บทที่ 601 บรรพชนกระบี่ ปะทะ ผู้เฒ่าแห่งเผ่ายักษา
บทที่ 601 บรรพชนกระบี่ ปะทะ ผู้เฒ่าแห่งเผ่ายักษา
ปราณดาบพุ่งทะยาน ขณะที่ไป๋ชิวหรานกำลังทะยานไปข้างหน้าก็มีเสียงแตกหักจากกระดูก ดูเหมือนว่าความสูงของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเติบโตเทียบเท่ากับอาจารย์อสูรเทพแห่งยมโลก
เวลานี้วารีสารทกระจ่างฟ้ากำลังต่อสู้กับผู้เฒ่าเผ่ายักษาแบบตัวต่อตัว
ตูม!
ไป๋ชิวหรานและผู้เฒ่าแห่งเผ่ายักษาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของกันและกัน ในขณะที่ใบมีดปะทะ คลื่นพลังปะทุออกพัดพาโลกวัตถุใกล้เคียงลอยลับไป
เมื่อเกิดคลื่นพลังรุนแรง เหล่ายักษาด้านหลังยกมือปิดกั้นตนเองโดยไม่รู้ตัว ส่วนเหล่าเซียน ภูตผี หุ่นกลเซียนยักษ์ของแดนเซียนและยมโลกกระเด็นลอยไปไกล พวกเขาพยายามที่จะลุกขึ้น
อย่างไรก็ตาม… นี่เป็นเพียงการโจมตีระลอกแรกเท่านั้น
ทั้งผู้เฒ่าแห่งเผ่ายักษาและไป๋ชิวหรานถอยกลับตั้งหลักเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง!
ตูม!
คลื่นพลังที่รุนแรงกว่าเดิมปะทุขึ้น แต่คราวนี้เป็นไป๋ชิวหรานที่อยู่เหนือกว่าผู้เฒ่าแห่งเผ่ายักษา
เขากดใบมีดเข้าหาผู้เฒ่าเผ่ายักษา จิตสังหารควบแน่นข่มเหงอีกฝ่าย เท้าถึงกับจมลงในสายธารแห่งความว่างเปล่าเล็กน้อย ก่อนจะผลักผู้เฒ่าแห่งเผ่ายักษาออกไปด้านหลังอย่างรุนแรง
ไป๋ชิวหรานทราบดีแก่ใจว่าเหล่ายักษาสามารถต้านทานคลื่นพลังที่เกิดขึ้นจากการที่เขาต่อสู้กับผู้เฒ่าของพวกมันได้ แต่กองทัพเซียนและกองทัพภูตผีไม่เป็นเช่นนั้น ส่วนใหญ่แล้วเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังอ่อนแอกว่า จึงไม่อาจต้านทานผลกระทบเหล่านี้ได้
เพื่อให้กองทัพของเขาได้แสดงอำนาจที่แท้จริง ไป๋ชิวหรานจึงตัดสินใจว่าต้องย้ายสมรภูมิรบ
เขาผลักผู้เฒ่าเผ่ายักษาไปจนสุดทาง เวลานี้ผู้เฒ่าเผ่ายักษาพยายามต่อต้านอย่างหนัก เส้นใยลำแสงบนฝ่ามือปรากฏขึ้น มันเผยถึงอำนาจยิ่งใหญ่และทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ทั้งสองยังคงปะทะกันอย่างต่อเนื่องในความว่างเปล่า และพวกเขาทำลายโลกวัตถุผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แต่โดนลูกหลงไปมากมาย
ทั้งสองร่วงหล่นสู่สายธารแห่งความว่างเปล่าอีกครั้ง พลังงานมหาศาลในสายธารถาโถมกระแทกร่างกายของพวกเขา แต่ทั้งคู่ไม่มีใครคิดสนใจ
ทั้งสองจมลงสู่ก้นบึ้งของสายธารแห่งความว่างเปล่า ฝ่าฟันคลื่นใต้น้ำนับหมื่นพัน ที่ก้นบึ้งของสายธารแห่งความว่างเปล่ามากด้วยพลังงานมหาศาลที่ผันผวนอยู่ ทั้งสองอยู่ตรงนั้นสักครู่ก่อนจะทะยานขึ้นสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง
ขณะที่โผล่พ้นน้ำ ไป๋ชิวหรานมองเห็นกองเรือเซียนและกองเรือภูตผี เวลานี้พวกเขาเปิดฉากต่อสู้กับยักษาอีกหกตัวแล้ว
เขาเห็นว่าเทพแห่งยมโลกถูกยักษาภูเขาไฟจับกุม แต่เขาใช้หลังมือตบหน้ายักษาจนคอแทบหัก อีกทั้งหุ่นกลเซียนยักษ์หมายเลขสอง ‘หมาป่าผู้หิวโหย’ ก็วิ่งเข้าหายักษาตัวสูงที่มีร่างกายโปร่งใสจนมองเห็นเส้นเลือด มันกัดขาของอีกฝ่ายจนจมเขี้ยว
ยักษาตนนั้นเจ็บปวดมาก ก่อนที่จะดิ้นหลุด เทพสงครามพุ่งทะยานไปด้านหน้า ใช้ขวานในมือสับฟันที่ลำคอของมัน
นอกจากนี้ เขายังเห็นยักษาอีกสี่ตนที่นำโดยยักษาสีทองพุ่งเข้าหากองทัพและสร้างความปั่นป่วน แต่พวกมันถูกล้อมรอบด้วยกองเรือเซียนและกองเรือภูตผีนับไม่ถ้วน เมื่อมันระเบิดพลัง เซียนนับไม่ถ้วนก็เสียสละอาวุธวิเศษของตนเพื่อทำลายร่างกายยิ่งใหญ่ตรงหน้า ก่อนจะพยายามยึดครองวิญญาณของอีกฝ่าย
สงครามเริ่มขึ้นแล้ว และเวลานี้พวกเขาคือส่วนหนึ่งของกันและกัน
กุญแจสำคัญในการตัดสินผลลัพธ์ไม่ใช่เพียงการเผชิญหน้าของกองทัพเหล่านั้น แต่ยังรวมถึงผลลัพธ์ระหว่างเขากับผู้เฒ่าเผ่ายักษาด้วย ดังนั้น เขาจึงต้องสังหารผู้เฒ่าเผ่ายักษาให้ได้!
“อู่เล่อ!!!”
น้ำเสียงของผู้เฒ่าเผ่ายักษาเผยความเกลียดชังที่ยากจะลืมเลือน
“สัมผัสนี้ ข้ารู้แล้ว พ่อแม่เจ้าคือไอ้ผู้เฒ่าจอมละโมบใช่หรือไม่!? ไอ้สารเลวนั่นไม่เพียงแต่ทำลายอนาคตของครอบครัวข้า แต่ยังสร้างบุตรที่เป็นคนทรยศเผ่าพันธุ์ด้วย!”
“ข้าไม่ใช่บุตรของเผ่ายักษา!”
ไป๋ชิวหรานสับฟันกระบี่ออกไป ‘สังหารอสูรและปีศาจนับล้วน กระบี่ที่เอวยังคงเปื้อนโลหิตเสมอ’ ทันทีที่มีการสังเวย ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนปะทุขึ้นในเวลาเดียวกัน มันกระแทกผู้เฒ่าเผ่ายักษาให้กระเด็นออกไปในความว่างเปล่า เขากลิ้งไปมาหลายสิบตลบก่อนจะหยุดยืนในห้วงแห่งความว่างเปล่าที่ไกลออกไป
เขาบินตรงเข้าหาผู้เฒ่าเผ่ายักษา ด้วยมือเพียงหนึ่งข้างคว้าเข้าที่ลำคอของผู้เฒ่าเผ่ายักษาแล้วกดลงในสายธารแห่งความว่างเปล่า ก่อนจะเหวี่ยงมันออกไปอีกครั้ง
“ข้าคือบรรพชนกระบี่แห่งแดนเซียน คือองค์จักรพรรดิภูตผีแห่งยมโลก และเป็นบรรพชนกระบี่ของสำนักกระบี่ชิงหมิง ผู้ฝึกตนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ในเก้ามหาทวีปสิบแผ่นดิน นามว่าไป๋ชิวหราน! จดจำใส่หัวกลวง ๆ นั่นซะ!”
ผู้เฒ่าเผ่ายักษาถูกตบรุนแรงจนหน้าอกเกิดรอยยุบ! ไป๋ชิวหรานยังคงไล่ล่าไม่หยุดหย่อน และเตะอย่างแรงเข้าชายโครงขวา ส่งผู้ร่างเฒ่าเผ่ายักษาลอยออกไปไกล
ผู้เฒ่าเผ่ายักษาคำรามพร้อมลุกขึ้นมาอีกครั้ง มันสับฟันกระบี่ในมือพร้อมคำรามลั่น
“เจ้าสังหารเฟยอิน เจ๋อลู่ ฉีเก๋อ ซาหลง และทำลายการกำเนิดใหม่ของทั่วอิ้นปี่กับซูเล่อ! เจ้าสังหารเผ่าพันธุ์ข้าไปกว่าครึ่ง เพราะสายเลือดจอมละโมบในร่างกายเจ้า! ทำให้เผ่าพันธุ์เราเข้าสู่ห้วงแห่งความว่างเปล่า ทั้งหมดนั้นก็เกือบทำลายเผ่าพันธุ์ข้าจนสิ้น! แล้วเจ้ายังเข้ามาวุ่นวาย! ไป๋ชิวหราน ข้ามีเหตุผลนับหมื่นพันที่จะเกลียดชังเจ้า!”
จากนั้นเขาก็คำรามพร้อมใช้สองมือสับฟันกระบี่ออกไป
“วันนี้ข้าจะสังหารเจ้า!”
ปราณกระบี่ขนาดใหญ่พุ่งทะยานเข้ามา ไป๋ชิวหรานปิดกั้นมันด้วยการตั้งรับก่อนจะผลักมันสู่สายธารแห่งความว่างเปล่าอย่างง่ายดาย …ปราณกระบี่เมื่อครู่แล่นผ่านพายุพลังงานก่อนจะหายลับไปในสายธารแห่งความว่างเปล่า
ผู้เฒ่าเผ่ายักษาไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว และทั้งสองก็เผชิญหน้ากับพายุพลังงานในห้วงแห่งความว่างเปล่า ผลึกแก้วก่อนหน้านี้ถูกบดขยี้จากการระเบิดของคลื่นพลังกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยล่องลอยอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า ภายในพายุยังคงหมุนวนไปพร้อมกัน ไป๋ชิวหรานและผู้เฒ่าแห่งเผ่าล้มลงบนเศษซากผลึกแก้วที่ล่องลอย! ทั้งสองหอบหายใจหนักอยู่สักครู่จากความเหน็ดเหนื่อย
ต้นกำเนิดห้วงแห่งความว่างเปล่านั้นอยู่ไม่ไกลจากทั้งสองคนนัก แรงดึงดูดแปลกประหลาดยังคงปรากฏจากทิศทางนั้น มันดูดออก และจากนั้นค่อยผลัก สลับกันไปอย่างนี้ สภาพแวดล้อมซับซ้อนก่อตัวเป็นพลังงานแปลกประหลาด ราวกับว่ามันกำลังรอการตัดสินผลแพ้ชนะคราวนี้
ทั้งสองไม่อาจพักเหนื่อยได้นาน ในไม่ช้าพวกเขาก็เข้าใจแปลกประหลาดของพลังดึงดูดนั้น ทั้งสองทะยานออกจากผลึกแก้วใต้ฝ่าเท้า ก่อนจะพุ่งเข้าหากัน และเริ่มต่อสู้อย่างดุเดือดอีกครั้ง!
ไป๋ชิวหรานเผยทุกทักษะที่มี ทั้งเวทมนตร์ พลังเหนือธรรมชาติ ทักษะดาบ ทักษะกระบี่ ทักษะหอก และฝ่ามือ วิทยายุทธ์การต่อสู้ชั้นเลิศทุกประเภทค่อย ๆ ถูกเปิดเผยทีละอย่าง นอกจากนี้ เขายังเปิดใช้งานกำแพงแห่งกาลเวลาภายในสนามรบของตนเองเพื่อเพิ่มเติมความซับซ้อนของสภาพแวดล้อมภายใน
พลังปราณแก่นแท้ในร่างกายของเขาถูกเผาผลาญอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามคฤหาสน์สีม่วงไร้สิ้นสุดของเขากลายเป็นหน้าท้องวิเศษของ ‘จอมละโมบ’ ภายในความวุ่นวายและพลังงานมหาศาล อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา
ส่วนผู้เฒ่าเผ่ายักษาไม่คิดยอมแพ้ เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ยักษาเอาไว้ มันปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่ครอบครองโดยสมบูรณ์ แขนคู่หนึ่งยื่นออกจากด้านหลังท่ามกลางเกลียวแสงบิดเบี้ยว มือแต่ละข้างถือกระบี่เรียวยาว และมันใช้กระบี่ในทุกฝ่ามือฟาดฟันไป๋ชิวหรานอย่างบ้าคลั่ง
ทักษะของมันไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก แต่นี่คือสิ่งที่เผยให้เห็นถึงประสบการณ์การต่อสู้ที่สะสมมานานหลายปี เมื่อเผชิญหน้ากับทักษะการต่อสู้ไร้สิ้นสุดของไป๋ชิวหราน ผู้เฒ่าเผ่ายักษาเหลือเพียงหนทางเดียวคือตั้งรับทุกสิ่งและทำลายทุกอย่าง
แต่นี่ไม่ต่างอะไรจากการยอมพ่ายแพ้ต่อไป๋ชิวหราน เพราะในแง่ของพลังปราณแก่นแท้ ไป๋ชิวหรานถือครองคฤหาสน์สีม่วงไร้สิ้นสุด ต่อให้เป็นพลังของต้นกำเนิดห้วงแห่งความว่างเปล่า ไป๋ชิวหรานก็ยังเหนือกว่าสิ่งนั้น
ในไม่ช้า ผู้เฒ่าเผ่ายักษาจึงถูกไป๋ชิวหรานปราบปรามลงได้!
“ข้าได้รับชัยชนะ!”
ในที่สุด ไป๋ชิวหรานมองเห็นโอกาสรับชัยชนะ เขาตวัดกระบี่ในมือด้วยท่วงท่า ‘บุปผาปรากฏในอรุณเยือกแข็ง กระบี่เงื้อขึ้นเก็บเกี่ยวศีรษะไป’ เขาฉวยโอกาสนี้สร้างม่านหมอกลวงตา บุปผาปรากฏตัวขึ้นบนห้วงแห่งความว่างเปล่าราวกับภาพฝัน แววตาของผู้เฒ่าเผ่ายักษาเหม่อลอยไปชั่วขณะ แต่ในช่วงที่มันกำลังเหม่อมองทุกสิ่ง ปราณกระบี่สองดวงพุ่งทะยานออกจากหมอก พร้อมกับตัดกระบี่ในมือทั้งสี่ของมันอย่างฉับพลัน
เมื่อผู้เฒ่าเผ่ายักษาฟื้นคืนสติกลับมา กระบี่หนึ่งเล่มก็กำลังจ่อลำคอของมันอยู่