หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 212 การตายของมู่เฟยหลวน (4)

หวนคืนชะตาแค้น

มู่​หรง​ซี​มอง​กู้​ซิ่ว​ถิง​พลาง​ยก​ยิ้ม​อย่าง​นึก​สนใจ​ขึ้น​มา​ ​“​เหมือน​เจ้า​จะ​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​ชิง​อี​ไม่เบา​”

กู้​ซิ่ว​ถิง​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​ท่าน​ไม่รู้​สึก​ว่า​ชิง​อี​ฉลาด​มาก​หรือ​”

“​ฉลาด​เป็น​กรด​เชียว​ล่ะ​”​ ​มู่​หรง​ซี​ถอนหายใจ​เอ่ย​ ​“​บางครั้ง​เวลา​เห็น​นาง​ข้ามั​กห​ลง​คิด​ว่า​เป็น​เกอ​เอ๋อร​์​อยู่​เรื่อย​”

กู้​ซิ่ว​ถิง​ชะงัก​ไป​ ​หลุบ​ตาลง​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​นั่นสิ​ ​เกอ​เอ๋อร​์​…​ฉลาด​ไม่​ต่าง​จาก​ชิง​อี​เลย​”

ครั้น​เอ่ยถึง​น้องสาว​คนเล​็ก​ ​มู่​หรง​ซีก​็​เงียบ​ไป​ ​เขา​เลี่ยง​ไม่​พูด​อะไร​ที่​ทำให้​กู้​ซิ่ว​ถิง​ยิ่ง​ปวดใจ​มากกว่า​เดิม​ ​กู้​ซิ่ว​ถิ​งก​ลับ​แอบ​ถอนหายใจ​ ​ในเมื่อ​เรื่อง​ที่​ตาย​แล้ว​ฟื้น​ชีพ​ขึ้น​ใหม่​ออกจะ​พิลึก​เกินไป​หน่อย​ ​เรื่อง​ที่​เกอ​เอ๋อร​์​ยัง​มีชีวิต​อยู่​นั้น​อย่า​บอก​เขา​เลย​จะ​ดีกว่า

ณ​ ​ตำหนัก​เย็น

“​ใครก็ได้​มานี​่​ที.​..​ใครก็ได้​รีบ​มา​เร็ว​เข้า​ ​ช่วย​ด้วย​…​”​ ​มีเสียง​แหบ​พร่า​ราวกับ​วิญญาณ​ดัง​แว่ว​มาจาก​ห้อง​ที่​แสน​วังเวง​ของ​ตำหนัก​เย็น​ไม่​หยุด​ ​เดี๋ยว​เสียง​สูง​เดี๋ยว​เสียงต่ำ​ ​เดี๋ยว​มีเสียง​เดี๋ยว​ไม่มี​เสียง​ ​ทำเอา​คนที​่​เดิน​สัญจร​ไปมา​แถว​นี้​อด​เผย​สีหน้า​สยดสยอง​จน​เผ่นหนี​กัน​แทบ​ไม่ทัน

มู่​เฟย​หลวน​นอนแผ่​อยู่​บน​เตียง​อย่าง​หมดแรง​ ​ร่ำไห้​จน​ไม่มี​น้ำตา​ริน​ไหล​นาน​แล้ว​ ​ฝุ่นละออง​ใน​ห้อง​ยังคง​หนา​เข​ลอะ​ไม่ได้​รับ​การ​ทำความสะอาด​เช่น​เดิม​ ​ไม่​ไกล​จาก​ข้าง​เตียง​มี​กับข้าว​และ​ข้าว​ครึ่ง​ถ้วย​ที่​เย็นชืด​แล้ว​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​สภาพ​ทรุดโทรม​ตัว​หนึ่ง​ ​อาหาร​เช่นนี้​เป็น​ดั่ง​ฝันร้าย​ของ​มู่​เฟย​หลวน​ที่​ไม่เคย​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ชีวิต​มาก​่อน​ ​นาง​เกิด​มา​เป็น​บุตรสาว​ของ​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​ ​ถึงแม้​จะ​เป็น​บุตร​อนุ​แต่​ก็​ใช้ชีวิต​สุขสบาย​มี​เสื้อผ้า​ดี​ๆ​ ​อาหาร​เลิศ​รส​ให้​กิน​มาต​ลอด

ห้อง​สภาพ​เก่า​ผุพัง​ ​อาหารแห้ง​เย็นชืด​ ​สามารถ​กล่าว​อย่าง​ไม่​เกิน​จริง​ได้​ว่า​อาหาร​ของ​เหล่า​ขันที​และ​นางใน​ใน​วัง​ยังดี​กว่านี​้​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​มู่​เฟย​หลวน​รู้ดี​ว่า​ถึงแม้​จะ​เป็น​สนม​ถูก​ถอด​ตำแหน่ง​ส่งตัว​มา​อยู่​ใน​ตำหนัก​เย็น​ ​แต่​สิ่ง​ที่​ต้อง​เจอ​ไม่มีทาง​ย่ำแย่​ถึง​เพียงนี้​แน่นอน​ ​ดู​ทรง​แล้ว​คงมี​คน​จงใจ​ทำให้​นาง​ใช้ชีวิต​อย่าง​ทุกข์ยาก​มากกว่า​ ​เพียงแต่​ปกติ​คนที​่​ชิงชัง​นาง​มีมาก​มาย​เหลือเกิน​ ​แม้แต่​นาง​เอง​ก็​ยัง​เดา​ไม่​ออก​ว่า​ใคร​ย่ำยี​นาง​ถึง​เพียงนี้​กัน

สอง​วันที่​เพิ่ง​เข้ามา​นาง​นึก​ว่า​ตน​คง​ใกล้​ตาย​เต็มที​แล้ว​ ​ยัง​ไม่พูดถึง​ว่า​เกือบ​ถูก​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​บีบ​คอ​จนตาย​ ​อีกทั้ง​ยัง​ร่วมรัก​อย่างรุนแรง​จน​แท้งลูก​อีก​ต่างหาก​ ​แต่​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ไม่​แม้แต่​จะ​ให้​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​ดู​อาการ​ก็​ส่งตัว​นาง​เข้ามา​อยู่​ใน​ตำหนัก​เย็น​ทันที​ ​นาง​ทำได้​แค่นอน​แน่นิ่ง​อยู่​บน​เตียง​ที่​เต็มไปด้วย​ฝุ่น​ขยับตัว​ไม่ได้​และ​อดกลั้น​ต่อ​ความหิวโหย​ ​มู่​เฟย​หลวน​คิด​ว่า​ครั้งนี้​ตน​คง​เอาชีวิต​ไม่รอด​แล้ว​จริงๆ​ ​แต่​ไม่​กี่​วันหลัง​จากนั้น​ ​ถึงแม้นาง​จะ​ยัง​ไม่​ตาย​แต่​นาง​กลับ​รู้สึก​ว่า​ทุกข์ทรมาน​กว่า​ตอน​นาง​สิ้นใจ​ตาย​ไป​แล้ว​เสียอีก​ ​กลิ่น​เหม็น​น่าสะอิดสะเอียน​ลอยมา​จาก​ทุก​ซอก​มุม​ใน​ร่างกาย​ ​กระทั่ง​ใน​ห้อง​ที่​คละคลุ้ง​ไป​ด้วย​กลิ่นอับ​และ​กลิ่น​เหม็นสาบ​ยัง​กลบ​ไม่อยู่​ ​แม้แต่​ขันที​ที่มา​ส่ง​ข้าว​ส่ง​น้ำ​ให้​นาง​ยัง​รีบ​โยน​ข้าว​แล้ว​หมุนตัว​วิ่งหนี​ไป​อย่าง​รังเกียจ

มู่​เฟย​หลวน​รู้​ว่า​ตน​ถูก​ทอดทิ้ง​ไม่มีใคร​มาช​่ว​ยนาง​แล้ว​ ​บางที​นาง​ใช้ชีวิต​ต่อไป​อีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​คง​ตาย​ ​หรือ​ต่อให้​นาง​ไม่​ตาย​ก็​คง​ค่อยๆ​ ​เป็นบ้า​คลุ้มคลั่ง​อยู่​ใน​ตำหนัก​เย็น​ ​แต่​นาง​ไม่เต็มใจ​เลย​สักนิด​ ​ไม่​กี่​วันก่อน​นาง​ยัง​เป็น​พระสนม​ตำแหน่ง​สูงส่ง​และ​เป็น​ว่าที่​กุ้ย​เฟย​ ​อีกทั้ง​ยัง​ตั้งครรภ์​โอรส​ของ​ฝ่า​บาท​อีกด้วย​ ​ทุกอย่าง​ช่าง​งดงาม​นัก​ ​เหตุใด​ชั่วพริบตา​เดียว​นาง​ถึง​กลาย​มา​เป็น​นักโทษ​ต้อง​ขัง​ได้​เล่า

“​ช่วย​ด้วย​…​ใครก็ได้​มาช​่วย​ข้า​ที.​..​”

“​โหรว​เฟย​”​ ​มีเสียง​ทุ้ม​ต่ำ​ดัง​ขึ้น​ ​พอ​มู่​เฟย​หลวน​หันไป​มอง​ก็​เห็น​นางใน​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เห็น​ใบหน้า​ไม่ชัด​นัก​ยืน​ตรงหน้า​ประตู

มู่​เฟย​หลวน​ผงะ​ไป​ ​“​เจ้า​…​เจ้า​เป็น​ใคร​”

นางใน​ผู้​นั้น​คลี่​ยิ้ม​บาง​ ​“​เหตุใด​โหรว​เฟย​ต้อง​สนใจ​ด้วย​เล่า​ว่า​หม่อมฉัน​จะ​เป็น​ใคร​ ​หม่อมฉัน​มา​เพื่อ​ช่วย​โหรว​เฟย​”​ ​โหรว​เฟย​แน่นิ่ง​ไป​ ​“​เจ้า​…​เจ้า​มาช​่วย​ข้า​หรือ​”​ ​นางใน​ผู้​นั้น​สาวเท้า​เดิน​เข้ามา​ ​ไม่รู้​เพราะเหตุใด​มู่​เฟย​หลวน​กลับ​รู้สึก​ถึง​ภัยอันตราย​มากกว่า​ ​“​ไม่​นะ​ ​เจ้า​อย่า​เข้ามา​ ​ตกลง​เจ้า​เป็น​ใคร​กัน​แน่​”

นางใน​ผู้​นั้น​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​“​หม่อมฉัน​มาช​่วย​ท่าน​จริงๆ​ ​โหรว​เฟ​ยล​อง​ดู​สภาพ​ตัวเอง​ใน​ตอนนี้​สิ​เพ​คะ​ ​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​ก็​ทุกข์ทรมาน​ ​หม่อมฉัน​…​มา​เพื่อ​ช่วย​ปลดปล่อย​ท่าน​”

“​เจ้า​!​ ​เจ้า​…​เจ้า​จะ​ฆ่า​ข้า​หรือ​!​ ​เจ้า​เป็น​คน​ของ​อวิ​๋น​เฟย​หรือ​!​”​ ​ช่วงเวลา​ตื่นตกใจ​เช่นนี้​ทำให้​มู่​เฟย​หลวน​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​ตอนนี้​อวิ​๋น​เฟ​ยก​ลาย​เป็น​อวิ​๋​นกุ​้ย​เห​ริน​ไป​แล้ว​ ​นางใน​ผู้​นั้น​ไม่ยอมรับ​เพียงแต่​ยิ้ม​มุม​ปาก​ ​“​โหรว​เฟ​ยอย​่า​ถือโทษ​โกรธ​กัน​เลย​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​โหรว​เฟ​ยปาก​สว่าง​แล้ว​จะ​กลายเป็น​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ ​เดิมที​…​เจ้านาย​ของ​พวกเรา​ยัง​ช่วย​ท่าน​ได้​ ​เพียงแต่​น่าเสียดาย​…​ตอนนี้​คง​ทำได้​แค่​ขอให้​ท่าน​หลับตา​ลง​เสีย​”

“​ไม่​นะ​ ​อย่า​ฆ่า​ข้า​เลย​”​ ​มู่​เฟย​หลวน​เบิกตา​โพลง​อย่าง​หวาดผวา​ ​ความตาย​ไม่เคย​อยู่​ใกล้​นาง​เพียง​เอื้อมมือ​ขนาด​นี้​มาก​่อน​ ​นาง​ไม่​อยาก​ตาย​ ​นาง​ไม่ยอม​หรอก​…​นาง​ยัง​ไม่ได้​ขึ้น​เป็น​กุ้ย​เฟย​ ​นาง​ยัง​ไม่ได้​ขึ้น​เป็น​ฮองเฮา​ตำแหน่ง​อัน​สูงศักดิ์​เลย​ ​นาง​ใช้ชีวิต​ใน​วัง​อย่าง​ระแวดระวัง​มาตั​้ง​หลาย​ปี​แต่กลับ​ไม่ได้​อะไร​เลย​สัก​อย่าง​!

นางใน​ผู้​นั้น​แสยะ​ยิ้ม​ ​จากนั้น​ก็​มี​ผ้า​สีขาว​เนื้อ​บาง​ผืน​หนึ่ง​พัน​รอบ​คอ​ของ​นาง​อย่างรวดเร็ว​ ​มู่​เฟย​หลวน​ที่​ถูก​ชิง​รัด​คอก​่อน​จึง​ไร้​หนทาง​จะ​เปล่งเสียง​กรีดร้อง​ออกมา​ได้​ ​หลังจาก​ถูก​ผ้า​สีขาว​รัด​คอ​แล้วก็​ยิ่ง​เปล่งเสียง​ไม่​ออก​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เวลานี้​เป็นเวลา​ดึกสงัด​ ​แล้ว​จะ​มี​ใคร​จงใจ​ถ่อมา​ถึง​ตำหนัก​เย็น​ที่อยู่​มุม​ที่​ลึก​และ​เปลี่ยว​ที่สุด​ใน​วัง​เพื่อ​เป็น​พยาน​การถู​กลอ​บสัง​หาร​ครั้งนี้​เล่า

ผ้า​ขาว​เนื้อ​บาง​รัด​แน่น​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว​ ​มู่​เฟย​หลวน​สัมผัส​ได้​ถึง​แรง​รัด​บน​คอ​ที่มาก​ขึ้น​อย่างเห็นได้ชัด​ ​เจ็บปวด​จน​หายใจไม่ออก​ ​กระทั่ง​ได้ยิน​เสียง​ ​ก๊อก​ๆ​ ​จาก​ลำคอ​ตนเอง​ ​มือ​ของ​นาง​ปัด​ป่าย​ดิ้น​พล่าน​ ​แต่​นางใน​ผู้​นั้น​ไม่ใช่​นางใน​ธรรมดา​ ​แรง​ดิ้น​พล่าน​อันน้อย​นิด​ของ​นาง​จึง​ถูก​กด​ไว้​ได้​อย่างง่ายดาย

นาง​มอง​แสงเทียน​สลัว​ใน​ห้อง​พร้อม​ดวงตา​ที่​ค่อยๆ​ ​เริ่ม​พร่ามัว​ ​มือ​ที่​ปัด​ป่าย​ดิ้น​พล่าน​ก็​ค่อยๆ​ ​นิ่ง​ลง​ ​ราวกับ​นาง​เห็นภาพ​ใน​ค่ำคืน​นั้น​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​หญิงสาว​ใน​ชุด​สีขาว​ใบหน้า​ซีด​ขาว​และ​เจ็บปวด​ก็​ถูก​คน​รัด​คอ​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​เพียงแต่​อีก​ฝ่าย​สงบ​กว่านา​งมาก​ ​อีกทั้ง​นัยน์ตา​ยัง​แฝง​ความห่วงใย​และ​รู้สึก​ได้รับ​การปลดปล่อย​ไป​พร้อมกัน​

ความคิด​ของ​นาง​ค่อยๆ​ ​ล่องลอย​ไป​ไกล​มากกว่า​เดิม​ ​นาง​มองเห็น​ตน​ใน​ช่วง​วัยสาว​แรก​แย้ม​และ​หญิงสาว​ชุด​ขาว​ที่​อ่อนโยน​สง่างาม​ ​นั่น​ก็​คือ​สะใภ้​จัง​แม่​ใหญ่​ของ​นาง​ ​สะใภ้​จัง​เคย​ช่วย​คัดสรร​คู่ครอง​ให้​นาง​ ​เขา​เป็นคุณ​ชาย​รอง​ของ​ภรรยา​เอก​ตระกูล​ขุนนาง​ระดับ​สอง​ ​ตอนนั้น​นาง​ไม่พอใจ​จึง​ปฏิเสธ​ ​นาง​เป็นคุณ​หนู​ที่​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​ที่สุด​ใน​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​ ​นาง​ทั้ง​ฉลาด​และ​งดงาม​ถึง​เพียงนี้​ ​เหตุใด​ต้อง​แต่งงาน​กับ​คุณชาย​รอง​ที่​ไม่มี​สิทธิ์​ได้​สืบสกุล​และ​สถานะ​ต้อยต่ำ​เช่นนั้น​ ​ทว่า​น้อง​หญิง​สี่​ที่​ไม่เห็น​โดดเด่น​อะไร​กลับ​ถูก​หมั้น​หมาย​กับ​องค์​ชาย​ตั้งแต่​ยัง​ไม่รู้​ความ​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​ด้วยเหตุนี้​ตน​จึง​ปฏิเสธ​ข้อเสนอ​ของ​นาง​อย่างไร​้​เยื่อใย​แล้ว​เลือก​ที่จะ​เข้า​วัง

ฉาก​ตรงหน้า​พลัน​เปลี่ยนไป​แล้ว​ปรากฏ​สี​ใบหน้า​ซีด​ขาว​และ​ทุกข์ทรมาน​ของ​หญิงสาว​ใน​ชุด​สีขาว​ผู้​นั้น​ ​“​ข้า​ตาย​แล้ว​…​ขอร้อง​เจ้า​ปล่อย​อี​เอ๋อร​์​ไป​เถิด​..​เฟย​หลวน​ ​เจ้า​ต้อง​นึก​เสียใจ​ภายหลัง​แน่​”

ตน​ต้อง​เสียใจ​ภายหลัง​อยู่​แล้ว​…​ตน​รู้​ ​แต่​ตอนนี้​…​ต่อให้​นึก​เสียใจ​ก็​ไม่ทัน​แล้ว​ ​หาก​ตอนนั้น​…​เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​นาง​แต่ง​ออกเรือน​ไป​เสีย​ ​เรื่อง​พวก​นี้​…​ก็​คง​ไม่​เกิดขึ้น​ใช่​หรือไม่​ ​แต่​น่าเสียดาย​…​ข้า​ไม่พอใจ​นี่​นา

ใบหน้า​ที่​ดู​ทุกข์ทรมาน​มีน​้ำ​ตา​ไหล​อาบ​เป็น​ทาง​ ​คน​บน​เตียง​ค่อยๆ​ ​หยุด​ดิ้น​พล่าน​ ​เพียงแต่​ดวงตา​ล่องลอย​เบิก​กว้าง​บ่งบอกถึง​ความไม่พอใจ​ของ​นาง

นางใน​ผู้​นั้น​คลาย​ผ้า​ขาว​ที่​รัด​แน่น​ใน​มือ​ก่อน​จะ​เอื้อมมือ​ไป​อัง​จมูก​ของ​มู่​เฟย​หลวน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ถึง​แค่น​เสียง​เบา​ยกมือ​ขึ้น​ปิด​ตา​ที่​เบิกโพลง​ของ​นาง​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่ได้​ทำ​เรื่อง​พวก​นี้​เป็นครั้งแรก​ ​ทว่า​เห็น​ดวงตา​ผูกพยาบาท​เช่นนี้​ก็​น่า​สยอง​ไม่น้อย

หลังจาก​จับ​นาง​ห้อย​ตัว​ลงมา​จาก​คาน​ราวกับ​คน​คิดสั้น​ผูก​คอ​ฆ่าตัวตาย​เสร็จสรรพ​ ​นางใน​ผู้​นั้น​ถึง​ปัดฝุ่น​ตามตัว​แล้ว​หมุนตัว​เดิน​ออก​ไป​ ​ครั้น​เดิน​ไป​ถึง​ประตู​ก็​หันกลับ​มาม​อง​แวบ​หนึ่ง​ ​ยิ้ม​เย็นชา​กล่าว​ ​“​นี่​เป็น​ถึง​โหรว​เฟ​ย.​..​สนม​คนโปรด​ของ​ฝ่า​บาท​เชียว​ ​แต่​ก็​แค่นั้น​แหละ​”

จากนั้น​ก็​หมุนตัว​เดิน​ออก​ไป​ ​แสงเทียน​วูบ​ไหว​สาด​ทอ​ภาพ​เงา​บน​กำแพง​ใน​ห้อง​ที่ว่างเปล่า

ตอนต่อไป

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท