หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 57 มู่หลิงคิดหาหนทาง

หวนคืนชะตาแค้น

แต่ตอนนี้มู่ฉังหมิงไม่ต้องการให้มู่ฮูหยินผู้เฒ่าเพ่งเล็งมู่ชิงอีมากเกินไป หลายวันมานี้เขาก็ส่งคนไปตรวจสอบแล้ว ถึงแม้ว่ามู่ชิงอีเพียงปรากฏตัวตามงานสังคมที่ภายนอกแต่ความประทับใจของนางต่อเหล่าพระชายาและสตรีชนชั้นสูงหลายคนก็ค่อนข้างดีมากทีเดียว แม้แต่กงอ๋องที่ห้ามคนข้างกายพูดถึงตระกูลกู้มากที่สุดก็มีความเป็นมิตรมากขึ้นเมื่อเห็นมู่ชิงอีมากกว่าเมื่อเขาเห็นมู่อวิ๋นหรง หากบุตรสาวคนนี้ใช้ได้เกรงว่าจะมีประโยชน์มากกว่าหญิงสาวที่เหลือในตระกูลรวมกันเสียอีก

เป็นเพราะจังฮูหยินจากไปเร็วนัก อุปนิสัยของอีเอ๋อร์นั้นจึงสันโดษและเอาแต่ใจตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่านแม่โปรดเมตตาอย่าได้คิดเล็กคิดน้อยกับนางเลยขอรับ มู่ฉังหมิงยิ้มเข้าสู้

มู่ฮูหยินผู้เฒ่าหรี่ตาลงเล็กน้อย ผู้เป็นแม่ย่อมรู้จักบุตรชายของตนดี หากจู่ๆ มู่ฉังหมิงเกิดรักใคร่มู่ชิงอีอย่างมากขึ้นมาโดยไร้เหตุผลมู่ฮูหยินผู้เฒ่าก็คงไม่เชื่อ ท่าทางแบบนี้ของมู่ฉังหมิงคงรู้สึกว่าบุตรสาวคนนี้คุ้มค่าแก่การใช้ประโยชน์ถึงแปดส่วนเป็นแน่ ไม่กี่วันมานี้มู่ฮูหยินผู้เฒ่าเองก็ต้องยอมรับว่าการแสดงออกของมู่ชิงอีนั้นดีกว่าเด็กสาวคนอื่นๆ ในตระกูลมู่มาก

ช่างเถิด หรือว่าข้ายังต้องมาโต้เถียงกับผู้เยาว์อย่างนั้นหรือ มู่ฮูหยินผู้เฒ่าวางถ้วยน้ำชาลงแล้วพูดเบาๆ หลิงเอ๋อร์และหรงเอ๋อร์ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของโอรสสวรรค์ ฮ่องเต้จะเสด็จออกจากวังไปสนุกพบปะราษฎร พระสนมเอกโหรวเฟยก็อาจจะตามมาด้วย หากพวกเขาสองคนจะไปพบพี่สาวก็เป็นเรื่องธรรมดา

มู่ฉังหมิงยิ้มเอ่ยว่า นั่นคือสิ่งที่ลูกหมายถึงขอรับ หากไม่ใช่เช่นนั้นมู่ฉังหมิงจะไม่ยอมให้มู่หลิงและมู่อวิ๋นหรงออกไปในตอนนี้ เมื่อมองไปที่สะใภ้ซุนที่อยู่ถัดจากเขามู่ฉังหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าคำพูดของชิงอีนั้นถูกต้องเป็นครั้งแรก ภายในจวนไม่มีนายหญิงนั้นไม่สะดวกเป็นอย่างมาก ไม่สามารถปล่อยให้ภรรยาที่ไม่มีลำดับขั้นพาลูกๆ ไปพบกับพระสนมเอกโหรวเฟยได้

เมื่อถึงตอนนั้น เกรงว่าคงจะต้องรบกวนท่านแม่แล้ว

มู่ฮูหยินผู้เฒ่าโบกมือแล้วเอ่ยว่า เจ้ารู้ก็ดีแล้ว แม่ก็แก่แล้วไม่รู้ว่าจะทำงานแทนเจ้าได้อีกกี่ปี

สะใภ้ซุนที่อยู่ด้านข้างกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่นราวกับกำลังจะฉีกมันออก

หญิงเฒ่าคนนี้ฉวยโอกาสบอกเป็นนัยว่านายท่านโหวจะต้องสมรสกับภรรยเอกคนที่สอง หมายความว่าสถานะของนางนั้นต่ำต้อยและไม่มีพื้นที่ให้ แก่แล้วยังไม่ตายอีก!

ภายในเรือนหลานจื่อ มู่ชิงอีเพิ่งกลับมาถึงห้อง แต่ในห้องกลับมีคนมารออยู่แล้ว

คารวะคุณหนู หญิงสาวที่มีใบหน้าธรรมดาดูเหมือสตรีทั่วไปในจวนโค้งตัวทำความเคารพ

ลุกขึ้น มู่ชิงอีพูดเสียงเบา ท่านเฝิงนั้นมีสิ่งใดต้องการจะถ่ายทอดหรือ

หญิงสาวกระซิบ เป็นไปตามที่คุณหนูคาดการณ์ไว้เจ้าค่ะ กงอ๋องได้ส่งคนไปพาคุณชายใหญ่ออกจากจวนหนิงอ๋อง คนของเราจึงได้มีโอกาสติดต่อกับคุณชายใหญ่แล้วเจ้าค่ะ

หัวใจของมู่ชิงอีบีบแน่นขึ้น นั่งลงที่หลังตู้หนังสือก้มหน้าจ้องไปยังมือเรียวยาวของตนและถามอย่างใจเย็น พี่ใหญ่ถูกพาตัวไปที่ใด มีอาการบาดเจ็บหรือไม่ หลายปีมานี้เฝิงจื่อสุ่ยไม่ได้ละทิ้งการช่วยเหลือกู้ซิ่วถิงดังนั้นผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงได้ถูกจัดให้อยู่ในจวนกงอ๋องและจวนหนิงอ๋อง กระนั้น มู่หรงอานแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ยอมให้ผู้ใดติดต่อกับกู้ซิ่วถิงเลยและมันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะรับคนเข้ามาเพิ่ม

ในช่วงสองวันมานี้มู่หรงอวี้กำลังยุ่งอยู่กับการรับราชทูตจากแคว้นต่างๆ อีกทั้งยังยุ่งกับเรื่องวันคล้ายวันพระราชสมภพของโอรสสวรรค์อีก มัวยุ่งอยู่กับเรื่องที่รุมล้อมแน่นอนว่านั่นทำให้คนที่แฝงตัวอยู่ในจวนกงอ๋องได้มีโอกาสลอบติดต่อกับกู้ซิ่วถิง

หญิงสาวส่ายหัวแล้วกล่าวว่า ไม่เจ้าค่ะ หนิงอ๋องติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ กงอ๋องส่งคุณชายใหญ่ไปที่เรือนด้านนอกเมือง แต่คนของเราเข้าไปไม่ได้สักพักแล้ว

มู่ชิงอีก้มศีรษะลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า ข้าจะส่งคนไปที่จวนหนิงอ๋องเพื่อส่งข้อความ บอกว่า…ไม่ บอกเป็นนัยว่าพี่ใหญ่ถูกกงอ๋องพาตัวไปชีวิตนั้นขึ้นอยู่กับเขา นอกจากนี้ทำให้เขารู้ว่าจิ่วจ่วนหลิงหลงอยู่ที่ใด

หญิงสาวมองมู่ชิงอีอย่างงงงวยแต่ยังคงตอบด้วยความเคารพ มู่ชิงอีเอ่ยถามว่า ทุกอย่างที่ข้าขอให้ท่านเฝิงตระเตรียม ทั้งหมดเรียบร้อยแล้วหรือไม่

หญิงสาวพยักหน้าและยิ้ม ท่านเฝิงกำชับบ่าวให้มาบอกคุณหนู คุณหนูลงมือได้เต็มที่ไม่ต้องกังวล ท่านเฝิงจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน มู่ชิงอีพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ งั้นก็ดี เจ้าออกไปเถิด

หญิงสาวทำความเคารพและถอยหลังจากไป มู่ชิงอีเอนกายลงบนเก้าอี้แล้วเคาะโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ

ผู้ที่ได้จิ่วจ่วนหลิงหลงจะได้ครองใต้หล้า ในเมื่อล้วนอยากได้ข้าก็จะให้ แล้วทำให้ข้าเห็นหน่อยสิว่าสุดท้ายแล้วพวกเจ้าคนเลวต้องมาสู้กันเองมันเป็นอย่างไร

ภายในเรือนของสะใภ้ซุน สีหน้าของสามแม่ลูกที่นั่งอยู่ภายในห้องโถงนั้นดูไม่ได้เอาเสียเลย ใบหน้าที่เดิมทีหล่อเหลาของมู่หลิงบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัวเพราะความโกรธเกรี้ยว แม้แต่มู่อวิ๋นหรงซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็ยังรู้สึกหนาวเย็นเล็กน้อยโดยไร้เหตุผล

ต้องรีบกำจัดนังสารเลวนั่นให้เร็วที่สุด! มู่หลิงวางถ้วยชาในมือลงบนโต๊ะอย่างแรงและพูดขึ้นเสียงเข้ม ชาในถ้วยกระเด็นหกอยู่บนโต๊ะไม้สีแดง หากถามว่าใครเกลียดชังมู่ชิงอีที่สุดในเมืองหลวง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือมู่หลิง ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าเหตุการณ์ในวัดเป้ากั๋วเกี่ยวข้องกับมู่ชิงอีแต่มู่หลิงก็ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่ามันจะต้องเกี่ยวกับมู่ชิงอีอย่างแน่นอน

มู่หลิงไม่เกลียดชังมู่ชิงอีไม่ได้ เพราะมู่ชิงอีลงมือเหี้ยมโหดกว่าเขามาก แม้ว่าในตอนแรกตนมีเจตนาที่จะทำลายชื่อเสียงของมู่ชิงอีแต่ก็เป็นเพียงแค่การแสดงเท่านั้น เขาไม่ได้วางแผนที่จะจัดการกับมู่ชิงอีจริงๆ แต่สิ่งที่มู่ชิงอีทำกลับคืนมาหาเขานั้น…ดวงตาของมู่หลิงก็กระตุก ตราบใดที่เขาจำความอัปยศของวันนั้นได้ ชายที่หลงผิดชื่นชอบชายด้วยกันแล้วนั้น การโจมตีแบบนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชั่วชีวิตของเขาลืมตาอ้าปากไม่ได้ อีก ทั้งสิ่งที่แย่ที่สุดคือเหตุการณ์นี้ดูเหมือนจะทิ้งร่องรอยบางอย่างเอาไว้เป็นเวลากว่าครึ่งเดือนแล้ว เขาไม่สามารถให้แม้แต่บ่าวรับใช้ที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดเข้าใกล้ด้วยซ้ำ!

มู่ ชิง อี!

สะใภ้ซุนยังคงกัดฟันอย่างเกลียดชัง

มู่ชิงอีคนนี้ดูไปแล้วไม่ได้แสดงความสามารถอะไร แต่ทุกวันนี้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากการอยู่ในกำมือของมู่ชิงอีไม่น้อย สะใภ้ซุนรู้สึกชัดเจนว่ามู่ฉังหมิงมีความไม่พอใจนางเล็กน้อย

ถึงแม้จะมีโหรวเฟยที่อยู่ภายในวังแต่มีความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะพัฒนาของพวกเขาในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา หากเป็นเช่นนี้ไปนานๆ เข้าเกรงว่ามู่ฉังหมิงจะเชื่อฟังประสงค์ของหญิงเฒ่านั่นและแต่งภรรยาเอกคนที่สองเข้ามา ตอนนี้นางก็เริ่มโรยราแล้วจะไปแข่งขันกับหญิงสาวอ่อนเยาว์เหล่านั้นได้อย่างไร

นังนั่นฉลาดและเจ้าเล่ห์มาก เกรงว่าจะรับมือได้ยาก สะใภ้ซุนขมวดคิ้วพูดขึ้น

มู่หลิงพูดเสียงต่ำอย่างเย็นชา ต่อให้นางเจ้าเล่ห์แค่ไหนแต่ไร้อำนาจก็ไม่มีประโยชน์อะไร พอดีเลย…วันคล้ายวันพระราชสมภพของโอรสสวรรค์คราวนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี

ดวงตาของสะใภ้ซุนเป็นประกาย หลิงเอ๋อร์ เจ้ามีความคิดดีๆ อย่างนั้นหรือ

มู่หลิงยิ้มเยาะและเอ่ยว่า สำหรับนังสารเลวนั่นจะต้องมีความคิดใดกัน เพียงแค่ขอให้พี่หญิงใหญ่จัดการกับนางก็ได้แล้ว อีกทั้งยังต้องให้ท่านแม่เป็นคนเข้าวังไปจัดการด้วยตัวเองสักหน่อย มู่ชิงอีนั้นเจ้าเล่ห์มาก หากต้องการที่จะวางแผนอะไรกับนาง มู่หลิงยังคงกังวลใจอยู่ว่าจะขโมยไก่ไม่ได้แถมเสียข้าวสารในกำมือไปอีกครั้ง ในเมื่อเป็นเช่นนี้เขาเพียงใช้อำนาจผู้อื่นเพื่อกดขี่คน เขาไม่เชื่อว่าระหว่างพี่หญิงใหญ่กับมู่ชิงอีท่านพ่อและท่านย่าจะเลือกปกป้องมู่ชิงอี

สะใภ้ซุนพยักหน้าหัวเราะพร้อมเอ่ยว่า หลิงเอ๋อร์พูดถูก พรุ่งนี้แม่จะเข้าวังไปเพื่อขอพบพี่หญิงใหญ่ของพวกเจ้า ครั้งนี้จะต้องฆ่านังสารเลวนั่นให้ได้! ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ สะใภ้ซุนไม่รู้ว่านางราวกับถูกมู่ชิงอีตบหน้าไปแล้วตั้งกี่ครั้ง เพียงแค่เห็นหน้าของมู่ชิงอี สะใภ้ซุนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนที่สะใภ้จังยังอยู่ เป็นวันคืนที่นางต้องรู้สึกต่ำต้อย

สะใภ้จัง เจ้ารอก่อนเถิด บุตรสาวของเจ้าในอีกไม่ช้าก็จะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแล้ว!

ตอนต่อไป

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท