิดจากความปรารถนาของสิ่งมีชีวิต แต่โดยทั่วไปแล้วความปรารถนาที่ถือกำเนิดพวกมันล้วนแต่บิดเบี้ยว ดังนั้นลักษณะของอาจารย์อสูรจึงแปลกประหลาดแตกต่างกันออกไป

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากเย็นนักที่จะจัดการกับอาจารย์อสูรที่มีความแข็งแกร่งอย่างเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน ยิ่งมีร่างกายที่ใหญ่โตมากเท่าไหร่ รูปลักษณ์ก็ยิ่งแข็งแกร่งและทรงพลัง

แต่สิ่งที่ไม่ทราบเหตุผลก็คือ… เหตุใดทารกน้อยอย่างเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานจึงเหิมเกริมนัก นี่มันลูกวัวแรกเกิดที่ไม่เกรงกลัวพยัคฆ์หรือไม่?

แต่แท้จริงแล้วเป็นไป๋ชิวหรานที่ซุกซ่อนอยู่ในร่างของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐาน หากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นในเวลานั้น สิ่งที่อสูรอสรพิษจะได้เผชิญหน้าจึงไม่ใช่อาจารย์อสูรทรงพลังที่เกิดขึ้นใหม่ แต่เป็นกำปั้นมรณะจากผู้ฝึกตนในขั้นสร้างรากฐานเสมือน!

“ที่นี่คือเขตแดนของข้า”

หลังจากเดินมาได้ไม่นาน อสูรอสรพิษก็พาเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานมาใกล้กับโลกที่เชื่อมโยงกันหลายมิติ

เทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานมองดูโลกเหล่านี้และพบว่าทุ่งสีเขียวขจีได้กัดเซาะเขตแดนจิตสำนึก ทำให้อาจารย์อสูรของสถานที่แห่งนี้แตกต่างออกไป

ภายในเขตแดนมีหนองน้ำที่เต็มไปด้วยไอพิษและควันจาง ๆ ทุกหนแห่ง บางครั้งอสูรระดับต่ำที่อ่อนแอและแสนวุ่นวายก็คลานเข้าออกจากหนองน้ำพิษ

อสูรอสรพิษพาเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานมาที่ทุ่งแห่งนี้ และเดินเข้าสู่ราชวังหินส่วนลึกที่สุดภายในหนองน้ำพิษ

บนที่นั่งของวัง อสูรอสรพิษนั่งขดกลมอยู่บนนั้น ศีรษะที่ใหญ่ที่สุดยกขึ้นสูงจากศีรษะเล็ก ๆ นับไม่ถ้วน ก่อนจะกล่าวกับเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานว่า

“อยากจะนั่งตรงไหนก็นั่งเถิด ภายในนี้ทั้งหมดคือเขตแดนของข้า”

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

Status: Ongoing
ณ สำนักกระบี่ชิงหมิง ที่แห่งนี้ยังมี ‘อาจารย์ลุง’ ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญและพบหน้าค่าตาได้ยากอยู่คนหนึ่ง …ที่ถึงแม้จะอยู่เพียงแค่ขั้นพลังชั้นต่ำสุดอย่างกลั่นลมปราณ แต่จะหาใครแกร่งเท่า คงไม่มีอีกแล้ว!‘ไป๋ชิวหราน’ ชื่อนี้ไม่มีใครที่เป็นศิษย์ในสำนักกระบี่ชิงหมิงจะไม่รู้จัก ศิษย์ลูกรักของผู้ก่อตั้งสำนัก อีกทั้งยังเคยเป็นถึงความหวังของสำนักอีกด้วย ใครต่อใครก็บอกว่าเขาเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่การที่ไปชิวหรานผู้นี้ต้องมาติดแหง็กอยู่ที่ขั้น ๆ เดิมมาถึงสามพันปี มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ สวรรค์ต้องเล่นตลกกับเขาอยู่แน่นอน นอกจากจะต้องเร่งบรรลุไปที่ขั้นสูงกว่านี้ให้ไว ๆ เพื่อหลีกหนีความตายแล้ว ยังต้องมารับมือกับเรื่องวุ่นวายทางโลกที่ ‘คนอื่น ๆ’ ชอบพามาหาเขาแบบไม่หยุดไม่หย่อนอีก เห็นเขาใจดีแบบนี้ใช่ว่าจะทำอะไรกับเขาก็ได้นะ!เส้นทางการฝึกตนนั้นไม่เคยง่ายดาย ไป๋ชิวหรานผู้นี้รู้ซึ้งดี ฉะนั้นใครก็ตามที่กล้ามาดูถูกขั้นพลังของเขา ก็เตรียมตัวชักกระบี่มาคุยกันได้เลย!ความตายที่คอยรังควาญไป๋ชิวหรานคือสิ่งใด ขั้นพลังที่เขามักแอบตัดพ้อถึงมันนั้นสูงส่งหรือต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียงไหน โปรดติดตามได้ใน ‘ข้าก็แค่กลั่นลมปราณสามพันปี’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท