บทที่ 1165 ขอบคุณคนคนหนึ่งเป็นพิเศษ
เซี่ยงเจี๋ยเอ่ยว่า เข้าใจแล้วครับประธานฉู่! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!
ฉู่หงกวงไม่วางใจ จึงเอ่ยเสริมอีก ไม่ว่าหวงเทียนจะเสนอให้มากแค่ไหน นายก็ต้องเอาชนะพวกนั้นให้ได้! รีบไปทันทีที่พิธีมอบรางวัลจบเลยนะ!
เซี่ยงเจี๋ยรับคำ ครับ…
พอได้ยินที่ฉู่หงกวงคุยกับเซี่ยงเจี๋ย ไช่หย่งเซิ่งแอบกระซิบบอกว่า ลุงครับ ถ้าไงให้ผมไปจัดการเรื่องนี้เองไหมครับ? ผมจะไม่ทำให้ลุงผิดหวังแน่นอน!
ฉู่หงกวงตวาดเสียงต่ำ แกหุบปากไปเลย! ถ้าแกกล้าเข้ามายุ่งเรื่องนี้ล่ะก็ ฉันจะไล่แกออกซะ! ไร้ประโยชน์จริงๆ!
ไช่หย่งเซิ่งรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม ผะ…ผมจะไร้ประโยชน์ได้ยังไง…ยังไงผมก็คว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมมาได้นะครับ…
ยังกล้าพูดถึงอีกเหรอ! ฉู่หงกวงเดือดดาล
เซี่ยงเจี๋ยเงียบไม่กล้าพูดอะไร พยายามทำตัวให้ไร้ตัวตนมากที่สุด ไม่อยากเข้าไปแทรกกลางความขัดแย้งของทั้งสอง
แต่เขากลับรู้สึกเห็นใจฉู่หงกวงอยู่ไม่น้อย เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นคนที่แหกกฎเพื่อจ้างเยี่ยไป๋ด้วยตัวเอง
ถึงแม้ตอนแรกจะทำไปเพื่อรั้งโจวเหวินปิน แต่นึกไม่ถึงว่ากลับได้คนมากความสามารถหาตัวจับยากมา ภายใต้การนำของเขา กวงเย่ามีเดียดีขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับอุตสาหกรรมหนึ่ง บุคคลที่มีความสามารถมีความสำคัญมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอัจฉริยะอย่างเยี่ยไป๋เลย
พอเห็นเยี่ยไป๋ที่ตัวเองเป็นคนบีบให้ลาออกกำลังพลิกกลับมามีชัย แม้จะถูกหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์กับโกลบอลกดดัน ก็ยังปั้นราชาจอเงินขึ้นมาได้ถึงสองคน…
แล้วพอคิดว่าหากตอนนั้นไม่ได้บีบให้เยี่ยไป๋ลาออก ผลประโยชน์ทุกอย่างในตอนนี้ก็คงเป็นของโกลบอล…
เฮ้อ ถ้าเขาเป็นฉู่หงกวง เขาก็คงโกรธจนแทบบ้าเหมือนกัน…
……
ด้านล่างเวที บรรดาแขก นักแสดง และผู้บริหารของบริษัทต่างพากันจับจ้องไปที่หญิงสาวบนเวที
หลายบริษัทเตรียมตัวที่จะเปิดศึกแย่งชิงคนแล้ว…
วันนี้เจียงเยียนหรานใส่ชุดเดรสสีแดงตัวสั้นที่เยี่ยหวันหวั่นเป็นคนเลือกให้เธอ ดุจดอกไม้ที่รอวันเบ่งบาน เจิดจรัสอยู่บนเวที
เชิญราชินีจอเงินคนใหม่ของเรากล่าวอะไรสักหน่อย! เชิญคุณเจียงเยียนหรานค่ะ! พิธีกรส่งไมค์ให้เธออย่างเกรงอกเกรงใจ
ขอบคุณค่ะ ถึงยังไงเจียงเยียนหรานก็เพิ่งเคยได้รับรางวัลอย่างนี้เป็นครั้งแรก จึงไม่แปลกถ้าเธอจะประหม่า มือที่ถือไมค์สั่นระริกเล็กน้อย
ด้านล่างเวที สายตาของเยี่ยหวันหวั่นมองผ่านกลุ่มคนไป จดจ้องที่หญิงสาวแต่เพียงผู้เดียว
พอนึกย้อนไปถึงจุดจบของเจียงเยียนหรานในชาติก่อน เทียบกับหญิงสาวที่กำลังเปล่งประกายอยู่ตรงหน้า หัวใจของเยี่ยหวันหวั่นก็เต็มไปด้วยความตื้นตัน
มอบความอบอุ่นให้ผู้อื่น ก็เท่ากับมอบความอบอุ่นให้ตัวเองเหมือนกัน
เจียงเยียนหรานมองคนที่อยู่ด้านล่าง ขอบตาร้อนผ่าวเล็กน้อย
เจียงเยียนหรานก้มตัว ค้อมกายอย่างสวยงาม จากนั้นก็สูดหายใจลึกๆ เงยหน้าแล้วจับไมค์พูด
ก่อนอื่น ขอขอบคุณคณะกรรมการและฝ่ายผู้จัดที่มอบโอกาสนี้ให้ดิฉัน ขอขอบคุณผู้กำกับเผิงที่ไว้วางใจให้ดิฉันรับบทนี้ ขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกคนในกองถ่าย ขอบคุณที่ทุกคนพยายามด้วยกันมาในตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา…
ด้านล่างเวที เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งฮอลล์
เจียงเยียนหรานเลือกพูดเปิดบทอย่างเหมาะสม ด้วยการขอบคุณทุกคน
เจียงเยียนหรานชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าหนักแน่น นอกจากนี้ ดิฉันยังต้องขอบคุณคนคนหนึ่งเป็นพิเศษ
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อนักแสดงได้รับรางวัลแล้วกล่าวว่าต้องการขอบคุณคนคนหนึ่งเป็นพิเศษ หากไม่ใช่เรื่องซุบซิบ ก็เป็นอะไรที่เป็นประเด็นได้
ฉะนั้น ทุกคนจึงรอฟังเจียงเยียนหรานอย่างใจจดใจจ่อ
สายตาของเจียงเยียนหรานเต็มไปด้วยแววอบอุ่นและซาบซึ้งใจ ถ้าหากไม่มีคนคนนี้ ก็คงไม่มีเจียงเยียนหรานที่ยืนอยู่ตรงนี้
————————————————————————————-
บทที่ 1166 ตะลึงทั้งงาน
พอได้ยินอย่างนี้ ผู้คนด้านล่างก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน
หรือว่าคนที่เจียงเยียนหรานจะขอบคุณ เป็นรุ่นพี่หรือไม่ก็อาจารย์ที่อยู่ในวงการ?
พวกเขานึกแล้ว นักแสดงหน้าใหม่คนหนึ่งสามารถคว้ารางวัลราชินีจอเงินได้ จะต้องมียอดฝีมืออยู่เบื้องหลังแน่นอน!
แค่ด่านแรกที่ต้องเจอผู้กำกับเผิง ก็ไม่ใช่ว่าจะผ่านไปได้ง่ายๆ อยู่แล้ว…
ต้องบอกก่อนว่า แค่ตามหานางเอก ผู้กำกับเผิงก็ใช้เวลาไปนานถึงครึ่งปี เขามีเงื่อนไขเยอะจนน่าปวดหัวเลยทีเดียว
นักแสดงใหญ่หลายคนยังออดิชั่นบทนี้ไม่ผ่านเลย แต่นักแสดงหน้าใหม่อย่างเจียงเยียนหรานกลับทดสอบหน้ากล้องผ่าน ถ้าบอกว่าไม่มีใครคอยชี้แนะ ไม่มีใครช่วยปูทางให้ ใครจะไปเชื่อ?
นาทีนี้ ทุกคนต่างจ้องเจียงเยียนหรานด้วยความประหลาดใจระคนอารมณ์อยากซุบซิบ พวกเขาอยากรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเจียงเยียนหรานเป็นใครกันแน่…
เธอเป็น…เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน แล้วก็เป็นผู้มีพระคุณ เป็นครูของฉัน
เธอมอบชีวิตให้ฉันถึงสองครั้ง ครั้งแรก เธอฉุดฉันขึ้นมาจากโคลนตม ครั้งที่สอง เธอมอบความฝันให้ฉัน…
ฉันคิดมาโดยตลอด ว่าฉันโชคดีกว่าคนอื่นมาก เพราะฉันมีเธออยู่ ทำให้ฉันก้าวข้ามผ่านเส้นทางผิดๆ พวกนั้นมาได้
เธอสอนให้ฉันมั่นใจในตัวเอง บอกฉันว่าฉันเหมาะกับการแสดงละคร มากกว่าทำงานเบื้องหลัง เธอสอนทักษะการแสดงทุกอย่างให้ฉัน ทำให้ตั้งใจเรียน สั่งสมความสามารถ
รวมไปถึง ครั้งนี้ที่ฉันไปออดิชั่นเรื่อง ‘ดอกมะลิ’ ของผู้กำกับเผิง เธอก็เป็นคนคอยเชียร์ฉันตลอด เธอบอกฉันว่าบทบาทนี้เหมาะกับฉันมาก มอบความกล้าในการเริ่มก้าวแรกให้กับฉัน
เธออดหลับอดนอนวิเคราะห์สคริปต์ ต่อบทเป็นเพื่อนฉัน ไปออดิชั่นกับฉัน ช่วยฉันแก้ไขปัญหาทุกอย่าง…
……
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินทุกประโยคของเจียงเยียนหราน ใบหน้าดูอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในที่สุดพิธีกรก็ทนไม่ไหว ถามคำถามที่ทุกคนต่างก็อยากรู้ ดูเหมือนว่าคนที่คุณเจียงเยียนหรานต้องการจะขอบคุณ มีอิทธิพลต่อชีวิตคุณอย่างมากเลยนะคะ? แม้แต่หนังของผู้กำกับเผิง เขาก็เป็นคนช่วยเลือกเหรอคะ?
เจียงเยียนหรานกล่าวว่า ใช่ค่ะ ไม่มีเธอ ก็ไม่มีฉันในวันนี้
พิธีกรเอ่ย ไม่ทราบว่าคนที่คุณกล่าวถึง เป็นใครกันแน่คะ?
ประกายน้ำตาพาดผ่านดวงตาของหญิงสาว เจียงเยียนหรานหันไปมองทางเยี่ยหวันหวั่น ก่อนหน้านี้ ฉันไม่เคยเอ่ยถึงชื่อของเธอเลยสักครั้ง เพราะฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ แต่ตอนนี้ ในที่สุดฉันก็…
ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ บนเวทีนี้ ถือถ้วยรางวัลนี้ เพื่อบอกทุกคนว่า…
ท่ามกลางสายตาอันร้อนแรงของทุกคนที่อยู่ด้านล่างเวที…
เจียงเยียนหรานเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเล็กน้อย
เธอก็คือผู้จัดการของฉัน…เยี่ยไป๋ค่ะ!
……
เขาก็คือผู้จัดการของฉัน เยี่ยไป๋…
เยี่ยไป๋
คำพูดของเจียงเยียนหราน ดังก้องไปทั่วฮอลล์!
บนเวที ดวงหน้างามของหญิงสาวรื้นไปด้วยน้ำตา เธอมองลงไปที่โซนนักแสดงด้านล่างเวทีด้วยแววตาซาบซึ้ง
เหล่าช่างภาพชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ตั้งสติได้ รีบหันกล้องไปทางเยี่ยไป๋ทันที
ทั่วทั้งฮอลล์เงียบกริบไปหลายวินาที
หลังจากนั้น บรรดานักแสดง แขกเหรื่อต่างพากันยืนขึ้นด้วยความตกตะลึง ไม่สนภาพลักษณ์อะไรอีก หลายๆ คนหันไปมองที่นั่งด้านหลัง…
เยี่ยไป๋?
เจียงเยียนหรานมีสังกัดแล้ว และผู้จัดการของเธอก็คือเยี่ยไป๋!
อดีตรองผู้จัดการของกวงเย่ามีเดีย หรือก็คือผู้อำนวยการคนปัจจุบันของจูเสินสือไต้ เยี่ยไป๋!
เยี่ยไป๋ ผู้จัดการของลั่วเฉินกับกงซวี่ที่เพิ่งขึ้นรับรางวัลราชาจอเงินเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา?!
……………………………..