ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง – ตอนที่ 285 หวนสู่หุบเขาซีเยว่ (1)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่285 หวนสู่หุบเขาซีเยว่ (1)

ตอนที่285 หวนสู่หุบเขาซีเยว่ (1)

เซียถงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกเสียจากต้องผูกม้าติดไว้กับต้นไม้เล็กๆ แถวนั้น และเดินหน้าต่อไป อาการบาดเจ็บของนางยังไม่หายดี ออกเดินไปได้สักครู่หนึ่ง ก็จะเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าแสดงออกมาให้เห็น จำต้องนั่งพักเอาแรงบริเวณที่เป็นหลุมบ่อขรุขระละแวกแถวนั้น ระยะหนึ่งถึงค่อยออกเดินเท้าต่อไปอีกครู่ใหญ่ เซียถงเริ่มรู้สึกว่าตนเองไปต่อไม่ไหว ก็หาพื้นหญ้าเพื่อนั่งพักผ่อนอีกครั้ง

จี๋จี๋กระโดดออกจากบนไหล่ของนาง เดินย้อนไปยังด้านหลังของนาง และเริ่มยกกรงเล็บเล็กจิ๋วสองคู่ขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มเกาะแผ่นหลังให้คล้ายเป็นการนวดเพื่อผ่อนคลาย ถึงแม้นี่จะไม่มีประโยชน์นัก แต่ก็ช่วยทำให้ใจดวงนี้ของเซียถงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันใด อาศัยแรงใจที่ได้รับมา นางก็หายเหนื่อยขึ้นมากแล้ว

เอื้อมมือหันไปคว้าร่างของจี๋จี๋ขึ้นมา ลูบศีรษะน้อยๆ ของมันพลางเอ่ยถามขึ้นว่า

“จี๋จี๋ นี่เจ้ากำลังจะพาข้าไปไหน?”

จี๋จี๋ยกอุ้งเท้าหน้าของมันขึ้นมาและชี้ไปที่หุบเขาซีเยว่อันสูงตระหง่านเบื้องหน้าจากทางไกลโพ้น พร้อมส่งเสียงร้องออกมาทีหนึ่ง

จะพานางขึ้นหุบเขาซีเยว่จริงๆ งั้นรึ?

“จี๋จี๋ หากไม่มีป้ายตราอนุญาตก็ไม่สามารถขึ้นหุบเขาได้ บริเวณรอบที่นี่ได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่นจากด่านทหาร ไม่ว่าจะเสาะหาหนทางใด ก็เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะลอบขึ้นไป”

เซียถงกล่าวอธิบายกับมัน ระหว่างนั้นพลางเหม่อหมองหุบเขาซีเยว่ที่ทอดไกลสุดสายตา

จี๋จี๋หาได้สนใจฟังไม่ มันกระโดดขึ้นหน้าเข้าไปในพุ้มเถาวัลย์และหนามแหลมคมมากมาย ร่างเล็กจิ๋วของมันจมลงในดงเถาวัลย์ทั้งหลายที่มีความสูงกว่าตัวมันหลายเท่าทวี

พอยกอุ้งเท้าทั้งสี่ก้าวเดิน ก็ก่อเกิดเสียงดังกรอบแกรบ

เซียถงพยุงตัวลุกขึ้นและเดินหน้าต่อไปทันที ยกมือไม้ขึ้นปัดป้อง แหวกบรรดาเถาวัลย์และวัชพืชหนามแหลมทั้งหลายมิให้เสียดเนื้อขูดโดน ยิ่งเดินทางเข้าไปลึกขึ้นเท่าใด ทิวทัศน์บรรยายกาศรอบตัวก็ยิ่งเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็บุกป่าฝ่าดงจนมาถึงตีนเขาเล็กๆ แห่งนี้ เจ้าจี๋จี๋กระโดดออกจากพุ่มเถาวัลน์และเริ่มส่งเสียงร้องอีกครั้งหนึ่ง

เซียถงก้มหน้ามองไปยังบางสิ่งที่อยู่ในตีนเขาแห่งนี้ เบื้องหน้าปรากฏเป็นบ่อน้ำใสบริสุทธิ์ต่อหน้าต่อตานาง เสมือนกับกระจกบานหนึ่งบนพื้นที่รายล้อมไปด้วยเถาวัลย์วัชพืชสีเขียวขจี

เฝ้ามองบ่อน้ำใสแห่งนี้อยู่เป็นเวลานาน นางก็ยังไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ เลยสักนิด จึงหันไปมองจี๋จี๋และเอ่ยถามว่า

“บ่อน้ำแห่งนี้มีอะไรซ่อนอยู่งั้นรึ? ข้าก็สังเกตอยู่ตั้งนานไม่เห็นมีอะไรเลย?”

จี๋จี๋ยืนอยู่ด้านข้างเซียถง พยายามกระโดดโลดเต้นพรางส่งเสียงโหร้องอยู่ไปมา ทั้งยังยกอุ้งเท้าหน้ากระตุกดึงชายกระโปรงนางอีกหลายครา โบกอุ้งเท้าหน้าทั้งสองข้างขึ้นมาไปมาอยู่เหนือศีรษะแบบนั้นสักพัก แต่เซียถงก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่มันกำลังจะสื่อ

นางจ้องหน้ามันอย่างว่างเปล่านึกอะไรไม่ออก เอ่ยถามน้ำเสียงงุนงงว่า

“เจ้ากำลังจะบอกอะไรข้างั้นรึ?”

ได้ยินดังนั้น มันลดอุ้งเท้าหน้าทั้งสองข้างลงทันควัน ร่างปุกปุยสีแดงเพลิงตัวจิ๋วของมันกระโดดลงไปในบ่อน้ำใสหายไปในพริบตา จะเหลือก็เพียงระลอกคลื่นที่สั่นกระเพื่อมเล็กน้อยบนผิวน้ำ

“จี๋จี๋!!”

เซี่ยถงตื่นตระหนกสุดขีด เห็นมันกระโดดลงไปสักพักยังไม่เห็นหัวโผล่ขึ้นมา นางก็รีบเอื้อมมือเข้าล้วงภายในบ่อข้างใต้ พยายามควานเท่าไหร่กลับไม่มีอะไรอยู่ภายในนั้นเลย เช่นนั้นนางจึงตัดสินใจโดดน้ำลงไปตามหาทันที

แรกเริ่มเดิมที นางก็คิดไปว่า อย่างมากบ่อน้ำใสแห่งนี้ก็น่าจะลึกสุดแค่หนึ่งช่วงตัวนาง แต่ใครจะไปคิด กลับลึกจนมิดหัวแถมยังดำน้ำลงลึกต่อไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุด แหวกว่ายดำดิ่งต่อไปสักพัก ก็คล้ายจะเห็นเงาร่างของจี๋จี๋ที่อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ดวงตาของมันปิดลงไปกว่าครึ่ง แขนขากางออกไร้ซึ่งการควบคุมราวกับว่ามันกำลังจะหมดสติเนื่องจากขาดอากาศหายใจ

เซียถงรีบว่ายไปคว้าร่างของมันไว้ในมืออย่างระมัดระวัง หรี่สายตาครึ่งส่วนเงยหน้าแช่มมองเหนือศีรษะ แลเห็นคลื่นแสงจางอ่อนที่ตกกระทบกับน้ำจนกลายเป็นสีเขียวอมฟ้า นางพยายามวิ่งขึ้นไปทางนั้นโดยเร็วที่สุด

คล้อยหลังว่ายน้ำเป็นเวลาสักครู่ใหญ่ ตัวนางก็โผล่ขึ้นเหนือน้ำอีกครั้ง เร่งสูดอากาศหอบแล้วหอบเล่าสุดขั้วปอด หันศีรษะไปด้านหนึ่ง แลเห็นโขกหินแผ่นใหญ่อยู่แถวนั้น นางจึงรีบตะกายขึ้นฝั่งขึ้นจากน้ำ ทว่าสิ่งที่นางพบเห็นในขณะนี้กลับแตกต่างจากก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง บรรยากาศทิวทัศน์จากพุ่มเถาวัลย์วัชพืชแหลมคม สู่ป่าพฤกษาธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เป็นทุ่งราบกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้

พอว่ายถึงฝั่งข้างโขกหิน เซียถงก็รีบวางร่างของจี๋จี๋ลงบนพื้นหญ้าเขียว เห็นมันเปิดปากน้อยๆ อ้ากว้างออกมา อุ้งเท้าที่ไร้การควบคุมกระตุกขึ้นกลับมาเป็นดังเดิม มีน้ำสายหนึ่งพุ่งกระฉอกออกมาจากปากของมันหลายระลอก ดวงตาบ้องแบ๊วลืมเปิดเพียงครึ่งหนึ่ง จะเห็นได้ว่า คล้ายมีเส้นวงกลมสีดำหมุนติ้วอยู่บนตาทั้งสองข้างของมัน

เจ้านี่! เกือบจมน้ำตายแล้วไหมล่ะ!

เซียถงกวาดสายตาเชยมองรอบตัว ก่อนจะค้นพบว่า ทั่วบริเวณนี้ห้อมล้อมไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด และทั้งหมดล้วนแต่เป็นสมุนไพรสายพันธุ์หายากทั้งสิ้น ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เห็นพวกมันเหล่านี้ได้ทุกที่ รูม่านตาดำเซียถงถึงกับขยับขยายเปิดกว้าง สีหน้าการแสดงออกดูประหลาดใจยิ่งยวด ปรากฏว่า สถานที่แห่งนี้ก็คือ หุบเขาซีเยว่!

ที่แท้บ่อน้ำใสในตีนเขาเล็กๆ ตรงนั้นก็คือ เส้นทางลับที่นำมาสู่หุบเขาซีเยว่ และด้วยวิธีนี้นางจะสามารถหยิบสรรสมุนไพรกลับไปได้อย่างอิสระตามต้องการ! เซียถงยิ้มแย้มอารมณ์ดีขึ้นทันใด หันมากล่าวกับจี๋จี๋ว่า

“จี๋จี๋ ขอบคุณเจ้ามาก!”

คล้ายยังมีวังน้ำวนสีดำหมุนติ้วติ้วเป็นวงกลมอยู่เหนือหัวของเจ้าจี๋จี๋ ดูท่ายังคงมึนศีรษะไม่หายจากที่จมน้ำเมื่อครู่ ทำได้แค่ยกอุ้งเท้าชูให้นางส่งสัญญาณให้ ราวกับกำลังบอกว่า ไม่จำต้องขอบคุณกัน จากนั้นก็นอนสลบมอดแผ่ราบกับพื้นหญ้าอย่างหมดสภาพต่อไป

เซียถงเห็นอีกฝ่ายนอนหมดสภาพเช่นนั้นก็อดหัวเราะคิกคักมิได้ จะว่าไปตอนนี้ตัวนางเองก็เพลียมิใช่น้อย เช่นนั้นก็ล้มตัวนอนลงอยู่ข้างจี๋จี๋และหลับตาพักผ่อนลง

นอนหลับพักสายตาไปได้ครู่ใหญ่ ได้รักฟื้นพละกำลังกลับมาบ้างแล้ว เซียถงก็ลุกขึ้นนั่งและหันไปเห็นจี๋จี๋ที่ยังคงนอนแผ่ราบสภาพประหนึ่งใกล้ตายเต็มทน นางก็เลยอุ้มมันไปนอนพักใต้ต้นพฤกษาร่มรื่นแถวนั้น พร้อมกล่าวกับมันว่า

“จี๋จี๋ เจ้าพักตรงนี้ไปก่อน ข้าขอตัวไปเก็บสมุนไพรสักครู่ จะได้หาอะไรสักอย่างมาช่วยฟื้นสภาพเจ้าด้วย”

จี๋จี๋ได้ยินดังนั้นก็พยายามยืดเหยียดอุ้งเท้าน้อยๆ ที่สั่นเทิ่ม คว้าแขนเสื้อของเซียถงไว้อย่างแผ่วเบา ดวงตาที่เพลียอ่อนลืมได้เพียงครึ่งเดียวจับจ้องนางไม่คลาย เห็นได้ชัดเจนว่า ตัวมันต้องการจะไปกับเซียถงด้วย

“จะไปกับข้าด้วยรึ? แน่ใจว่าไหว?”

เซียถงขมวดคิ้วเอ่ยถามเจือแววกังวล

จี๋จี๋พยักหน้าตอบอ่อนๆ พยายามหลบเลี่ยงสายตาอันน่าสงสาร ไม่อยากสบปะทะกับนาง เพราะมันไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียว!

“เข้าใจแล้ว เช่นนั้นไปด้วยกันเถอะ”

เซียถงอุ้มจี๋จี๋มาสอดไว้ใต้อกเสื้อจของนางอย่างเบามือ จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางเข้าสู่ป่าพฤกษาขจีเบื้องหน้า แต่ผ่านไปสักครู่หนึ่ง จี๋จี๋ก็กระตุกเสื้อของนางเบาๆ และชี้ไปทางขวา

เซียถงพยักหน้าเข้าใจความหมายที่พยายามจะสื่อของมัน และเปลี่ยนเส้นทางไปยังป่าอีกสายด้านขวา ระหว่างทางนางเสาะพบสมุนไพรดีๆ มากมายตามรายริม ขณะที่จะหยุดฝีเท้าเข้าเก็บเกี่ยวมาไว้กับตน นางก็โดนจี๋จี๋ยกอุ้งเท้าน้อยๆ หยุดไว้ และกระตุ้นสั่งการให้นางเดินหน้าต่อไปโดยไว

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

Status: Ongoing
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยโฉมหน้าอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!เธอคือนักฆ่ามือวางอันดับหนึ่งแห่งยุค2018 แต่กลับถูกคนที่รักและไว้ใจที่สุดซ้อนแผนและสังหารเธอทิ้งในระหว่างภารกิจหนึ่ง ส่งผลให้วิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกอื่น! ซึ่งนางคนนี้เป็นคุณหนูสายตรงแห่งจวนเสนาบดี ใบหน้าช่างอัปลักษณ์น่าเกลียด ทว่ากลับมีพรสวรรค์ในด้านการบ่มเพาะพลังที่น่าทึ่ง!ในท้ายที่สุดนางได้เสียชีวิตลงเพื่อช่วยชีวิตชายที่นางรักสุดหัวใจ และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่วิญญาณนักฆ่าสาวสลับเข้าร่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ความงดงามดั่งบุปผาซ่อนพิษซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอได้หายไป! โลกทั้งใบที่เคยรู้จักกลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ใบหน้าอัปลักษณ์? จุดตันเถียนถูกทำลายจนกลายมาเป็นสตรีพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้? เจ้าของร่างเก่าถูกสังหารทิ้งโดยไม่มีผู้ใดไยดี? แต่ไม่เป็นไร ทั้งทักษะการฆ่าและจิตใจของเธออันไร้เมตตายังคงอยู่ เรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของแม่เลี้ยงกับบุตรสาวของฮูหยินรอง? ได้! ได้เลย! ทุกคนไม่ว่าใครหน้าไหนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้ จะไม่มีผู้ใดสามารถหนีรอดไปได้แน่แท้! ควบคุมหมื่นอสูร หลอมกลั่นโอสถ ตียุทธ์ภัณฑ์สร้างสิ่งประดิษฐ์ แม้แต่สวรรค์ยังต้องก้มกราบข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท