ตอนที่246 คำเชิญของไป๋หลี่หาน (2)
ตอนที่246 คำเชิญของไป๋หลี่หาน (2)
“องค์ชายโปรดอย่าได้กังวล ข้าพเจ้าจะรีบนำยาสมานแผลที่ดีที่สุดมอบให้แก่เขา”
ชิงเยวี่ยนเปล่งวาจาพลางเหลือบมองไป๋หลี่หาน
“ไม่จำเป็น”
ไป๋หลี่หานเอ่ยตอบพร้อมสะบัดแขนเสื้อยาวหมุนตัวลาจาก เรียวตาคู่เฉียบแหลมของเขาช่างเย็นเยียบ ปล่อยให้เจ้าหนุ่มคนนี้ทรมานไปอย่างนั้นจะดีกว่า อย่างมากก็แค่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวตาย
ชิงเยวี่ยนหรี่สายตาแปลกๆ จ้องแผ่นหลังของไป๋หลี่หานเขม็ง ทันทีทันใด เขาก็กระตุกยิ้มมุมปากแฝงนัยสำคัญอย่างมีความหมาย แสดงว่าคุณหนูเซียคนนี้จะต้องมีอะไรสักอย่างเก็บซ่อนไว้จริงๆ มิฉะนั้นแล้ว องค์ชายไป๋หลี่หานผู้ได้ชื่อว่า บุตรเลือดเย็นคนนี้ คงไม่ปล่อยปละเรื่องที่ส่งต่อชื่อเสียงของจักรวรรดิตงหลี่มวลรวมไปโดยง่าย เบื้องลึกเบื้องหลังเหตุการณ์นี้จะต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าเร้นแฝงอยู่
คุณหนูเซียนางนี้…น่าสนใจจริงๆ
เมื่อนึกถึงดังนั้น ชิงเยวี่ยนก็ประสานมือกล่าวกับไป๋หลี่หานไล่หลังไปว่า
“องค์ชายไป๋หลี่ เข้าพักผ่อนที่ห้องพักก่อนเถิด แล้วข้าพเจ้าจะให้คนยกชาไปให้”
“ไม่จำเป็น”
ไป๋หลี่หานโบกมือปัด กล่าวตัดคำปฏิเสธเจือน้ำเสียงรำคาญชัดแจ้ง ยกเท้าก้าวฉับขึ้นบันไดสู่ชั้นบนไปอย่างว่องไว ตรงเข้าไปยังห้องพักที่เซียถงพักอาศัย และยกมือขึ้นเคาะประตูเรียก
“คงมีธุระกระมัง?”
ประตูห้องถูกเปิดขึ้น เซียถงยืนพิงขอบประตูกอดอก ชำเลืองสายตาเย็นชาจับจ้องอีกฝ่ายอยู่
“ฟังว่ามีสมุนไพรหายากหลากหลายชนิดบนหุบเขาซีเยว่ อยู่ไม่ไกลนักจากที่นี่ สนใจจะเดินสำรวจสักรอบกับข้าไหม?”
ไป๋หลี่หานเอ่ยถามขึ้น
หุบเขาซีเยว่? เหมือนว่าเซียถงจะเคยได้ยินมาอยู่บ้างเกี่ยวกับหุบเขาลูกนี้ ฟังว่าเป็นสถานที่นี่มีระดับความเข้มข้นของพลังวิญญาณฟ้าดินสูงมาก ส่งผลให้มีสมุนไพรหายากหลากหลายชนิดเจริญงอกงามอยู่บนที่แห่งนั้น หุบเขาซีเยว่เปรียบเสมือนกองสมบัติที่ผู้คนจากจักรวรรดิอื่นๆ ถวิลหา อยากจะเดินทางไปดูสักครั้ง และนี่ก็เป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญเช่นกันที่ทำให้จักรวรรดิซีฉินเรืองอำนาจอย่างในปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้เองทำให้หุบเขาซีเยว่ได้รับการคุ้มครองพิเศษจากกองกำลังแห่งวังหลวงซีฉิน เว้นเสียแต่นักหลอมโอสถของจักรวรรดิซีฉินเท่านั้น ไม่ว่าใครผู้ใดล้วนมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปทั้งสิ้น ยิ่งเป็นคนนอกจากต่างแดนด้วยแล้วแทบไม่ต้องหวัง
“หรือเป็นไปได้ไหมว่า ท่านมีหนทางเข้าไป?”
ฟังจากวาจาคำกล่าวของไป๋หลี่หานดูแล้ว เหมือนว่าเขาจะมั่นใจอย่างมากว่า ตนสามารถเข้าไปภายในนั้นได้ หรือเขาจะได้รับป้ายตราอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ?
“ข้าเพิ่งเรียนขอป้ายตราอนุญาตจากจักรพรรดิแห่งซีฉินหมาดๆ เจ้าอยากไปกับข้าหรือไม่?”
ไป๋หลี่หานเอ่ยถาม พลางโยนป้ายตราอนุญาตสีทองคำในมือเดาะเล่น
จะพาไปโดยง่ายเช่นนี้เลย? เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายชวนนางไปด้วย เซียถงพลันขมวดคิ้วแน่นเอ่ยถามขึ้นทันทีว่า
“พาข้าไปด้วยเช่นนี้ มิทราบว่าท่านมีเงื่อนไขอันใดด้วยหรือไม่?”
เส้นมุมปากกระตุกโค้งขึ้นกลายเป็นรอยยิ้มบางๆ ไป๋หลี่หานกล่าวขึ้นว่า
“ถูกต้องแล้ว เงื่อนไขก็คือ เจ้าจะต้องไปล่องเรือในทะเลสาบซีเยว่กับข้า”
แค่นั้น? ง่ายปานนั้นเลย? เซียถงหรี่สายตาบีบแคบ จับจ้องไป๋หลี่หานด้วยความสงสัย นี่เขาต้องการอะไรกันแน่? ล่อไปฆ่าทิ้ง? หรือมีแผนการร้ายสมรู้ร่วมคิดกับคนอื่น? ถึงภายในใจนางจะเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่ากลับยากเกินกว่าจะต้านทานเสน่ห์แห่งหุบเขาซีเยว่ได้ สมุนไพรหายากนานาชนิดนับเป็นสิ่งล่อตาล่อใจที่สุดสำหรับนักหลอมโอสถทุกคน และสุดท้ายนี้เอง การจะมีสมุนไพรดีๆ ติดตัวไว้บ้างสักอย่างสองอย่าง ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรติดตัวเลย คล้อยหลังครุ่นพินิจกับตัวเองสักพักใหญ่ นางก็พยักหน้าตอบรับทันที
“เข้าใจแล้ว!”
“ตกลง เช่นนั้นแล้ว ตอนนี้เจ้าจะต้องไปล่องเรือกับข้าในทะเลสาบซีเยว่ก่อน ส่วนพรุ่งนี้ข้าจะเดินทางมารับเจ้าขึ้นหุบเขาซีเยว่”
นัยน์ตาไป๋หลี่หานสั่นไสวแผ่วเบา ยกสองมือขึ้นไพล่หลังและหมุนตัวเดินจากออกไปทันที
เซียถงได้แต่ยืนงง ภายในหัวกำลังระดมสมองครุ่นคิดสักพักหนึ่ง ก่อนจะวกกลับเข้าห้องหยิบผ้าคลุมหน้าผืนใหม่ขึ้นมาสวม และรีบเดินตามหลังอีกฝ่ายออกจากโรงเตี้ยมไปทันทีท่ามกลางทุกสายตาที่จับจ้องมองมา
ก่อนก้าวเท้าออกจากประตูโรงเตี้ยม เซียถงหันศีรษะชำเลืองมองเคียงข้าง ก็พบว่าชิงเยวี่ยกำลังยืนพิงเสาอยู่ ณ มุมหนึ่งของร้านอาหาร ริมฝีปากบางเม้มขบบางเบา สีหน้าไม่มียิ้มแย้มดั่งปกติ แววตาที่จับจ้องมองมาดูผิดแปลกแตกต่างออกไป ซึ่งเซียถงที่เห็นอีกฝ่ายแบบนั้นพลันรู้สึกหงุดหงิดใจชอบกล หรี่สายตาแคบจ้องอีกฝ่ายสวนตอบอย่างเดือดดุหนึ่งชั่วอึดใจ ทว่าชิงเยวี่ยนกลับละสายตาออกจากนางโดยพลัน เคลื่อนไปจับจ้องไป๋หลี่หานที่เดินออกนอกประตูไปแล้ว ทันใดนั้นเอง สีหน้าการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
เซียถงพอจะทราบอยู่ว่า อีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ทว่ากลับหาได้สนใจอันใดไม่ ระหว่างไป๋หลี่หานกับชิงเยวี่ยคนนี้คล้ายจะมีอะไรบางอย่างขัดแย้งกันอยู่ แล้วมีแนวโน้มสูงว่า ต้นเหตุน่าจะมาจากตัวนาง? แต่ความเป็นไปได้ในส่วนนี้ควรจะถูกปัดตก เพราะชิงเยวี่ยเองก็ได้เห็นโฉมหน้าภายใต้ผ้าคลุมอันอัปลักษณ์ของนางไปแล้ว คงไม่มีคนโง่ที่ไหนหลงไปชอบหญิงอัปลักษณ์น่าเกลียด เว้นเสียแต่หัวจะไปฟาดกับประตูจนปัญญาอ่อน? แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ทั้งไป๋หลี่หาน เย่หลีเทียน และชิงเยวี่ยคนนี้ หากจะให้ดีไม่ควรให้ทั้งสามคนนี้มีความสัมพันธ์ใดๆ กันเลยเป็นดีที่สุด เพราะการปล่อยให้บุคคลอันตรายถึงสามคนจับกลุ่มสัมพันธ์กัน เกรงว่าจะยิ่งอันตราย
ทะเลสาบซีเยว่อยู่แถวฝั่งตะวันตกของเมืองซีเยว่ ซึ่งน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ใสบริสุทธิ์เปรียบดั่งกระจกแผ่นยักษ์ที่ส่องสะท้อนเงาทุกสรรพสิ่งออกมาได้อย่างชัดเจน ต้นหลิวก่อตัวเป็นป่าพฤกษารอบชายฝั่ง ดอกปทุมสีขาวผลิบานสะพรั่ง ประดาศาลาหินอ่อนประดับลวดลายวิจิตงดงาม สามารถนั่งเพื่อเชยชมทิวทัศน์สวยดั่งสวรรค์เช่นนี้ได้
มีเรืออยู่หลายลำจอดเทียบท่าบนชายฝั่งของทะเลสาสาบ โดยมีเรือลำหนึ่งที่ทั้งมีขนาดใหญ่และดูโดดเด่นเป็นพิเศษกว่าลำอื่นๆ โดยภายในตัวเรือมีทั้งสองชั้น ถูกประดับตกแต่งหรูหรา ทั้งยังมีสาวรัชใช้ในวังซีฉินหลายนางในชุดสีเขียวกำลังยืนรอต้อนรับอยู่บนเรือ พอเห็นไป๋หลี่หานกับเซียถงกำลังตรงเข้าใกล้ ก็มีหญิงสาวนางหนึ่งที่งดงามโดดเด่นใครทั้งหลาย รีบวิ่งลงจากเรือลำนั้น ตรงเข้ามาหาในทันที
ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินไปถึงฝั่งทะเลสาบที่จอดเรือ จู่ๆ ไป๋หลี่หานพลันชะงักฝีเท้าหยุดลงกะทันหัน พอเซียถงตรงเข้ามาใกล้ก็ตรงเข้าจับมือเซียถงทันที
เซียถงถึงกับหันขวับมองหน้าไป๋หลี่หานเจือแววฉงนใจหนัก ทว่าไป๋หลี่หานกลับไม่ปริปากกล่าวใดๆ และจูงมือนางเดินขึ้นเรือลำนั้นโดยตรง
“นี่ท่าน หมายความว่าอย่างไรกัน?”
เซญีถงยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน สายตาที่มองค้อนเข้าใส่ไป๋หลี่หานเริ่มแผ่ขยายรัศมีความโกรธเกรี้ยวออกมาทีละนิด
ก็แค่ไปล่องเรือนด้วยกัน ไม่เห็นจำต้องจับมือกันเลย
“ข้าต้องวานให้เจ้าช่วยสักเรื่อง พอดีว่าองค์หญิงแห่งซีฉินพยายามตามตื๊อ ชวนข้ามาล่องเรือให้ได้ ดังนั้น…”
ไป๋หลี่หานเหลือบสายตาย้อนกลับมองเซียถงอย่างช่วยไม่ได้ ราวกับว่าเขาเองก็หมดปัญญาแล้วเช่นกัน
พอได้ยินดังนั้น เซียถงถึงกับร้องอ๋อในบัดดล ปรากกฎว่า จุดประสงค์ที่ไป๋หลี่หานลากนางมาที่นี่ ก็เพื่อใช้นางเป็นไม้กันสุนัขมิให้องค์หญิงรุกล้ำเข้าใกล้
เซียถงชำเลืองสายตาสุดจะหน่ายใจไปทางไป๋หลี่หานอยู่ทีหนึ่ง สุดท้ายก็จำต้องพยักหน้ากล่าวตอบไปว่า
“ที่แท้ก็วานให้ข้าเป็นไม้กันสุนัขนี่เอง เรื่องแค่นี้หาใช่ปัญหาเลย แต่…”
กล่าวจบ นางก็สะบัดมือที่ไป๋หลี่หานกำลังกุมจับทิ้งทันที
“ใจเย็นก่อน! มันมิใช่แบบนั้น! ข้าเพียงกลัว และไม่อยากทำให้องค์หญิงแห่งซีฉินมีโทสะ”
ไป๋หลี่หานยังคงกระชับจับมือเซียถงไว้เหนียวแน่น ประกายตาภายใต้หน้ากากส่องสะท้อนเผยแววแสงริบหรี่