หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 159 งานเลี้ยงยามค่ำคืนที่จบลงไม่สวยนัก (2)

หวนคืนชะตาแค้น

“​ตัว​กาลกิณี​มา​แล้ว​”​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​เอ่ย​พลาง​บุ้ยปาก​ ​พอ​มู่​ชิง​อี​หันกลับ​ไป​ก็​เห็น​เว​่​ยอู​๋​จี้​กำลัง​ประคอง​เชียน​หลิง​เดิน​มาทาง​นี้​ ​อีก​อย่าง​ครั้น​เห็น​แววตา​ของ​เชียน​หลิง​ก็​รู้​เลย​ว่า​กำลัง​มอง​มาทาง​พวก​นาง​อยู่

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ลาก​ตัว​มู่​ชิง​อี​เดิน​เบียด​ขึ้นไป​ข้างหน้า​พลาง​หันมา​อธิบาย​ว่า​ ​“​ท่าน​พี่​สิบเอ็ด​บอกว่า​อยู่​ให้​ห่าง​หญิง​ขี้โรค​อ่อนแอ​นั่น​ไว้​หน่อย​ ​หญิง​ผู้​นั้น​ตัวปัญหา​เชียว​ล่ะ​”

“​ตัวปัญหา​?​”​ ​มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​อย่างประหลาดใจ​ ​นาง​ประหลาดใจ​กับ​ความคิด​ที่​เกอ​ซู​ฮั่น​มีต​่อ​เชียน​หลิง​อยู่​บ้าง

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ ​“​ขี้โรค​ขนาด​นั้น​ยัง​เพ่นพ่าน​ไป​ทั่ว​แล้ว​จะ​ไม่ใช่​ตัวปัญหา​ได้​เช่นไร​ ​หาก​คุย​กับ​เจ้า​อยู่ดีๆ​ ​แล้ว​กระอัก​เลือด​ขึ้น​มา​จะ​ทำ​เช่นไร​เล่า​ ​เว​่​ยอู​๋​จี้​ต้องโทษ​ว่า​เรา​ทำให้​นาง​กระอัก​เลือด​แน่​ ​แล้ว​ถ้า​เกิด​จู่ๆ​ ​นาง​เกิด​เป็นลม​ขึ้น​มา​จะ​ทำ​เช่นไร​ ​คนอื่น​ต้อง​นึก​ว่า​เรา​รังแก​นาง​แน่​ ​ไม่สน​ล่ะ​ ​พวกเรา​หนี​กัน​ก่อน​เถิด​”

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​เห็นด้วย​ ​“​เข้าใจ​แล้ว​”

ถึงแม้​ท้องฟ้า​จะ​มืดมิด​แต่​สอง​สาวก​็​จับมือ​กัน​เบียด​ฝ่า​ฝูงชน​ที่​กำลัง​อยู่​ใน​งานเลี้ยง​ออกมา​ได้​อย่าง​สบาย​ๆ​ ​ทว่า​เว​่​ยอู​๋​จี้​ที่​ประคอง​เชียน​หลิง​ร่างกาย​อ่อนแอ​ขี้โรค​กลับ​ไม่ได้​สะดวกสบาย​ขนาด​นั้น​ ​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ว่า​เว​่​ยอู​๋​จี้​ไป​ปรากฏตัว​ที่ใด​ก็​ต้อง​ตกเป็น​เป้าสายตา​ของ​ทุกคน​เลย​ ​ลำพัง​แค่​คนที​่​เขา​ประคอง​อยู่​ก็​ทำให้​เขา​ไม่กล้า​เบียด​ฝ่า​ฝูงชน​ตามใจชอบ​แล้ว​ ​ดังนั้น​เพิ่งจะ​เดิน​มาทาง​พวก​นาง​ได้​ไม่​กี่​ก้าว​ก็​เห็น​พวก​นาง​ทั้งสอง​จับมือ​วิ่ง​จาก​ลาน​ชม​การแสดง​ทาง​ฝั่ง​นี้​ไป​อีก​ฝั่ง​เต็ม​สอง​ตา

“​เหมือนว่า​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​จะ​ไม่​ค่อย​ชอบ​ข้า​เท่าไร​”​ ​ครั้น​เห็น​เงา​แผ่น​หลัง​ของ​แม่นาง​ทั้งสอง​เดิน​ไป​ไกล​อย่าง​เริงร่า​ ​เชียน​หลิง​ก็​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ปวดใจ

เว​่​ยอู​๋​จี้​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​ก็​แค่​องค์​หญิง​ที่​เพิ่ง​ถูก​แต่งตั้ง​เท่านั้น​ ​ไม่ต้อง​ไป​สนใจ​นาง​หรอก​”​ ​เชียน​หลิง​หันไป​แล้ว​มอง​เว​่​ยอู​๋​จี้​อย่าง​อ่อนโยน​พร้อม​เอ่ย​ ​“​แต่​…​ข้า​ชอบ​นาง​มาก​นี่​นา​ ​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​…​เห็น​แล้ว​ยิ่ง​ทำให้​อยากรู้​จัก​นาง​ ​นาง​ไม่​เหมือน​หญิง​คนอื่นๆ​ ​สักนิด​”

เว​่​ยอู​๋​จี้​ถอนหายใจ​อย่าง​ระอา​ ​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​เห็นใจ​ว่า​ ​“​วันหลัง​ข้า​ค่อย​พา​เจ้า​ไป​เยี่ยม​นาง​ที่​จวน​ซู่​เฉิง​โหวดี​หรือไม่​เล่า​”

“​แล้ว​…​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​จะ​ยอม​เจอ​ข้า​หรือไม่​ ​ข้า​รู้สึก​ว่านาง​ไม่​ค่อย​ชอบ​ข้า​เท่าไร​”

“​ยอม​อยู่​แล้ว​ ​ไม่ต้อง​กังวล​ไป​หรอก​ หืม​?​”

“​อืม​ ​อู๋​จี้​ ​เจ้า​ดี​กับ​ข้า​ที่สุด​แล้ว​”

“​ถ้า​ข้า​ไม่​ทำดี​กับ​เจ้า​ ​แล้ว​ข้า​จะ​ไป​ทำดี​กับ​ใคร​ได้​เล่า​”​ ​เว​่​ยอู​๋​จี้​เอ่ย​เสียงอ่อน​โยน​แล้ว​รั้ง​เชียน​หลิง​เข้ามา​ใน​อ้อมอก​พร้อม​กระชับ​เสื้อคลุม​ผ้า​เนื้อ​บาง​บน​เรือนร่าง​นาง​อย่างระมัดระวัง​ ​จากนั้น​ก็​แหงนหน้า​ดู​พลุ​ที่​เบ่งบาน​ประดับประดา​เต็ม​ท้องฟ้า​ ​ใบหน้า​งดงาม​แฝง​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​จางๆ​ ​เหม่อมอง​บน​ท้องฟ้า​แต่​รอยยิ้ม​เจือ​ความอ่อนโยน​นั้น​ปรากฏ​ขึ้น​เพียง​แวบเดียว​เท่านั้น​ ​ทว่า​ชั่ว​วินาที​นั้น​กลับ​งดงาม​สะกด​ใจ​กลบทุ​กค​นร​อบ​ข้าง​จน​มิด

“​ไอ​๊​หยา​ ​นี่​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​มิใช่​หรือ​ ​พาสา​วงา​มมา​ด้วย​หรือ​นี่​”​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ลาก​ตัว​มู่​ชิง​อี​พลาง​มอง​พลุ​บน​ท้องฟ้า​ด้วย​ท่าที​ใคร่รู้​ไป​ด้วย​ ​พลุ​ที่​งดงาม​ยิ่งใหญ่​เช่นนี้​ถึงแม้​จะ​อยู่​ที่​เป่ย​ฮั่น​ ​กระทั่ง​ใน​ฐานะจ​วิ​้น​จู่​อย่าง​นาง​ก็​ยัง​ไม่เคย​เห็น​มาก​่อน​ ​ ​ขณะที่​ชม​อย่าง​มีความสุข​ด้านหลัง​ก็​มีเสียง​เหนื่อยหน่าย​ดัง​แว่ว​ขึ้น​มา

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​หมุนตัว​ไป​ด้วย​สีหน้า​บึ้งตึง​แล้ว​ถลึงตา​มอง​คน​ด้านหลัง​แรง​ๆ​ ​ไป​ที​ ​ภายใต้​พลุ​อัน​งดงาม​และ​ท่ามกลาง​ฝูงชน​พลุกพล่าน​ ​ถึงแม้​จะ​เป็น​สถานที่​เสียงดัง​วุ่นวาย​อึกทึกครึกโครม​ ​แต่​ไม่ว่า​เขา​จะ​อยู่​ที่ใด​กลับ​ชวน​ให้​รู้สึก​สงบ​และ​เวิ้งว้าง​โดยไม่รู้ตัว​ ​หรง​จิ​่น​ผู้​นี้​มัก​ทำให้​อารมณ์​ของ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ซับซ้อน​ ​แง่​หนึ่ง​นาง​รู้สึก​ว่า​ตน​ชอบ​เขา​ ​ทุกครั้งที่​เห็น​ใบหน้า​หล่อเหลา​นั่น​ก็​อด​ทำให้​นาง​หน้าแดง​ใจสั่น​ไม่ได้​ ​แต่​อีก​แง่​หนึ่ง​แค่​หรง​จิ​่น​เปิดปาก​พูด​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​คิด​อยาก​จะ​ตบหน้า​เขา​สัก​ฉาด​ ​บางครั้ง​นาง​ยัง​อด​จินตนาการ​ไม่ได้​ว่า​หาก​สามารถ​ถอด​ใบหน้า​อัน​งดงาม​นั้น​กลับ​เป่ย​ฮั่น​ไป​ด้วย​ได้​จะ​ดี​ขนาด​ไหน​นะ​ ​วันหลัง​คง​ไม่ต้อง​มา​เผชิญหน้า​กับ​ชาย​ที่​น่ารังเกียจ​ปาก​ไม่ดี​คน​นี้​อีก​!

“​เกี้ยว​สาวงาม​มา​ได้​อีก​คน​แล้ว​หรือ​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ ​สตรี​อย่าง​เจ้า​ลงมือ​ว่องไว​กว่า​ข้า​ทุกครั้ง​เลย​ ​เจ้า​ไม่อาย​บ้าง​หรือ​ไร​”​ ​หรง​จิ​่​นม​อง​มู่​ชิง​อี​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เหมือน​ยิ้ม​แต่​ไม่​ยิ้ม

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ยิ้ม​เย็นชา​ ​“​องค์​ชาย​อยากได้​สาวงาม​ ​เหตุใด​ไม่​กลับ​ห้อง​ไปหา​กระจก​มาส​่​อง​ตัวเอง​แทน​เล่า​เพ​คะ​”

หรง​จิ​่น​ไม่​โกรธ​สักนิด​แต่กลับ​ฉีก​ยิ้ม​กว้าง​อย่าง​มีความสุข​มากกว่า​เดิม​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​ยอมรับ​ว่า​หน้าตา​ดีสู​้​ข้า​ไม่ได้​อย่างนั้น​หรือ​ ​เช่นนั้น​ยัง​ไม่​รีบ​ส่งตัว​สาวงาม​มา​ให้​ข้า​อีก​ ​อย่า​ทำให้​สาวงาม​ของ​ข้า​ต้อง​ตกใจ​ ยั​ยอั​ปลักษณ​์​!​”

ใบหน้า​เรียว​สวย​ของ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​บูดบึ้ง​ขึ้น​มาชั​่ว​ขณะ​ ​ไม่ว่า​มอง​จาก​ความงาม​จาก​มุม​ไหน​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ก็​ถือว่า​เป็นสาว​งาม​ลำดับ​ต้นๆ​ ​ถึงแม้​เทียบ​กับ​สาวงาม​ล่ม​เมือง​เหล่านั้น​อาจจะ​ห่าง​ชั้น​อยู่​สักหน่อย​ ​แต่​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​คิด​ว่า​ตน​ก็​ยังอยู่​ใน​ระดับ​ปกติ​และ​ไม่ได้​ห่าง​ชั้น​มาก​ขนาด​นั้น​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​มี​คน​กล้า​ตั้ง​ข้อกังขา​กับ​รูปโฉม​ของ​นาง​ ​เวลานี้​ต่อให้​เขา​จะ​เป็น​หนุ่ม​รูปงาม​จน​ทำให้​นาง​หวั่นไหว​หรือ​องค์​ชาย​ผู้สูงศักดิ์​มีบุ​คลิก​เฉพาะตัว​อะไร​เหล่านั้น​มัน​ก็ได้​มลาย​หาย​สิ้น​ไป​หมด​แล้ว​ ​เวลานี้​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​เห็น​เขา​เป็น​เพียง​ศัตรู​บน​โลก​นี้​และ​เป็น​คู่แค้น​คู่อาฆาต​ที่อยู่​ร่วม​โลก​กัน​ไม่ได้​!

“​องค์​ชาย​เก้า​!​ ​หม่อมฉัน​อยาก​ดวล​กับ​ท่าน​!​”​ ​โชคดี​ที่​ไม่มี​ดาบ​ใน​มือ​ ​หาก​เมื่อ​ครู่​หรง​จิ​่​นบั​งอาจ​ทำตัว​สามหาว​กับ​นางใน​พระตำหนัก​ ​นาง​ก็​กล้า​ใช้​ดาบ​แทง​เขา​ไป​สักที​เช่นกัน

องค์​ชาย​เก้า​เอ่ย​เสียง​เนิบนาบ​ว่า​ ​“​ตามใจ​เถิด​ ​ปล่อยตัว​สาวงาม​ไป​ก่อน​ ​ขา​แขน​กำยำ​ของยั​ยอั​ปลักษณ​์​อย่าง​เจ้า​อย่า​ได้​ใช้​ทำร้าย​นาง​เป็นอันขาด​ ​ข้า​คง​ปวดใจ​น่าดู​”

“​หรง​จิ​่น​!​”​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​โกรธ​จน​เจ็บ​ไป​ทั้ง​หัวใจ​หมด​แล้ว​ ​ครั้น​เห็น​ว่า​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ใกล้​ระเบิดอารมณ์​ออกมา​เต็มที​ ​มู่​ชิง​อี​เลย​ตวัด​สายตา​ตักเตือน​ไป​แล้ว​ดึง​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​มา​พร้อม​อมยิ้ม​กล่าว​ ​“​อย่า​โกรธ​ไป​เลย​ ​หาก​เทียบ​กับ​องค์​ชาย​เก้า​แล้ว​พวกเรา​ก็​เป็นสาว​อัปลักษณ์​หมด​แหละ​”​

หาก​เปรียบกับ​ใบหน้า​ของ​หรง​จิ​่น​แล้ว​สาว​ทั่วทั้ง​ใต้​หล้า​คงมี​ไม่​กี่​คนที​่​จะ​กล้า​พูดว่า​ตน​เป็นสาว​งาม​ ​ไม่ใช่​ว่า​หรง​จิ​่น​หน้าตา​เหมือน​สตรี​หรือ​เขา​ไม่ได้​หน้าตา​หล่อเหลา​วิเศษ​อะไร​ขนาด​นั้น​ ​มู่​ชิง​อี​เคย​เห็น​ตอน​เขา​ทำ​หน้า​ถมึงทึง​ซึ่ง​ขับ​ให้​เขา​เหมือน​ปลาย​มีด​อัน​แหลมคม​ก็​ไม่​ปาน​ ​แต่​ไม่ว่า​จะ​มอง​เช่นใด​หรง​จิ​่​นก​็​ชวน​ให้​รู้สึก​ว่า​เขา​สมบูรณ์แบบ​ไร้​ที่​ติ​ ​แน่นอน​ว่า​เบื้องบน​ย่อม​ไม่มีทาง​ให้​คน​ๆ​ ​หนึ่ง​เกิด​มาสม​บูรณ์​แบบ​จน​ไร้​ที่​ติ​ขนาด​นี้​หรอก​ ​นี่​จึง​เป็นผล​ให้​นิสัย​ของ​เขา​แย่​ไป​ถึง​ไหน​ไม่รู้​แล้ว

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ชะงัก​ไป​แล้ว​กวาดตา​มอง​หรง​จิ​่​นที​่​ไม่มี​ทีท่า​จะ​แสดง​อารมณ์​เดือดดาล​สักที​เลย​พยักหน้า​ยิ้ม​ตาหยี​กล่าว​ ​“​นั่นสิ​ ​ชิง​อี​พูด​ถูก​ ​แพ้​ให้​…​องค์​ชาย​เก้า​ก็​ไม่ได้​น่าอาย​อะไร​ ​ต่อให้​องค์​ชาย​เก้า​จะ​ว่า​ข้า​อัปลักษณ์​ ​ไม่แน่​ข้า​อาจจะ​สวย​เป็นอัน​สอง​หรือ​อันดับ​สาม​ใน​ใต้​หล้า​ก็ได้​ ​ใช่​หรือไม่​ชิง​อี​”

เพื่อ​เอาใจ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​นาง​ก็​ต้อง​ตอบ​ว่า​ ​“​ใช่​แล้ว​”​ ​อีก​อย่าง​มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​ไม่​อยาก​เห็น​สาวน้อย​ดี​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​ต้อง​ถูก​คนเลว​ๆ​ ​ปากพล่อย​อย่าง​หรง​จิ​่น​ยั่วโมโห​จน​ร้องไห้​ใน​งานเลี้ยง​เช่นนี้​เลย​จริงๆ

“​น้อง​เก้า​”

“​พี่​เก้า​”

ภายใต้​แสงไฟ​สว่าง​วูบวาบ​เป็นพักๆ​ ​กลับ​ปรากฏ​สีหน้า​ลังเล​ชั่งใจ​ของ​องค์​ชาย​เก้า​ ​เพราะ​เขา​กำลัง​ไตร่ตรอง​ว่า​จะ​โกรธ​ดี​หรือไม่​ทว่า​กลับ​ถูก​สอง​เสียง​ที่​กำลัง​เรียก​เขา​จาก​ด้านหลัง​แทรก​มา​ขัดจังหวะ​เสียก่อน​ ​หรง​เหยี​่​ยน​พา​องค์​หญิง​ไหว​หยาง​ที่​ตาแดง​เล็กน้อย​มาด​้วย​ ​นัยน์ตา​ของ​หรง​จิ​่น​ฉายแวว​รำคาญใจ​พาด​ผ่าน​แวบ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หันหน้า​ไป​มอง​พวกเขา​สอง​คน​แล้ว​กล่าว​ ​“​มี​อัน​ใด​หรือ​”​ ​หรง​เหยี​่​ยน​เหลือบ​ไป​เห็น​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​และ​มู่​ชิง​อี​จับมือ​กัน​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เปล่า​หรอก​ ​ไม่​เจอ​น้อง​เก้า​เลย​มาตา​มหา​ ​น้อง​เก้า​สุขภาพ​ไม่ดี​ต้อง​ระวัง​หน่อย​”

หรง​จิ​่น​แค่น​เสียง​เบา​แล้ว​พูดจา​คลุมเครือ​ว่า​ ​“​คง​ลำบาก​แย่​ที่​ต้อง​เป็นห่วง​ ​หาก​พี่​สี่​ว่าง​นัก​เป็นห่วง​น้อง​หก​ไป​ดีกว่า​ ​อับอายขายหน้า​จริงๆ​ ​ข้า​ไม่กล้า​ออก​ไป​เจอ​ใคร​แล้ว​ ​โชคดี​ที่​ที่นี่​ไม่ใช่​แคว้น​เย​่ว​์​ของ​เรา​ ​ถึงอย่างไร​เสียอีก​ไม่​กี่​วัน​ข้า​ก็​ต้อง​กลับ​แล้ว​ ​หาก​อยู่​ที่​แคว้น​เย​่ว​์​ล่ะ​ก็​ ​ข้า​คง​ไม่ต้อง​ออก​ตำหนัก​ไป​เจอ​หน้า​ใคร​แล้ว​”

ตอนต่อไป

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท