ตอนที่374 ข้ายอมลงนรกเพื่อเจ้า (2)
ตอนที่374 ข้ายอมลงนรกเพื่อเจ้า (2)
เซียถงใจสั่นระรัวเต้นแรง หรือเป็นไปได้ไหมว่า ไป๋หลี่หานจะแอบได้ยินบทสนทนาระหว่างนางกับเย่หลีเทียนเข้าให้แล้ว?
“เซียถง หากเจ้าไม่ต้องการอภิเษกสมรสกับข้าจริงๆ เรื่องนี้ยังสามารถแก้ไขได้ทัน เพียงต้องใช้เวลากล่าวอธิบายกับฝ่าบาทเท่านั้น”
จิตใจของเซียถงยามนี้สว่างวาบ มีความคิดนับพันหมื่นที่หลั่งไหลเข้ามา ภายในใจต้องการจะปฏิเสธ ทว่าด้วยอะไรหลายสิ่งอย่างกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ สีหน้าการแสดงออกของนางคงรักษาความนิ่งสงบ หมุนตัวหันหลังให้อีกฝ่ายเตรียมจะเปลี่ยนเส้นทางลาจาก
เรื่องหย่าร้างกับไป๋หลี่หานยังหาใช่สิ่งที่นางต้องคิดคำนึงในเวลานี้ เพราะหากแม่ของนางถูกองค์จักรพรรดิซีฉินลักพาตัวไปจริงๆ นางจำเป็นจะต้องหยิบยืมขุมกำลังขององค์จักรพรรดิตงหลี่มาใช้ มีเพียงวิธีนั้นเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือชีวิตแม่ของนางกลับมาได้อย่างปลอดภัย
และหากไป๋หลี่หานล่มงานอภิเษกสมรสในตอนนี้จริงๆ แผนการหยิบยืมขุมกำลังขององค์จักรพรรดิตงหลี่คงจะล้มเหลวตามไปด้วย เพราะอีกฝ่ายไม่น่าจะเหลือเหตุจูงใจอันใดอีกต่อไปแล้วในการตามหาแม่ของนาง
“เซียถง”
ทันใดนั้นเอง ไป๋หลี่หานก็เอื้อมมือขวาเข้าคว้าร่างเซียถงมิให้เคลื่อนหนีไปไหน กว่าที่นางจะตอบสนองทันท่วงที ก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาเสียแล้ว มือข้างหนึ่งของเขาโอบอยู่ที่บริเวณเอว ส่วนอีกมือจับเรียวแขนสีขาวประดุจหิมะของนางไว้แน่นหนา กระชับกอดอย่างแผ่วเบา ดวงตาคู่เฉียบคมของชายหนุ่มเปล่งประกายดุจดวงดาราเคียงฟ้ารัตติกาล กระแสความอบอุ่นระหว่างทั้งสองสื่อไปถึงกันและกันผ่านร่างกายาที่แนบชิด
เซียถงตัวสั่นเทิ่มเล็กน้อย แรกสัมผัสพลันรู้สึกดั่งวิญญาณดวงนี้ถูกสะกด อาศัยสัญชาตญาณชั่วขณะ ต้องการจะปรี่หนีถอยห่าง ทว่าเอวเพรียวบางของตนกลับถูกโอบกอดเอาไว้ด้วยมือบุรุษหนาใหญ่ ไม่สามารถขยับเขยื้อนใดๆ ได้ ภายใต้สายตาคู่เฉียบคมที่จับจ้อง นางในเวลานี้ค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า ไป๋หลี่หานจะต้องรู้เรื่องที่นางยอมทำงานเป็นสายให้กับองค์จักรพรรดิตงหลี่ และตอนนี้เขากำลังจะลงมือจัดการกับนางอย่างเด็ดขาด!
ไม่ ไม่! ข้าไม่ยอมตายไปเฉยๆ แน่นอน! ร่างอรชรอ่อนยวบลงในทันใด เลื่อนคมมีดใต้แขนเสื้อเล็ดลอดสอดอยู่ในฝ่ามืออย่างเงียบงัน ยามนี้พร้อมที่จะลงมือตอบโต้แล้ว
“เซียถง เจ้าเปรียบดั่งกุหลาบแดงฉานที่เติบโตบนกองกระบี่นับพันหมื่นเล่ม ทั้งหยิ่งทะนงและดื้อรั้น ทว่าสามารถผลิบานได้ตามใจนึก ไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางสายฝนหรือพายุ หรือกระทั่งท่ามกลางสถานการณ์อันตรายนับไม่ถ้วน รูปโฉมช่างดงาม แต่กลับเต็มไปด้วยหนามแหลมคม สามารถทำร้ายผู้คนที่มีถวิลหาเข้าใกล้ได้อย่างไร้ปรานี ไม่ว่าจะเป็นมิตรสหายหรือศัตรูก็แล้วแต่”
ไป๋หลี่หานก้มหน้ากดสายตามองหญิงสาวในอ้อมกอดของตน ที่ยามนี้เนื้อวตัวของนางกำลังเกร็งแข็งเสมือนพยัคฆ์ที่พร้อมจู่แว้งกัดได้ทุกเมื่อ ประกายคู่ใสบริสุทธิ์เหนือราคีสามารถล่อลวงผู้คนนับไม่ถ้วนให้ตกสู่ภวังค์รุ่มหลงไปชั่วขณะ
มือข้างนั้นที่โอบกอดเอวเพรียวบางของเซียถงเอาไว้ ยิ่งทวีความแน่นเพิ่มพูน บังคับร่างอรชรให้ชิดติดแนบกับแผ่นอกของไป๋หลี่หาน จนนางถึงกับต้องแหงนศีรษะขึ้นสูงมองย้อนกลับไปหาอีกฝ่ายด้วยความฉงนสงสัย ความแกร่งกล้าของชายผู้นี้ทรงพลังไร้เทียมทาน สามารถเรียกลมฟ้าลมฝนได้ดั่งใจนึก แล้วไฉนบุคคลเฉกเช่นเขาถึงต้องเอาแต่รังแกหญิงสาวตัวเล็กๆ อย่างนางด้วย? บนผืนพิภพแห่งนี้ยังมีสิ่งใดที่เขาไม่สามารถไขว้ขว้าเอาไว้ได้? สิ่งมีชีวิตผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดอย่างเขายังต้องการอะไรอีก? ไฉนยังทำตัวราวกับไม่พอใจ?
ชั่วขณะหนึ่งความคิดแปรผัน จิตสังหารท่วมท้นปะทุออกมา นางพลิกตัวสะบัดข้อมือหันคมมีดสั้นแทงใส่แผ่นอกของเขาด้วยความเร็วประดุจสายฟ้า นี่แหละคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้วในการลอบสังหาร!
คมมีดสั้นเสียบทะลุเสื้อคลุมไหมของไป๋หลี่หานได้อย่างง่ายดาย ปราศจากการต่อต้านใดๆ เจาะทะลวงเข้าไปในช่วงท้องด้านขวา เซียถงได้ยินแม้กระทั่งเสียงใบมีดที่ตัดผ่านเนื้อหนังได้อย่างชัดเจน แต่อย่างไร มือข้างนั้นของเขาก็ยังโอบกอดเอวของนางเอาไว้แน่น ไม่สิ ตอนนี้มันแน่นกว่าเดิมเสียอีก!
เป็นอีกครั้งที่ร่างอรชรของเซียถง ถูกบีบบังคับให้ชิดแนบกับบริเวณแผ่นอกของไป๋หลี่หาน นางเงยหน้ามองอีกฝ่าย มุมปากเชิดกระตุกขึ้นเบาๆ ในหัวตอนนี้รู้สึกหงุดหงิดมิใช่น้อยเลยเมื่อได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงที่อยู่ลึกลงไปในทรวงอกดัง ตุบตุบ ที่แค่ได้ยินก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งและทรงพลัง
แต่ไฉนเขาถึงใจเต็นแรงนัก? กำลังเจ็บ? หรือกำลังกระสับกระส่าย?
นางจ้องหน้าไป๋หลี่หาน มองลึกลงไปในดวงตาของชายผู้นี้ ถึงแม้ภายในใจยังเกิดความสงสัยไม่คลายอ่อน แต่ก็ยังออกแรงดันมีดสั้นในมือเสียบเข้าไปต่ออย่างช้าๆ เพราะในเวลานี้ ไป๋หลี่หานจะต้องรู้ตัวแล้วอย่างแน่นอน เรื่องที่นางตกปากรับคำ ยอมเป็นสายให้แก่องค์จักรพรรดิตงหลี่ให้สืบสาวตัวเขาทุกฝีก้าว ฉะนั้นแล้ว ไฉนนางยังต้องปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือล่ะ? หากไม่รีบฆ่าเขาตอนนี้ เกรงว่ากลับเป็นอีกฝ่ายที่จะลงมือปลิดชีพของนางแทน และที่สำคัญที่สุด หากสังหารไป๋หลี่หานลงได้ นางจะได้รับดีความชอบครั้งใหญ่หลวง อาจจะใช้สิ่งนี้เพื่อต่อรองให้องค์จักรพรรดิตงหลี่ยอมทุ่มขุมกำลังทั้งหมดในการตามหาท่านแม่ของนาง
มีดสั้นในกำมือของนางยังคงเคลื่อนขึ้นหน้าต่อไป เซียถงสัมผัสได้ถึงกระแสเลือดร้อนรุ่มที่ไหลซึมออกมาจากช่องท้องของไป๋หลี่หาน แทบจะลวกมือของนางได้เลย
ไฉนเขาถึงไม่ขยับตัวเลย? เหตุใดถึงไม่ยอมผลักไสร่างของนางออกไป? ไม่กลัวเลยรึไงว่า นางจะฆ่าเขาทิ้งทั้งแบบนี้?!
คำถามจำนวนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นทีละประโยคโฉบแล่นผ่านในหัว และทันใดนั้นเองมือข้างนั้นที่จับมีดสั้นอยู่ก็พลันหยุดลงโดยไม่รู้ตัว
“ข้าไม่อยากเห็นเจ้าต้องมาถูกบังคับเช่นนี้ ไม่อยากเห็นกุหลาบอันงดงามและหยิ่งทะนงต้องสิ้นฤทธิ์ ยอมจำนนต่ออำนาจของผู้อื่น ดังนั้นแล้ว…ข้าจะให้โอกาสเจ้าเลือกอีกครั้ง หากไม่อยากอภิเษกสมรสกับข้าจริงๆ ข้าจะทูลกล่าวให้ฝ่าบาทถอนพระราชกฤษฎีกากลับคืนมาด้วยตัวเอง”
ประกายตาคู่นั้นทอแสงสลัวริบหรี่ เป็นที่ชัดเจนว่ากำลังข่มกลั้นสติ พยายามระงับกระแสความเจ็บปวดสุดแสนอยู่
เขาพูดว่าอันใด? พูดว่าอันใดนะ? ที่เอ่ยกล่าวออกมาเช่นนี้ แสดงว่าเขาไม่รู้เรื่องที่นางรับเป็นสายให้กับองค์จักรพรรดิตงหลี่เลย?
ให้โอกาสข้าเลือกอีกครั้ง? นั่นหมายความว่า นางไม่จำเป็นต้องอยู่ใต้การกดขี่บังคับขององค์จักรพรรดิตงหลี่ก็ได้?
หลายหลากความคิดในหัวเซียถงตอนนี้สับสนตีกันมั่วไปหมด ชั่วขณะหนึ่งเสมือนหัวสมองของนางขาวโพลน ไม่สามารถเลือกหรือตัดสินใจใดๆ ได้เลย ยืนนิ่งจับจ้องไป๋หลี่หานด้วยสายตาอันว่างเปล่าอยู่ครู่ใหญ่ นางกล่าวถามย้ำขึ้นว่า
“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอันใด?”
“หากเจ้าเต็มใจอภิเษกสมรสกับข้าในฐานะพระชายา ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อดูแลให้เจ้ามีความสุขไปชั่วชีวิต และขอสัญญาจะไม่ทิ้งเจ้าไปไหน”
เสียงแหบแห้งแต่เร้นแฝงความอบอุ่นเปล่งดังขึ้น เซียถงสัมผัสได้เลยผ่านนัยน์ตาคู่นั้นภายใต้หน้ากากว่า เขาในตอนนี้ทั้งรู้สึกถึงความหวังและเศร้าโศกในเวลาเดียวกัน
สิ่งเดียวที่เขาต้องการคือ ไม่อยากให้นางต้องถูกข่มเห่งทำร้าย ทว่ากลับเป็นตัวนางเสียเองที่เกือบฆ่าเขาถึงตาย
นัยน์ตาคู่ล้ำลึกและเฉียบคมภายใต้หน้ากาก ฉาดฉายประกายแสงนุ่มนวลและอบอุ่นออกมาโดยไม่มีเหตุผลใดๆ
“เจ้าได้ยินข้าหรือไม่? ข้าบอกว่า หากเจ้าเต็มใจอภิเษกสมรสกับข้าในฐานะพระชายา ตัวข้านั้นจะทำทุกวิถีทางเพื่อดูแลเจ้าให้มีแต่ความสุขไปชั่วชีวิต และขอสัญญาจะไม่ทิ้งเจ้าไปไหน”
น้ำเสียงแผ่วอ่อนเนื่องด้วยบาดแผลความเจ็บปวดที่ได้รับ แต่นี่ก็มิอาจลบล้างแววความมุ่งมั่นและหนักแน่นของชายผู้นี้ได้ และนี่ทำให้เซียถงรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเฉียบพลัน ราวกับมีดสั้นในมือของนางยามนี้ มิได้เสียบแทงอยู่ในช่องท้องอีกฝ่าย แต่กำลังเสียบแทงเข้าไปในหัวใจของตัวเอง
ความรู้สึกผิดมหันต์บีนเค้นหัวใจดวงนี้ของนางอย่างรุนแรง ทั้งที่เขาช่วยชีวิตนางมาตั้งหลายครั้งหลายคราว แต่ในเวลานี้ กลับเป็นนางที่อยากจะหมายเอาชีวิตของเขาแทน
เขาปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี เพื่อความปลอดภัยของนางแล้ว ไป๋หลี่หานคนนี้ยอมเสี่ยงแม้กระทั่งชีวิตตนเอง แม้แต่ตอนนี้ก็เช่นกัน เขายอมกลายเป็นเบี้ยหมากขององค์จักรพรรดิตงหลี่ ทั้งหมดก็เพื่อช่วยเหลือแม่ของนาง
เซียถงใช้แรงทั้งหมดที่มี ผลักร่างไป๋หลี่หานออกไปโดยตรง ยืนจับจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาเคร่งขรึม กล่าวว่า
“มัวแต่ทำดีกับข้าเช่นนี้ แล้วสักวันเจ้าจะเสียใจ! ข้าอาจทำให้เจ้าต้องลงนรก!”
เพราะไม่ต้องการให้เขาทำดีต่อตัวนางอีกต่อไปแล้ว นางไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร
ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งค่อยๆ ประคบจับฝ่ามือน้อยๆ ที่สั่นเทาของเซียถง ไป๋หลี่หานสบสายตากับนางและยิ้มตอบน้ำเสียงอ่อนนุ่มว่า
“ข้ายอมลงนรกเพื่อเจ้า!”