ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 130 ชายหนุ่มในชุดแดง (2)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่130 ชายหนุ่มในชุดแดง (2)

มีแต่ความเงียบที่ก่อเกิดขึ้นในห้วงความคิด กับกลุ่มแสงสีม่วงที่เปล่งแสงกะพริบเป็นครั้งคราว

“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเสี่ยวฮั่ว? หรือกำลังจะตายงั้นรึ?! แล้วข้าจะต้องช่วยเจ้าอย่างไร?”

เซียถงตื่นตระหนก พยายามเรียกเสี่ยวฮั่วซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่มีสุ้มเสียงใดตอบรับกลับเข้ามา

“เจ้าโง่ มันยังไม่ตายหรอก เพียงสลบไปเท่านั้น”

ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงสุดหยิ่งผยองดังขึ้นจากด้านหลังนาง

พอเซียถงหันกลับไปมอง ก็เห็นเป็นชายหนุ่มในชุดคลุมสีแดง

ชายหนุ่มคนนี้อายุประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีได้ มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ผมยาวสลวยถึงเอว ทั้งนี้จุดเด่นที่สุดของอีกฝ่ายก็ยังเป็นผมดังกล่าว เส้นผมของชายหนุ่มคนนี้ดูพิเศษอย่างยิ่ง มันหาใช่สีดำธรรมดาทั่วไปอย่างเซียถง แต่เป็นผมสีเงินสว่าง ทอดสยายยาวราวอยู่กลางหลังประดุจดั่งแสงจันทราส่องประกายระยิบระยับ งดงามเกินกว่าจะจับต้องครอบครอง

ชายหนุ่มคนนี้ยืนเท้าเปล่าเฝ้ามองเซียถงอยู่ริมผา สายตาที่มองมาล้วนมีแต่ความรังเกียจ หากสังเกตให้จงดีจะค้นพบว่า นัยน์ตาของเขาหาใช่สีดำอย่างคนธรรมดาทั่วไป แต่เป็นสีแดงแพรวพราวราวกับอัญมณีทับทิมสองเม็ดในดวงตาของเขา โดยรวมแล้วมิได้ดูแปลกประหลาดผิดมนุษย์แต่อย่างใด ทว่ากลับเข้ากันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

ชายหนุ่มคนนี้ปรากฏตัวออกมาตั้งแต่เมื่อใด? ไฉนนางถึงไม่สามารถจับสัมผัสการมีอยู่ได้เลย? และหากเมื่อครู่ อีกฝ่ายเลือกที่จะลอบโจมตีนางอย่างเงียบๆ ล่ะก็…

ทอดสายตาทองชายหนุ่มคนนั้นอย่างระแวดระวัง แผ่นหลังของเซียถงเปียกโชกเหงื่อเย็น ในเวลาเดียวกันลอบเคลื่อนมีดสั้นเลื่อนลงมาบนฝ่ามืออย่างลับๆ ทั่วทุกอณูกายาตื่นตัวขึ้นเท่าทวี

“เจ้าเป็นใคร?”

เซียถงเอ่ยถามน้ำเสียงหนักแสนลึกล้ำ จ้องชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าตาเขม็ง

“คำถามนี้ มิเพียงแค่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แต่มันยังทำให้เจ้าดูโง่ขึ้นอีกด้วย”

ชายหนุ่มรูปงามเพ่งสายตามองเซียถง ฉายสะท้อนแววความรังเกียจภายในดวงตาสีแดงชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

“เจ้าเป็นใคร?”

เซียถงเอ่ยถามซ้ำเป็นคำรบสองกับอีกฝ่าย แต่คราวนี้น้ำเสียงทวีความเยียบเย็นจัดกว่าเมื่อครู่มาก

“น่าเสียดายนักที่กระบี่ทัณฑ์ฟ้ามิได้กัดมือตัดแขนของเจ้าให้ขาดๆ ไปเสีย”

ดวงตาคู่แดงทับทิมกวาดผ่านรอยแผลฉกรรจ์บนมือของเซียถง พลางถอดถอนเสียงหายใจเฮือกใหญ่อย่างเสียอกเสียดาย

แต่เสี้ยวอึดใจที่ชายหนุ่มคนนั้นปริปากเปล่งเสียง เซียถงก็พุ่งกระโจนเข้าใส่แล้ว ประกายคมมีดสีเย็นเฉียบจ่อไปที่ยังคอหอยของชายหนุ่มคนนั้นโดยทันที

“แล้วกระบี่ทัณฑ์ฟ้าอยู่ที่ใด?”

เซียถงเอ่ยถามอีกครา น้ำเสียงทวีความเย็นจัด สาดแสงอันหนาวเหน็บสะท้อนผ่านดวงตาคู่สวยของนางเปล่งวูบวาบ

ทั้งสถานที่ไม่คุ้นเคยก็ดี เสี่ยวฮั่วที่เข้าสู่สภาวะสลบไปก็ดี ทั้งยังการปรากฏตัวของชายหนุ่มรูปงามประหลาดคนนี้อีก… ทั้งหมดทั้งมวล มันได้สร้างความไม่สบายใจให้แก่นางอย่างมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ แววความเกลียดชังที่เกินจะปกปิดได้ภายในสายตาสีแดงทับทิมคู่นั้นของชายหนุ่มตรงหน้า นางสามารถมองเห็นและสัมผัสได้อย่างชัดเจน

“นี่เจ้ากล้าดียังไงถึงมาดึงกระบี่ทัณฑ์ฟ้าออกจากแท่นผนึกโดยอาศัยเพียงเศษเสี้ยวพลังขยะเช่นนี้?”

หันไปมองหน้าพร้อมเอ่ยปากด่าเซียถงโดยตรง ทั้งที่ยังมีคมมีดจ่ออยู่ที่คอหอย ชายหนุ่มคนนี้มิได้รู้สึกตื่นตระหนกตกใจเลยสักนิด แทนที่จะส่อสีหน้าแววความกลัวเกรงออกมา แต่กลับยักไหล่เบะปากคว่ำใส่นาง ทุกอากัปกิริยาของเขามันเปี่ยมล้นไปด้วยความรังเกียจเสียเหลือเกิน…

“ข้าถามว่า กระบี่ทัณฑ์ฟ้าอยู่ที่ใด?”

เซียถงเพิกเฉยต่อท่าทางการแสดงออกที่อีกฝ่ายเยาะเย้ยตนโดยสิ้นเชิง บิดข้อมือเข้าหา กดคมมีดจนแนบชิดติดกับคออีกฝ่าย กรีดผ่านเนื้อหนังสีขาวสะอาดของชายหนุ่ม คมมีดแหลมเฉือนเข้าไปบางๆ เผยให้เห็นหยดเลือดสายหนึ่งที่รินไหลผ่านคมมีดออกมา

“นังหนูเหม็นสาบ คงอยากตายมากกระมัง ถึงหาญกล้าทำร้ายข้าเช่นนี้?”

ชายหนุ่มกดสายตาเขม็งคิ้วแน่น จับจ้องไปที่เซียถงเริ่มมีอารมณ์ขุ่นมัวโมโห แต่เสี้ยวพริบตาต่อมา ร่างของชายหนุ่มคนนี้พลันอันตรธานหายวับลับไปจากคมมีดของเซียถง

เซียถงเบิกตาโตจับจ้องไปยังคมมีดที่ว่างเปล่าเบื้องหน้า สีหน้าการแสดงออกดูตื่นตะลึงสุดขีด แล้วเจ้าหนุ่มนั่นหายไปไหนแล้ว? เมื่อครู่มันยังอยู่ภายใต้คมมีดสั้นในมือของข้าอยู่เลยมิใช่รึ? เป็นไปไม่ได้…จู่ๆ อีกฝ่ายจะหายตัวไปทั้งเช่นนี้ได้อย่างไร? คิดได้ดังนั้น นางรีบถอนคมมีดออกมา กวาดสายตามองโดยรอบอย่างรวดเร็ว มองหาร่างของชายหนุ่มคนนั้นอย่างระมัดระวัง

ทันใดนั้นเอง สัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวเข้าใส่จากด้านหลัง เซียถงสาดประกายสายตาหันขวับ รีบกระโดดเลี่ยงหลบออกมาจากตำแหน่งเดิมโดยไว ก่อนจะมีต้นสนขนาดใหญ่ต้นหนึ่งโค่นลงมาใส่ และเมื่อเพ่งสายตามองลึกลงไปในผืนป่าพฤกษาขจี นางก็เห็นว่า ชายหนุ่มคนนั้นกำลังนั่งพิงพักอยู่บนต้นสนต้นหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งเมตรได้ สองมือยกขึ้นรองหลังศีรษะทำท่าทำทีคล้ายว่ากำลังงีบหลับ ส่วนสองเท้าไขว้ห่างอย่างสบายอารมณ์คล้ายว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมยาวสลวยสีเงินสว่างไสว เห็นเป็นสายหนึ่งกระโดดลงมาสู่ภาคพื้น ชายหนุ่มคนนั้นยืนกอดอกกล่าวขึ้นว่า

“นังหนูเหม็นสาบ หากยังกล้าทำร้ายข้าอีกแม้แต่ครั้งเดียว เจ้าเตรียมถูกสัตว์อสูรที่นี่กินได้เลย”

ลึกลงไปในแววตาของชายหนุ่มคนนั้นนังเปี่ยมแววความพิโรธอยู่ล้นเหลือ ยกนิ้วขึ้นดีดลูกสนยิงใส่ไปทางเซียถงโดยตรง

เบนท่าเท้าเบี่ยงร่างหลบไปได้อย่างง่ายดาย เซียถงเลิกคิ้วมองชายหนุ่มคนนั้นเจือสีหน้าประหลาดใจ พร้อมเอ่ยถามขึ้นว่า

“ก้าวพริบตา? คงเป็นวรยุทธข้ามมิติกระมัง?”

“นับว่าเจ้ายังพอมีความรู้อยู่บ้าง”

ชายหนุ่นเชิดหน้ายกสูงกล่าวยอมรับอย่างภาคภูมิใจ

ก้าวพริบตา เป็นหนึ่งในกระบวนท่าแขนงแยกย่อยของวรยุทธข้ามมิติที่หายสาบสูญไปจากทวีปเทียนหลางไปเนิ่นนานมากแล้ว ต่อให้ย้อนกลับไปในยุคสมัยโบราณ ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ครอบครองวรยุทธประเภทนี้

และการที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านางสามารถสำแดงใช้วรยุทธข้ามมิติได้ นั่นหมายความว่าอีกฝ่าย….

แค่คิดถึงจุดนี้ ดวงตาของเซียถงก็ฉายแววโลดโผนดีใจออกมาเกินจะหักห้ามได้ไหวแล้ว จับจ้องชายหนุ่มตรงหน้าตาไม่กะพริบ

“ระหว่างตัวเจ้ากับกระบี่ทัณฑ์ฟ้ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร?”

เซียถงเอ่ยถามขึ้ด้วยทีท่าไม่ค่อยแน่ใจนัก วรยุทธข้ามมิติที่หายสาบสูญไปของชายหนุ่มคนนี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบี่ทัณฑ์ฟ้าแน่นอน

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพียงยกปลายเท้าขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ร่างของเขาก็เหินทะยานขึ้นไปยืนบนกิ่งก้านต้นสนได้อย่างง่ายดาย ปรายหางตามองเซียถงเบาๆ กล่าวเย้ยหยั่นขึ้นว่า

“นังหนูเหม็นสาบ จิตใจหาญกล้ายิ่งใหญ่ดีหนิ ถึงขนาดมีความปรารถนาที่จะครอบครองกระบี่ทัณฑ์ฟ้า แต่น่าเสียดายนักที่ฝันนี้กลับไม่มีทางเป็นจริง!”

หลังพูดจบ คู่เท้าเปล่าทั้งสองของชายหนุ่มพลันดีดตัวเองเคลื่อนไปยังกิ่งก้านอีกต้นและอีกต้นต่อไปเรื่อยๆ เห็นเพียงเงาร่างประกายสีแดงโฉบแล่น หนีเข้าไปภายในป่าพฤกษาลึก เซียถงเห็นดังนั้นจึงรีบไล่ตามเข้าไปอีกคนโดยไว

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน