หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 220 ฝูงชนต่อต้าน ญาติมิตรตีตัวออกห่าง (1)

หวนคืนชะตาแค้น

“​ทูล​ฝ่า​บาท​ ​หรง​เฟย​ขอ​เข้าเฝ้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ขันที​นอก​ประตู​เอ่ย​กราบทูล​อย่างนอบน้อม

“​ไล่​นาง​ไป​เสีย​!​”​ ​เมื่อ​ครู่​เขา​ถูก​มู่​หรง​จ้าว​ยั่วโมโห​แทบ​แย่​ ​เวลานี้​พอได้​ยิน​ว่า​หรง​เฟ​ยมา​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวาย​่​อม​ชักสีหน้า​หงุดหงิด​เป็นธรรมดา​ ​ไม่นาน​ด้านนอก​พระตำหนัก​ก็​เงียบกริบ​ ​ขันที​นอก​พระตำหนัก​ฉิน​เจิ​้​งม​อง​หรง​เฟย​เบื้องหน้า​อย่าง​ระแวดระวัง​แล้ว​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​กล่าว​ ​“​หรง​เฟย​ ​ฝ่า​บาท​อารมณ์ไม่ดี​ ​ไม่เช่นนั้น​…​ท่าน​ค่อย​มา​ใหม่​วันหลัง​ดี​หรือไม่​เล่า​”

หรง​เฟย​รู้อยู่​แล้ว​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​อารมณ์ไม่ดี​เลย​พยักหน้า​เอ่ย​อย่าง​ไม่​อิดออด​ว่า​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​คอย​เฝ้า​รับใช้​ฝ่า​บาท​ให้​ดี​เถิด​”

หลังจากนั้น​ก็​หมุนตัว​เดิน​ออก​ไป​จาก​พระตำหนัก​ฉิน​เจิ​้ง​ ​หรง​เฟย​เปลี่ยนเส้นทาง​จาก​สวนดอกไม้​เป็น​เรือนรับรอง​หมิง​ฟัง​แทน​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวามี​ท่าที​เช่นใด​ต่อ​เรื่อง​ของ​ตระกูล​กู้​ ​หรง​เฟย​ย่อม​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ​ ​ดังนั้น​นาง​ถึง​ไม่เข้าใจ​ว่า​บุตรชาย​เกิด​คลุ้มคลั่ง​อะไร​ขึ้น​มาถึง​เอาเรื่อง​นี้​มา​โจมตี​มู่​หร​งอ​วี​้​ ​หาก​สำเร็จ​ยัง​พอ​ว่า​ ​แต่​หาก​ไม่สำเร็จ​ล่ะ​ก็​ ​วันหน้า​จ้าว​เอ๋อร​์​คง​ไม่มีทาง​กลับมา​ผงาด​ได้​อีก​แน่​ ​แต่​…​ก็​นับว่า​โชคดี​ที่​ยัง​มี​มู่​หรง​เสีย​คอย​หนุนหลัง​อยู่​ ​หรง​เฟย​เอ่ย​ปลอบ​ตนเอง​ใน​ใจ

เพิ่ง​เดิน​เข้า​สวนดอกไม้​มา​ ​ฉับพลัน​ก็​เห็น​มู่​ชิง​อี​เดิน​ตรง​เข้ามา​พอดี​ ​หรง​เฟย​รีบ​ปรับ​สีหน้า​แล้ว​เดิน​เข้าไป​หาด​้วย​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​ ​“​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​”

มู่​ชิง​อีก​้​มห​น้า​แสดง​ความเคารพ​ ​“​ถวายบังคม​หรง​เฟย​เพ​คะ​”​ ​หรง​เฟย​รีบ​ห้าม​นาง​ไว้​แล้ว​เอ่ย​ ​“​องค์​หญิง​ไม่ต้อง​พิธีรีตอง​มาก​นัก​ ​ข้า​กำลัง​อยาก​ไปหา​องค์​หญิง​อยู่​พอดี​”​ ​มู่​ชิง​อีกะ​พริบตา​ปริบๆ​ ​เอ่ย​อย่าง​สงสัย​ว่า​ ​“​หรง​เฟ​ยมี​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​เพ​คะ​”​ ​หรง​เฟ​ยก​วาด​ตาม​อง​มู่​ชิง​อี​อย่างละเอียด​รอบ​หนึ่ง​ก่อน​ถอนหายใจ​เอ่ย​ ​“​วันนี้​ฝ่า​บาท​อารมณ์ไม่ดี​ ​องค์​หญิง​รู้เรื่อง​นี้​หรือไม่​”

มู่​ชิง​อี​ฉีก​ยิ้ม​ปน​ฉงน​น้อย​ๆ​ ​ส่าย​ศีรษะ​กล่าว​ ​“​เพราะ​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​เพ​คะ​”

หรง​เฟย​เลิก​คิ้ว​ ​จากนั้น​พอคิด​ๆ​ ​ดูแล​้ว​ช่วงแรก​ที่​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​เข้า​วัง​มา​ ​ถึงแม้​เรือนรับรอง​หมิง​ฟัง​จะ​มี​เหล่า​นางใน​และ​ขันที​อยู่​ไม่น้อย​ ​แต่​เหมือนว่า​องค์​หญิง​ผู้​นี้​จะ​ไม่​ค่อย​ชอบ​สุงสิง​กับ​ใคร​ ​ดังนั้น​คง​ไม่​แปลก​หาก​นาง​จะ​ไม่รู้​ข่าวสาร​ใด​เลย​ ​หรง​เฟย​จึง​เล่าเรื่อง​การประชุม​ราชสำนัก​ใน​เช้า​วันนี้​ให้​ฟัง​อย่างละเอียด​รอบ​หนึ่ง​ ​สุดท้าย​ถึง​ถอนหายใจ​กล่าวว่า​ ​“​จ้าว​เอ๋อร​์​เจ้า​ลูก​คน​นี้​ไม่รู้​เรื่อง​รู้​ราว​เลย​จริงๆ​ ​มีเรื่อง​ตั้ง​มากมาย​ไม่​ยุ่ง​ดัน​รั้น​จะ​ไป​ขุด​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​เสีย​ได้​ ​ตระกูล​กู้​…​”​ ​พอ​พูดถึง​ตระกูล​กู้​ ​หรง​เฟย​เอง​ก็​ทำได้​เพียง​ถอนหายใจ​ลาก​ยาว

มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​งาม​เล็กน้อย​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​“​พระสนม​เป็นกังวล​แทน​องค์​ชาย​เจ็ด​อย่างนั้น​หรือ​”

หรง​เฟย​ถอนหายใจ​เอ่ย​ ​“​แล้ว​มิสม​ควร​หรือ​ ​เมื่อ​ครู่​ข้า​ไป​ขอ​เข้าเฝ้า​ฝ่า​บาท​มา​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เจอ​ก็​ถูก​ฝ่า​บาท​ไล่​ตะเพิด​ออกมา​แล้ว​ ​ไม่รู้​ว่า​ครั้งนี้​ฝ่า​บาท​…​”

มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​“​พระสนม​คิดมาก​ไป​แล้ว​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​มีพ​ระ​เมตตากรุณา​ ​แล้ว​พระองค์​จะ​ทรง​โกรธ​องค์​ชาย​เจ็ด​ด้วย​เรื่อง​แค่นี้​ได้​เช่นไร​ ​องค์​ชาย​ก็​แค่​มีใจ​รัก​ภักดี​ต่อ​บ้านเมือง​ ​ปรารถนา​อยาก​แบ่งเบาภาระ​ฝ่า​บาท​มิใช่​หรือ​”​ ​หรง​เฟ​ยมุม​ปาก​ถึงกับ​กระตุก​ ​เหตุใด​มู่​หรง​จ้าว​ถึงตาม​สืบ​เรื่อง​นี้​นาง​ย่อม​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ​ ​“​แต่​หาก​สืบ​ได้​ว่า​ตระกูล​กู้​ถูก​ใส่ร้าย​จริง​ ​ถึงอย่างไร​ก็​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​ของ​ฝ่า​บาท​อยู่ดี​”​

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ฝ่า​บาท​จะ​ทรง​สนพระทัย​เรื่อง​นี้​ได้​เช่นไร​กัน​ ​คนเรา​ย่อม​เคย​ทำ​เรื่อง​ผิดพลาด​มากัน​ทั้งนั้น​ ​หาก​รู้​ผิด​แล้ว​รีบ​แก้ไข​ถึง​นับว่า​เป็นเรื่อง​ดีสิ​เพ​คะ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เรื่อง​นี้​…​ต่อให้​ตระกูล​กู้​จะ​เป็น​ผู้บริสุทธิ์​ก็​ไม่​นับว่า​เป็นความ​ผิด​ของ​ฝ่า​บาท​ ​แต่​เป็นความ​ผิด​ของ​คนที​่​จงใจ​โกหก​ฝ่า​บาท​ต่างหาก​ ​บัดนี้​ฝ่า​บาท​รื้อ​คดี​มาสืบ​ใหม่​ ​คน​ทั่ว​ใต้​หล้า​ต้อง​คิด​ว่า​ฝ่า​บาท​ทรง​ทำ​อะไร​ตรงไปตรงมา​เปิดเผย​ ​รู้​ผิด​ก็​รีบ​แก้ไข​ ​นี่​ถึง​จะ​นับว่า​เป็น​ฮ่องเต้​ที่​ปกครอง​บ้านเมือง​อย่างสงบ​สุข​อย่างแท้จริง​”

หรง​เฟ​ยม​อง​มู่​ชิง​อี​แน่นิ่ง​พลาง​คิด​ตาม​คำพูด​ของ​นาง​ไป​ด้วย​ ​หลังจาก​ตก​อยู่​ท่ามกลาง​ความ​เงียบ​อยู่นาน​ก็​ถอนหายใจ​เอ่ย​ ​“​เอาเถิด​ ​เรื่อง​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​จะ​ล้มเลิก​กลางคัน​ได้​ด้วย​หรือ​”​ ​ในเมื่อ​เรื่อง​นี้​ได้​เริ่มต้น​ขึ้น​แล้วก็​คง​ต้อง​ทำต่อ​ไป​ ​หาก​สืบต่อ​ไป​ไม่ว่า​ความจริง​จะ​เป็น​เช่นใด​ ​ทั้งหมด​ก็​ไม่ใช่​ความผิด​ของ​มู่​หรง​จ้าว​และ​มู่​หรง​เสีย​ ​พวกเขา​ก็​แค่​เป็นห่วง​ขุนนาง​ของ​แคว้น​หวา​ก็​เท่านั้น​ ​แต่​ถ้า​ล้มเลิก​กลางคัน​ ​เช่นนั้น​พวกเขา​ก็​คง​ถูก​สงสัย​ว่า​ใช้​คำพูด​โป้ปด​ขอแรง​สนับสนุน​จาก​ทุกคน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เรื่อง​นี้​สร้าง​ความ​ไม่พอ​พระทัย​ให้​ฝ่า​บาท​แล้ว​ ​หาก​ไม่​ไขว่คว้า​เอา​ประโยชน์​มาจาก​เรื่อง​นี้​บ้าง​คง​เป็นการ​ลง​หมาก​ที่​ไม่เข้าท่า​มาก​จริงๆ

มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ปลอบโยน​ ​“​หรง​เฟย​เป็น​สนม​ใน​วัง​ ​ขอ​แค่​รับใช้​ปรนนิบัติ​ฝ่า​บาท​ด้วย​จิตใจ​อัน​สงบ​ก็​พอ​ ​เรื่อง​นอก​วัง​มี​คนอื่น​คอย​ให้ความสนใจ​ติดตาม​เรื่อง​นี้​อยู่​แล้ว​ ​ฝ่า​บาท​ย่อม​มองเห็น​ถึง​ความลำบาก​ของ​พระสนม​แน่นอน​เพ​คะ​”

หรง​เฟ​ยพ​ยัก​หน้า​พลาง​อมยิ้ม​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​มีปัญหา​เรื่อง​ใด​ ​ขอ​แค่​ได้​สนทนา​กับ​องค์​หญิง​ไม่​กี่​ประโยค​ก็​ช่วย​ปัดเป่า​เรื่อง​ไม่สบายใจ​ได้​แล้ว​”

“​พระสนม​ทรง​ชม​กัน​เกินไป​แล้ว​เพ​คะ​”

ใน​พระตำหนัก​ฉิน​เจิ​้ง​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​วาง​พู่กัน​ใน​มือ​ลง​แล้ว​จับจ้อง​องครักษ์​ชุด​ดำ​ด้านล่าง​พร้อม​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“หืม​ ​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​พูด​กับ​หรง​เฟย​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​บุรุษ​ชุด​ดำ​เบื้องล่าง​คุกเข่า​ก้มหน้า​อย่าง​พินอบพิเทา​อยู่​บน​พื้น​ ​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​ทูล​ฝ่า​บาท​ ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​กระหม่อม​มิบั​งอาจ​ตกหล่น​ไป​แม้แต่​คำ​เดียว​”

ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​เงียบ​ไป​นาน​ถึง​พยักหน้า​ ​“​เจ้า​ออก​ไป​เถิด​”

“​กระหม่อม​ทูล​ลา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​บุรุษ​ชุด​ดำ​ออก​ไป​อย่าง​เงียบๆ​ ​ทว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​หวายั​งคง​ตก​อยู่​ใน​ห้วง​ความคิด​ ​จากนั้น​ก็​วาง​พู่กัน​ลง​บน​แท่น​ฝน​หมึก​ ​ขมวดคิ้ว​ครุ่นคิด​อย่างหนัก​ ​สอง​วัน​มานี​้​คดี​ที่​ถูก​รื้อ​ขึ้น​มา​ใหม่​ของ​ตระกูล​กู้​สร้าง​แรงกดดัน​ให้​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ไม่น้อย​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ไม่​อาจ​ทำตัว​วางอำนาจ​และ​ไม่สน​ใจความ​คิดเห็น​ของ​คนอื่น​อย่าง​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ผู้​ที่​เขา​นึก​อิจฉา​ได้​ ​ ​เพราะ​อย่างน้อย​เขา​ก็​ยัง​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​ชื่อเสียง​ของ​ตัวเอง​ต่อหน้า​เหล่า​ขุนนาง​อยู่​ ​ในเมื่อ​ฮ่องเต้​ที่​ทำตัว​โหดเหี้ยม​และ​ไร้คุณ​ธรรมมา​ตั้งแต่​ต้น​เช่นนี้​มีน​้อ​ยนัก

หลาย​วัน​มานี​้​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​แอบ​คิด​อยาก​ฆ่า​บุตรชาย​อย่าง​มู่​หรง​เสีย​และ​มู่​หรง​จ้าว​สอง​คน​นี้​ให้​ตาย​เสีย​เพราะ​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​ให้​เขา​นัก​ ​สู้​เจ้า​หก​ก็​ไม่ได้​ประหยัด​แรง​มากกว่า​อีก​!​ ​แต่​เวลานี้​เขา​คง​เมินเฉย​ต่อ​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​แล้ว​ ​หาก​ฮ่องเต้​อย่าง​เขา​ปล่อย​ให้​เป็น​อย่างนี้​ต่อไป​โดย​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​นี้​เลย​หรือ​ใช้อำนาจ​ปิด​เรื่อง​นี้​ไว้​ย่อม​ส่งผล​เสีย​ต่อ​ชื่อเสียง​ของ​เขา​แน่นอน

ครั้น​นึกถึง​คำพูด​ที่​มู่​ชิง​อี​พูด​กับ​หรง​เฟย​ ​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​ฮ่องเต้​เขา​ย่อม​รู้อยู่​แล้ว​ว่า​อะไร​คือ​การเปรียบ​เทียบ​เพื่อ​เลือก​สิ่ง​ที่​เป็นผลดี​มากกว่า​ให้​กับ​ตน​ ​หาก​เป็น​เช่นนั้น​…​มู่​หร​งอ​วี​้​ก็​คง​ต้อง​ยอม​เสียสละ​ตัวเอง​แล้ว​ ​ระยะนี้​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ไม่​ค่อย​พอ​พระทัย​ใน​ตัว​มู่​หร​งอ​วี​้​เท่าไร​ ​เขา​ย่อม​ไม่​นึก​ละอายใจ​ต่อ​การ​เสียสละ​ของ​บุตรชาย​ผู้​นี้​เลย​

ตน​เป็น​ถึง​ฮ่องเต้​ ​อย่างน้อย​ก็​คง​พอ​ช่วย​ตน​ได้​บ้าง​กระมัง​ ​อีก​อย่าง​…​เรื่อง​ใน​ตอนนั้น​ก็​เป็นฝี​มือ​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​จริงๆ​ ​ซึ่ง​ก็​ไม่ได้​ถือว่า​ใส่ความ​เขา​แต่อย่างใด​ ​แต่​…​หาก​ตระกูล​กู้​ผงาด​ขึ้น​มา​ใหม่​ ​มู่​หรง​ซี.​..

พอนึก​ถึง​บุตรชาย​ที่​เคย​เป็น​องค์​รัชทายาท​มายี​่​สิบ​ปี​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ก็​ยิ่ง​ปวดศีรษะ​ ​หาก​ตระกูล​กู้​กลับมา​ใหม่​ ​แล้ว​มู่​หรง​ซีจะ​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ผิง​อ๋อง​ต่อไป​หรือ​กลับมา​เป็น​องค์​รัชทายาท​อีกครั้ง​ดี​เล่า​ ​สอง​ปี​มานี​้​ความระแวง​หวาดกลัว​ที่​ฮ่องเต้​แคว้น​หวามี​ต่อมู​่​หรง​ซี​ไม่ได้​มาก​เหมือน​แต่ก่อน​แล้ว​ ​อาจ​เป็น​เพราะ​ใบหน้า​ซีด​ขาว​ไร้​เรี่ยวแรง​ใน​หลาย​ปี​มานี​้​ของ​มู่​หรง​ซี​ ​เขา​ไม่ได้​หลักแหลม​โดดเด่น​ซึ่ง​แตกต่าง​จาก​ตอนนั้น​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​แต่​เพราะ​เกิดเรื่อง​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​เลย​พาน​ทำให้​ยัง​โกรธเคือง​ใน​ใจ​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ไม่มีทาง​เต็มใจ​ให้​มู่​หรง​ซี​ขึ้น​เป็น​องค์​รัชทายาท​อีกครั้ง​แน่นอน

“​เจ้า​ว่า​มา​ ​ช่วงนี้​ซี​เอ๋อร​์​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​จู่ๆ​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ก็​เปิดปาก​ตรัส​ถาม​ขึ้น

ขันที​ผู้ดูแล​ที่​คอย​ยืน​รับใช้​อยู่​ด้านหลัง​ไม่​ไกล​จาก​เขา​นัก​ผงะ​ไป​เล็กน้อย​ ​เขา​ติดตาม​รับใช้​ฝ่า​บาท​มา​หลาย​สิบ​ปี​แล้ว​ ​ต้อง​รู้​ก่อน​ว่า​ครั้งสุดท้าย​ที่​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​เรียก​ผิง​อ๋อง​ว่า​ซี​เอ๋อร​์​คง​ประมาณ​สิบ​ปีก่อน​ได้​ ​หรือว่า​…​ผิง​อ๋อง​จะ​กลับมา​เป็น​คนโปรด​อีกแล้ว​หรือ​ ​เขา​ลังเล​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​กราบทูล​ตาม​ความจริง​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​…​สุขภาพ​ของ​ผิง​อ๋อง​ไม่​ค่อย​ดีนัก​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​สุขภาพ​ไม่ดี​หรือ​”​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​สนใจ​เพียง​ว่า​บุตรชาย​ผู้​นี้​จะ​แอบ​ทำ​อะไร​ที่​ไม่​ควร​ทำ​ลับหลัง​เขา​หรือเปล่า​ ​ไหน​เลย​จะ​เคย​สนใจ​สุขภาพ​ของ​เขา​กัน​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​จดจำ​เพียง​ว่า​มู่​หรง​ซี​ใน​ช่วง​วัยเยาว์​นั้น​สง่างาม​สูงศักดิ์​ ​ความสามารถ​รอบด้าน​จน​ทุกคน​ทั่วทั้ง​ใต้​หล้า​ชื่นชม​ว่า​เขา​เป็นตัว​อย่างที่​ดี​ของ​เชื้อพระวงศ์​ ​ปกติ​มู่​หรง​ซี​ไม่ต้อง​เข้า​ราชสำนัก​ ​ทุกๆ​ ​สาม​ถึง​ห้า​เดือน​ถึง​จะ​มา​เข้าเฝ้า​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​สักครั้ง​ ​บางครั้ง​เพียงแค่​มองเห็น​เขา​จาก​ที่​ไกลๆ​ ​ก็​พลอย​ทำให้​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ไม่สบายใจ​และ​นึก​แค้นเคือง​ใจ​แล้ว

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท