ตอนที่70 ยกระดับ
ฮูหยินหลื่ที่กลืนโอสถปราณระดับสองลองไป ถึงแม้ใบหน้าผิวพรรณยังคงซีดขาวมิได้ดีนัก แต่ท่าทางทุรนทุรายดั่งก่อนหน้ากลับไม่มีแล้ว ขณะนี้กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่บนเตียงสงบ
“นายท่าน สภาพร่างกายของแม่ท่านอยู่ระหว่างพักฟื้น พรุ่งนี้เช้าน่าจะได้สติตื่นขึ้นเอง จะอย่างไร รีบนำส่งชายคนนั้นออกไปก่อนเถิด ข้าจะต้องสอนท่านใช้สมุนไพรเพื่อขับพิษออกจากร่างกายของท่าน”
เสี่ยวฮั่วส่งเสียงผ่านห้วงความคิดของเซียถง ระดับน้ำเสียงฟังดูแผ่วอ่อนคล้ายกังวลไม่คลายใจ ยามนี้ระงับพิษในกายฮูหยินหลี่มิให้กำเริบสืบสานได้แล้วก็จริง แต่พิษในร่างกายของเจ้านายมันเองก็หนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน
อิ๋งเอ๋อร์มิได้สังเกตเห็น กลุ่มแสงสีม่วงของเสี่ยวฮั่วที่สว่างวาบอยู่บนหว่างคิ้วของเซียถงแม้สักนิด เพราะยามนี้เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเฝ้าสังเกตอาการของฮูหยินหลี่ไม่ไปไหน พอเห็นว่าท่าทางทรมานของฮูหยินหลี่หายไปแล้ว ยามนี้ค่อยคลายใจลงหลายส่วน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจับจ้องไปทางเซียถงอย่างช่วยมิได้
นางตกใจเกินมิใช่น้อยจริงๆ เสื้อผ้าของคุณหนูขาดรุ่งริ่ง เนื้อตัวตั้งแต่หัวจรดเท้ามีแต่บาดแผลเหวอะหวะคล้ายโดนเฆี่ยนตีมาเต็มไปหมด ขนาดจับจ้องกันตรงๆ ยังมิกล้ามองนาน เพราะภาพฉากค่อนข้างน่าสยดสยองนักแล
“ข้าจะหาทางคืนโอสถปราณระดับสองแก่เจ้าแน่นอน”
เซียถงทอประกายสายตาจับจ้องไปที่ไป๋หลี่หาน น้ำเสียงเย็นชาตามปกติในแบบของนาง ทั้งยังกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมยอีกว่า
“บุญคุณของเจ้าที่มอบให้ในวันนี้ๆ ข้าจะต้องตอบแทนเจ้าแน่นอน ขอบคุณ”
ความหมายเป็นที่ชัดแจ้ง ไม่มีธุระอะไรที่เจ้าต้องอยู่ที่นี่ต่อแล้ว เช่นนั้นเชิญกลับไปได้ และคุณงามความดีที่เจ้ามีต่อข้าในวันนี้ สักวันย่อมชดใช้โดยไม่ติเปตระหนี่
แม้ว่าไป๋หลี่หานจะยอมควักเนื้อ เอาโอสถปราณระดับสองมอบให้แก่นาง แต่ทั้งหมดก็เพื่อช่วยเหลือไป๋หลี่อวี๋อิง ถึงกระนั้น เซียถงก็ยังมีความประทับใจต่อเขาอยู่บ้าง ที่ยอมพานางมาส่งถึงจวน ส่งผลให้มาป้อนโอสถแก่แม่ได้ทันเวลา
แน่นอน หากยามใดที่มีโอกาส เซียถงย่อมตอบแทนบุญคุณในครานี้อย่างดีที่สุด ไม่มีสะบัดสัตย์ใดๆ
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายนี้ นางก็ยังไม่คลายความระวังต่อเขาเพียงเพราะเหตุผลนี้แน่นอน
สิ่งที่นางกลัวคือ ชายคนนี้อาจจะชั่วช้าแบบเย่หลีเทียนก็เป็นได้
ไป๋หลี่หานพยักหน้าเข้าใจนัยแฝงในความกล่าวของเซียถงโดยธรรมชาติ ถึงความอยากรู้อยากเห็นยังคงหนาแน่นไม่คลายอ่อนจากใจ แต่จะอย่างไร นี่คงมิใช่เวลามานั่งถามอันใดมากมาย เหลือบสายตามองเซียถงไปหนึ่งปราด ก่อนหมุนตัวจากออกไปด้วยท่าทีสง่างดงาม
“คุณหนูเกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าค่ะ? แล้วบาดแผลพวกนี้อีก…”
อิ๋งเอ๋อร์คว้าแขนเสื้อของเซียถงถกขึ้นมอง เอ่ยถามสีหน้าวิตกกังวลจัด
เซียถงมิได้ตอบนาง เดินแช่มไปทางโต๊ะเงียบๆ เจอพู่กันด้ามหนึ่งจึงหยิบขึ้นมา จุ่มหมึกดเขียนรายชื่อสมุนไพรตามที่เสี่ยวฮั่วบอกในใจ ควักเหรียญทองจำนวนสองถึงสามเหรียญออกมา ยื่นให้แก่อิ๋งเอ๋อร์พร้อมกระดาษจดแผ่นนั้น
“อิ๋งเอ๋อร์ ไปร้านขายสมุนไพรแล้วซื้อสมุนไพรทั้งหมดในนี้กลับมา”
สาวน้อยปาดน้ำตาพยักหน้ารับสั่ง และวิ่งจากเรือนพักคู่ไปกับเหรียญทองและกระดาษจดรายการสมุนไพรในมือ
ทางด้านเซียถง พอเห็นว่าแม่ของนางกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสงบ จึงเดินกลับเข้าเรือนนอนตนเองไปเช่นกัน เปลี่ยนชุดเสื้อผ้าใหม่ แอบย่องไปเรือนของฮูหยินรองเฉิง โชคยังดีที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ทำอะไรกับเห็ดหลืนจือมรกตอันนั้น นางฉวยโอกาสยามรัตติกาล ขโมยมันออกมาอย่างง่ายดาย
“นายท่าน เก็บเห็ดหลินจือมรกตชิ้นนี้ไว้ก่อนอย่าเพิ่งนำไปทำอะไร ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ท่านควรใช้เวลาศึกษาวิชาหลอมกลั่นโอสถให้ชำนาญขึ้น คล้อยเสร็จ ข้าจึงค่อยสอนวิธีนำเห็ดหลินจือมรกตไปหลอมสร้างโอสถขับพิษ จะได้จัดการกับก้อนพิษทมิฬที่คั่งค้างอยู่ในร่างกายท่านออกไปเสียที”
เสี่ยวฮั่วส่งจิตเตือนเซียถงทันทีที่ได้เห็ดหลินจือมรกตมาครอบครอง
“สิ่งนี้สำหรับท่านแม่ของข้า เรื่องก้อนพิษทมิฬในกายของข้ากลับค่อยกล่าวถึงในภายหลังเสีย”
ไม่สำคัญว่าพิษในร่างกายนี้ยังตกค้างอยู่หรือไม่ ตราบใดที่มิได้ส่งผลกระทบกับการบำเพ็ญตบะ ก็ควรมุ่งความสนใจในการกำจัดพิษของท่านแม่ให้เสร็จสมบูรณ์เสียก่อน
“ท่านแม่ของท่านเคยใช้เห็ดหลินจือมรกตไปแล้วครั้งหนึ่ง ใช้ซ้ำเป็นคำรบสองกลับไม่มีประโยชน์แล้ว นอกเหนือจากนี้ ก้อนพิษทมิฬในร่างกายกับพิษที่ตกค้างอื่นๆ ในร่างกายของท่าน โดยรวมแล้วหนักหนาสาหัสกว่าแม่ของท่านมาก แนะให้ใช้เห็ดหลินจือมรกตชิ้นนี้กับตัวท่านเองก่อน จากนั้นเราค่อยหาทางกำจัดพิษของแม่ท่านภายหลัง”
เสี่ยวฮั่วกล่าวอธิบาย
เซียถงถูกพิษทมิฬที่ว่าบ่อนทำลายตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของแม่นางแล้ว กล่าวมาเจริญเติบโตมาพร้อมพิษตัวนี้ก็มิผิด ผนวกรวมกับพิษจากแส้ของไป๋หลี่อวี๋อิง โดยรวมแล้วอาการของเซียถงค่อนข้างเลวร้ายกว่าแม่ของนางหลายส่วน
เพียงว่า ที่ผ่านมาทั้งหมด นางไม่เคยแสดงอาการเจ็บป่วยใดๆ ให้คนนอกเห็นมากเท่าไหร่นัก
เซียถงพยักหน้าและเก็บเห็ดหลินจือมรกตลงในใต้อกเสื้อ ทุกกระบวนการลอบเร้นมาขโมยล้วนเก็บงำเป็นความลับ ไม่มีใครทราบ
ไม่นานหลังจากนั้น อิ๋งเอ๋อร์ก็กลับมาพร้อมกับสมุนไพรนานาชนิดหอบใหญ่ เซียถงเริ่มกระบวนการฝึกหัดวิถีหลอมกลั่นโอสถ ปฏิบัติตามทุกขั้นตอนตามคำชี้แนะของเสี่ยวฮั่วอย่างเคร่งขรัด ช่วยกับอิ๋งเออร์นั่งบดสมุนไพรกองโตให้ป่นปี้เป็นผงละเอียด จากนั้นก็เทผงทั้งหมดลงในอ่างน้ำ เซียถงสั่งให้อีกฝ่ายออกไปเฝ้ายามหน้าเรือน จากนั้นก็ถอดชุดเสื้อผ้าออกอยู่ในสภาพเปลือยกาย ค่อยๆ ย่างเท้าจุ่มลง สุดท้ายลงไปแช่ทั้งตัวในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด
“นายท่าน มีคนจงใจวางยาพิษท่านจริงๆ แต่จะอย่างไรของน้ำยาสมุนไพรในอ่างนี้มีฤทธิ์ชำระล้างได้ค่อนข้างดีเยี่ยม นั่งขัดสมาธิบำเพ็ญตบะภายในอ่างนี้ให้ครบสามชั่วยามเต็ม กองปฏิกูลเหม็นเน่าที่ถูกขับออกมาหลังจากนี้น่าจะส่งกลิ่นแรงมิใช่น้อย”
เพียงลงแช่ได้ไม่นาน เสมือนว่ากำลังวังชาที่อันตรธานหายไปก่อนหน้า ได้กลับมาเติมเต็มอีกครั้ง เซียถงรู้สึกราวกับร่างกายของนางถูกปลุกกระตุ้นให้ลุกโชนช่วงขึ้นในทันใด แต่ความรู้สึกดีๆ ที่ได้สัมผัสกลับไม่นาน พอน้ำยาสมุนไพรเหล่านี้ถูกดูดซับผ่านรูขุมขนทั่วร่าง ยาปะทะพิษ ก่อเกิดกระแสความเจ็บปวดสุดพรรณนาขึ้นทันใด เสมือนร่างกายถูกเพลิงนรกหล่อหลอมไร้สิ้นสุด จนท้ายที่สุดนางอดใจร้องครางออกมามิได้ด้วยความเจ็บปวดเหลือทน
หากสังเกตไปที่รอยแผลที่เกิดจากแส้เฆี่ยนทั่วทั้งร่าง จะพบว่ามีของเหลวเหนียวหนืดสีดำค่อยๆ ซึมไหลออกมาจากบาดแผลที่เปิดอยู่ หากคนนอกเข้ามาพบเห็นภาพฉากดังกล่าวคงต้องตกใจไม่น้อย
“นายท่าน จากนี้ต้องระดมลมปราณ เพื่อขับไล่พิษในกายออกมา”
เสี่ยวฮั่วกล่าว
เซียถงเร่งระงับกระแสความเจ็บปวด รวบรวมพลังลมปราณสีครามฟ้าสายแล้วสายเล่าในกาย เวียนว่ายไหลไปยังแขนขา เข้าไล่ต้อนก้อนพิษสีทมิฬเหล่านั้น บีบให้ออกไปผ่านทางบาดแผลเปิดเหล่านั้นทีละเล็กละน้อย
กระแสความเจ็บปวดทั่วร่างของเซียถงเริ่มบรรเทาลงตามลำดับ อาศัยพลังลมปราณอันแกร่งกร้าว ก้อนพิษสีทมิฬเหล่านั้นค่อยๆ ถูกขับออกมาอย่างง่ายดาย ราวกับว่าน้ำยาสมุนไพรที่แช่เป็นดาวพิฆาตชีวิตของพวกก้อนพิษสีทมิฬเหล่านี้ พวกมันอ่อนแอลงจนน่าตกใจเมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่เซียถงพยายามใช้พลังลมปราณขับพวกมันออกโดยตรง
ยามนี้มีของเหลวคล้ายเมือกสีดำปนแดงไหลทะลักออกมาจากบาดแผล ไม่นานน้ำในอ่างทั้งหมดก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีดำผสมแดง กลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งฟุ้งไปทั่วห้องน้ำ
เซียถงทราบว่านี่เป็นผลมาจากน้ำยาสมุนไพรในอ่าง มิเช่นนั้นแล้ว ต่อให้เป็นราชาโอสถอย่างไป๋หลี่อวี๋อิง นางก็ไม่มีทางขับพิษที่ตนเองสร้างขึ้นมาได้แน่นอน เมื่อนึงถึงชื่อไป๋หลี่อวี๋อิง ดวงตาของเซียถงก็จุดประกายเยียบเย็นขึ้นมาทันที
พิษร้ายที่อีกฝ่ายเคลือบลงบนตัวแส้ยาว นับว่าร้ายกาจอย่างแท้จริง หากเซียถงไม่ได้เสี่ยวฮั่วช่วยเหลือ เกรงว่า นางอาจชะตาขาดในมืออีกฝ่ายแล้วจริงๆ
วันนี้สิ่งที่ไป๋หลี่อวี๋อิงกระทำต่อนาง สักวันหนึ่งข้า เซียถงจักต้องเอาคืนกลับเป็นสิบเท่าทวี!
ในช่วงเช้า เซียถงสวมชุดเสื้อผ้าเดินออกมา และวานให้อิ๋งเอ๋อร์ช่วยเปลี่ยนน้ำในอ่างไม้ชุดใหม่ให้สะอาด จากนั้นก็เทผงยาลงไปอีกครั้ง และถอดเสื้อผ้าลงไปแช่เป็นครั้งที่สอง เวลานี้มีของเหลวสีดำไหลออกมาจากบาดแผลในปริมาณไม่เยอะเท่าตอนแรกแล้ว ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยามถัดมา ทั่วอรูรูขุมขนปราศจากสิ่งปฏิกูลของเหลวใดไหลออกมาจากร่างอีกต่อไป
พิษทั้งหมดจากแส้ล้วนถูกขับออกมาจนหมดแล้ว