ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年] – บทที่ 595 แต่งงานกับข้า

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

บทที่ 595 แต่งงานกับข้า

บทที่ 595 แต่งงานกับข้า

ในช่วงที่หุ่นกลเซียนยักษ์ระเบิด ไป๋ชิวหรานที่กำลังจะกลับสู่เขตปกครองแดนเซียนก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างจึงหันกลับมามอง

ถังรั่วเวยเองก็สัมผัสได้เช่นกัน นางหันศีรษะตามพร้อมกล่าวถาม

“ท่านอาจารย์ หุ่นกลของท่านระเบิดแล้วหรือไม่?”

“อืม สุดท้ายแล้วมันไม่สามารถต่อต้านได้นาน”

ไป๋ชิวหรานละสายตา

“น่าเสียดายที่ข้าได้ครอบครองของเล่นยอดเยี่ยม แต่ข้ากลับต้องสูญเสียมันไป”

หากไม่มีหุ่นกลเซียนยักษ์แล้ว ไป๋ชิวหรานก็สูญเสียความเย่อหยิ่งต่อหน้าเซียนคนอื่น ๆ เวลานี้เขาจะต้องย้อนกลับสู่ยุคที่ตนต้องหวาดกลัวเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนขั้นปฐมวิญญาณ

“ไปกันเถอะ”

เขาพาถังรั่วเวยกลับสู่แดนเซียน ไม่มีการหยุดพักระหว่างทางจนมาถึงแดนเซียนกลาง

ในบ้านเกิดของพวกเขา เก้ามหาทวีปสิบแผ่นดินไร้ซึ่งกำแพงแห่งกาลเวลา กำแพงแห่งกาลเวลาถูกสร้างไว้ที่แดนเซียนทั้งห้าเท่านั้น และผู้ที่อาศัยอยู่ภายในเก้ามหาทวีปสิบแผ่นดินที่ต้องฝึกฝนเพื่อเตรียมตั้งรับเหล่ายักษาจะต้องเข้าสู่แดนเซียน

ทั้งเจียงหลาน ซูเซียงเสวี่ย หลีจิ่นเหยา และเซียนโม่เฉินกำลังจดจ่ออยู่กับการฝึกฝนภายในแดนเซียน พวกเขามีความตั้งใจที่จะทะลวงผ่านขอบเขต

ไป๋ชิวหรานพาถังรั่วเวยมาที่นี่เพราะตั้งใจว่าจะทิ้งนางไว้เพื่อให้นางมีสมาธิกับการฝึกฝนของตนเอง

เพราะผู้คนที่อยู่ในแดนเซียนต่างคาดหวังที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตธาราสุญตาและซากปรักหักพังหวนคืน ดังนั้นผู้ที่ปกครองแดนเซียนในปัจจุบันคือนางสนมของเล่อเจิ้นเทียน หลังจากได้ยินข่าวว่าไป๋ชิวหรานกลับมาแล้ว นางก็ส่งคนมาต้อนรับไป๋ชิวหราน และไป๋ชิวหรานบอกกล่าวกับนางว่าเกิดอะไรขึ้นในแม่น้ำแห่งความว่างเปล่าอีกสายหนึ่ง

“แม้ข้าจะกระตุ้นการระเบิดของพลังงานต้นกำเนิดของห้วงแห่งความว่างเปล่า แต่มันก็ไม่สามารถหยุดยั้งเหล่ายักษาพวกนั้นได้ ถ้าพวกมันฉลาดพอ มันจะรอให้พลังอ่อนจางลง จากนั้นจะเปิดเส้นทางกระแสพลังงาน อีกไม่นานพวกมันจะมาถึง เราต้องรีบแล้ว”

ไป๋ชิวหรานกล่าวคำกับนางสนมจักรพรรดิเล่อเจิ้นเทียน

“เวลานี้ ท่านจึงสามารถให้สตรีผู้นี้อยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนอย่างหนักได้”

นางสนมกล่าวตอบรับ

“ท่านอาจารย์”

ถังรั่วเวยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางจึงรีบกล่าวถาม

“ท่านอาจารย์จะไม่อยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนหรือ?”

“ข้าต้องไปยมโลกก่อน”

ไป๋ชิวหรานหันกลับมาตอบ

“ก่อนที่ข้าจะออกมา ข้าเชื่อมขอบเขตจิตสำนึกเข้ากับยมโลกเอาไว้ และปล่อยให้เหล่าภูตผีจินตนาการถึงอาวุธขั้นสุดยอดที่พวกเขาต้องการ นี่จึงกลายเป็นอาจารย์อสูรขั้นสูงสุดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หากคำนวนดูแล้ว น่าจะถึงเวลาที่พวกเขาทำสำเร็จ เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ข้าจึงต้องกลับไปตรวจสอบสักหน่อย”

“แล้วจะไม่กลับมาแล้วหรือ?”

ถังรั่วเวยยังคงกล่าวถาม

“ข้าไม่กลับมา เพราะกำแพงแห่งกาลเวลาอยู่ที่นั่น และข้าจะอยู่ในพระราชวังจักรพรรดิภูตผีเพื่อสะสางเรื่องราวต่าง ๆ ด้วย”

ไป๋ชิวหรานกล่าวตอบ

“หากหลานเอ๋อออกจากการฝึกฝน บอกให้นางมาที่ยมโลกและนำเศษเสี้ยวแนวคิดของนางมาเพิ่มเติมให้กับอาจารย์อสูรตนใหม่ด้วยล่ะ”

ถังรั่วเวยเม้มริมฝีปาก นางตระหนักได้แล้วว่าจะไม่สามารถพบเจอกับไป๋ชิวหรานได้อีกในช่วงก่อนการต่อสู้กับเหล่ายักษา

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้กับเหล่ายักษานับว่าอันตรายยิ่ง โดยเฉพาะผู้เฒ่าแห่งเผ่าพันธุ์ เหล่ายักษาเหลืออีกหกตน และคาดเดาว่าไป๋ชิวหรานจะต้องต่อสู้แบบตัวต่อตัวเท่านั้นจึงจะได้รับชัยชนะ

ความแข็งแกร่งของผู้เฒ่าแห่งเผ่ายักษานั้นแข็งแกร่งมาก หากมียักษาอีกห้าตัวอยู่เคียงข้าง ผลลัพธ์จึงไม่อาจมองขาดได้

“ท่านอาจารย์”

นางกล่าวคำ

“ข้ามีเรื่องต้องกล่าวกับท่าน”

“อะไร?”

ไป๋ชิวหรานตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่นางสนมที่อยู่ใกล้เคียงเริ่มเข้าใจ

“บรรพชนกระบี่ แม่นางถัง โปรดพูดคุยกันดี ๆ เถิด”

นางเผยรอยยิ้มก่อนจะถอยออกไป

ถังรั่วเวยมองเห็นว่าอีกฝ่ายเดินออกไปและพาทุกคนภายในห้องนี้ออกไปด้วย นางจึงหันกลับมาหาไป๋ชิวหรานแล้วกล่าวเชื่องช้า

“ท่านอาจารย์ ท่านจดจำการเดิมพันของเราได้หรือไม่?”

ไป๋ชิวหรานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยสีหน้าบิดเบี้ยว

“จำได้”

ไป๋ชิวหรานเหลือบมองหน้าอกของถังรั่วเวยพร้อมกล่าวพึมพำ

“เจ้าเด็กอวดดี”

ถังรั่วเวยเมินถ้อยคำเหล่านั้นก่อนจะกล่าวต่อ

“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ชนะแล้ว ตามเดิมพัน ท่านต้องสัญญากับข้าหนึ่งสิ่ง และข้ายังไม่ได้ร้องขอสิ่งนั้นเลย จำได้หรือไม่?”

“จำได้”

ไป๋ชิวหรานใจร้อน

“ไม่ต้องกังวล ในฐานะอาจารย์ ข้าย่อมไม่คืนคำ”

“ดีแล้ว”

ถังรั่วเว่ยสูดลมหายใจเข้าลึก นางดูประหม่าเล็กน้อย

“ข้าจะร้องขอสิ่งนั้น”

“อืม กล่าวมา”

ไป๋ชิวหรานพยักหน้าพร้อมกล่าวต่อว่า

“หากข้าไม่สามารถมอบสิ่งนั้นให้เจ้าได้ หนทางที่เหลือของข้าคือสังหารเจ้าเสีย”

ถังรั่วเวยมองดูเขาด้วยสีหน้าว่างเปล่า ก่อนจะพุ่งเข้าหา กางแขนโอบรัดลำคอของเขาไว้ แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของไป๋ชิวหราน

เพียงเวลาไม่กี่เสี้ยวลมหายใจ ถังรั่วเวยปล่อยมือจากลำคอของเขาพร้อมกับเผยใบหน้าแดงก่ำ ในขณะที่ชายผมขาวตรงหน้ามึนงงและดูสับสน

“ข้าชอบท่าน อาจารย์… แต่งงานกับข้านะ”

“ตอนนั้นมันไม่ใช่ข้าที่คิดไปเอง เจ้าตั้งใจยั่วยวนข้า!”

ไป๋ชิวหรานไม่ตอบ เพียงแต่ลอบคิดอยู่ในใจ พร้อมกับลูบคางนึกคิดบางอย่าง

“รั่วเวย เจ้าช่างไร้เดียงสา”

“หยุดกล่าวไร้สาระ!”

หญิงสาวเตะขาของเขาพร้อมกล่าวด้วยความขุ่นเคือง

“จะแต่งงานกับข้า หรือจะสังหารข้า? เลือกมา!”

ไป๋ชิวหรานเผยสีหน้าครุ่นคิด

“มันดูไม่เหมาะสมหากจะสังหารเจ้าเพียงเพราะเรื่องนี้ แม้เจ้าจะโง่ไปหน่อย แต่อย่างไรก็เป็นศิษย์สายตรงคนแรกของข้า ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องเช่นนี้ในสายตาของใครหลายคน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้ว”

“อืม”

ถังรั่วเวยลอบยินดีในใจ

“แล้วจะแต่งงานกับข้าหรือไม่?”

“แต่ว่า…”

จู่ ๆ ไป๋ชิวหรานก็ขัดคำพูดของถังรั่วเวย

“หากข้าแต่งงานกับเจ้า ชีวิตข้าจะปลอดภัยหรือไม่…”

เขาแตะเอวอย่างลังเล

“ข้าเกรงว่าไม่อาจรับประกันได้”

“หมายความว่าอย่างไร?”

ถังรั่วเวยกล่าวอย่างขุ่นเคือง

“ท่านคิดว่าข้าเป็นเด็กอมมือหรือไร?”

“หึ เจ้ายังเด็กน้อย ไม่เข้าใจหรอก!”

ไป๋ชิวหรานส่ายศีรษะ

เขาเดินไปมาพร้อมครุ่นคิด เวลานี้อารมณ์ของถังรั่วเวยยิ่งแปรปรวนไปมาจากการกระทำของเขา

ความจริงแล้ว ถังรั่วเวยรวบรวมความกล้าหาญนี้มาหลายปี และเป็นเพราะเหล่ายักษาพวกนั้น นางจึงต้องสารภาพความจริงเร็วเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ยักษากำลังจะบุกมา แม้แต่ไป๋ชิวหรานยังไม่อาจกล่าวรับรองว่าเขาจะรอดชีวิตจากสงครามครั้งนี้ได้ ดังนั้นถังรั่วเวยจึงเลือกที่จะสารภาพความรู้สึกของนางกับไป๋ชิวหรานก่อนสงครามจะเริ่มขึ้น

นางกลัวว่าไป๋ชิวหรานจะปฏิเสธ แม้อีกฝ่ายจะไม่ฆ่า แต่ไป๋ชิวหรานก็มีภรรยาแล้วถึงสามคน บุตรชายและบุตรสาวอีกสองคน นางและไป๋ชิวหรานอยู่ในสถานะอาจารย์และศิษย์ ไม่มีใครรู้เลยว่าความสัมพันธ์เช่นนี้เขาจะยอมรับมันหรือไม่

“ข้ายังไม่สามารถให้คำตอบเจ้าได้”

ไป๋ชิวหรานคิดอยู่นานก่อนจะส่ายศีรษะและกล่าวตอบ

“อ่า เจ้าจงฝึกฝนให้หนัก และเมื่อสงครามกับเหล่ายักษาสิ้นสุดลง ข้าจะมีคำตอบให้เจ้า!”

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี [炼气练了三千年]

Status: Ongoing
ณ สำนักกระบี่ชิงหมิง ที่แห่งนี้ยังมี ‘อาจารย์ลุง’ ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญและพบหน้าค่าตาได้ยากอยู่คนหนึ่ง …ที่ถึงแม้จะอยู่เพียงแค่ขั้นพลังชั้นต่ำสุดอย่างกลั่นลมปราณ แต่จะหาใครแกร่งเท่า คงไม่มีอีกแล้ว!‘ไป๋ชิวหราน’ ชื่อนี้ไม่มีใครที่เป็นศิษย์ในสำนักกระบี่ชิงหมิงจะไม่รู้จัก ศิษย์ลูกรักของผู้ก่อตั้งสำนัก อีกทั้งยังเคยเป็นถึงความหวังของสำนักอีกด้วย ใครต่อใครก็บอกว่าเขาเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่การที่ไปชิวหรานผู้นี้ต้องมาติดแหง็กอยู่ที่ขั้น ๆ เดิมมาถึงสามพันปี มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ สวรรค์ต้องเล่นตลกกับเขาอยู่แน่นอน นอกจากจะต้องเร่งบรรลุไปที่ขั้นสูงกว่านี้ให้ไว ๆ เพื่อหลีกหนีความตายแล้ว ยังต้องมารับมือกับเรื่องวุ่นวายทางโลกที่ ‘คนอื่น ๆ’ ชอบพามาหาเขาแบบไม่หยุดไม่หย่อนอีก เห็นเขาใจดีแบบนี้ใช่ว่าจะทำอะไรกับเขาก็ได้นะ!เส้นทางการฝึกตนนั้นไม่เคยง่ายดาย ไป๋ชิวหรานผู้นี้รู้ซึ้งดี ฉะนั้นใครก็ตามที่กล้ามาดูถูกขั้นพลังของเขา ก็เตรียมตัวชักกระบี่มาคุยกันได้เลย!ความตายที่คอยรังควาญไป๋ชิวหรานคือสิ่งใด ขั้นพลังที่เขามักแอบตัดพ้อถึงมันนั้นสูงส่งหรือต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพียงไหน โปรดติดตามได้ใน ‘ข้าก็แค่กลั่นลมปราณสามพันปี’

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท