หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 177 คำขอร้องของอานซีจวิ้นอ๋อง (4)

หวนคืนชะตาแค้น

ยาม​ที่​เว​่​ยอู​๋​จี้​เข้ามา​ก็​เห็น​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ดึง​มู่​ชิง​ไว้​พลาง​ยิ้ม​เริงร่า​คุย​กัน​อย่าง​ออกรส​ ​ถึงแม้​มู่​ชิง​อี​จะ​ไม่ได้​ดู​ตื่นเต้น​เท่า​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​แต่​ใบหน้า​ที่​เรียบ​เฉย​กลับ​ผุด​รอยยิ้ม​จริงใจ​ออกมา​ทำให้​รู้สึก​ว่านา​งคุ​ยกับ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​มีความสุข​กว่า​มาก​ ​ในทางกลับกัน​เชียน​หลิง​กลับ​ถูก​ปล่อยทิ้ง​ไว้​อย่าง​เดียวดาย​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​เบียด​เข้าไป​แทรก​กลาง​ระหว่าง​มู่​ชิง​อี​และ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ไม่ได้​เลย​ ​ครั้น​เห็น​เว​่​ยอู​๋​จี้​ก้าว​เข้ามา​นาง​จึง​ทำได้​แค่​มอง​เขา​อย่างน้อยใจ​ ​“​อู๋​จี้​…​”

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​หันไป​มอง​เว​่​ยอู​๋​จี้​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​ยิ้ม​พลาง​เลิก​คิ้ว​กล่าว​ ​“​คุณชาย​เว​่ย​ช่าง​เอาใจใส่​นัก​ ​แม่นาง​เชียน​หลิง​แวะ​มา​เยี่ยม​คุณชาย​เว​่ย​ยัง​คอย​ตามติด​ปกป้อง​ดูแล​ไม่​ห่าง​ ​ข้า​อิจฉา​นัก​”​ ​น้ำเสียง​ที่​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​เอ่ย​กับ​เว​่​ยอู​๋​จี้​ฟัง​ดู​ไม่ดี​เท่าไร​นัก​ ​เดิมที​นาง​ยัง​รู้สึก​ดี​กับ​เว​่​ยอู​๋​จี้​อยู่​บ้าง​ ​ถึงอย่างไร​เสีย​เว​่​ยอู​๋​จี้​ก็​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​มาก​คน​หนึ่ง​ ​แต่​รสนิยม​ความงาม​ช่าง​แตกต่าง​กับ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​มาก​จริงๆ​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ย่อม​ไม่มีทาง​จงใจ​หาเรื่อง​หญิงสาว​ร่างกาย​อ่อนแอ​คน​หนึ่ง​อยู่​แล้วแต่​อาจจะ​พาล​โกรธ​เว​่​ยอู​๋​จี้​ไป​ด้วย​มากกว่า​ ​ฟัง​ดูแล​้​วอาจ​จะ​ไร้เหตุผล​แต่​ใคร​ใช้​ให้​นาง​เป็นจ​วิ​้น​จู่​และ​เป็น​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​กัน​เล่า

ทว่า​เว​่​ยอู​๋​จี้​กลับ​ไม่ได้​โกรธเคือง​ท่าที​ไร้มารยาท​ของ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​เลย​สักนิด​ ​เขา​เพียง​มอง​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ด้วย​สายตา​เย็นชา​แวบ​หนึ่ง​ ​แล้ว​มอง​เชียน​หลิง​พลาง​เอ่ย​ ​“​หลิง​เอ๋อร​์​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​”

เชียน​หลิง​เค้น​รอยยิ้ม​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​เปล่า​”

แต่​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​กลับ​ไม่รู้​ว่า​อะไร​คือ​ความ​ไว้หน้า​เลย​สักนิด​ ​นาง​ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ ​“​คุณชาย​เว​่ย​ ​ข้า​กับ​ชิง​อี​จะ​ไป​เดินเที่ยว​กัน​ ​พวก​เจ้า​จะ​ไป​ด้วยกัน​หรือไม่​เล่า​ ​พอดี​เลย​มี​คน​มาช​่วย​เรา​ถือ​ของ​เพิ่ม​ด้วย​ ​ชิง​อี​ว่า​ไหม​ล่ะ​”

มู่​ชิง​อีก​้​มห​น้า​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​เกรง​ก็​แต่​พวกเรา​จะ​รบกวน​คุณชาย​เว​่​ยมา​ช่วย​ถือ​ของเสีย​มากกว่า​”

“​ไม่​หรอก​มั้ง​ ​คุณชาย​เว​่ย​ร่ำรวย​มี​กิจการ​ใหญ่โต​ ​ไม่แน่​อาจ​จ่าย​เงิน​แทน​เรา​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​แม่นาง​เชียน​หลิง​เจ้า​คิด​เช่นนั้น​หรือไม่​เล่า​”​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ฉีก​ยิ้มแป้น​ ​เชียน​หลิง​ฝืนยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ข้า​รู้สึก​ไม่สบาย​นิดหน่อย​ ​ขอตัว​ดีกว่า​เพ​คะ​ จ​วิ​้น​จู่​ไป​กับ​องค์​หญิง​เถิด​”

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ย่อม​หวัง​ให้​เป็น​เช่นนั้น​อยู่​แล้ว​เลย​อมยิ้ม​โบกมือ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ช่าง​น่าเสียดาย​นัก​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​ไม่​ขอ​อยู่​เป็นเพื่อน​แม่นาง​เชียน​หลิง​ต่อ​แล้วกัน​”

ครั้น​เห็น​เหมือนว่า​หลิง​เชียน​ทำที​ดึง​เว​่​ยอู​๋​จี้​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก​แล้ว​ ​พวก​นาง​ก็​สบตา​กัน​แล้ว​ปล่อย​เสียงหัวเราะ​ออกมา​อย่าง​กลั้น​ไหว​ไม่อยู่​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ฟุบ​ตัว​หัวเราะ​อยู่​บน​โต๊ะ​จน​ตะกาย​ลุกขึ้น​มา​ไม่ไหว​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​ถาม​พลาง​ปาด​น้ำตา​ว่า​ ​“​นาง​คอย​กันท่า​ไม่​ให้​ใคร​เข้าใกล้​คุณชาย​เว​่ย​ราวกับ​ป้องกัน​ขโมย​ขนาด​นั้น​ไม่​เหนื่อย​บ้าง​หรือ​อย่างไร​”​ ​มู่​ชิง​อี​ปิดปาก​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​ใคร​จะ​ไปรู​้​เล่า​”

พอส​่ง​ตัว​เว​่​ยอู​๋​จี้​และ​เชียน​หลิง​กลับ​ไป​แล้ว​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ตัดสินใจ​ออก​ไปเที่ยว​กับ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ ​ถึงแม้​การตาย​ของ​มู่​หลิง​จะ​ไม่เหมาะสม​กับ​เวลา​สัก​เท่าไร​เลย​จัดงาน​ศพ​ใหญ่โต​อะไร​มาก​ไม่​ค่อย​ได้​ ​แต่​เรื่อง​ที่​ควร​ทำ​ใน​จวน​ก็​ล้วน​ทำ​กัน​หมด​แล้ว​ ​มู่​ชิง​อี​ไม่สน​ใจเสียง​ร้องไห้​คร่ำครวญ​ใน​จวน​เลย​สักนิด​ ​และ​ก็​คร้าน​ที่จะ​อยู่​ใน​จวน​ด้วย

พูดถึง​ครั้งสุดท้าย​ที่นาง​ได้​เดินเที่ยว​เล่น​อย่าง​มีอิสระ​เช่นนี้​น่าจะเป็น​เมื่อ​สี่​กว่า​ปีก่อน​ ​หลังจาก​ตระกูล​กู้​ถูก​ทำร้าย​ ​กระทั่ง​อิสระ​ยัง​ไม่มี​ยิ่ง​ไม่ต้อง​คิดถึง​เรื่อง​เดินเที่ยว​อะไร​ทำนอง​นี้​เลย​ ​หลังจาก​กลายเป็น​มู่​ชิง​อีนา​งก​็​ยัง​ไม่เคย​เดินเที่ยว​เล่น​เป็นเพื่อน​ใคร​สัก​คน​อย่าง​อิสระ​ผ่อนคลาย​โดยที่​ใน​ใจ​ไม่ต้อง​คิด​ฟุ้งซ่าน​เรื่อง​ใดๆ​ ​เช่นนี้​มาก​่อน​เช่นกัน

ถึงแม้​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​จะ​มา​เมืองหลวง​แคว้น​หวา​ได้​หลาย​วัน​แล้วแต่​กลับ​ยังคง​มีนิ​สัย​เห็น​อะไร​ก็​ใคร่รู้​ไป​หมด​เหมือนเช่น​เคย​ ​นาง​ลาก​ตัว​มู่​ชิง​อี​ฝ่า​ฝูงชน​ที่​พลุกพล่าน​ ​ครั้น​เห็น​ร้านค้า​สวย​ๆ​ ​ก็​ไม่ลืม​ลาก​ตัวนาง​แวะ​เข้าไป​ดูด​้วย​ ​ผ่าน​ไป​สักพัก​ใน​มือ​ของ​องครักษ์​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​ของ​พวก​นาง​สอง​คน​ด้านหลัง​ก็​หอบหิ้ว​ของ​พะรุงพะรัง​เต็มไปหมด​ ​ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​จะ​เดิน​จน​เหนื่อย​ถึง​ได้​หา​โรงน้ำชา​สัก​แห่ง​ได้​พัก​เท้า​ตามอัธยาศัย​บ้าง​ ​พอ​เห็น​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ทำที​ว่า​หลัง​พักเหนื่อย​เสร็จ​จะ​เที่ยว​ต่อ​อีก​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ลอบ​ปาดเหงื่อ​ใน​ความ​กระปรี้กระเปร่า​ของ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​อย่าง​อด​ไม่ได้

ใน​โรงน้ำชา​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ฟุบ​ลง​ข้าง​ขอบ​โต๊ะ​พลาง​ใช้​ดวงตา​จับจ้อง​ท่วงท่า​ชงชา​อัน​สง่างาม​ของ​มู่​ชิง​อี​ด้วย​ท่าที​ตะลึงงัน​ ​ถึงแม้นาง​จะ​ไม่สน​ใจ​น้ำชา​ที่​จืดชืด​ไร้รสชาติ​เช่นนี้​นัก​ ​แต่​ท่วงท่า​การชงชา​ของ​สหาย​คน​ใหม่​กลับ​งดงาม​นัก​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​แอบ​นึก​เสียดาย​อยู่​บ้าง​ที่​พี่​สิบเอ็ด​ของ​ตน​เกี้ยวพาราสี​สหาย​ผู้​นี้​ไม่​ติด

ครั้น​ริน​ชา​แก้ว​หนึ่ง​วาง​บน​ขอบ​โต๊ะ​ตรงหน้า​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​แล้ว​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​ ​เมื่อ​ครู่​ยัง​เริงร่า​คึกคัก​อยู่​เลย​”

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ถอนหายใจ​อย่าง​เหนื่อยหน่าย​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ผ่าน​ไป​อีก​ไม่​กี่​วัน​พวกเรา​ก็​ต้อง​กลับ​แล้ว​ ​ชิง​อี​ ​เจ้า​ไม่​ไป​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​กับ​พี่​สิบเอ็ด​ของ​ข้า​จริงๆ​ ​หรือ​ ​เขา​ต้อง​คิดถึง​เจ้า​แน่ๆ​”​ ​มู่​ชิง​อี​อมยิ้ม​พลาง​มอง​นาง​อย่าง​ระอา​ใจ​ ​“​หาก​เจ้า​กับ​เลี่ย​อ๋อง​ไม่รังเกียจ​ยินดี​รับ​ข้า​เป็น​สหาย​ข้า​ก็ดี​ใจมาก​แล้ว​ ​ส่วน​เรื่อง​อื่น​…​ข้า​คง​กล่าว​ได้​แค่​ว่า​เรา​ไม่มี​วาสนา​ใน​เรื่อง​นั้น​ ​อีก​อย่าง​…​เลี่ย​อ๋อง​ก็​ไม่ได้​เป็น​อย่างที่​เจ้า​ว่า​สักหน่อย​ ​เจ้า​รุก​หนัก​จับคู่​ให้​กัน​ขนาด​นี้​ ​หาก​วันใด​เลี่ย​อ๋อง​มีสาว​ใน​ใจ​ขึ้น​มา​จะ​ไม่​เกลียด​เจ้า​แย่​หรือ​”

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​โบกมือ​โบก​ไม้​อย่าง​เกียจคร้าน​สื่อ​ว่า​ไม่​คุย​เรื่อง​นี้​ต่อ​แล้ว​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​หาก​เป็น​อย่างที่​ว่า​ ​เจ้า​ไม่อยู่​แคว้น​หวา​ต่อ​แล้ว​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​มองออก​นาน​แล้ว​ว่า​ท่าที​และ​การ​วางตัว​ของ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ไม่​เหมือน​คน​มา​อภิเษก​เพื่อ​เกี่ยวดอง​เลย​สักนิด​ ​นาง​คง​คิด​ว่าน​่า​สนุก​ดี​เลย​ติดตาม​เกอ​ซู​ฮั่น​มาร​่วม​สนุก​ด้วย​มากกว่า

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​พยักหน้า​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​บิดา​มี​ข้า​เป็น​บุตรสาว​เพียง​คนเดียว​แล้ว​จะ​ให้​ข้ามา​เกี่ยวดอง​ได้​เช่นใด​เล่า​ ​ตัวเลือก​ใน​การ​เกี่ยวดอง​ล้วน​ได้​จัดเตรียม​ไว้​นาน​แล้ว​ ​พวกเรา​จัดการ​หารือ​เรื่อง​นี้​กัน​ไว้​แต่​เนิ่นๆ​ ​แล้ว​ว่า​จะ​ให้​เข้าไป​เป็น​พระสนม​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​โดยตรง​เลย​ ​ดังนั้น​ครั้งนี้​ถึง​ไม่ได้​พานา​งมา​พร้อมกัน​ ​รอ​หลังจาก​พี่​สิบเอ็ด​กลับ​ไป​ ​องค์​หญิง​ที่จะ​มา​เกี่ยวดอง​ถึง​จะ​ถูก​ส่งตัว​มา​”

“​เช่นนี้​นี่เอง​”​ ​มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​กล่าว​ ​หาก​องค์​หญิง​ที่จะ​มา​เกี่ยวดอง​ยืนยัน​แล้ว​ว่า​จะเข้า​วัง​มา​เป็น​พระสนม​ ​ความจริง​ส่ง​เข้า​วัง​แต่งตั้ง​ให้​เสร็จสรรพ​เลย​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​เพื่อ​เลี่ยง​มิ​ให้​เกิดเหตุ​การณ์​อย่าง​องค์​หญิง​ไหว​หยาง

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​พิง​มู่​ชิง​อี​แล้ว​กระซิบ​เสียง​เบา​พลาง​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ข้า​จะ​บอก​เจ้า​ให้​ว่าความ​จริง​แล้ว​พี่​สิบเอ็ด​ไม่ได้​คิด​จะ​ขอ​อภิเษก​กับ​องค์​หญิง​ที่มา​เกี่ยวดอง​ด้วย​เลย​ ​พี่​สิบเอ็ด​แค่​มารับ​ตัว​เจ้าสาว​เท่านั้น​ ​พอก​ลับ​ไป​ก็​จะ​ส่งตัว​นาง​เข้า​วัง​ของ​ฮ่องเต้​ ​เพียงแต่​ฮ่องเต้​ตรัส​ว่า​หาก​ท่าน​พี่​สิบเอ็ด​ถูกใจ​ก็​รับ​ตัวนาง​เข้า​จวนตัว​เอง​ได้​เลย​”​ ​มู่​ชิง​อี​คลี่​ยิ้ม​พลาง​เลิก​คิ้ว​ ​นาง​คิด​ว่า​สถานการณ์​จริงๆ​ ​น่าจะ​กลับตาลปัตร​มากกว่า​ ​ฮ่องเต้​คง​ปรารถนา​ให้​เลี่ย​อ๋อง​อภิเษก​มีพ​ระ​ชายา​สัก​คน​ ​แต่​หาก​เลี่ย​อ๋อง​ไม่​ถูกใจ​ ​ฮ่องเต้​ก็​ค่อย​รับ​มา​เป็น​สนม​ ​ยาก​นัก​ที่จะ​ได้​เห็น​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​เอ่ย​ความลับ​อย่าง​อ้อมค้อม​กับ​นาง​เช่นนี้

“​ได้ยิน​มา​ว่า​ฮ่องเต้​แห่ง​เป่ย​ฮั่น​เอง​ก็​เป็น​บุคคล​โดดเด่น​แห่ง​ยุค​เลย​มิใช่​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​กล่าว

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​พยักหน้า​เอ่ย​อย่าง​ภาคภูมิ​ว่า​ ​“​แน่นอน​อยู่​แล้ว​ ​ถึงแม้​พระองค์​จะ​มี​วิทยา​ยุทธ์​ที่​เทียบ​กับ​ท่าน​พี่​สิบเอ็ด​ไม่ได้​ ​แต่​ก็​เป็น​ฮ่องเต้​ที่​เก่งกาจ​ไม่เบา​เลย​ล่ะ​ ​พี่​สิบเอ็ด​มัก​เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​เขา​เสมอ​ ​เขา​เอ็นดู​ข้า​และ​พี่​สิบเอ็ด​มาก​ที่สุด​แล้ว​”​ ​ครั้น​แววตา​สุกใส​ปรากฏ​ความนับถือ​และ​เลื่อมใส​ให้​เห็น​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ยิ้ม​หวาน​ ​ความจริง​แล้ว​หาความ​รู้สึก​ที่​บริสุทธิ์​จริงใจ​เช่นนี้​ใน​หมู่​ราช​นิกูล​ได้​ยาก​มาก​ ​มิน่า​ถึง​กล่าว​กัน​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​กับ​เลี่ย​อ๋อง​สนิทสนม​กัน​มาก

“​ถวายบังคม​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​ ​ถวายบังคม​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​”​ ​ระหว่าง​ที่​พูดคุย​ยิ้มแย้ม​กัน​อยู่​นั้น​ก็​มีบุ​รุษ​สอง​คน​โผล่​มา​ ​ครั้น​เห็น​มู่​ชิง​อี​และ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​ผงะ​ไป​ถึง​เดิน​เข้ามา​หา​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​พวก​นาง​ต่าง​รู้จัก​กัน​ดี​ ​เขา​ก็​คือ​อาน​ซีจ​วิ​้​นอ​๋​อง​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ ​ส่วน​อีก​คน​มู่​ชิง​อี​ยัง​คุ้นหน้า​คุ้นตา​อยู่​บ้าง​เพราะ​เคย​เจอ​ใน​งานเลี้ยง​วันคล้ายวันพระราชสมภพ​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวามา​ก่อน​ ​แต่กระนั้น​นาง​ก็​ไม่รู้​จัก

“​อาน​ซีจ​วิ​้​นอ​๋​อง​มิต​้​อง​พิธีรีตอง​นัก​หรอก​ ​ท่าน​นี้​คือ​…​”

บุรุษ​อีก​คน​ประสานมือ​ทำความเคารพ​ ​“​กระหม่อม​อิง​เทียนฝู​่​อิ่น​เซ่า​จิ​่​นพ​่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

นัยน์ตา​ของ​มู่​ชิง​อี​มี​ประกาย​แสง​พาด​ผ่าน​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​ยิ้ม​เอ่ย​เสียงหวาน​ว่า​ ​“​ท่าน​ทั้งสอง​มาก​พิธี​เกินไป​แล้ว​ ​หาก​ไม่รังเกียจ​ก็​มานั​่​งด​้ว​ยกัน​เถิด​”

ตอนต่อไป

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท