ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 176 เซียะเทียนและเซียะตี้ (2)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

บนล่างปิดล้อมสัมบูรณ์ ส่วนข้อเท้าถูกมีดพร้าเชือดเฉือนจนยากที่จะขยับตัว ส่วนเหนือศีรษะยามนี้คมดาบยักษ์กำลังสะบั้นผ่าลงมาใส่หัวเซียถง หากพินิจวิเคราะห์ภาพฉากดังนั้น ชีวิตของนางอยู่ไม่ห่างจากความตายเท่าไหร่แล้ว

หนึ่งดาบหนึ่งมีดพร้าล้วนเด็ดขาดไร้ใจ ยามใดที่สองพี่น้องเซียะเทียนและเซียะตี้ลงมือสอดผสานพร้อมกัน ต่อให้เป็นยอดฝีมือขอบเขตราชันย์ม่วงยังเคยพลาดท่าสิ้นใจตายคามือพวกเขามาแล้ว ดังนั้นจะนับประสาอะไรกับสาวน้อยอัปลักษณ์ตรงหน้า? ทั้งสองเค้นเสียงหัวเราะเยาะเย็นยะเยือกออกมา

คมมีดพร้าวาดรัศมีแนวนอน กวาดลานหวังตัดขาของเซียถงทิ้งโดยตรง ทว่าเสี้ยวอึดใจที่กำลังเหวี่ยงคมมีดออกไป ภายในสายตาของเซียะตี้ คู่เท้าอรชรของหญิงสาวกลับอันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตาเสียแล้ว

นังอัปลักษณ์ไปไหนแล้ว?

หากแต่ว่าเป้าหมายเบื้องหน้าของเขาหายไปแล้ว แล้วคมดาบยักษ์ของเซียะเทียนจะไปลงบนหัวใครแทนล่ะ? หรือว่า… ทันทีที่ตระหนักได้ถึงจุดนี้ ใบหน้าอวบอั้นของเขาพลันถอดสีฉันพลัน รีบเงยหน้าขึ้นมองบนฟ้าด้วยความว่างเปล่า ก่อนจะเห็นคมดาบยักษ์ดิ่งพสุธาเข้าใส่อย่างไร้ปราณี อยู่ห่างจากหน้าไม่ถึงสิบนิ้ว!

โชคยังดีที่เซียะเทียนเบี่ยงวิถีคมดาบยักษ์ได้ทันท่วงที และปักทะลวงพื้นอยู่เฉียดใบหน้าของเซียะตี้เพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น ร่างเตี้ยทรงอวบอั้นของเขาถึงกับทรุดตัวลงกับพื้น สีหน้าซีดเซียวใจหายสุดขีด ก่อนจะระเบิดอารมณ์คำรามลั่นน้ำเสียงโกรธจัดว่า

“ขอบคุณสวรรค์! ยังดีที่เจ้ายังเปลี่ยนวิถีดาบทัน! มิฉะนั้นได้จัดงานศพให้น้องตัวเองแล้ว!”

เซียะเทียนชักดาบเล่มยักษ์ขึ้นจากพื้นดิน และพักพิงอยู่ข้างกาย กวาดสายตาเหลือบซ้ายแลขวาเผยแสดงสีหน้าค่อยข้างแปลกใจไม่น้อย เมื่อครู่นี้ ก็เห็นได้ชัดแล้วมิใช่รึว่า ต่อหน้าดาบยักษ์ของเขาคือเซียถงไม่ผิดแน่ ทว่าเพียงเสี้ยวของเสี้ยวพริบตาถัดมา เขาคล้ายจะเห็นเงาไสววูบสายหนึ่งพุ่งหนีออกไปประดุจดาวหาง เมื่อคิดมาถึงจุดนี้เขาก็ยิ่งเบิกตากว้างด้วยความตกใจเข้าไปใหญ่ เพราะสิ่งที่เขาสังเกตเห็นคือ ใต้ฝ่าเท้าของเซียถงภายในแสงสีครามจัดจ้าน คล้ายว่ามีประกายแสงสีเขียวริบหรี่อยู่

วรยุทธ์ต่อสู้?

ถึงขนาดเบิกตาโตจับจ้องไปที่หญิงสาวที่ยืนตรงข้ามด้วยความเหลือเชื่อ เซียะเทียนเอ่ยถามน้ำเสียงสั่นเครือว่า

“วะ-วรยุทธ์ต่อสู้? เจ้าเป็นทายาทของสี่ตระกูลใหญ่เร้นลับใช่หรือไม่?”

“หากใช่แล้วอย่างไร?”

เซียถงเลิกคิ้วส่งให้เซียะเทียนที่กำลังตื่นตะลึงอย่างหยิ่งผยอง กล่าวยอมรับโผงผางตามตรง

“เช่นนั้น เจ้าเองก็มีคัมภีร์วรยุทธ์ลับในตำนานอยู่ในมือกระมัง?”

เซียะเทียนใจสั่นเอ่ยถามน้ำเสียงเร่งเร้าตื่นเต้นสุดขีด ปรากฏประกายแสงแปลกประหลาดสาดส่องออกมาจากดวงตา

“ก็ประมาณนั้น”

เซียถงยอมรับอย่างว่าง่าย เพ่งสายตาจับจ้องเซียะเทียนเขม็ง กระบี่ทัณฑ์ฟ้าเร้นจ่ออยู่ตรงหน้า บิดข้อมือเล็กน้อยเผยสะท้อนเงาคมสาดแสงออกจากคมกระบี่

“ขอบคุณ! ขอบคุณสวรรค์! ในเมื่อนางมีวรยุทธ์ในครอบครอง เช่นนั้นก็รีบฆ่านางแล้วชิงมา!”

พอเซียะตี้ได้ยินคำว่า ‘วรยุทธ์ต่อสู้’ ดวงตาของมันที่จับจ้องเซียถงก็พลันเป็นประกายหยดย้อยทันใด

รับฟังดังนั้น ดวงตาเรียวคมของเซียะเทียนพลันหรี่แคบ สาดแสงร้อนแรงกว่าก่อนหน้า กล้ามเนื้อทั่วใบหน้าคล้ายจะกระตุกเต้นด้วยความดีใจเกินจะหักห้าม จับจ้องมองเซียถงไม่มีคลี่คลายราวกับกลัวว่านางจะหลุดหายไปจากสายตา สีหน้าดูชั่วร้ายเยี่ยงอสรพิษ ระเบิดเสียงหัวเราะคิกคักลอดเล้นเป็นระยะ

“ในเมื่อเจ้ามีวรยุทธต่อสู้อยู่ในครอบครอง เช่นนั้นแล้ว วันนี้พวกเราสองพี่น้องขอทุ่มสุดกำลังเพื่อฆ่าเจ้าและแย่งชิงมันมา!”

เซียะเทียนขานคำปฏิญาณมุ่นมั่น ประดับคู่รอยยิ้มอันสยดสยองสุดแสน

หึหึ ในเมื่อหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าครอบครองวรยุทธ์การต่อสู้อันเป็นตำนาน มีหรือที่พวกเขาจะปล่อยให้หลุดมือไปโดยง่าย?

ให้ตายก็ต้องได้มันมา!

“หากเจ้าสังหารข้า จะไม่มีวันได้รับคัมภีร์วรยุทธ์ไปชั่วชีวิต คิดดีแล้วงั้นรึ?”

เซียถงเชิดมุมปากกระตุกยิ้มเยาะ ส่งให้สองพี่น้องเซียะตี้และเซียะเทียน

สีหน้าการแสดงออกของเศียะเทียนพลันแปรเปลี่ยนในทันใด และเป็นเซียะตี้ที่รีบเร่งเอ่ยถามด้วยความกระวนกระวายใจยิ่งว่า

“ไฉนเป็นเช่นนั้น?”

“มันต้องแน่นอนอยู่แล้ว เพราะคัมภีร์วรยุทธ์ที่ว่ามิได้อยู่กับข้าแล้วยังไง ใครจะไปโง่นำของล้ำค่าเฉกเช่นนั้นติดตัวไปตลอด?”

เซียถงเลิกคิ้วกล่าวคำหนึ่ง พลางหัวเราะคิกคักสวนตอบกลับไป

“อืม ค่อนข้างสมเหตุสมผล”

เซียะเทียนพยักหน้ายอมรับ ขณะที่กำลังจะปริปากกล่าวอีกครั้ง กลับเป็นเซียะตี้ที่เอ่ยแทรกขึ้นก่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็นใจจะขาดว่า

“แล้วข้าควรทำอย่างไร?”

“เอาเช่นนี้เป็นอย่างไร ข้าจะบอกที่ซ่อนคัมภีร์วรยุทธ์ว่าอยู่แห่งหนใด และพวกเจ้าก็ออกเดินทางไปตามหาซะ อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในวันนี้อีก?”

เซียถงมองหน้าเซียะตี้ เอ่ยขานกับอีกฝ่ายน้ำเสียงจริงจัง

“ได้เลย! ได้เลย! เช่นนั้นบอกเรามาสิว่า คัมภีร์วรยุทธ์อยู่ที่ไหน แล้วข้าจะบอกเซียะเทียนมิให้สังหารเจ้า!”

สีหน้าแววตาของเซี่ยะตี้ในเวลานี้ตกสู่ภวังค์ความโลภโดยสมบูรณ์ จับจ้องเซียถงเป็นประกายแวววับ มีดพร้าขนาดใหญ่ในมือค่อยๆลอบเร้นหันไปทางเซียถงอย่างลับๆ

พิจารณาจากท่าทางการแสดงออกของเขาตอนนี้ ค่อนข้างชัดเจนว่าเซียะตี้กำลังคิดแผนการสกปรกอยู่ หรือก็คือ ทันทีที่เซียถงยอมบอกตำแหน่งที่ซ่อนคัมภีร์วรยุทธ์ออกมา เขาจะใช้มีดพร้าเล่มนี้ฆ่านางทิ้งทันที

“เข้ามาใกล้ๆสิ แล้วข้าจะบอกเจ้า”

เซียถงลอบสายตาหรี่แคบอย่างลับๆ ยกมือเรียวหยกขาวกวักเรียกหาอีกฝ่ายให้เข้ามาหาเบาๆ

“พูดมาเถอะ ข้าสัญญาจะไม่ฆ่าเจ้า”

ถึงจะเอ่ยปากกล่าวออกไปแบบนั้น และเซียะตี้ก็ยังขยับขาสั้นท่วมของตน เตรียมจะเดินเข้าไปใกล้นางอยู่ดีด้วยความเคยชิน

“เจ้าโง่! นางโกหกเจ้า!”

เซียะเทียนที่รู้ทัน รีบยกมือตบกะโหลกเซียะตี้ลั่นไปอีกคราหนึ่ง จับจ้องมองตาอีกฝ่ายพลางส่ายหัวด้วยความหน่ายใจเกินทน ไฉนน้องชายของเขาถึงโง่บรมขนาดนี้? พอถูกอะไรล่อตาล่อใจเข้าหน่อย ก็ถึงกับเชื่อฟังทุกคำพูดราวกับสุนัขเชื่องเชียว?

เซียะตี้ยกมือขึ้นลูบหลังศีรษะที่ปูดบวม ก่นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ในลำคอ ก่อนจะหันไปมองเซียะเทียน กล่าวประชดประชันเจือแววไม่ค่อยพอใจว่า

“ขอบคุณ! ขอบคุณจริงๆที่เตือน! แต่วันหลังพูดดีๆก็ได้หรือไม่? ข้าว่าก่อนจะหลงกลใครตาย น่าจะถูกเจ้าตบหัวจนสมองไหลออกมาก่อน!”

อาศัยใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่สองพี่น้องทะเลาะกัน เซียถงเร่งพลิกข้อมือหันคมกระบี่ทัณฑ์ฟ้าเข้าประจัญบาน คู่เท้าเหยียบย่างสาดไสว พุ่งปราดออกไปพร้อมประกายแสงพิสดารสายหนึ่ง ตรงเข้าโจมตีฉับพลันใส่ทั้งคู่ด้วยความเร็วที่สูงมาก

เซียะเทียนและเซียะตี้คล้ายสังเกตเห็นประกายแสงพิสดารจากหางตาริบหรี่ ทั้งสองหยุดทะเลาะโต้เถียงกันทันที กระจายตัวแยกย้ายออกจากกันโดยไว คนหนึ่งกระโดนขึ้นภาคฟ้า ส่วนอีกคนดำดินใต้ภาคพื้น คล้อยหลังเพียงพริบตา สองกระบี่โจมตีระหว่างคมดาบยักษ์และคมมีดพร้าก็เข้าสอดผสานกลายเป็นหนึ่ง เข้าโจมตีสวนเซียถงโดยพร้อมเพรียง

สองพี่น้องคู่นี้มีฉายาในกองทัพว่า สองพี่น้องฟ้าดิน อาศัยขุมพลังความแข็งแกร่งแห่งขอบเขตเสาหลักฟ้าชั้นกลาง ผนวกเข้ากับเคล็ดวิชาการผสานโจมตีที่คิดค้นขึ้นมาเอง และเมื่อทั้งสองรวมพลังกันเป็นหนึ่ง อานุภาพการทำลายล้างที่บังเกิดมีผลเป็นหลายทวีเท่าจนน่ากลัว ส่งผลให้พวกเขาประสบความสำเร็จและคว้าชัยในศึกสมรภูมิใหญ่มานัดต่อนัดแล้ว

หากมิใช่เพราะว่า แม่ทัพจางเจิ้งกั๋วเกลียดเซียถงเข้ากระดูกดำจริงๆ เขาคงไม่มีทางส่งนายทหารมือดีอย่างสองพี่น้องนี้มาแน่นอน

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน