บทที่ 488 ความรู้สึกของปฐมวิญญาณ ช่างวิเศษ!
บทที่ 488 ความรู้สึกของปฐมวิญญาณ ช่างวิเศษ!
หลังจากผนึกความคิดเหล่านั้นแล้ว ร่างหุ่นกลใหม่ที่ถูกควบคุมโดยวิญญาณว่างเปล่าของไป๋ชิวหรานและถังรั่วเวยก็ตื่นขึ้น
คฤหาสน์ม่วงประดิษฐ์ในร่างกายทำงานด้วยตัวของมันเองภายใต้คำสั่ง พลังแก่นแท้ค่อย ๆ ไหลผ่านร่างกลไกนี้ จนเริ่มทำให้อักขระยันต์ส่องสว่างขึ้นทีละจุด วิญญาณในแท่นวิญญาณหุ่นกลเริ่มเชื่อมต่อกับร่างใหม่ ก่อนจะปรับตัวได้ในที่สุด
ในตอนนี้เอง… ไป๋ชิวหรานผู้อยู่ในมิติเงาพลันปรบมือ
พลังที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกไป และห้วงเวลาของโลกทั้งใบก็พลันหยุดนิ่ง!
ทุกสิ่งตกอยู่ในสภาพนิ่งงัน ยกเว้นก็แต่ไป๋ชิวหราน กับถังรั่วเวย
ในมิติเงา ไป๋ชิวหรานยื่นมือออกไปเพื่อสร้างเส้นทางต่างมิติที่นำไปสู่ห้องโดยสาร เบื้องหน้าพวกเขาคือหุ่นกลตัวใหม่หกตัว ไม่นาน ไป๋ชิวหรานก็เดินมาถึงหุ่นกลที่วิญญาณว่างเปล่าของเขาอาศัยอยู่ พร้อมกล่าวกับถังรั่วเวยว่า
“แยกความคิดของตัวเองออกมา แล้วไปอยู่บนแท่นแทนวิญญาณว่างเปล่าซะ”
ถังรั่วเวยพยักหน้า อาจารย์และศิษย์แยกความคิดพวกเขาพร้อมกัน ความคิดที่แยกออกมาบดขยี้วิญญาณว่างเปล่าที่ใช้กำบังแท่นได้อย่างง่ายดาย จากนั้นความคิดของบรรพชนกระบี่ก็ยึดครองร่างของหุ่นกล
หลังจากทำเช่นนี้ ไป๋ชิวหรานปิดรอยแยกต่างมิติ และยกเลิกการหยุดเวลา ชั่วอึดใจที่หุ่นกลไม่สังเกตเห็น เขาและถังรั่วเวยก็ก่อการเสร็จสิ้นและควบคุมร่างของหุ่นกลได้สำเร็จ
เมื่อรู้สึกได้ว่าขั้นปฐมวิญญาณค่อย ๆ ตื่นขึ้นในคฤหาสน์ม่วง ไป๋ชิวหรานรู้สึกว่าน้ำตากำลังไหลอาบหน้า ถึงแม้ร่างของหุ่นกลนี้จะไม่มีโครงสร้างของต่อมน้ำตา แต่ในใจของเขา น้ำตากลับไหลออกมาอย่างเงียบงัน
ความรู้สึกของขั้นปฐมวิญญาณ ช่างวิเศษ!
ความตระหนักรู้ของเขาไม่อาจอดใจรอที่จะเชื่อมต่อกับปฐมวิญญาณที่ผลิตขึ้นจำนวนมากในคฤหาสน์ม่วงประดิษฐ์ได้ เขาควบคุมให้มือและเท้าตัวเองยกขึ้น เพื่อดำเนินการต่าง ๆ
“หมายเลขหนึ่งศูนย์สาม”
“เหอะ ๆ”
ไป๋ชิวหรานหัวเราะคิกคัก
“หมายเลขหนึ่งศูนย์สาม!”
เสียงดังขึ้นในหูของเขา ความดังเพิ่มขึ้น
“หา!?”
ไป๋ชิวหรานกลับมามีสติ เห็นร่างหนึ่งที่สูงกว่าเขายืนอยู่ตรงหน้า เป็นหุ่นกลที่มีโครงสร้างซับซ้อนยิ่งกว่า
“ข้าเข้าใจความยินดีของเจ้า! แต่ว่า… เมื่อเข้าร่วมกับกลุ่มอันทรงเกียรตินี้แล้ว ต้องปฏิบัติตามกฎ!”
เมื่อเห็นไป๋ชิวหรานกลับมามีสติ หุ่นกลร่างสูงก็ก้มมองลงมาหา
“ทางที่ดีเจ้าควรควบคุมอารมณ์ในตอนนี้ไว้หน่อยก็ดี หลังจากนั้นก็ไปรวมตัวกับข้าบนเรือ หลังจากนี้ไป เจ้าจะต้องรับการฝึกฝน เรียนรู้วิธีกลายเป็นหุ่นกลที่ยอดเยี่ยม!”
…
หลังจากผ่านไปสามเดือน บนสมรภูมิต่างดาวในอีกโลกมิติหนึ่ง กลุ่มหุ่นกลราวหนึ่งร้อยตัวกำลังเผชิญหน้ากับการโอบล้อมของกลุ่มอสูร
อสูรเหล่านี้คือเผ่าพันธุ์พื้นเมืองบนโลกมิตินี้ มันดุร้าย ร่างกายแข็งแกร่ง และมีความยาวโดยเฉลี่ยอยู่ที่สามสิบถึงสี่สิบจั้ง ร่างกายปกคลุมไปด้วยกระดองหนา และสามารถใช้พลังงานที่สั่งสมในร่างกาย เพื่อส่งการโจมตีด้วยลำแสงความร้อนสูงออกมา
แต่พวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาด ระดับความคิดของพวกมันเทียบเท่าสัตว์เดรัจฉาน และโหดร้ายยิ่งนัก พวกมันนำความยากลำบากใหญ่หลวงมาสู่อารยธรรมของโลกนี้เพื่อหมายจะยึดอาณานิคม!
อารายธรรมของโลกนี้หันไปขอความช่วยเหลือจากมหาเทพหุ่นกล ดังนั้นมหาเทพหุ่นกลผู้ยิ่งใหญ่จึงส่งกลุ่มเทพสวรรค์ หรือกองทัพหุ่นกลมาที่โลกต่างดาวเพื่อสังหารอสูรเหล่านี้
ร่างของอสูรปกคลุมไปด้วยกระดอง อสูรมีหนวดเหมือนปลาโคมไฟที่ห้อยอยู่บนหัว ทั้งสี่ทิศเจาะรูทุกทิศทาง และโจมตีฐานที่มั่นชั่วคราวของกลุ่มหุ่นกลอย่างต่อเนื่อง พวกมันแต่ละตัวล้วนมีความสามารถทัดเทียมกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสร้างรากฐาน ประกอบกับจำนวนของอสูรที่อาศัยอยู่ทั่วทั้งโลกมิติ มีอย่างต่ำห้าหมื่นตัว ตอนนี้ภายใต้การนำของหัวหน้าพวกมัน อสูรพื้นเมืองบนโลกมิตินี้ได้ทำการบุกเข้าใส่กลุ่มหุ่นกลจากทุกทิศทาง โดยมีเป้าหมายคือกำจัด ‘ผู้บุกรุก’ เหล่านี้
ทว่าหุ่นกลทุกตัว มีปฐมวิญญาณประดิษฐ์จำนวนมาก อักขระยันต์ของจักรพรรดิเซียนซู่หัวในคฤหาสน์ม่วงประดิษฐ์ ทำให้เหล่าหุ่นกลล้วนมีความสามารถเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแยกวิญญาณเป็นอย่างต่ำ ต่อให้ทิ้งอาวุธแล้วปลุกปล้ำกับอสูรเหล่านี้ด้วยมือเปล่า อสูรเหล่านี้ย่อมไม่ใช่คู่มือของพวกเขาแต่อย่างใด
หากแขนของหุ่นกลแต่ละตัวพุ่งออกไปด้วยความเร็วเต็มที่ด้วยกำลังสูงสุด อย่างน้อยอสูรหนึ่งแถวจะถูกบดขยี้เป็นชิ้น ๆ!
ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ ที่กลุ่มหุ่นกลนี้สร้างฐานะมั่นคงด้วยอักขระยันต์ หุ่นกลเสริมพลังการโจมตีด้วยยุทธภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ กลายเป็นปราการโลหะที่ยึดกับพื้น ปืนใหญ่อักขระบนไหล่ยังคงถ่ายพลังยิงไปรอบข้าง
ศพรอบข้างยิ่งมายิ่งกองสูง ทว่าเห็นได้ชัดว่าผู้บัญชาการของหน่วยนี้ไม่พึงพอใจกับเรื่องนี้
“หมายเลขหนึ่งศูนย์สาม หมายเลขหนึ่งศูนย์สี่”
เขาหันศีรษะไปสั่งการหุ่นกลสองตัวในกลุ่ม
“เจ้าเป็นประเภทตัดหัว ไปตามหาหัวหน้าของอสูรกลุ่มนี้ แล้วจัดการมันซะ!”
“ขอรับ ผู้บัญชาการ!”
หุ่นกลสีทองที่แทบจะเหมือนกันสองตัวลุกขึ้นจากกลุ่ม
พวกมันพุ่งออกจากกลุ่มหุ่นกล เปลวเพลิงพลันพวยพุ่งออกจากด้านหลัง ดันร่างพวกมันทะยานขึ้นนภาด้วยความเร็วสูงยิ่ง!
เมื่ออสูรเหล่านั้นเห็นพวกมัน ก็ล้วนหยุดชะงัก และหันหน้าไปทางนภาก่อนจะอ้าปากออก ลำแสงร้อนทรงพลังพุ่งออกจากปาก! ทว่าเหล่าหุ่นกลก็สามารถหลบเลี่ยงได้ด้วยการเคลื่อนไหวทางยุทธวิธีที่รัดกุมของหุ่นกลทั้งสอง
หุ่นกลสองตัวมีความเชี่ยวชาญในการตัดหัว พวกมันติดตั้งกลไกตรวจจับพิเศษเพื่อจุดตายของศัตรูโดยเฉพาะ ด้วยการใช้นี้ พวกมันสามารถตรวจพบเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว อสูรขนาดยักษ์ตัวหนึ่งอยู่ใจกลางฝูง มีความยาวราวห้าสิบจั้ง และมีกระดองส่องแสงสว่างสีแดง
พวกมันพุ่งผ่านหมู่เมฆในนภาพุ่งเข้าสู่สมรภูมิ กระบี่ตัดหัวขนาดใหญ่สลักอักขระสีแดงเอาไว้สองเล่มยื่นออกมาจากขาทั้งสองของหุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สาม ส่วนด้านหลังของหุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สี่มียุทธภัณฑ์ลงอักขระขนาดใหญ่ยื่นออกมา!
หุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สามถือกระบี่ด้วยมือทั้งสองข้าง พุ่งทะยานไปราวกับเกลียวลำแสง กลายเป็นสายลมอันคมกริบ พุ่งเข้าไปในฝูง ตรงเข้าสู่ตำแหน่งของหัวหน้าอสูร
ส่วนหัวหน้าอสูรก็รับรู้ถึงหายนะเช่นกัน มันถอยหลัง และคำรามเสียงต่ำ อวัยวะที่คล้ายลูกแก้วเหนือศีรษะกะพริบ ส่งคลื่นออกคำสั่งที่มองไม่เห็นออกไป เพื่อสั่งให้อสูรรอบข้างจู่โจมหุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สาม เพื่อขัดขวางการโจมตีของอีกฝ่าย
ทว่าตอนนี้กลับมีสายฝนโลหะเทกระหน่ำเทลงมาจากนภา กวาดล้างอสูรทั้งหมดที่อยู่ใกล้หมายเลขหนึ่งศูนย์สาม
ด้านหน้าถูกปกคลุมด้วยพลังการยิงของหุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สี่จนเส้นทางเปิดโล่ง ส่วนหุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สามจึงไม่ลังเล และรีบวิ่งไปตามทาง เพื่อตรงเข้าหาหัวหน้าฝูง ก่อนจะควงกระบี่สะบั้นหัวในมือ!!
คุณสมบัติเฉพาะของอสูรเหล่านี้ย่อมแข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับชาวโลกวัตถุทั่วไป ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ากลุ่มหุ่นกล พวกมันไม่มีพลังต่อสู้มากพอ เมื่อเผชิญหน้ากับหุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สามที่มีพละกำลังเหนือกว่าขั้นแยกวิญญาณ จึงไม่มีทางขัดขืนแม้แต่นิดเดียว
ปฐมวิญญาณของคฤหาสน์ม่วงในร่างกายมอบพลังแห่งแก่นแท้อันไร้ที่สิ้นสุด! หุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สามรู้สึกมีพลังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับมีอำนาจเหลือล้น!
เพียงชั่วพริบตา หุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สามฟันแขนขาด้วยกระบี่เล่มเดียว กระบี่อีกเล่มแยกศีรษะออกทันทีจนทำให้ศีรษะถูกผ่าครึ่ง!!
ร่างของหัวหน้าฝูงล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรงจนเกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย! การตายของหัวหน้าทำให้อสูรกลุ่มนี้เสียขวัญกำลังใจและจนหนีเตลิดไป
หุ่นกลหมายเลขหนึ่งศูนย์สามสังหารอสูรบางส่วนที่หลบหนีจากด้านข้าง จากนั้นจึงยืนอยู่บนศพขนาดมหึมาของหัวหน้าฝูง และชูกระบี่สะบั้นหัวขึ้น
“มหาเทพหุ่นกลจงเจริญ!!”
เสียงของเขาดังก้องผ่านช่องทางการสื่อสารของหุ่นกล ผ่านไปสักพัก เสียงของผู้บัญชาการหน่วยหุ่นกลก็ดังขึ้น
“ทำได้ดีมาก! หมายเลขหนึ่งศูนย์สาม หมายเลขหนึ่งศูนย์สี่ พวกเราจะกระจายความรุ่งโรจน์ของมหาเทพหุ่นกลไปทั่วโลกมิติอีกครั้ง อีกอย่างหนึ่ง หนึ่งศูนย์สาม หนึ่งศูนย์สี่ ความสำเร็จของเจ้าผ่านมาตรฐานการเลื่อนขั้นแล้ว! คราวนี้เมื่อกลับไปที่สถานี และเลือกเส้นทางการเลื่อนขั้น แล้วทำการลงทะเบียนเลื่อนขั้นนั่นเสีย!”