บทที่ 459 เจ้ากับข้าคือพระเจ้า
บทที่ 459 เจ้ากับข้าคือพระเจ้า
“นายท่าน… คิดทำสิ่งใด?”
อาจารย์อสูรวิถีสวรรค์เผยความตื่นตระหนกและพยายามดิ้นรนออกจากฝ่ามือ แต่กลับไร้ความสามารถ
“ฮึ่ม! เจ้ายังคิดเสแสร้งต่ออีก!”
การแสดงออกบนใบหน้าของไป๋ชิวหรานไม่เปลี่ยนแปลง และบิดข้อมืออีกฝ่ายอย่างไร้ปรานี แขนของอาจารย์อสูรวิถีสวรรค์แทบจะกลายเป็นเกลียว
“แล้วเจ้าคิดว่าเหตุผลใดเล่าทำให้เจ้าต้องเผชิญหน้ากับข้าเวลานี้?”
เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย อาจารย์อสูรวิถีสวรรค์หยุดแสร้งทำ ก่อนจะเผยใบหน้าเย็นชา
“เจ้ามาที่นี่ด้วยเหตุใด? เจ้าไม่ควรจะเข้าสู่ฝั่งตรงข้ามของกำแพงแห่งความตระหนักรู้! เวลานี้เจ้าควรจะดูแลสังสารวัฏแห่งการกลับชาติมาเกิดภายในยมโลกไม่ใช่หรือไร?”
“เจ้าคิดว่าเจ้ามีร่างอวตารอสูรเพียงผู้เดียวหรือ? แล้วข้าไม่สามารถใช้ทักษะนั้นได้หรือไง?”
ไป๋ชิวหรานตอบกลับด้วยความเย้ยหยัน
“เรื่องนั้น…”
อาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวจริงจัง
“เมื่อหลายสิบปีก่อน เจ้าคงไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะเจ้าคงไร้ความสามารถพอที่จะทำ”
ตูม!
ไป๋ชิวหรานไม่คิดสงสารหรือหยาบโลยต่ออีกฝ่าย เขาชกหมัดตรงเข้าใบหน้างดงามของวิถีสวรรค์ ก่อนจะแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งใด ทั้งยังกล่าวต่อว่า
“นับตั้งแต่ที่เราแลกเปลี่ยนกัน ข้าทราบตลอดว่าเจ้าพยายามจะแทรกซึมเข้าสู่เขตแดนจิตสำนึก เดิมทีข้าก็ไม่คิดสนใจ อย่างไรแล้วเจ้าก็คือผู้ให้กำเนิดพวกเรา แต่ว่า…”
“การก่อกบฏของจักรพรรดิเซียนตะวันออกครั้งล่าสุดทำให้ข้าตระหนักได้ถึงภัยคุกคามที่เจ้ากระทำต่อสิ่งมีชีวิตเช่นพวกเรา เจ้ายอมรับจักรพรรดิเซียนตะวันออกเป็นพวกพ้อง และหยุดยั้งการพัฒนาแดนเซียนไปกว่าหนึ่งแสนปี เจ้าคือผู้อยู่เบื้องหลังของจักรพรรดิเซียนตะวันออก! มอบเครื่องมือ! อาวุธวิเศษให้กับเขาโดยตรง! ทั้งหมดนี้เจ้ากระทำมันเพื่อจุดประสงค์ของตนเองโดยไม่คิดสนใจชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตเช่นพวกเรา ไม่แยแสแม้แต่น้อย!! เพราะฉะนั้น…”
ไป๋ชิวหรานร้องคำรามก้อง
“ซวี่เซียง!”
“ได้เลยท่านพ่อ!”
เสียงของเด็กหญิงตัวน้อยด้านหลังดังขึ้น อาจารย์อสูรวิถีสวรรค์สัมผัสได้ถึงแรงตรึงหนาแน่น อีกทั้งตอนนี้มันยังถูกไป๋ชิวหรานยึดแขนไว้อย่างมั่นคงจนไร้หนทางหลบหนี
มันดิ้นรนอย่างตื่นตระหนก แต่สุดท้ายก็ไม่อาจทำได้ ตอนนี้ความคิดของไป๋ชิวหรานคล้ายกับหนอน เขายึดแขนของมันไว้แน่นก่อนจะปลดปล่อยพลังเพื่อทะลวงผ่านจิตวิญญาณของอีกฝ่ายสำหรับเชื่อมโยงความคิด
“อ่า… นับตั้งแต่เจ้าอยู่ที่นี่ ความคิดของอาจารย์อสูรของเจ้าก็เชื่อมกับเจตจำนงแห่งวิถีสวรรค์ในร่างกายเจ้าแล้วหรือไม่?”
ไป๋ชิวหรานยังคงมีส่วนหนึ่งในจิตใจที่ซุกซ่อนอยู่ภายในงร่างกายของอีกฝ่าย
“ในที่สุดข้าก็จับเจ้าได้สักที”
“เจ้าคิดทำอะไร?”
น้ำเสียงของวิถีสวรรค์ดังขึ้น และในลมหายใจต่อมา ไป๋ซวี่เซียงก็ใช้พลังเชื่อมโยงความคิดของไป๋ชิวหรานเข้ากับมัน
ในชั่วพริบตา ความคิด อารมณ์ และความทรงจำของทั้งสองเริ่มแลกเปลี่ยนกัน ท่ามกลางความคิดของไป๋ชิวหรานเกิดปรากฏความทรงจำนับไม่ถ้วนของวิถีสวรรค์ ซึ่งไม่รู้ว่ามันถูกเก็บไว้กี่ปี และทั้งหมดหลั่งไหลเข้ามาพร้อมกัน แน่นอน…รวมไปถึงความคิด ความทรงจำ อารมณ์ ทั้งหมดที่อยู่ในร่างหลักของมันด้วย
หลังจากเชื่อมต่อกันชั่วครู่ แม้ความคิดของทั้งสองเชื่อมโยงกันอยู่ แต่วิถีสวรรค์และไป๋ชิวหรานต่างต่างก็มีปฏิกริยาต่อต้าน ทั้งคู่สร้างกำแพงกั้นความคิดของตนเองเพื่อที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลออก
“อะไร?”
ไป๋ชิวหรานยิ้มให้กับวิถีสวรรค์
“เป็นไงบ้าง… รู้สึกอย่างไรเมื่อได้เชื่อมโยงกับจิตใจข้า?”
มันได้เรียนรู้ความคิดที่แท้จริงของไป๋ชิวหราน และเจตจำนงแห่งวิถีสวรรค์ ในที่สุดเสียงของมันก็ฉายชัดความตื่นตระหนก ไม่รู้ว่าเพราะการเชื่อมโยงเมื่อครู่หรือไม่ ไป๋ชิวหรานถ่ายทอดอารมณ์ของเขาเข้ามาในความคิดของมัน
“ไป๋ชิวพราน!”
น้ำเสียงนั้นสั่นสะท้านเล็กน้อย
“เจ้าคิดทำสิ่งใดกับข้า?!”
“ทำอะไรหรือ?”
เสียงของไป๋ชิวหรานเต็มไปด้วยความสุข และยังเย่อหยิ่ง
“แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นชะตากรรมของเจ้า! สัตว์ร้ายที่เคยได้รับอิสระบัดนี้ต้องมีโซ่ตรวนคล้องคอเสียที!”
“เจ้าต้องการใช้คาถาโซ่ตรวนของจักรพรรดิเซียนซูหัวผนึกความคิดของข้า?”
วิถีสวรรค์ต้านพันธนาการที่ถูกไป๋ชิวหรานสร้างขึ้นโดยครั้งแล้วครั้งเล่า
“เจ้าประมาทข้าเกินไปแล้ว! ในด้านจิตวิญญาณและร่างกายของข้าไม่อาจต่อสู้เจ้าได้ แต่หากเป็นการเผชิญหน้ากันของจิตใจเจ้ายังอ่อนแอนัก! การผนึกจิตใจของข้ามันไม่ง่ายดายเช่นนั้น!”
“ข้าไม่เคยมองว่าเจ้าต่ำต้อยเลย วิถีสวรรค์ แต่อย่าได้ดูถูกบุตรสาวข้านัก”
ไป๋ชิวหรานกล่าวตอบอย่างมั่นคง
“เจ้าคิดว่าโซ่ตรวนที่มีพลังของซวี่เซียงแทรกซึมเพื่อเชื่อมความคิดเจ้ากับข้าเข้าด้วยกัน มันมีไว้เพื่อไม่ให้เจ้าวิ่งหนีงั้นหรือ? ไม่เลย! มันมีไว้เพื่อกักขังเจตจำนงของเจ้า!”
“ตราบใดที่เจ้ายังถูกข้ามัดไว้! เจตจำนงของเจ้าก็ไม่อาจวิ่งหนีไปไหนได้!”
“ส่วนเรื่องของคาถาแล้ว เวทโซ่ตรวนของซูหัวนั้นใช้ได้กับร่างกายเท่านั้น!”
สิ้นเสียงของไป๋ชิวหราน เขาปล่อยมือจากร่างอาจารย์อสูรวิถีสวรรค์ และเริ่มร่ายเวทอย่างเชื่องช้า
พลังปราณแก่นแท้ในร่างกายปรากฏขึ้น ก่อนจะกลายเป็นผนึกลึกลับเปล่งประกายอยู่ในอากาศ
“หยุดนะ!!!”
วิถีสวรรค์เริ่มดิ้นรน แล้วยังตะโกนลั่น
“ด้วยวิธีนี้… ความคิดของเจ้าจะต้องถูกผนึก!”
“ข้าไม่ยอม!”
ไป๋ชิวหรานเผยรอยยิ้ม
“ข้ารู้…”
ในการเชื่อมโยงความคิดถึงกัน หลายสิ่งหลายอย่างสามารถรับรู้ได้ในทันที ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงเข้าใจความคิดของวิถีสวรรค์ และอธิบายทุกสิ่งให้กับอีกฝ่ายรับรู้
“ตั้งแต่ข้าอายุหนึ่งพันปี ข้ารู้สึกว่าแม้ขั้นพลังของข้าจะต่ำต้อย แต่พลังการต่อสู้ของข้ากลับเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ มาก เมื่อเวลาผ่านไป ช่องว่างเหล่านี้ก็ยิ่งกว้างมากขึ้น”
“ในคราวแรก ข้าคิดว่าเหนือฟ้าย่อมมีฟ้า และในแดนเซียนนั้นย่อมมีผู้ฝึกตนทรงพลังไร้สิ้นสุด แต่หลังจากเดินทางเข้าสู่ยุคแห่งทวยเทพแล้ว ข้าพบว่าไม่มีใครเลยที่จะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้ แม้แต่เจ้า วิถีสวรรค์… ก็ยังไม่อาจประมือกับข้า!!”
“หากข้าต้องการสังหารจักรพรรดิเซียนตะวันออก ข้าสามารถทำได้ทันที หากข้าต้องการสังหารจักรพรรดิเซียนทั้งสี่ทิศ ข้าก็เพียงกระดิกนิ้วเท่านั้น หากเผ่าปีศาจรุกรานเผ่ามนุษย์ ข้าก็สามารถโต้กลับด้วยกระบี่ นับตั้งแต่พื้นผิวโลกไปจนถึงเมืองเซียน หรือต่อให้เป็นเหล่าอสูรทั้งหมด จักรพรรดิอสูร เจ้าชายเผ่าปีศาจ ทั้งหมดตายตกในมือข้าอย่างสง่างาม ไม่มีผู้ใดต่อสู้ข้าได้”
“ข้าสังหารจักรพรรดิเซียนตะวันออกเพื่อรักษาเผ่ามนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอ่อนแออื่น ๆ ข้าสังหารจักรพรรดิเซียนสี่ทิศเพื่อนำทุกสิ่งกลับคืนสู่แดนเซียน! ให้ทุกอย่างกลับเข้าสู่คันลองคลองธรรมอีกครั้ง! ข้าสังหารเจ้าชายและจักรพรรดิปีศาจเพื่อล้างแค้นให้เหล่าผู้บริสุทธิ์ในเก้ามหาทวีปสิบแผ่นดิน! แต่หากวันหนึ่งข้าไม่คิดรักษาความยุติธรรมและรักษาความสงบของโลกใบนี้อีกต่อไป ผู้ใดเล่าจะหยุดยั้งข้าได้!?”
“หากข้าต้องการครองแดนเซียน ฆ่าศิษย์และหลานของข้า ทำให้เหล่าเซียนในแดนเซียนทั้งหมดยอมจำนน ทั้งหมดล้วนง่ายดายยิ่ง!! วันนั้นจะมีสตรีมากมายให้ข้าเลือกสรรค์ รังรักถูกสร้างมากมายทั่วสารทิศตราบใดที่ข้าต้องการ แม้แต่เจียงหลาน หรือคนอื่น ๆ ก็ไม่อาจหยุดยั้งข้าได้!!”
“วิถีสวรรค์… เจ้ากับข้าแข็งแกร่งเกินไปสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกใบนี้ หากเราต้องการทำเรื่องชั่วช้าในอนาคต ผู้ใดเล่าจะหยุดยั้งพวกเรา?”
“ข้าไม่คิดว่าข้าจะเป็นคนไม่ดี แต่จิตใจมนุษย์ยากหยั่งถึง ข้าเกรงว่าในอนาคตข้าจะเลวร้าย จนอาจจะไม่ได้เป็นบรรพชนกระบี่อีกต่อไป อาจจะไม่ปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ ไม่ต้องการปกป้องบุคคลที่รักและทุกสิ่งทุกอย่าง”
“เช่นนั้นวิถีสวรรค์ มากับข้า! และมัดตรึงกันไว้ด้วยโซ่ตรวนนี้ซะ!”
ความคิดของไป๋ชิวหรานส่งคลื่นพลังไร้ลักษณ์ไปสู่วิถีสวรรค์ แม้จะเป็นเพียงความคิด แต่เจตจำนงค์ของวิถีสวรรค์กลับรับรู้ได้อย่างลับ ๆ ว่าไป๋ชิวหรานกำลังยิ้มให้มัน
“ผู้คนย่อมต้องการพระเจ้า และเจ้ากับข้า… คือพระเจ้า”