ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年] – บทที่ 530 วิถีสวรรค์และมหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่ขอเข้าร่วม

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

บทที่ 530 วิถีสวรรค์และมหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่ขอเข้าร่วม

บทที่ 530 วิถีสวรรค์และมหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่ขอเข้าร่วม

หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ในที่สุดไป๋ชิวหรานจึงยอมรับคำขอของอวี้เหริ่นหาน

ความจริงแล้วเขารู้สึกอับอายเล็กน้อยที่ปล่อยให้ช่างฝีมือแห่งโรงหลอมเหล็กสวรรค์ทุกคนในแดนเซียนทำงานอย่างหนักเพื่อนำ ‘ของเล่น’ มาให้เขา แต่อย่างไรแล้วของเล่นที่เขาต้องการนี้เป็นโครงการใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และอาจจะไม่มีวันได้พบเจออีกในอนาคต การออกแบบและโครงสร้างของมันหากได้ช่างฝีมือเซียนเหล่านี้ร่วมลงมือ มันน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพของพวกเขา

หลังจากได้รับความยินยอมจากไป๋ชิวหรานแล้ว อวี้เหริ่นหานจึงเริ่มเขียนจดหมายทันทีเพื่อขอความเห็นชอบจากจักรพรรดิเซียน

แน่นอนว่าเล่อเจิ้นเทียนย่อมไม่คัดค้านใด ๆ หลังจากที่ไป๋ชิวหรานเรียนรู้การสร้างสิ่งต่าง ๆ ในความว่างเปล่าแล้ว เขาก็ไม่ต้องการให้โลกแห่งเซียนต้องไปหยิบยืมสิ่งนั้นจากคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีหากช่างฝีมือเซียนเหล่านี้มีโอกาสได้เรียนรู้

แม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้แผ่นเดินของโลกแห่งเซียนและมหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่ที่ต้องการจะเพิ่มกำลังผลิตหุ่นกลจักรพรรดิของแดนเซียนช้าลง แต่หลังจากที่ช่างฝีมือเซียนเหล่านี้ได้เรียนรู้ หุ่นกลจักรพรรดิที่พวกเขากำลังจะสร้างขึ้นถัดจากนี้ย่อมทรงพลังกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน

ตอนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในแดนเซียน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีหากภูมิปัญญาจะไต่เต้าขึ้นไป สร้างกองกำลังที่ภักดีไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงออกจากแดนเซียนพร้อมกับกลุ่มช่างฝีมือเซียน เขามาหยุดอยู่ที่ส่วนที่กว้างที่สุดของแม่น้ำแห่งความว่างเปล่าที่อยู่ใกล้เคียงกับแดนเซียน อย่างไรแล้วสิ่งที่เขาต้องการนั้นยิ่งใหญ่ ความกว้างของอาณาจักรเซียนกลางอาจจะไม่เพียงพอ สุดท้ายแล้วเขามองว่าสถานที่แห่งนั้นแคบเกินไปที่จะสร้างของเล่นชิ้นนี้

ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงเลือกสถานที่เป็นแม่น้ำแห่งความว่างเปล่านี้ นี่คือพลังไร้ขอบเขตและไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะขาดพลังงานในการสร้างสิ่งต่าง ๆ

ไป๋ชิวหรานเดินทางไปยังปรโลกและออกคำสั่งในฐานะจักรพรรดิภูตผี ก่อนจะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งปรโลกเข้าร่วมปฏิบัติการ

เหล่าเซียนและภูตผีมาถึงริมฝั่งแม่น้ำแห่งความว่างเปล่าพร้อมกัน และไป๋ชิวหรานชักกระบี่ออกจากฝักเพื่อเปิดช่องว่างชั่วคราวให้ทุกคนอยู่อาศัย จากนั้นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็เริ่มหารือกันในความว่างเปล่าไร้ขอบเขต พวกเขาเริ่มประชุมทันทีว่าควรจะออกแบบโรงหล่อบนสถานที่แห่งนี้อย่างไร

ไป๋ชิวหรานเข้าร่วมประชุมด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากเหล่าไป๋แล้ว ทุกคนล้วนแต่เป็นเซียน และไม่ได้สัมผัสกับอาหารมาเนิ่นนาน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กินหรือดื่มสิ่งใดเลยเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งความคิดทั้งหมดที่บรรลุร่วมกันเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างขึ้นมา

สำหรับเซียน… การหล่อยุทธภัณฑ์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในแง่ของอุปกรณ์แล้ว ช่างเซียนและช่างภูตผีที่มารวมตัวกันล้วนแต่มีทักษะไร้ผู้ใดเทียบ อีกทั้งยังไม่เคยมีเครื่องจักรที่ยิ่งใหญ่เท่านี้มาก่อน และยังไม่มีชุดอุปกรณ์ที่จะสามารถเข้ากันได้ ทุกสิ่งจึงต้องถูกสร้างขึ้นใหม่เท่านั้น

สำหรับประเด็นนี้ ไป๋ชิวหรานใช้วิธีของเขาเพื่อชดเชยส่วนที่ขาด…

เวลานี้สำหรับโรงหลอม สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่มีอะไรมากไปกว่าวัสดุในการหลอมและพลังการยิงของอุปกรณ์หลอม

ยิ่งขนาดของสิ่งที่ต้องการสร้างใหญ่เท่าใด วัสดุที่ต้องการก็ยิ่งบ้าคลั่งมากเท่านั้น วัสดุบนหุ่นกลจักรพรรดินั้นหายากและราคาแพงยิ่งกว่าหุ่นกลธรรมดาทั่วไป

หุ่นกลจักรพรรดิภายในราชสำนักหุ่นกลได้รับการขัดเกลาอย่างเชื่องช้าทีละตัวด้วยเตาหลอมกลไกภายในแกนกลางที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในเตาหลอมมีดวงดาวถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเผาไหม้ และเพลิงแห่งดวงดาราถูกใช้เพื่อขัดเกลาวัสดุทั้งหมดอย่างช้า ๆ ทั้งหมดนี้ถูกคิดค้นโดยมหาเทพหุ่นกลคนเก่า

แม้มหาเทพหุ่นกลจะเป็นผู้ควบคุมเตาหลอมด้วยตนเอง แต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยกว่าหลายพันปีตั้งแต่ออกแบบจนเสร็จสิ้น

นอกเหนือจากหุ่นกลล้าสมัยเพียงไม่กี่ตัวที่ผลิตขึ้นเมื่อครั้งมหาเทพหุ่นกลเพิ่งถือกำเนิด มหาเทพหุ่นกลปกครองราชสำนักหุ่นกลมานานนับหมื่นปี จนมีการผลิตหุ่นกลจักรพรรดิเพียงสิบตัวเท่านั้น

และสิ่งที่ไป๋ชิวหรานต้องการนั้นยากเย็นและบ้าคลั่งยิ่งกว่าหุ่นกลจักรพรรดิเสียอีก เมื่อเทียบกับหุ่นกลจักรพรรดิของมหาเทพหุ่นกลองค์เก่าแล้ว มันเทียบได้เพียงเศษเสี้ยวของไป๋ชิวหรานเท่านั้น

ดังนั้นแม้ว่าวัสดุจะถูกหลอมด้วยเพลิงแห่งดวงดารา มันก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของไป๋ชิวหรานได้ เช่นนั้นเขาจึงต้องหาแหล่งกำเนิดพลังงานที่ทรงพลังยิ่งกว่า

ช่างฝีมือผู้คลั่งไคล้กระหายความรู้เหล่านี้มุ่งเป้าไปที่จุดเดียวกัน จึงเกิดความน่าสะพรึงกลัวขึ้นคือพวกเขาต้องการใช้การระเบิดของพลังมหาศาลที่สามารถดับสูญดาวเคราะห์ดวงหนึ่งให้เป็นเชื้อเพลิงของเตาหลอมใหม่นี้

ราชสำนักหุ่นกลใช้ดวงดาวเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตาหลอม ดังนั้นโลกแห่งเซียนจึงจะใช้ดาวเคราะห์ดวงใหญ่เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตาหลอม และใช้เพลิงปฐมภูมิของโลกและเพลิงแห่งการดับสูญของโลกเพื่อปรับปรุงวัสดุส่วนประกอบของหุ่นกลตัวนี้

ทันทีที่ความคิดนี้ถูกเสนอ ช่างฝีมือเซียนทั้งหมดทราบดีว่ามันบ้าเกินไป… แต่พวกเขาก็กระหายที่จะลิ้มลอง

ช่างฝีมือเซียนเหล่านี้พูดคุยกันอยู่สักพักหนึ่ง และหลังจากเพลิดเพลินกับแรงบันดาลใจอันบ้าระห่ำนี้ พวกเขาก็เตรียมที่จะเปลี่ยนแนวคิดให้ไปสู่สิ่งใหม่ แต่เวลานี้ไป๋ชิวหรานฟังการสนทนาของพวกเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า

“ข้าคิดว่ามันใช้ได้”

“หืม?”

อวี้เหริ่นหานและคนอื่น ๆ เผยความประหลาดใจเมื่อได้ยิน

“ในความหมายของบรรพชนกระบี่คือ… แต่ด้วยภูมิปัญญาปัจจุบันและความแข็งแกร่งของโลกแห่งเซียน มันยังล้าหลังเกินที่จะใช้โลกทั้งใบเป็นเชื้อเพลิง”

“ภูมิปัญญาในโลกแห่งเซียนยังห่างไกลจากเกณฑ์ที่ข้าต้องการ แต่อย่างไรข้าก็อยากจะลองดู…”

ไป๋ชิวหรานแตะคางพร้อมกับครุ่นคิดบางอย่าง

“หากรวมกับคำภีร์เทพ มันอาจจะได้ผล!”

“บรรพชนกระบี่นับว่าหลักแหลมนัก!”

ช่างฝีมือทั้งหมดถึงกับเปี่ยมความสุข เพราะสำหรับช่างฝีมือแล้ว หากพวกเขาสามารถก่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ แม้จะได้รับผิดชอบเพียงสกรูตัวเดียว มันก็เพียงพอแล้วที่พวกเขาจะเอาเรื่องนี้คุยโวไปตลอดชีวิต ดังนั้นทุกคนแทบจะเข้าไปล้อมรอบไป๋ชิวหรานและเริ่มหารือเกี่ยวกับความยุ่งยากและข้อควรระวังเกี่ยวกับกระบวนการสร้างเตาหลอมโลหะบนสถานที่แห่งนี้

  

หลังจากหารือและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากช่างฝีมือเหล่านี้ ไป๋ชิวหรานก็เริ่มเป็นผู้นำในการก่อตั้งโรงหลอมพิเศษที่ไม่เหมือนใครภายในความว่างเปล่าอันไกลโพ้น

ปัจจุบัน… เขาสัมผัสได้ว่าบุตรชายใกล้จะคลอดเต็มที และไม่รู้ว่าจะต้องยุ่งกับเรื่องของเด็กชายผู้นั้นไปอีกกี่ปี ไป๋ชิวหรานจึงเริ่มจารึกคัมภีร์เทพของการเร่งเวลาอย่างเด็ดขาด ปรับความเร็ว และเปิดการใช้งานการเร่งเวลา

การกระทำของเขาดึงดูดความสนใจของวิถีสวรรค์มาก แต่วิถีสวรรค์ในปัจจุบันถูกไป๋ชิวหรานทำให้เชื่องแล้ว ดังนั้นเมื่อไป๋ชิวหรานสัมผัสได้ว่ากำลังถูกรุกรานโดยมัน ไป๋ชิวหรานก็ไม่คิดหยุดยั้งหรือสนใจมากนัก

วิถีสวรรค์แทรกซึมเข้ามาเพื่อรับชมว่าพวกเขากำลังทำสิ่งใด แต่เมื่อทราบแล้วมันก็ถอยกลับไปทันที…

หลังจากนั้นหนึ่งถึงสองเดือน วิถีสวรรค์ก็กลับมาพร้อมกับมหาเทพหุ่นกลองค์ใหม่เพื่อขอร้องให้ไป๋ชิวหรานอนุมัติให้พวกมันเข้าร่วมแผนการนี้!

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

Status: Ongoing
ณ สำนักกระบี่ชิงหมิง ที่แห่งนี้ยังมี ‘อาจารย์ลุง’ ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญและพบหน้าค่าตาได้ยากอยู่คนหนึ่ง …ที่ถึงแม้จะอยู่เพียงแค่ขั้นพลังชั้นต่ำสุดอย่างกลั่นลมปราณ แต่จะหาใครแกร่งเท่า คงไม่มีอีกแล้ว!‘ไป๋ชิวหราน’ ชื่อนี้ไม่มีใครที่เป็นศิษย์ในสำนักกระบี่ชิงหมิงจะไม่รู้จัก ศิษย์ลูกรักของผู้ก่อตั้งสำนัก อีกทั้งยังเคยเป็นถึงความหวังของสำนักอีกด้วย ใครต่อใครก็บอกว่าเขาเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่การที่ไปชิวหรานผู้นี้ต้องมาติดแหง็กอยู่ที่ขั้น ๆ เดิมมาถึงสามพันปี มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ สวรรค์ต้องเล่นตลกกับเขาอยู่แน่นอน นอกจากจะต้องเร่งบรรลุไปที่ขั้นสูงกว่านี้ให้ไว ๆ เพื่อหลีกหนีความตายแล้ว ยังต้องมารับมือกับเรื่องวุ่นวายทางโลกที่ ‘คนอื่น ๆ’ ชอบพามาหาเขาแบบไม่หยุดไม่หย่อนอีก เห็นเขาใจดีแบบนี้ใช่ว่าจะทำอะไรกับเขาก็ได้นะ!เส้นทางการฝึกตนนั้นไม่เคยง่ายดาย ไป๋ชิวหรานผู้นี้รู้ซึ้งดี ฉะนั้นใครก็ตามที่กล้ามาดูถูกขั้นพลังของเขา ก็เตรียมตัวชักกระบี่มาคุยกันได้เลย!ความตายที่คอยรังควาญไป๋ชิวหรานคือสิ่งใด ขั้นพลังที่เขามักแอบตัดพ้อถึงมันนั้นสูงส่งหรือต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียงไหน โปรดติดตามได้ใน ‘ข้าก็แค่กลั่นลมปราณสามพันปี’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท