บทที่ 1011 ถูกคนลักพาตัวไปจะทำยังไง
หลังแต่งหน้าเสร็จ กวนเสี่ยวเหอยืนอึ้งอยู่ด้านข้าง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง
สวย…สวยเกินไปแล้ว…แม้แต่เธอที่เป็นผู้หญิงก็เกือบใจเต้น…
อิจฉาไม่ลงเลยสักนิด…
สายตาของคนอื่นๆ ในร้านล้วนไม่แตกต่างกัน ตัวหญิงสาวก็สวยพออยู่แล้ว หลังจากแต่งหน้าแต่งตัวเล็กน้อยก็ยิ่งดูดีจนต้องอุทานด้วยความทึ่ง
ไม่เหมือนสาวงามตามฉบับคนในวงการบันเทิงพวกนั้น หญิงสาวมีความสวยแบบที่ดึงดูดทั้งชายและหญิง ใกล้เคียงกับความสวยแบบฝ่ายรุก…
จั่วซั่งจิ่งที่อยู่ด้านข้างอดคิดในใจไม่ได้ เขากล้าพูดเลยว่าถ้าหญิงสาวคนนี้เข้าวงการบันเทิง ลำพังแค่หน้าตากับบุคลิกก็ยืนคู่กับปีศาจเซี่ยเจ๋อจือได้แน่นอน!
บนโซฟา ซือเยี่ยหานมองหญิงสาวที่เปล่งประกายชวนให้คนละสายตาไม่ได้ตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง รูม่านตาหดตัวเล็กน้อยชั่วพริบตาหนึ่ง
ส่วนเยี่ยหวันหวั่นมองตัวเองในกระจก แม้แต่ตัวเธอก็ยังทึ่งอยู่บ้าง
เธอไม่เคยแต่งตัวเป็นทางการขนาดนี้มาก่อนเลย!
เยี่ยหวันหวั่นลูบดวงหน้าเล็กของตัวเอง อุทานด้วยความประหลาดใจ “คุณพระ! ฉันก็สวยมากเหมือนกันนี่! คุณเก้า มิน่าคุณถึงไม่ยอมวางใจเรื่องฉัน! ฉันก็วางใจตัวเองไม่ลงเหมือนกัน!”
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ
สวี่อี้้นิ่งเงียบ
ทุกคนในร้านไม่พูดอะไร
กวนเสี่ยวเหอได้ยินแบบนั้นก็ชะงักก่อน จากนั้นกลั้นหัวเราะอยู่ด้านข้างอย่างอดไม่ได้ หญิงสาวคนนี้ไม่เพียงหน้าตาดี นิสัยก็ยังดีเป็นพิเศษด้วย มิน่าแม้แต่ผู้นำตระกูลซือในตำนานยังรักหลงเธอขนาดนี้…
“ถูกใจ ถูกใจมาก! ลำบากอาจารย์ทั้งสองท่านแล้วค่ะ!” เยี่ยหวันหวั่นกล่าวขอบคุณ กุมหน้าอย่างดีใจ “ตายแล้วดีใจจัง! ว่าแล้วว่าสวยๆ นี่แหละน่าดีใจที่สุด!”
เมื่อนึกถึงว่าชาติที่แล้วน่าเกลียดอยู่ตั้งนานปี จนตายก็ยังขี้เหร่ขนาดนั้น เสียของเปล่าจริงๆ!
แต่งตัวจนสวยพริ้งแล้ว อารมณ์ก็ดีขึ้นหมด
พอเห็นเยี่ยหวันหวั่นหลังแต่งตัวเสร็จ คิดว่าจะมีคนอื่นเห็นเธอในสภาพนี้ เดิมทีซือเยี่ยหานยังนึกเสียใจภายหลัง แต่เมื่อเห็นท่าทางดีใจของหญิงสาว สุดท้ายเขาจึงยอมปล่อยไป
ซือเยี่ยหานทัดปอยผมเส้นหนึ่งของหญิงสาวไว้ที่หลังใบหูเธอ แล้วจึงเอ่ยเสียงทุ้มเล็กน้อย “คืนนี้อยู่ข้างๆ ฉัน ห้ามวิ่งพล่านไปทั่ว”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้ารัวๆ “อื้มๆ รู้แล้วน่า ฉันสวยขนาดนี้ ถ้าถูกคนลักพาตัวไปจะทำยังไง! คุณต้องดูฉันดีๆ นะ!”
สวี่อี้เงียบงัน
ช่วงเวลาสั้นๆ แค่ปีกว่านี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่…
ทำไมคุณหนูหวันหวั่นที่วันๆ ทำตัวรนหาที่ตาย ถึงกลายมาเป็นฝ่ายกินคุณชายเก้าจนเรียบได้…
พอย้อนนึกดูก็น่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ…
หลังจากแต่งตัวเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นคล้องแขนซือเยี่ยหานออกจากสโมสรออกแบบ SPE
ทันทีที่หานเซี่ยนอวี่ซึ่งอยู่ระเบียงฝั่งตรงข้ามเห็นว่าในที่สุดทั้งสองคนก็ออกมาจากข้างใน ก็พลันยืดตัวขึ้นมา
เห็นแค่ว่าหญิงสาวเปลี่ยนมาแต่งตัวหรูหราสวยงาม กำลังคล้องแขนผู้ชายอย่างสนิทสนม
เดิมทีคนทั้งสองเตรียมไปที่ลานจอดรถกันแล้ว แต่หางตาของเยี่ยหวันหวั่นเหลือบไปเห็นป้ายร้านของหวานที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เธอพลันหยุดฝีเท้าอีก “อ้าว! คุณเก้า ฝั่งตรงข้ามมีร้านของหวานด้วย! พวกเราไปซื้อเค้กกินกันหน่อยเถอะ!”
“เธอกินไปเยอะแล้ว” ซือเยี่ยหานตักเตือน
เยี่ยหวันหวั่นกะพริบตาปริบๆ “เอ่อ…ฉันไม่ได้กินนะ! เป็น…เป็นของจะซื้อให้ถังถังต่างหาก! ฉันจะเอากลับไปให้ถังถังกินหรอกน่า!”
สุดท้าย เยี่ยหวันหวั่นก็ยังจูงมือซือเยี่ยหานไปยังร้านของหวานฝั่งตรงข้ามอย่างร่าเริง
หานเซี่ยนอวี่เห็นทั้งสองเดินมายังทิศทางของตัวเอง ก็รีบหยิบนิตยสารข้างๆ ขึ้นมาปิดใบหน้าตน
เฟ่ยหยางก็ก้มหน้าหลบตามอย่างวิตกเหลือแสน ให้ตาย ไม่นึกว่าจะเดินมาทางพวกเขาแล้ว…
คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกนะ…
————————————————————————————-
บทที่ 1012 วิกฤตตกม้า!
แม่สาวคนนี้ก็สวยเกินไปแล้ว…
แม้ว่าเฟ่ยหยางจะอยู่ในวงการบันเทิงมานานปี คนสวยแบบไหนก็เคยเห็นมาหมดแล้ว แต่เวลานี้เขาก็ยังอึ้งทึ่งเพราะหน้าตาของผู้หญิงคนนี้
หลังจากหานเซี่ยนอวี่เห็นหญิงสาว เขาตกใจเล็กน้อยเพราะหน้าตาที่เด่นสะดุดตาของเธอ นอกจากนั้น หน้าตาของหญิงสาวเหมือนจะคุ้นตาเขานิดหน่อย…
ทว่า หานเซี่ยนอวี่ที่กำลังโกรธจัดเพราะซือเยี่ยหานออกนอกลู่นอกทางไม่มีจิตใจจะสนใจรายละเอียดซึ่งไม่สลักสำคัญนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเคร่งขรึมอย่างฉับไวเพราะท่าทีสนิทสนมของสองคนนั้น
เขาไม่อาจหลอกตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว สองคนนี้คือคู่รักที่รักใคร่กันมากชัดๆ…
“หานเซี่ยนอวี่ นายใจเย็นๆ ก่อน อย่าก่อเรื่องในที่อย่างนี้เชียวนะ! คิดถึงเยี่ยไป๋สิ ถ้านายก่อเรื่อง สุดท้ายก็เป็นเขาที่ต้องเก็บกวาดเรื่องวุ่นวายให้ไม่ใช่เหรอ…”
เมื่อเห็นสีหน้าของหานเซี่ยนอวี่ถมึงทึงขึ้นทุกที เฟ่ยหยางอกสั่นขวัญแขวน จำต้องบังคับดึงเยี่ยไป๋มาพูดด้วย
เขาไม่ได้คิดมากไปเอง การกระทำของหานเซี่ยนอวี่เหมือนตามจับชู้เกินไปแล้ว!
ปรากฏว่าทันทีที่เขาพูดถึงเยี่ยไป๋ ไม่รู้ทำไมหานเซี่ยนอวี่ยิ่งมีสีหน้าไม่น่าดู…
เฟ่ยหยางกำลังกังวลว่าจะเกิดเรื่อง หญิงสาวคนนั้นก็เดินมาถึงตรงหน้าพวกเขาแล้ว
ชั่ววินาทีที่หญิงสาวเดินมาตรงหน้า เฟ่ยหยางอึ้งในความสวยจนยืนเหม่อลอย
สายตาของเยี่ยหวันหวั่นมีแต่ของกิน ย่อมไม่สังเกตเห็นแขกธรรมดาโต๊ะหนึ่งด้านข้าง และวิ่งตรงไปที่เคาน์เตอร์
“ฉันเอามูสสตรอว์เบอร์รี่ มาการอง โมจิไส้ครีม แล้วก็เค้กอัลมอนด์ค่ะ!” เยี่ยหวันหวั่นสั่งของที่อยากซื้ออย่างร่าเริง
เยี่ยหวันหวั่นกับซือเยี่ยหานต้องไปงานเลี้ยง จึงแต่งองค์ทรงเครื่องเต็มที่ พนักงานร้านจ้องหนุ่มหล่อสาวสวยอยู่นานสองนานจึงค่อยได้สติกลับมา รีบเอ่ยปากว่า “ได้ค่ะๆ รบกวนรอสักครู่ ดิฉันจะช่วยห่อเค้กให้นะคะ!”
“โอเคค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า ชะเง้อตามองอย่างรอคอย ก่อนเอ่ยกับซือเยี่ยหานด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ใช่เพราะตัวเองอยากกินแม้แต่น้อย “คุณเก้า คุณดูสิถังถังอยู่บ้านคนเดียวน่าสงสารขนาดไหน แน่นอนว่าต้องซื้อของกินไปให้เขาเยอะหน่อย!”
อืม ถังถังกินเยอะขนาดนี้ไม่หมดแน่นอน ถึงตอนนั้นเธอก็ช่วยกินได้แล้ว!
ซือเยี่ยหานเพียงเลิกคิ้วนิดๆ แต่ก็ไม่เปิดโปงลูกไม้ของเธอ จากนั้นหันไปเอ่ยกับพนักงาน “ที่สั่งเมื่อกี้ เอาอย่างละสองชุดแล้วกัน”
“กรี๊ด! รักคุณที่สุดเลย!” เยี่ยหวันหวั่นหอมแก้มซือเยี่ยหานไปหนึ่งทีอย่างดีใจ
เวลานี้ หานเซี่ยนอวี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างสองมือกำหมัดแน่น ในดวงตาหลังแว่นตาดำเต็มไปด้วยความโกรธ
“เซี่ยนอวี่ นายอย่า…” เฟ่ยหยางเพิ่งเตือนไปครึ่งประโยค ที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็ไม่มีคนอยู่แล้ว
“คุณลูกค้า ห่อเสร็จแล้วค่ะ รบกวนคุณถือดีๆ นะคะ” พนักงานร้านส่งของหวานที่ห่อเสร็จแล้วทั้งหมดให้
“ได้เลยๆ ขอบคุณนะ!”
เยี่ยหวันหวั่นรับของมาอย่างเบิกบาน ก่อนจะคล้องแขนซือเยี่ยหานเดินออกไปจากร้าน
แต่เวลานี้เอง ฉับพลันมีร่างคนคนหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างๆ ตรงมาเบื้องหน้าและขวางทางพวกเขาไว้
คนที่มาแต่งตัวมิดชิดแน่นหนา ภายนอกสวมเสื้อโค้ทสีเข้ม บนใบหน้าสวมผ้าปิดปาก สวมแว่นกันแดด
กลางวันแสกๆ คนคนนี้จะห่อตัวเสียมิดชิดไปทำไม?
เยี่ยหวันหวั่นกำลังคิด ชายหนุ่มก็พลันเอ่ยปาก “คุณซือ”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินเสียงของผู้ชายคนนี้ ใจก็พลันเต้นสะดุดแวบหนึ่ง
เวรแล้ว! ทำไมเสียงของคนคนนี้เหมือน…
วินาทีถัดมา ชายหนุ่มดึงผ้าปิดปากบนใบหน้าลงช้าๆ ตามด้วยการถอดแว่นตากันแดดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาและคุ้นตา
……………………………………………….