บทที่ 997 วิธีหาเงินที่เป็นเอกลักษณ์
ก่อนที่ตัวเองจะควบคุมไม่อยู่ เยี่ยหวันหวั่นหนีขึ้นชั้นบนราวควันจางหายไป!
เธอนับถือตัวเองในชาติก่อนเหลือเกิน เผชิญหน้ากับใบหน้าแบบนี้ ไม่นึกว่าจะยังรักเดียวใจเดียวกับกู้เยว่เจ๋อได้ นี่มันหลิ่วเซี่ยฮุ่ย[1]ชัดๆ เป็นความมุ่งมั่นที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้!
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเข้าห้องไป มือถือของเธอก็มีเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นมา
เป็นข้อความจากเนี่ยอู๋หมิง
[เนี่ยจอมกาก: น้องโหย่วหมิง วันนี้ถังถังเป็นยังไงบ้าง ยังดีอยู่ไหม?]
เยี่ยหวันหวั่นเหล่มองหน้าจอโทรศัพท์ ไม่ได้สนใจ
[เนี่ยจอมกาก: ขอให้ร่ำรวย โชคดีมีเงินทอง (อั่งเปา)]
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองอั่งเปา ยื่นนิ้วไปกดเปิดจอ จากนั้นจึงตอบกลับ…
[เยี่ยโหย่วหมิง: ดีมากเลยแหละ ฉันหาสัตว์เลี้ยงมาเป็นเพื่อนเขาตัวหนึ่ง]
[เนี่ยจอมกาก: หา? สัตว์เลี้ยง? ฉันลืมเตือนน้องเยี่ยเลย ถังถังไม่ชอบสัตว์เลี้ยงเล็กๆ นะ โดยเฉพาะสัตว์ตัวเล็กที่ขนฟูแถมอ่อนแอ ตอนเด็กลูกเจี๊ยบที่เขาเลี้ยงตายไป จากนั้นเขาก็ไม่เลี้ยงสัตว์เล็กอีก น้องเยี่ยเอาอะไรให้เขาเลี้ยงเหรอ]
เนี่ยอู๋หมิงส่งข้อความนี้เสร็จ ก็ส่งอั่งเป่าไปให้อีกอย่างรู้ตัว
เยี่ยหวันหวั่นรับอั่งเป่า เมื่อพบว่าเป็นอั่งเปาซองใหญ่อีก เธอจึงตอบต่อไป
[เยี่ยโหย่วหมิง: เปล่าสักหน่อย ถังถังชอบมาก! ไม่เชื่อดูด้วยตัวเองเลย]
เยี่ยหวันหวั่นพิมพ์ประโยคนี้จบ ก็ส่งภาพของถังถังกับต้าไป๋ไปหนึ่งใบ
[เนี่ยจอมกาก: นี่มันอะไรเนี่ย]
[เยี่ยโหย่วหมิง: คุณไม่รู้จักเหรอ]
[เนี่ยจอมกาก: ไร้สาระ ฉันรู้จักแน่นอนอยู่แล้ว! นี่มันเสือไม่ใช่เหรอ?]
[เยี่ยโหย่วหมิง: ก็ใช่ไง!]
[เนี่ยจอมกาก: …]
ถึงกับหาเสือมาเป็นสัตว์เลี้ยงให้ถังถัง เขาต้องคุกเข่าให้แล้วจริงๆ…
แต่ดูจากรอยยิ้มของถังถังในภาพ เหมือนเขาจะชอบมันมากทีเดียว…
ไม่ได้เห็นถังถังดีใจขนาดนี้มานานแล้ว…
เขาชอบสัตว์เล็กมาก แต่ก็กลัวว่าพวกมันอ่อนแอเกินไป จากตัวเองไปง่ายเกินไป ดังนั้นจึงไม่เข้าใกล้พวกมันอีก…
[เยี่ยโหย่วหมิง: จริงสิ ทำไมจู่ๆ คุณก็ใจกว้าง ไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน?]
เยี่ยหวันหวั่นถามอย่างสงสัย
[เนี่ยจอมกาก: ก็ต้องชิงมาด้วยความสามารถของตัวเองอยู่แล้ว! (ภูมิใจ)]
เยี่ยหวันหวั่นเห็นเนี่ยอู๋หมิงส่งอิโมจิหน้าภูมิใจมา แสดงว่าน่าสงสัยพอสมควร…
[เยี่ยโหย่วหมิง: คุณแย่งมาเหรอ]
[เนี่ยจอมกาก: แน่นอน ครั้งก่อนได้แรงบันดาลใจจากกลุ่มนักแสดง ฉันเลยไปเข้าร่วมรายการหนึ่งที่ต้องอาศัยความสามารถของตัวเองล้วนๆ ไม่เชื่อเธอดูเอง! (คลิป)]
เยี่ยหวันหวั่นพลันรู้สึกว่ายิ่งเป็นไปไม่ได้ ทักษะการแสดงของเขายังเข้าร่วมรายการได้เนี่ยนะ?
เยี่ยหวันหวั่นกดเปิดคลิปที่เนี่ยอู๋หมิงส่งมาอย่างสงสัย ผลลัพธ์คือหลังจากดูจบ ทั้งตัวเธอก็แข็งค้าง…
ในคลิปวิดีโอเป็นรายการหนึ่งจริงๆ รายการตะลุยด่านกลางแจ้งที่กำลังได้รับความนิยมมากช่วงนี้ ในรายการจะติดตั้งด่านสิบกว่าด่านบนน้ำ ผู้เข้าร่วมรายการคนไหนทะลวงด่านสำเร็จเร็วที่สุด คนคนนั้นก็จะได้รับเงินรางวัลและของรางวัล…
เยี่ยหวันหวั่นเห็นแค่ว่า ในภาพวิดีโอผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่นๆ ต่างตกลงไปในน้ำ คนที่เร็วที่สุดก็ยังต้องใช้เวลาหลายนาที รอจนถึงตอนที่คนสุดท้ายลงสนาม…
ชายชุดดำคนนั้นราวกับสายลมก็ว่าได้ ผู้คนโดยรอบรวมถึงพิธีกรล้วนเห็นไม่ชัดว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างไร เจ้าหมอนั่นพุ่งไปยังจุดสิ้นสุดเหมือนเหยียบอยู่บนพื้นราบ ลั่นเสียงกลองที่จุดสิ้นสุด สร้างสถิติเป็นที่หนึ่ง…
เยี่ยหวันหวั่นไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนคนนั้นคือเนี่ยอู๋หมิง…
แม่มันเถอะ วิธีหาเงินแบบนี้…จริงๆ เลย…
ถึงกับใช้ฝีมือที่แหกกฎธรรมชาติอย่างนี้ไปเข้าร่วมเกมตะลุยด่านกลางแจ้งระดับอนุบาล แล้วยังจะมาภูมิใจเสียเต็มประดา…
หาเงินแบบนี้ มโนธรรมในใจคุณไม่เจ็บปวดบ้างเหรอ?
คุณไม่คิดเหรอว่าจะเผชิญหน้ายอดฝีมือในวงการเมื่อวันวานของคุณยังไง?
เยี่ยหวันหวั่นเหลือคำจะกล่าว กุมหน้าผากพิมพ์ข้อความส่งไป…
[เยี่ยโหย่วหมิง: คุณชนะแล้ว พี่ชายที่รักของฉัน!]
——————————————————————————————-
บทที่ 998 หล่อขึ้นอีกระดับ
พี่ชายที่รักของฉัน…
เนี่ยอู๋หมิงมองข้อความแถวนั้นในวีแชท ในเกิดความรู้สึกพูดไม่ออก
เวลานี้ ในหัวเขาผุดภาพภาพหนึ่งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ก้อนแป้งข้าวเหนียวน้อยขาวผ่องน่ารักเดินโซเซมาตรงหน้าเขา ปากที่ยังออกเสียงไม่ชัดเรียกเขาว่าพี่ชายด้วยเสียงเด็กน้อย…
ถ้าเขารู้ว่านี่เป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของเขากับน้องสาว ตอนนั้นเขาจะจูงมือเล็กของเธอไว้ อยู่เคียงข้างเธอดีๆ ไม่ใช่สะบัดเธอออกไปแล้ววิ่งหนีอย่างรำคาญ…
หลังจากเงียบไปชั่วขณะ เนี่ยอู๋หมิงก็ถอนหายใจ ก่อนจะสกรีนช็อตเซฟข้อความช่วงนั้นไว้
หนุ่มกรรมกรต่างชาติที่อยู่ด้านข้างเห็นหัวหน้าเผยสีหน้าลึกล้ำอย่างเห็นได้ยาก ก็อดแปลกใจไม่ได้ “หัวหน้า เป็นอะไรไปเหรอ”
อี้จือฮวาลูบดอกไม้ที่เสียบไว้บนผมตัวเองพลางถอนหายใจ “ยังจะเป็นอะไรได้ คิดถึงน้องสาวน่ะสิ…”
หนุ่มกรรมกรต่างชาติทำหน้าสงสัยเล็กน้อย “เมื่อก่อนไม่เคยได้ยินว่าตระกูลเนี่ยมีลูกสาวอีกคน น้องสาวของหัวหน้า ทำไมไม่โตในตระกูลเนี่ยล่ะ?”
อี้จือฮวายักไหล่ “ไม่แน่ใจ ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าพูดขึ้นมา ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขายังมีน้องสาวด้วยอีกคน…”
…
หลังส่งข้อความเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นวางโทรศัพท์ไว้ด้านข้าง จากนั้นเปิดตู้เสื้อผ้าเริ่มหาชุด
กำหนดการวันนี้ของเธอแน่นมาก ตอนเช้าไปกองถ่าย ตอนบ่ายมีคลาสบรรยายที่มหาวิทยาลัย เธอต้องไปสักครั้ง
ผู้บรรยายคือศาสตราจารย์รับเชิญของมหาวิทยาลัยนิเทศน์เมืองหลวงชื่อหลี่เยวี่ย เป็นเพื่อนสนิทของคุณปู่เยี่ยหงเหวย
เธอกับหลี่เยวี่ยเคยพบกันในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่เมื่อตอนนั้น หลี่เยวี่ยรู้จักเธอ ถ้าเธอไม่ไปแม้แต่คลาสบรรยายของเขา ถึงตอนนั้นถูกรู้เข้าก็จะกระอักกระอ่วน ยิ่งไปกว่านั้นคลาสบรรยายของศาสตราจารย์หลี่เยวี่ยก็ควรค่าแก่การฟังจริงๆ
เยี่ยหวันหวั่นปลอมตัวเป็นผู้ชาย จากนั้นก็พกเสื้อผ้าผู้หญิงไปด้วยหนึ่งชุด เตรียมไปเปลี่ยนตอนเข้ามหาวิทยาลัย
ซือเยี่ยหานต้องไปจัดการงานเลี้ยงตอนเย็นเพื่อต้อนรับคุณมู่
เมื่อบอกลาถังถังแล้ว เยี่ยหวันหวั่นกับซือเยี่ยหานก็ออกจากบ้านไปด้วยกัน รอให้ต่างคนต่างเสร็จงานของตัวเองค่อยมารวมตัวแล้วไปงานเลี้ยงพร้อมกัน
ทั้งสองแยกกันไปทำธุระ เยี่ยหวันหวั่นมาถึงสถานที่ถ่ายทำอย่างรวดเร็ว
วิทยาลัยภาพยนตร์เมืองหลวง
สถานที่ถ่ายทำวันนี้ก็คือวิทยาลัยภาพยนต์เมืองหลวงที่อยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยของพวกเธอ ดังนั้นเธอจึงพกเสื้อผ้าผู้หญิงไปด้วย ตอนบ่ายเปลี่ยนชุดก็กลับไปนั่งฟังบรรยายที่วิทยาลัยการสื่อสารมวลชนได้ทันที
ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นมาถึงกำลังเป็นฉากถ่ายทำของกงซวี่กับลั่วเฉินพอดี
ในเรื่องหานเซี่ยนอวี่รับบทเป็นพี่ชายของกงซวี่ มีอาชีพเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย วันนี้มีเข้าฉากที่มหาวิทยาลัยเช่นกัน เขาจึงอยู่ด้วยตรงนั้น
ด้วยความนิยมของนักแสดงหลักเหล่านี้ ถึงแม้สถานที่ถ่ายทำจะถูกปิดกั้นแล้ว แถมเวลานี้ก็เป็นเวลาเรียน แต่รอบๆ ก็ยังมีนักศึกษากับแฟนคลับไม่น้อยมามุงดู
“กรี๊ดดด กงซวี่ๆๆ!”
“ลั่วเฉินฉันรักคุณ!”
“เซี่ยนอวี่! เซียนอวี่มองทางนี้หน่อย!”
“อ๊ายยย มายก๊อด! เทพบุตรหานเซี่ยนอวี่ตอนสวมแว่นตาหล่อเกินไปแล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นเดินมาข้างกายหานเซี่ยนอวี่ เหลือบมองชายหนุ่มที่กำลังอ่านบทแวบหนึ่ง
อืม วันนี้หานเซี่ยนอวี่สวมสูทสีเทาที่สง่างาม สวมแว่นตาดูทรงภูมิ แต่งตัวเป็นศาสตราจารย์ หล่อมากจริงๆ…
ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าตาของนักแสดงนำอย่างกงซวี่กับลั่วเฉินข่มได้สบาย เธอคงไม่กล้าเชิญหานเซี่ยนอวี่มารับบทนักแสดงสมทบนี้จริงๆ ไม่อย่างนั้นต้องถูกเขาแย่งความโดดเด่นไปหมดแน่…
“มาแล้วเหรอ!” หานเซี่ยนอวี่เห็นเยี่ยไป๋เข้ามาก็เอ่ยทักทาย
หลังจากสังเกตเห็นสายตาเธอ หานเซี่ยนอวี่ลูบใบหน้าของตัวเองโดยไม่รู้ตัว “ทำไมเหรอ หรือหน้าตาฉันมีปัญหา?”
เยี่ยหวันหวั่นหลุดขำ “ไม่มีอะไร แค่วันนี้นายหล่อขึ้นอีกระดับอีกแล้ว มิน่าเยียนหรานน้อยของฉันถึงได้หลงนายขนาดนี้!”
…………………………………………………….
[1] หลิ่วเซี่ยฮุ่ย เป็นบุคคลในอดีต เขานั่งนิ่งไม่ไหวติงเมื่อมีหญิงสาวหน้าตางดงามโผเข้าอ้อมกอด คำนี้จึงเปรียบเปรยถึงคนที่ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งเร้าภายนอก