หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 237 ตัวตนถูกเปิดเผย (3)

หวนคืนชะตาแค้น

เว​่ย​หลี​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​พูด​อย่าง​ไม่​ปิดบัง​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​คน​อย่าง​เจ้า​ ​ไม่ว่า​จะ​อยู่​ใน​สถานะ​ใด​ ​หาก​มิ​อาจ​อยู่​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​องค์​ชาย​เจ็ด​ได้​ ​ทาง​ที่​ดี​ก็​อย่า​ปรากฏตัว​ใน​เมืองหลวง​เลย​จะ​ดีกว่า​”​ ​ต่อหน้า​คนฉลาด​หลักแหลม​ ​ต่อให้​มีเรื่อง​มากมาย​อยาก​ปิดบัง​มาก​แค่ไหน​ก็​คง​ปิดบัง​ไว้​ไม่อยู่​ ​ในเมื่อ​ถูก​กู้​ซิ่ว​ถิ​งม​องค​วาม​คิดออก​แล้ว​ ​เว​่ย​หลี​จึง​ยอมรับ​อย่างตรงไปตรงมา

กู้​ซิ่ว​ถิง​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​ในเมื่อ​ข้า​รู้​จุด​นี้​ดี​ ​แม่ทัพ​เว​่​ยก​็​ควร​รู้​ด้วยว่า​…​ข้า​ย่อม​ต้องเต​รี​ยมการ​เอาไว้​อยู่​แล้ว​”

เว​่ย​หลี​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ตรึกตรอง​อยู่นาน​ ​จน​ในที่สุด​ก็​โบกมือ​อย่าง​ยอมแพ้​ ​“​เจ้า​ไป​เถิด​”

เวลานี้​กู้​ซิ่ว​ถิง​ไม่รู้​สึก​แปลกใจ​เลย​สักนิด​ ​หาก​วันนี้​เว​่ย​หลี​ไม่​ปรากฏตัว​เขา​ถึง​จะ​แปลกใจ​มากกว่า​ ​เดิมที​…​ถึงแม้​เขา​จะ​ไม่ได้​รู้สึก​ดี​กับ​มู่​หรง​จ้าว​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​ชิงชัง​อะไร​ ​แต่​ตอนนี้​…​เว​่ย​หลีก​ลับ​พูด​ใน​สิ่ง​ที่​ไม่​ควร​พูด​ ​เช่นนั้น​เขา​ก็​สมควร​ชดใช้​กรรม​ที่​ต้อง​ได้รับ​!

กู้​ซิ่ว​ถิง​ไม่สน​ใจ​มู่​หรง​จ้าว​ที่​ทำท่า​อึกอัก​อยาก​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​ไม่​พูด​แล้ว​หมุนตัว​เดิน​ออกจาก​จวน​ไป​ด้วย​ท่าที​สงบ​ ​เงา​แผ่น​หลัง​ค่อยๆ​ ​เคลื่อน​ออก​ไป​ไม่​ช้า​ไม่​เร็ว​ราวกับ​เขา​ไม่​รับรู้​ถึง​สายตา​ที่จับ​จ้อง​อยู่​เบื้องหลัง​เลย​สักนิด​ ​รู้​เพียง​ว่า​เงา​แผ่น​หลัง​ของ​กู้​ซิ่ว​ถิง​หาย​ลับ​ไป​หลัง​ประตู​วงเดือน​ ​เว​่ย​หลี​เอง​ก็​ไม่ได้​ขยับ​เคลื่อนไหว​ใดๆ

“​ท่าน​ตา​…​”​ ​มู่​หรง​จ้าว​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​กังวล

เว​่ย​หลี​ถอนหายใจ​แล้ว​มอง​มู่​หรง​จ้าว​ด้วย​ความเป็นห่วง​ ​หาก​เทียบ​กัน​แล้ว​หลานชาย​ผู้​นี้​อ่อนหัด​กว่า​จื้อ​อ๋อง​และ​กง​อ๋อง​อยู่​มาก​ ​เพราะ​ถูก​บุตรสาว​ของ​เขา​ตามใจ​จน​เคยตัว​ ​เรื่อง​ครั้งนี้​เว​่ย​หลี​เห็น​ว่า​แปลก​พิกล​มาตั​้ง​แต่แรก​แล้ว​ ​กระดาน​หมาก​และ​แผนการ​อัน​แยบยล​เช่นนี้​มู่​หรง​จ้าว​ไม่มีทาง​ทำได้​แน่นอน​ ​หลังจาก​ถามไถ่​ก็​หลุด​เผย​ความจริง​ออกมา​จริงๆ​ ​เพียงแต่​เห็นได้ชัด​ว่า​กู้​ซิ่ว​ถิง​ไม่ได้​รับมือ​ง่าย​ไป​กว่า​ท่าน​ปู่​ของ​เขา​เลย​ ​แต่​ครั้งนี้​เขา​ประเมิน​ความสามารถ​ของ​ศัตรู​ต่ำ​ไป​จน​ช้า​ไป​แค่​ก้าว​เดียว​เท่านั้น

ผ่าน​ไป​สักพัก​องครักษ์​ตระกูล​เว​่ย​ที่อยู่​ด้านนอก​ก็​พุ่งพรวด​เข้ามา​กล่าว​รายงาน​ ​“​นายท่า​น.​..​คุณชาย​ผู้​นั้น​…​”

เว​่ย​หลี​หรี่​ตาลง​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​คลาด​สายตา​ไป​ได้​หรือ​”

องครักษ์​พยักหน้า​ ​เอ่ย​อย่าง​ละอายใจ​ว่า​ ​“​เมื่อ​ครู่​ออกจาก​จวน​ไป​ได้​ไม่นาน​เท่าไร​ก็​หายตัว​ไป​อย่างไร​้​ร่องรอย​แล้ว​ขอรับ​”

เว​่ย​หลี​พลัน​ใจหาย​วูบ​ ​ส่วนใหญ่​องครักษ์​ของ​ตระกูล​เว​่​ยล​้​วน​ผ่าน​ความ​เป็นความ​ตาย​ใน​ศึกสงคราม​มา​ไม่น้อย​ ​กู้​ซิ่ว​ถิง​หายตัว​ไป​ภายใต้​สายตา​ที่จับ​จ้อง​ของ​คน​เหล่านี้​ได้​ ​ถือว่า​ไม่ธรรมดา​เลย​จริงๆ​ ​ในขณะเดียวกัน​เขา​เอง​ก็​ตกใจ​จน​เหงื่อ​เย็น​ไหล​อาบ​ท่วม​ตัว​ ​โชคดี​ที่​เมื่อ​ครู่​ไม่ได้​ทำ​อะไร​กู้​ซิ่ว​ถิง​ ​มิเช่นนั้น​…​เกรง​ว่า​หรง​เฟย​ที่อยู่​ใน​วัง​คง​เป็น​อะไร​ไป​จริงๆ​ ​แล้ว

ขณะที่​เว​่ย​หลี​และ​มู่​หรง​จ้าว​ต่าง​เป็นกังวล​เรื่อง​กู้​ซิ่ว​ถิง​ ​คุณชาย​ซิ่ว​ถิ​งก​ลับ​เข้า​เมืองหลวง​ไป​นั่ง​จิบ​ชา​ใน​ห้องส่วนตัว​ของ​ศาลา​ชิง​อาน​ด้วย​ท่าที​ผ่อนคลาย​ ​พร้อมทั้ง​มี​มู่​หรง​ซี​และ​มู่​ชิง​อีนั​่​งอยู​่​ตรงหน้า​เขา

“​ดูท่าทาง​ฝั่ง​มู่​หรง​จ้าว​คง​ราบรื่น​ไม่เบา​กระมัง​”​ ​มู่​ชิง​อี​คลี่​ยิ้ม​บาง

กู้​ซิ่ว​ถิง​ตอบกลับ​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​“​เกิดเรื่อง​เหนือ​ความคาดหมาย​นิดหน่อย​ ​แต่​เอาเป็นว่า​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร​หรอก​”

มู่​หรง​ซี​เคาะ​ขอบ​โต๊ะ​เสียง​เบา​ ​มอง​มู่​ชิง​อี​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ชิง​อี​คิด​ว่าน​้​อง​หก​จะ​ลงมือทำ​ร้าย​ข้า​กับ​น้อง​เก้า​อย่างนั้น​หรือ​”

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​เป็น​เพียง​การคาด​เดา​เท่านั้น​ ​แต่​หม่อมฉัน​ได้ยิน​…​เลี่ย​อ๋อง​แห่ง​เป่ย​ฮั่น​บอกว่า​หลาย​วัน​มานี​้​มู่​หร​งอ​วี​้​กับต​วน​อ๋อง​แห่ง​แคว้น​เย​่ว​์​แอบ​ติดต่อ​หากัน​ ​มี​ความเป็นไปได้​มาก​ว่า​สุนัข​คง​จนตรอก​แล้ว​”​ ​มู่​หรง​ซี​ไม่​นึก​ตงิด​ใจ​อะไร​ ​ทว่า​กู้​ซิ่ว​ถิ​งก​ลับ​สังเกตเห็น​ว่า​ขณะที่​มู่​ชิง​อี​เอ่ยถึง​เลี่ย​อ๋อง​แห่ง​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​ ​ท่าที​นั้น​ชะงัก​เล็กน้อย​ ​เขา​หรี่​ตาลง​และ​พอ​จะ​รู้​ใน​ใจ​ว่า​แท้จริง​แล้ว​สายลับ​ส่งข่าว​ผู้​นี้​เป็น​ใคร

“​ในเมื่อ​ชิง​อี​พูด​เช่นนี้​ ​ระยะนี้​ท่าน​ก็​ระวังตัว​ไว้​บ้าง​จะ​ดีกว่า​”​ ​กู้​ซิ่ว​ถิง​เอ่ย​โน้มน้าว​ ​“​เกรง​ว่า​องครักษ์​ใน​จวน​ท่าน​คง​ใช้งาน​อะไร​ไม่ได้​ ​เช่นนั้น​พาก​ลับ​ไป​เพิ่ม​อีก​สักหน่อย​เป็น​อย่างไรเล่า​”

มู่​หรง​ซีส​่า​ยศีร​ษะ​ปฏิเสธ​ ​“​ช่างเถิด​ ​ถึงแม้​ใน​จวน​ข้า​จะ​ไม่ได้​คุ้มกัน​แน่นหนา​เท่าไร​ ​แต่​หาก​มู่​หร​งอ​วี​้​คิด​จะ​ลอบฆ่า​องค์​ชาย​ใน​เมืองหลวง​ล่ะ​ก็​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่​ง่าย​ขนาด​นั้น​”

“​ปลอดภัย​ไว้​ก่อน​ ​กลัว​เกิดเรื่อง​ที่​ไม่แน่​นอน​ขึ้น​มากกว่า​”​ ​กู้​ซิ่ว​ถิง​เอ่ย​เตือน​ ​มู่​หรง​ซีส​่ง​ยิ้ม​บาง​แล้ว​พูด​เบี่ยงประเด็น​ไป​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ไม่​เก็บ​คำ​โน้มน้าว​ของ​สอง​คน​นี้​มา​ใส่ใจ​เลย

กู้​ซิ่ว​ถิง​และ​มู่​ชิง​อีสบ​ตากัน​แวบ​หนึ่ง​อย่าง​จนใจ​ ​เพราะ​สำหรับ​คนที​่​ถูก​กำหนด​ไว้​แล้ว​ว่า​อีกไม่นาน​ต้องตาย​ ​อีกทั้ง​บน​โลก​ใบ​นี้​ก็​ไม่​หลงเหลือ​สิ่งใด​ให้​อาลัยอาวรณ์​แล้ว​ ​เช่นนั้น​การ​นอน​ป่วย​ตาย​กับ​ถูก​ลอบฆ่า​ตาย​จะ​มี​ความแตกต่าง​กัน​อย่างไรเล่า

มู่​หรง​ซี​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​หาก​มามั​วร​อดู​แต่ว่า​มู่​หร​งอ​วี​้​จะ​ทำ​อะไร​ ​สู้​พวกเรา​บีบบังคับ​ให้​เขา​ลงมือ​เร็ว​หน่อย​เสียดี​กว่า​”

กู้​ซิ่ว​ถิ​งม​อง​เขา​ด้วย​คิ้ว​ขมวด​ ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่ชาย​หมายความว่า​อย่างไร​หรือ​”

“​จู​ซื่อ​”​ ​มู่​หรง​ซี​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​สำหรับ​สตรีที​่​ลอบฆ่า​เสด็จ​แม่​ของ​ตน​อย่าง​จู​ซื่อ​ ​มู่​หรง​ซีย​่​อม​โกรธ​เกลียด​นาง​เข้ากระดูกดำ​อยู่​แล้ว​ ​หาก​ทำให้​บุตรชาย​ของ​นาง​เห็น​นาง​ถูก​ตัดหัว​กับ​ตา​ตัวเอง​ได้​ ​บางที​อาจจะ​เป็นความ​คิด​ที่​ไม่เลว​เลย

“​ท่าน​อยาก​ไป​ทักทาย​จู​ซื่อ​สักหน่อย​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​ถาม​ ​นาง​ย่อม​เข้าใจ​อารมณ์​ของ​มู่​หรง​ซี​อยู่​แล้ว​ ​หาก​เวลานี้​คนที​่​อยู่​ใน​คุก​คือ​มู่​หร​งอ​วี​้​ ​นาง​เอง​ก็​คง​อดใจ​ไม่ไหว​อยาก​เข้าไป​มุง​ดูด​้วย​เหมือนกัน

มู่​หรง​ซี​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ส่ายหน้า​กล่าว​ ​“​ช่างเถิด​ ​รอ​วัน​ประหาร​ ​ข้า​ค่อย​ไป​ส่ง​นาง​ก็แล้วกัน​”

คุก​เทียน​สวรรค์​อัน​มืด​สลัว​คือ​คุก​ที่อยู่​ด้านใน​สุด​ของ​คุก​อื่นๆ​ ​ใน​นั้น​ไร้​ซึ่ง​แสงอาทิตย์​ทั้ง​สี่​ฤดูกาล​ ​อีกทั้ง​เต็มไปด้วย​กลิ่นอาย​เย็นยะเยือก​และ​กลิ่น​เหม็น​คลุ้ง​ ​ใน​คุก​อัน​มืดมิด​มี​เพียง​แสง​จาก​เปลวไฟ​ขนาด​เท่า​เมล็ด​ถั่ว​จาก​ตะเกียง​ที่​ส่องแสง​สว่างไสว​ ​ยิ่ง​ทำให้​ห้อง​คุก​ใน​เดือน​หก​ทั้ง​อับ​ชื้น​ทั้ง​อบอ้าว​ ​แค่​อยู่​ตรงนั้น​ครู่เดียว​ก็​เป็นเรื่อง​ทุกข์ทรมาน​แล้ว

เพราะ​คุก​แห่ง​นี้​อยู่​ด้านใน​สุด​ ​หาก​คิด​จะ​แหกคุก​ย่อม​เป็นเรื่อง​ยาก​ ​ดังนั้น​ทหาร​เฝ้า​คุก​จึง​แทบ​ไม่​ค่อย​เข้ามา​ใน​คุก​เทียน​สวรรค์​นี้​เท่าไร​ ​ใน​คุก​เต็มไปด้วย​เสียง​เซ็งแซ่​ของ​นักโทษ​ดังระงม​ ​เดิมที​คุก​แห่ง​นี้​ใช้​กักขัง​คน​น้อย​นัก​ ​แต่​ครั้งนี้​กลับ​มี​คน​เข้ามา​เป็นกอง​เบียดเสียด​อัด​แน่น​เต็ม​คุก​ใน​พริบตาเดียว​ ​และ​คุก​ด้านใน​สุด​และ​มืดมิด​ที่สุด​กลับ​มีส​ตรี​ที่​สวม​เสื้อผ้า​ยับยู่ยี่​ ​ผมเผ้า​ยุ่งเหยิง​และ​รอย​เลือด​เกรอะกรัง​บน​ตัว​คน​หนึ่ง

นาง​ผู้​นี้​ย่อม​เป็น​จู​ซื่อ​อยู่​แล้ว​ ​จาก​ตำแหน่ง​สูงศักดิ์​ใช้ชีวิต​สุขสบาย​ใน​วัง​มานา​นก​ว่ายี​่​สิบ​ปีก​ลับ​ตกอับ​มา​อยู่​ใน​คุก​เทียน​สวรรค์​ที่​มืดมิด​เย็นยะเยือก​ที่สุด​แห่ง​นี้​ ​นับตั้งแต่​จู​ซื่อ​ถูก​โยน​เข้ามา​ใน​คุก​ก็​นอน​ฟุบ​ตัว​อยู่​บน​พื้น​ตะกาย​ตัว​ลุกขึ้น​มา​ไม่ไหว​ ​ก่อนที่​นาง​จะ​ถูก​โยน​ออกจาก​วัง​ยัง​ถูก​ไท​เฮา​สั่ง​โบย​อีก​ห้าสิบ​ที​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​คนที​่​โบย​นาง​ยัง​จำได้​ว่านาง​ต้อง​ถูก​ประหาร​ ​เกรง​ว่านา​งคง​ถูก​ตี​ตาย​ตั้งแต่​ตอนนั้น​…

นับว่า​ยัง​ให้​สิทธิพิเศษ​กับ​จู​ซื่อ​อยู่​บ้าง​เพราะ​ยัง​จับ​นาง​ขัง​ไว้​คนเดียว​ ​ส่วน​คน​ของ​ตระกูล​จู​ที่​เหลือก​ลับ​อยู่​กัน​สอง​สาม​คน​ ​กระทั่ง​ถูก​อัด​เข้าไป​อยู่​ใน​กรงขัง​เดียว​หลาย​สิบ​คน​ก็​มี​ ​กิน​ ​ดื่ม​และ​ขับถ่าย​ใน​นั้น​หมด​ ​จึง​ทำให้​ใน​คุก​ยิ่ง​เหม็น​เน่า​สะอิดสะเอียน​จน​ยาก​จะ​ทน​ไหว

สำหรับ​จู​ซื่อ​แล้วยัง​นับว่า​เป็นเรื่อง​ดี​อยู่​บ้าง​ ​เพราะ​หาก​ไม่ได้​ถูกจับ​ขัง​อยู่​ใน​กรงขัง​คนเดียว​ ​เกรง​ว่า​เวลานี้​นาง​คง​ถูก​คน​ของ​ตระกูล​จู​ฉีก​เลือด​ฉีก​เนื้อ​จน​เละ​แน่นอน​ ​เดิมที​คน​ของ​ตระกูล​จู​ยัง​เสพสุข​กับ​บารมี​เกียรติยศ​ของ​จู​ซื่อ​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​และ​มู่​หร​งอา​นอยู​่​เลย​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​อยู่ดีๆ​ ​กลับ​ถูกจับ​ขัง​แล้ว​ต้อง​รอ​วัน​ประหารชีวิต​เช่นนี้

วัน​แรก​ยัง​มี​คน​ด่าทอ​เสียงดัง​อึกทึกครึกโครม​ ​พอ​วันที่​สอง​เริ่ม​มี​คน​สบถ​ด่า​จู​ซื่อ​อย่าง​โกรธแค้น​ ​แต่​ครั้น​เห็น​ว่า​กง​อ๋อง​ซึ่ง​เป็นความ​หวัง​เดียว​ของ​พวกเขา​ไม่​ปรากฏตัว​เลย​ทำให้​คน​พวก​นั้น​เริ่ม​สิ้นหวัง​ในที่สุด​ ​หลังจากนั้น​ก็​เริ่ม​ประณาม​จู​ซื่อ​ ​สุดท้าย​ก็​กลายเป็น​คำสาปแช่ง​ต่างๆ​ ​นา​ๆ​ ​เท่าที่​พวกเขา​จะ​ก่น​ด่า​ออกมา​ได้​ ​นอกเหนือจากนี้​พวกเขา​ก็​ไม่รู้​แล้ว​ว่า​จะ​ระบาย​ความหวาดกลัว​และ​ความสิ้นหวัง​ที่อยู่​ใน​ใจ​เช่นไร​ ​หายนะ​ทั้งหมด​นี้​ก็​ไม่ใช่​เพราะ​จู​ซื่อ​หรอก​หรือ

จู​ซื่อ​ฟุบ​ตัว​ลง​บน​กอง​หญ้า​เปียกชื้น​พลาง​รับฟัง​เสียง​สาปแช่ง​ด่าทอ​อัน​ไร้​เรี่ยวแรง​ของ​เหล่า​คน​ตระกูล​จู​ ​น้ำตา​จาก​หาง​ตาก​็​ค่อยๆ​ ​ริน​ไหลผ่าน​ใบหน้า​ที่​สกปรก​มอมแมม​ของ​นาง​แล้ว​หยด​ลง​บน​กอง​หญ้า​บน​พื้น​ ​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ ​จาก​สตรี​อายุ​สี่​สิบ​กว่า​ๆ​ ​ที่​บำรุง​ดูแลตัวเอง​ดี​มาต​ลอด​อย่าง​จู​ซื่อ​กลับ​ดู​แก่​ลง​ไม่น้อย​ ​กระทั่ง​ผม​ขาว​ตรง​จอน​ผม​ก็​ยัง​ปรากฏ​ให้​เห็น​อยู่​หลาย​เส้น

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท