หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 206 สภาพที่น่าเวทนาของโหรวเฟย (2)

หวนคืนชะตาแค้น

ในที่สุด​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ก็​ระบาย​จน​หนำใจ​ถึง​หยุด​ลง​ ​จากนั้น​ก็​มอง​มู่​ชิง​อี​ด้วย​ความรักใคร่​แล้ว​ตรัส​ว่า​ ​“​หมิง​เจ๋อ​ไม่ต้อง​กังวล​ไป​ ​เรา​จะ​ดูแล​เจ้า​เป็น​อย่างดี​ ​เจ้า​คือ​องค์​หญิง​ของ​แคว้น​หวา​ ​วันหน้า​ไม่มีใคร​กล้า​รังแก​เจ้า​แล้ว​”​ ​มู่​ชิง​อีก​้​มห​น้า​เอ่ย​ขอบ​พระทัย​ ​“​หมิง​เจ๋อ​ขอบ​พระทัย​ฝ่า​บาท​ที่​ทรง​เมตตา​อย่างมาก​เพ​คะ​”

ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ถอนหายใจ​เฮือก​หนึ่ง​แล้ว​ตรัส​ว่า​ ​“​เรา​หวัง​มาก​ว่า​…​เรา​อยาก​รับ​เจ้า​มา​เป็น​บุตรบุญธรรม​ ​เช่นนี้​เป็น​อย่างไรเล่า​”

มู่​ชิง​อี​ผงะ​ไป​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​จะ​มา​ไม้​นี้​ ​แต่​นาง​ไม่​อยาก​เรียก​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ว่า​เสด็จ​พ่อ​เลย​จริงๆ​ ​นาง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ถึง​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ฝ่า​บาท​ทรง​มีพ​ระ​มหา​กรุณาธิคุณ​ต่อ​ชิง​อีนัก​ ​แต่​…​เกรง​ว่า​หาก​เป็น​เช่นนี้​จะ​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​ฝ่า​บาท​เสียมา​กก​ว่า​เพ​คะ​”

ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​เลิก​คิ้ว​ตรัส​ถาม​อย่าง​ไม่พอ​พระทัย​นัก​ ​“​เรา​แค่​รับ​เจ้า​เป็น​บุตรบุญธรรม​ ​เหตุใด​ถึง​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​ของ​เรา​ได้​เล่า​”

มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​ถึงอย่างไร​หมิง​เจ๋อ​ก็​เกิด​มาจาก​ตระกูล​ซู่​เฉิง​โหว​ ​ฝ่า​บาท​เพิ่ง​…​ถอดถอน​ตำแหน่ง​พี่​หญิง​ใหญ่​ไป​ ​หาก​ยัง​รับ​หมิง​เจ๋อ​เป็น​บุตรบุญธรรม​อีก​ ​เกรง​ว่า​คนใต้​หล้า​จะ​พาน​คิด​ว่า​ฝ่า​บาท​มี​จิตใจ​ลังเล​ ​อีก​อย่าง​…​โปรด​ฝ่า​บาท​ช่วย​ถอดถอน​ตำแหน่ง​องค์​หญิง​ของ​หมิง​เจ๋อ​ด้วย​เถิด​เพ​คะ​”

ถึงแม้​มู่​ชิง​อี​จะ​เงียบ​ไป​ไม่​เอ่ย​ต่อ​จน​จบ​ ​แต่​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​กลับ​เดา​ออก​ได้​ไม่ยาก​ ​รอ​หลังจาก​จัดการ​โค่น​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​ลง​แล้ว​ ​หาก​ยัง​เก็บ​บุตร​ภรรยา​เอก​มา​เป็น​บุตรบุญธรรม​ ​ยาก​นัก​ที่​ใครๆ​ ​จะ​ไม่​สงสัย​ถึง​สถานะ​ของ​มู่​ชิง​อี​ ​กระทั่ง​ลาม​สงสัย​ไป​ถึง​ชื่อเสียง​เกียรติยศ​ของ​สะใภ้​จัง​และ​คุณธรรม​ของ​ฮ่องเต้​ตาม​ไป​ด้วย

เงียบ​อยู่​พักใหญ่​ ​ในที่สุด​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ก็​ถอนหายใจ​ตรัส​ว่า​ ​“​เอาเถิด​ ​เรา​ไตร่ตรอง​ไม่​ถี่ถ้วน​เอง​ ​เรื่อง​ปลด​ตำแหน่ง​องค์​หญิง​ไม่ต้อง​พูดถึง​แล้ว​ ​หาก​เรา​เพิ่ง​แต่งตั้ง​เจ้า​ได้​ไม่นาน​ก็​ปลดออก​จาก​ตำแหน่ง​แล้ว​ ​เช่นนั้น​ถึง​จะ​ดู​ย้อน​แย้ง​และ​จิตใจ​ลังเล​เสียมา​กก​ว่า​”

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​เพ​คะ​ ​ฝ่า​บาท​”​ ​ถึงอย่างไร​เสียนา​งก​็​แค่​ไม่​อยาก​เรียก​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ว่า​เสด็จ​พ่อ​ ​ส่วน​เรื่อง​สถานะ​องค์​หญิง​ ​ขอ​แค่นาง​ยังอยู่​เมืองหลวง​ต่อ​อีก​หนึ่ง​วัน​ ​สถานะ​นี้​ก็​ยังคง​มีประโยชน์​ต่อนา​งอยู​่​ ​รอต​อนนาง​จากไป​แล้ว​จะ​ยัง​เป็น​องค์​หญิง​อยู่​หรือไม่​นั่น​ก็​ไม่ใช่​เรื่องสำคัญ​แล้ว

ตำหนัก​เย็น​ตั้งอยู่​ตรง​มุม​หนึ่ง​ที่​เปลี่ยว​ที่สุด​ทาง​ฝั่ง​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ด้านหลัง​วัง​ ​เดิมที​มีชื่อ​เรียกว่า​พระตำหนัก​ชิง​หนิง​ ​เพียงแต่​ทำเลที่ตั้ง​ห่างไกล​เกินไป​จริงๆ​ ​นำมาใช้​ทำ​อะไร​ก็​ไม่เหมาะสม​สักที​ ​สุดท้าย​เลย​นำมาใช้​กักขัง​เหล่า​สนม​ที่​ทำความ​ผิด​จน​ถูก​ปลดออก​จาก​ตำแหน่ง​และ​ไม่ได้​เป็น​ที่​โปรดปราน​อีก​ ​ครั้น​นาน​วัน​เข้า​ ​ถึงแม้​ป้ายชื่อ​พระตำหนัก​ชิง​หนิง​จะ​ยัง​แขวน​เด่น​หรา​อยู่​ตรง​ประตู​ ​ทว่า​คน​ส่วนมาก​กลับ​จำ​เพียง​ว่า​มัน​คือ​ตำหนัก​เย็น​ไป​แล้ว​ ​สำหรับ​เหล่า​สนม​ใน​วัง​ ​ตำหนัก​เย็น​ก็​คือ​ฝันร้าย​ที่​ฝัง​ลึก​อยู่​ใน​ใจ​ ​ทันทีที่​มาถึง​ที่นี่​ก็​เท่ากับ​ว่าความ​มั่งคั่ง​และ​เกียรติยศ​ทุกอย่าง​ ​หรือ​กระทั่ง​ความเมตตา​โปรดปราน​ของ​ฮ่องเต้​ก็​ไม่มี​ความเกี่ยวข้อง​ใดๆ​ ​กับ​พวก​นาง​อีกต่อไป​ ​ไม่ว่า​พวก​นาง​จะ​เคย​มีส​ถานะ​ใด​ ​ทันทีที่​เข้ามา​ที่นี่​ก็​แปรสภาพ​มีส​ถานะ​ที่​สู้​แม้แต่​นางใน​และ​บ่าว​รับใช้​ทั่วไป​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ

ใน​ตำหนัก​ที่​เดิมที​บรรยากาศ​อึมครึม​ ​ทว่า​สอง​วันนี้​กลับ​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มาก​ไม่น้อย​ ​ทุกอย่าง​เป็น​เพราะ​โหรว​เฟย​ที่​เพิ่ง​ถูก​ส่งตัว​มา​เมื่อวาน​ ​นับว่า​โหรว​เฟย​เป็น​คนโปรด​ของ​ฝ่า​บาท​ได้​ไม่นาน​นัก​ราวๆ​ ​สามสี​่​ปี​ได้​ ​ทว่า​คนที​่​เกลียดชัง​นาง​กลับ​มีอยู่​ไม่น้อย​ ​หลังจาก​นาง​ถูก​ส่งตัว​มากัก​ขัง​ก็​มี​คน​แวะเวียน​มาถาม​ไถ่​ข่าวคราว​และ​แสดงท่าที​มีความสุข​บน​ความทุกข์​ของ​นาง​กัน​อย่างไม่ขาดสาย​ ​แต่​พอได้​เห็น​สภาพ​อัน​น่าเวทนา​ของ​มู่​เฟย​หลวน​แล้ว​ ​คน​ส่วนมาก​จึง​ปล่อยวาง​และ​เหลือ​เพียงแต่​การ​แดกดัน​ถากถาง​เท่านั้น​ ​หาก​สภาพ​ของ​มู่​เฟย​หลวน​ยัง​กลับมา​เป็น​คนโปรด​ของ​ฝ่า​บาท​ได้​ ​พวก​นาง​ยอม​ผูกคอตาย​เสียดี​กว่า

ครั้น​มู่​เฟย​หลวน​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​เย็น​ก็​ถูก​โยน​ตัว​ไป​อยู่​ใน​ห้อง​เก่า​ทรุดโทรม​ที่สุด​ของ​ตำหนัก​แห่ง​นี้​ทันที​ ​สถานที่​เช่นนี้​ย่อม​ไม่ต้อง​หวัง​เลย​ว่า​จะ​มีนาง​ใน​คอย​ปรนนิบัติ​ติดตาม​ ​ดังนั้น​ห้อง​ของ​มู่​เฟย​หลวน​ก็​มีส​ภาพ​เฉกเช่น​เดียว​กับ​ตอนที่​นาง​เข้ามา​ไม่​ต่างกัน​ ​บน​พื้น​ ​บน​โต๊ะ​ ​บน​เตียง​ล้วน​เต็มไปด้วย​ฝุ่น​ ​อย่างน้อย​ห้อง​นี้​คง​ไม่มีใคร​อยู่​มาราว​ปี​สอง​ปี​ได้​ ​จึง​ย่อม​เต็มไปด้วย​ฝุ่น​เป็นธรรมดา

มู่​เฟย​หลวน​เอนกาย​นอน​บน​เตียง​ที่​เต็มไปด้วย​ฝุ่น​ ​ใน​ยาม​ปกติ​หาก​มี​ฝุ่น​มา​เกาะ​บน​เสื้อผ้า​นาง​แม้แต่​นิดเดียว​คง​อาละวาด​ใหญ่โต​แล้ว​ ​แต่​เวลานี้​นาง​กลับ​เอนกาย​นอน​ท่ามกลาง​ฝุ่น​อัน​หนาเตอะ​อย่าง​จนใจ​ ​เสื้อผ้าอาภรณ์​ที่​เดิมที​งดงาม​กลับ​ขาดวิ่น​ ​อีกทั้ง​ด้านบน​ยัง​มี​ร่องรอย​เลือด​เกรอะกรัง​ ​หลังจาก​คลุกเคล้า​กับ​ฝุ่น​บน​เตียง​ ​ผ้าแพร​ต่วน​สีแดง​อ่อน​งดงาม​นุ่ม​มือ​ก็​เปรอะเปื้อน​สี​หม่น​ลง​ราวกับ​ผ้า​ใช้​เช็ด​ทำความสะอาด​ก็​มิ​ปาน

ใบหน้า​ที่​งดงาม​หมดจด​ของ​คน​บน​เตียง​ใน​ตอนแรก​บัดนี้​กลับ​ปรากฏ​รอยแผล​เหวอะหวะ​น่ากลัว​ให้​เห็น​ ​ผมเผ้า​ยุ่งเหยิง​ ​เนื้อตัว​สกปรก​มอมแมม​และ​คละคลุ้ง​ไป​ด้วย​กลิ่นคาว​เลือด​เข้มข้น​ที่​น่ารังเกียจ​ทั่ว​ร่าง​ ​หรง​เฟย​ที่​เดิมที​อยาก​แวะ​มา​เยาะเย้ย​มู่​หรง​เฟย​ ​ครั้น​ได้​เห็น​เพียง​แวบเดียว​ก็​อาเจียน​ออกมา​แล้ว​ ​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​พูด​สัก​ประโยค​ก็​หมุนตัว​เดินหนี​ออก​ไป​เสียก่อน

มู่​เฟย​หลวน​เอนกาย​อยู่​บน​เตียง​อย่างไร​้​เรี่ยวแรง​ ​นาง​เอื้อมมือ​หมาย​จะ​คว้า​ตัว​หรง​เฟย​ไว้​อย่าง​ยากลำบาก​ ​แต่​หรง​เฟ​ยก​ลับ​เดิน​เร็ว​และ​อยู่​ไกล​เกินไป​ ​สุดท้าย​นาง​เลย​ทำได้​แค่​ทิ้ง​มือ​ลง​ข้าง​กาย​อย่างไร​้​เรี่ยวแรง​ ​“​ช่วย​หม่อมฉัน​ที.​..​ฝ่า​บาท​…​”​ ​ใน​ห้อง​ที่ว่างเปล่า​ผุด​เสียง​อิดโรย​แหบ​พร่า​ของ​มู่​เฟย​หลวน​ดัง​ขึ้น

“​พี่​หญิง​ใหญ่​”​ ​เสียง​สาวน้อย​ดัง​ขึ้น​อย่าง​นุ่มนวล​ตรงหน้า​ประตู

มู่​เฟย​หลวน​เงยหน้า​ขึ้น​อย่าง​ยากลำบาก​ ​ทว่า​พอ​เห็น​สาวน้อย​ใน​ชุด​สีขาว​ทั้ง​ร่าง​ยืน​อยู่​ตรง​ประตู​เงียบๆ​ ​พลาง​มอง​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม​งดงาม​แต่ง​แต้ม​บน​ใบหน้า​ ​แสงแดด​อ่อน​ๆ​ ​ที่​ส่อง​แผ่น​หลัง​สาวน้อย​แปรเปลี่ยน​เป็น​แสง​เลือนราง​อ่อน​ลง​ซึ่ง​ยิ่ง​ขับ​ให้​ใบหน้า​ของ​สาวน้อย​งดงาม​ราวกับ​นางฟ้า​บน​สรวงสวรรค์​ ​ทว่า​ใน​สายตา​ของ​มู่​เฟย​หลวน​แล้ว​ ​ฉาก​งดงาม​เช่นนี้​กลับ​เหมือน​ภูตผี​ที่​น่าสะอิดสะเอียน​ปีน​ขึ้น​มาจาก​ขุมนรก​ก็​มิ​ปาน​ ​นาง​เบิกตา​โพลง​ด้วย​ความ​หวาดผวา​ ​เปล่งเสียง​กรีดร้อง​อยู่​ใน​ลำคอ​แต่กลับ​พูด​อะไร​ไม่​ออก

มู่​ชิง​อีก​้าว​เข้ามา​ใน​ห้อง​ ​จากนั้น​ก็​มอง​หญิงสาว​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง​ด้วย​ท่าที​สงบ​แล้ว​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​นุ่มนวล​ ​“​พี่​หญิง​ใหญ่​ ​ยัง​สบายดี​อยู่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​มู่​…​มู่​ชิง​…​อี​”​ ​มู่​เฟย​หลวน​เปล่งเสียง​ออกมา​อย่าง​ยากลำบาก

มู่​ชิง​อี​ยก​ยิ้ม​มุม​ปาก​เล็กน้อย​พลาง​เอ่ย​ ​“​ไม่​เจอกัน​แค่​วัน​เดียว​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​ก็​พูดจา​ไม่​คล่องแคล่ว​แล้ว​หรือ​ ​เป็น​เช่นไร​บ้าง​…​การ​เป็น​คนโปรด​ปราน​ของ​ฝ่า​บาท​ที่​น้อง​หญิง​สี่​มอบให้​พี่​หญิง​ใหญ่​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​รู้สึก​เช่นใด​บ้าง​เล่า​”​ ​มู่​เฟย​หลวน​เบิกตา​กว้าง​ด้วย​ท่าที​หวาดกลัว​ ​ยกมือ​ขึ้น​หมาย​จะ​คว้า​ตัว​มู่​ชิง​อี​ไว้​ ​“​เป็น​เจ้า​!​ ​เป็น​เจ้า​…​”

มู่​ชิง​อีก​้าว​ถอย​ไป​ด้านหลัง​ก้าว​หนึ่ง​อย่างว่องไว​แล้ว​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​“​เป็น​ข้า​อะไร​กัน​ ​ยา​ใน​กระถางธูป​นั่น​พี่​หญิง​ใหญ่​เป็น​คน​ใส่​ไว้​เอง​มิใช่​หรือ​ ​อืม​…​ข้า​ก็​แค่​รู้สึก​ว่า​คง​ไม่พอ​เลย​เพิ่ม​ให้​อีก​นิดหน่อย​ ​เพื่อ​เลี่ยง​ไม่​ให้​ขัด​อารมณ์​พี่​หญิง​ใหญ่​เลย​นะ​ ​เพียงแต่​น้องเล็ก​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​พี่​หญิง​ใหญ่​…​จะ​ปรนนิบัติ​ฝ่า​บาท​จน​ไม่​นึกถึง​ชีวิต​ ​กระทั่ง​องค์​ชายน้อย​ใน​ครรภ์​ยัง​รักษา​ไว้​ไม่ได้​เช่นนี้​”

มู่​เฟย​หลวน​สั่น​ไป​ทั้ง​ร่าง​ ​ไม่รู้​ว่า​เพราะ​โกรธ​หรือ​ตกใจ​กัน​แน่​ ​สำหรับ​นาง​แล้ว​เรื่อง​ทุกอย่าง​ที่เกิด​ขึ้น​เมื่อวาน​เหมือน​ดั่ง​ฝันร้าย​ที่เกิด​ขึ้น​อย่าง​ปุบปับ​ ​แผนการ​ทุกอย่าง​ที่​วาง​ไว้​อย่างดี​ใน​ตอนแรก​กลับ​เริ่ม​วุ่นวาย​ผิด​แผน​หลังจากที่​มู่​ชิง​อีฟื​้​นขึ​้​นมา​ ​นาง​แอบ​ใส่ยา​ปลุก​กำหนัด​ลง​ใน​กระถางธูป​เพื่อ​ทำให้​ฝ่า​บาท​ควบคุม​อารมณ์​ตัวเอง​ไม่อยู่​ ​จากนั้น​…​พอย​้​อนนึก​ถึง​ความทุกข์ทรมาน​อัน​แสน​เศร้า​เหล่านั้น​ขึ้น​มา​ ​มู่​เฟย​หลวน​ก็​ยิ่ง​ตัวสั่น​หนัก​กว่า​เดิม​ ​ราวกับ​สัตว์ป่า​ร้าย​หิว​กระหาย​ใน​ฉับพลัน​ ​ไร้​ซึ่ง​การ​หักห้ามใจ​ ​ไร้​ซึ่ง​ความรัก​ทะนุถนอม​ ​ตน​ทำได้​เพียง​อดกลั้น​ต่อ​ความเจ็บปวด​มหาศาล​นั้น​ ​พร้อม​รับรู้​ได้​ถึง​ลูก​ใน​ท้องที่​ค่อยๆ​ ​หาย​ไป​กับ​ตา​ตัวเอง

ที่แท้​ทุกอย่าง​ล้วน​เป็นฝี​มือ​ของ​นาง​!​ ​นาง​ย่อม​รู้​ยาที​่​ตน​แอบ​ใส่​ดี​ ​ฝ่า​บาท​ไม่มีทาง​เสียการ​ควบคุม​เช่นนี้​ ​ที่แท้​มู่​ชิง​อีก​็​เดา​แผนการ​ออก​ตั้งแต่แรก​แล้ว​หรือ​!​ ​ไม่​สิ​…​ลง​โหดเหี้ยม​ใจ​อำมหิต​ได้ขนาด​นี้​ ​นาง​ไม่ใช่​มู่​ชิง​อี​ที่​อ่อนแอ​ขี้ขลาด​แน่นอน​!

“​เจ้า​…​ตกลง​เจ้า​เป็น​ใคร​กัน​แน่​”​ ​มู่​เฟย​หลวน​เอ่ย​ถาม​เสียง​แหบ​ ​เมื่อวาน​นาง​ถูก​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​สั่ง​คน​โยน​นาง​เข้ามา​อยู่​ใน​ตำหนัก​เย็น​พร้อม​ความ​อิดโรย​และ​บาดแผล​ระบม​ไป​ทั่ว​ร่างกาย​ ​พอ​เปล่งเสียง​ออกมา​ก็​เจ็บ​คอ​จน​แทบ​ทนไม่ไหว​ ​นาง​ยัง​จำได้​ไม่ลืม​ว่า​เป็น​เพราะ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ทรง​กริ้ว​ถึงขั้น​สุด​เลย​บีบ​คอนาง​เข้า

มู่​ชิง​อีกะ​พริบตา​ปริบๆ​ ​อย่าง​เอือมระอา​ ​นี่​เป็น​คนที​่​เท่าไร​ที่​สงสัย​ตัวตน​ของ​นาง​กัน​นะ​ ​แต่​เรื่อง​นี้​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ช่วยไม่ได้​ ​ถึงแม้​ตน​จะ​ไม่​อยาก​ให้​ใครๆ​ ​ต่าง​พุ่ง​เป้า​มา​เรื่อง​นี้​นัก​ ​แต่​นิสัย​ของ​อี​เอ๋อร​์​กับ​ตน​นั้น​ต่างกัน​ลิบลับ​เหลือเกิน​ ​เพียงแต่​น่าเสียดาย​ที่​มู่​เฟย​หลวน​จะ​ไม่มี​โอกาส​ได้​รู้ความ​จริง​ไป​ตลอดชีวิต

ตอนต่อไป

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท