หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 242 เผยไต๋ ความเคียดแค้นของมู่หรงอวี้ (4)

หวนคืนชะตาแค้น

มู่​หร​งอ​วี​้​หลุบ​ตาล​งม​อง​ดอกไม้​บน​พื้น​แวบ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​คน​บน​เตียง​

ผิง​อ๋อง​เอา​กระถางดอกไม้​นี่​มาส​่ง​ให้​ถึงที่​นี่​ใน​เวลา​แบบนี้​ ​ถือเป็น​การตักเตือน​และ​ท้าทาย​เขา​ชัดๆ

พอส​งบ​สติอารมณ์​ลง​ได้​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​ก็​ออกคำสั่ง​ ​“​เก็บกวาด​เจ้า​นี่​แล้ว​เอา​ออก​ไป​ทิ้ง​เสีย​ ​ให้​คน​มาดู​แลน​้​อง​แปด​อย่างดี​ด้วย​”

ผู้ดูแล​จวน​ลังเลใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​…​ควร​ทำ​อย่างไร​กับ​หนิง​อ๋อง​ต่อ​ดี​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

มู่​หร​งอ​วี​้​ปิด​เปลือกตา​ลง​แล้ว​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​เวลานี้​ยัง​จะ​ทำ​อะไร​ได้​อีก​หรือ​ ​รอฟัง​ลิขิต​จาก​สวรรค์​เอาเถิด​”

ครั้น​ออกจาก​จวน​หนิง​อ๋อง​มา​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​ก็​จับจ้อง​เหล่า​องครักษ์​นอก​จวน​หนิง​อ๋อง​ที่มา​คอย​รับใช้​เขา​ด้วย​ท่าที​สับสน​ ​คน​พวก​นั้น​มา​จวน​หนิง​อ๋อง​เป็นเพื่อน​ตน​ก็​จริง​ ​แต่​พวกเขา​มิได้​มาดู​แลค​วาม​ปลอดภัย​ของ​ตน​ ​แต่​มา​เพื่อ​จับตาดู​ว่า​หลังจาก​ตน​มา​เยี่ยม​น้อง​แปด​แล้ว​กลับ​จวน​กง​อ๋อง​ทันที​หรือไม่

ตน​มาถึง​ขั้น​นี้​…​ตั้งแต่​เมื่อไร​นะ​ ​ภาพลักษณ์​ใน​เดิมที​ที่​ดู​ฉลาด​มี​ความสามารถ​ ​จิตใจ​เมตตา​อ่อนโยน​ของ​ตน​ที่​ชวน​ให้​ใครต่อใคร​ต่าง​รู้สึก​ดี​ ​แม้แต่​ใน​หมู่​องค์​ชาย​เอง​ก็​ถือว่า​ตน​นั้น​มี​ปฏิสัมพันธ์​ที่​ดีที​่​สุด​คน​หนึ่ง​ก็​ว่า​ได้​ ​ทว่า​บัดนี้​ตน​เพิ่ง​รู้​ว่า​ทุกอย่าง​ไม่ได้​มีความหมาย​ใด​ต่อ​เสด็จ​พ่อ​ที่​สถานะ​สูงศักดิ์​ผู้​นั้น​เลย​ ​เพราะ​เพียงแค่​เสด็จ​พ่อ​เปลี่ยนความคิด​ ​ความ​ทุ่มเท​บากบั่น​เอาชนะ​คนอื่น​ได้​ทั้งหมด​ใน​หลาย​ปี​มานี​้​ของ​ตน​ก็​มลาย​หาย​ไป​ไม่​เหลือ​อะไร​สัก​อย่าง

มู่​หร​งอ​วี​้​กวาดตา​มอง​องครักษ์​ด้านหลัง​อย่าง​เย็นชา​แวบ​หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​ย่างกราย​เดิน​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​จวน​กง​อ๋อง​อย่าง​ช้าๆ​ ​โดย​ไม่สน​ใจ​สีหน้า​ท่าที​แปลก​ๆ​ ​ของ​คนที​่​สัญจร​ไปมา​ละแวก​นั้น

“​น้อง​หก​”​ ​เสียง​อัน​อบอุ่น​เสียง​หนึ่ง​ดัง​แว่ว​เข้ามา​ใน​หู​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​ชะงัก​เล็กน้อย​ก่อน​จะ​แหงนหน้า​ขึ้น​มอง​ไป​ด้านบน​ ​ที่แท้​เขา​ก็​เดิน​มาถึง​ด้านล่าง​ของ​ศาลา​ชิง​อาน​แล้ว​ ​ริม​หน้าต่าง​ที่​เปิด​อยู่​บน​ชั้นสอง​ปรากฏ​กาย​ของ​มู่​หรง​ซีกำ​ลัง​ยืน​มอง​มาทาง​เขา​ด้วย​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้มอยู่​ตรงนั้น

“​พี่​สอง​”​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​หลุบ​ตาลง​เพื่อ​ปกปิด​อารมณ์​เดือดดาล​ของ​ตน​แล้ว​เอ่ย​เรียก​อย่างนอบน้อม

มู่​หรง​ซีพ​ยัก​หน้า​เอ่ย​ ​“​น้อง​หก​ขึ้น​มานั​่ง​สักหน่อย​เถิด​”

มู่​หร​งอ​วี​้​ชั่งใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ถึง​เอ่ย​ ​“​น้อม​รับ​บัญชา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เหล่า​องครักษ์​ที่​ติดตาม​มู่​หร​งอ​วี​้​มาต​่าง​พากั​นมุ​่​นคิ​้​วอ​ย่าง​เป็นกังวล​ ​พวกเขา​ได้รับ​คำสั่ง​ให้​คุ้มกัน​พาก​งอ​๋​อง​กลับ​จวน​ ​ห้าม​ให้​เขา​เถลไถล​อยู่​ข้างนอก​ ​แต่​พวกเขา​ก็​เมิน​ใส่​คำพูด​ของ​ผิง​อ๋อง​ไม่ได้​เช่นกัน​ ​หลาย​วัน​มานี​้​เหมือน​ฝ่า​บาท​จะ​มีท​่า​ที​โอนอ่อน​ให้​แก่​ผิง​อ๋อง​ไม่น้อย​ ​พระองค์​ไม่​ถามไถ่​อะไร​แต่กลับ​ส่ง​ของ​ไป​ให้​จวน​ผิง​อ๋อง​อยู่​ตลอด

มู่​หรง​ซี​เข้าใจ​ความกังวล​ของ​เหล่า​องครักษ์​ ​จึง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​พวก​เจ้า​วางใจ​ได้​ ​เดี๋ยว​ข้า​จะ​เป็น​คน​ไป​ส่ง​น้อง​หกกลับ​จวน​เอง​ ​หาก​ฝ่า​บาท​จะ​ทรง​กล่าวโทษ​ ​ข้า​จะ​เป็น​คนรับ​ผิด​ชอบ​เอง​”

“​มิบั​งอาจ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​องค์​ชาย​หก​เชิญ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ผู้นำ​ของ​เหล่า​องครักษ์​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​นอบน้อม​ยำเกรง​ ​ด้วย​ความสัมพันธ์​ของ​ผิง​อ๋อง​กับ​องค์​ชาย​หก​แล้ว​ไม่มีทาง​สมรู้ร่วมคิด​ทำ​อะไร​ได้​แน่นอน

ครั้น​เห็น​ฝูงชน​ที่​เดิน​สัญจร​ไปมา​แอบ​เหลือบมอง​เขา​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​ก็​แค่น​เสียง​เบา​ด้วย​ความ​อึดอัด​ใจ​ก่อน​จะ​สะบัด​ชายผ้า​เดิน​เข้า​ศาลา​ชิง​อาน​ไป

มู่​หรง​ซี​ไม่ได้​นั่ง​ใน​ห้องส่วนตัว​ ​ถึงแม้​เวลานี้​คนใน​ศาลา​ชิง​อาน​จะ​มี​ไม่​มาก​นัก​ ​แต่​พอ​เห็น​มู่​หร​งอ​วี​้​เดิน​ขึ้น​มาต​่า​งก​็​พากั​นอด​ผงะ​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน​ไม่ได้​ ​สีหน้า​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​ก็​ยิ่ง​เย็นยะเยือก​ขึ้น​มากกว่า​เดิม​ ​หลังจาก​เดิน​มาถึง​เบื้องหน้า​ของ​มู่​หรง​ซี​ ​เขา​ก็​กวาดตา​มอง​สีหน้า​สงบ​ราบเรียบ​ของ​มู่​หรง​ซี​อยู่​พักใหญ่​ถึง​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​พี่​สอง​มาร​ออยู​่​ที่นี่​เพื่อ​สร้าง​ความอับ​อาย​ให้​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​ ​ช่าง​เปลือง​แรง​เสีย​จริง​”

มู่​หรง​ซี​มอง​เขา​ด้วย​ท่าที​แน่นิ่ง​ ​ฉีก​ยิ้ม​บาง​เอ่ย​ ​“​น้อง​หก​คิดมาก​เกินไป​แล้ว​ ​ข้า​คิด​มาต​ลอด​ว่า​เรา​ควร​พูดคุย​กัน​ ​หรือ​เจ้า​ไม่​คิด​เช่นนั้น​หรือ​”

มู่​หร​งอ​วี​้​เผย​รอยยิ้ม​เยาะ​ที​หนึ่ง​ ​พลาง​มอง​มู่​หรง​ซีด​้ว​ยสี​หน้า​ขึงขัง​ ​มู่​หรง​ซี​เห็น​ดังนั้น​ก็​หลุบ​ตาลง​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​หลาย​ปี​มานี​้​…​ถึงแม้​ข้า​จะ​พอ​เดา​หลาย​เรื่อง​ได้​ ​แต่กลับ​คิดไม่ถึง​เลย​ว่าน​้​อง​หก​…​จะ​ใจ​เหี้ยม​กว่า​ที่​ข้า​คิด​ไว้​มาก​ขนาด​นี้​”

มู่​หร​งอ​วี​้​แค่น​เสียงเย็น​ชา​เอ่ย​ ​“​หาก​อ่อนแอ​คง​มิใช่​สุภาพชน​ ​หาก​ไร้​เขี้ยว​พิษ​คง​มิใช่​บุรุษ​อย่าง​สมศักดิ์ศรี​ ​ถ้า​ผิง​อ๋อง​อยาก​วิพากษ์วิจารณ์​ข้า​ล่ะ​ก็​ ​อย่า​เลย​ดีกว่า​ ​หรือ​ผิง​อ๋อง​คิด​ว่า​ตน​เป็น​สุภาพชน​ที่​ทำ​อะไร​อย่างเปิดเผย​อย่างนั้น​หรือ​ ​คน​บน​โลก​นี้​ก็​เหมือน​ท่าน​หมด​นั่นแหละ​”

มู่​หรง​ซีก​ลับ​ไม่​โกรธ​เลย​สักนิด​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​“​ที่แท้​เจ้า​ก็​ยอมรับ​ว่า​ข้า​ทำ​อะไร​อย่างเปิดเผย​ตรงไปตรงมา​เหมือนกัน​หรือ​ ​หาก​กล่าว​เช่นนี้​ ​พี่​สอง​อย่าง​ข้า​ก็​คง​ไม่ได้​ทำ​อัน​ใด​ผิด​ต่อ​เจ้า​”

มู่​หร​งอ​วี​้​กัดฟัน​กรอด​ไม่​พูด​อะไร​ ​มู่​หรง​ซีก​็​ไม่ได้​ทำ​เรื่อง​อะไร​ที่​ผิด​ต่อ​เขา​จริงๆ​ ​ไม่ว่า​ใน​ฐานะ​องค์​รัชทายาท​คน​หนึ่ง​ของ​เหล่า​ขุนนาง​หรือ​พี่ชาย​คน​หนึ่ง​ของ​น้องชาย​ก็​ถือว่า​มู่​หรง​ซีพ​ยายาม​ชี้นำ​อย่างเต็มที่​แล้ว​ ​หาก​จะ​พูดถึง​เรื่อง​เดียว​ที่​ผิง​อ๋อง​ทำผิด​ต่อ​เขา​ก็​คือ​ผิง​อ๋อง​เกิด​มามี​สถานะ​สูงส่ง​มากกว่า​เขา​ ​มีอำนาจ​มากกว่า​เขา​ ​และ​ขัดขวาง​ตำแหน่ง​ที่​เขา​อยากได้​มาก​ที่สุด​

มู่​หร​งอ​วี​้​เอง​ก็​รู้ดี​ว่า​ทุก​การกระทำ​ของ​เขา​หาก​มอง​จาก​มุม​นั้นแล​้​วนับ​ว่า​เป็น​คน​เนรคุณ​ ​ชั่วร้าย​กว่า​สัตว์​เดียรัจฉาน​ก็​จริง​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่​นึก​เสียใจ​เลย​ ​ ​ถ้า​เขา​ไม่​ทำ​เช่นนั้น​ก็​คง​กลายเป็น​องค์​ชาย​ที่​ไม่​เตะตา​ใคร​คอย​ติดตาม​องค์​รัชทายาท​ไป​ชั่วชีวิต​ ​ท่าน​อ๋อง​เอ๋ย​ ​ท่าน​ล้วนแต่​อาศัย​อิทธิพล​ของ​ตระกูล​กู้​ถึง​ทำให้​สามารถ​ยืนหยัด​อยู่​ใน​ราชสำนัก​ได้​อย่างมั่นคง​ต่างหาก​ ​และ​ต่อให้​วัน​เวลา​ที่​เฉิดฉาย​ของ​เขา​จะ​เป็นระยะ​เวลา​สั้น​ๆ​ ​ไม่​กี่​ปี​ ​แต่​เขา​ไม่มีวัน​นึก​เสียใจ​ภายหลัง​แน่นอน

“​ตกลง​ท่าน​ต้องการ​จะ​พูด​อะไร​กัน​แน่​!​”​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​กัดฟัน​เอ่ย​ ​ถึงแม้​ใน​ใจ​จะ​ยอมรับ​ว่า​ทุก​การกระทำ​ของ​ตน​เหมือน​ไม่ใช่​คน​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​หมายความว่า​มู่​หร​งอ​วี​้​จะ​ชอบ​ให้​ใคร​ขุด​เรื่อง​ที่​เขา​เคย​ทำ​ใน​อดีต​มา​เล่า​ให้​ตัวเอง​ฟัง​สักหน่อย

มู่​หรง​ซี​มอง​เขา​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง​แล้ว​กล่าว​ ​“​ข้า​ก็​แค่​อยาก​บอก​เจ้า​ว่า​ ​ในเมื่อ​ข้า​ไม่เคย​ทำ​สิ่งใด​ผิด​ต่อ​เจ้า​ ​วันหน้า​…​หาก​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​เจ้า​คง​ทำได้​แค่​โทษ​ตัวเอง​แล้ว​”

มู่​หร​งอ​วี​้​จับจ้อง​เขา​อย่าง​ระแวง​แล้ว​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​พี่​สอง​จะ​ทำ​อะไร​อีก​ ​เสด็จ​แม่​ถูก​ท่าน​ทำร้าย​จน​ใกล้​ตาย​อยู่​รอมร่อ​ ​ส่วน​น้อง​แปด​ก็​ใกล้​ไม่ไหว​เต็มที​แล้ว​เช่นกัน​ ​ท่าน​จะ​เอาอย่าง​ไร​อีก​”

“​น้อง​หก​”​ ​มู่​หรง​ซี​เอ่ย​เสียงอ่อน​โยน​ ​“​เสด็จ​แม่​ของ​ข้า​ตาย​ไป​แล้ว​ ​ท่าน​ตาก​็​ตาย​ไป​แล้ว​ ​คน​ของ​ตระกูล​กู้​ต่าง​ก็​ตาย​กัน​ไป​หมด​แล้ว​”​ ​คนที​่​ตาย​ไป​แล้ว​ไม่มีทาง​ฟื้น​กลับมา​ได้​อีก​ ​ปม​แค้น​ความตาย​ไม่มีทาง​คลี่คลาย​ได้​ ​นอก​เสีย​จาก​ว่า​คนใดคนหนึ่ง​ต้องตาย​จากไป

มู่​หร​งอ​วี​้​ผงะ​ไป​ ​กัดฟัน​เอ่ย​ ​“​ดังนั้น​ผิง​อ๋อง​อยาก​มาบ​อก​ข้าว​่า​ ​ท่าน​อยากได้​ชีวิต​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​ ​ได้​สิ​ ​ข้า​จะ​รอท่า​นมา​เอา​ไป​แล้วกัน​”​ ​เขา​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​ท่าที​หยิ่งผยอง​ ​รักษา​ท่าที​โอหัง​ของ​ตน​ต่อไป​โดย​ไม่สน​ยศฐาบรรดาศักดิ์​ของ​คนตรง​หน้า​อีก​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​จับจ้อง​มู่​หรง​ซี​อย่าง​ไม่ยอม​แพ้

มู่​หรง​ซีพ​ยัก​หน้า​เอ่ย​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​น้อง​หก​รักษาตัว​ด้วย​”

หลังจาก​ได้​เจอกัน​ครั้งนี้​พวกเขา​ทั้งสอง​ก็​ไม่ใช่​พี่น้อง​กัน​อีกต่อไป​ ​สิ่ง​ที่​เคย​เรียกว่า​สายเลือด​เดียวกัน​ก็​เอาชนะ​ความเคียดแค้น​ที่​คุกรุ่น​ไม่ได้​ ​ชั่วเวลา​นี้​มี​เพียง​ปม​แค้น​พยาบาท​และ​ตาย​กัน​ไป​ข้าง​เท่านั้น

มู่​หรง​ซีลุก​ขึ้น​เอ่ย​ ​“​ไป​เถิด​ ​ข้า​จะ​ไป​ส่ง​น้อง​หกกลับ​จวน​เอง​”

มู่​หร​งอ​วี​้​เอาแต่​คิด​ว่านี​่​เป็นความ​อัปยศ​ที่​มู่​หรง​ซีส​ร้าง​ให้​ตน​ ​เขา​แค่น​เสียงเย็น​ชา​ที​หนึ่ง​ก่อน​จะ​ชิง​เดินลง​ศาลา​ชิง​อาน​ไป​ก่อน

พวกเขา​สอง​คน​เดิน​กลับ​อย่าง​ช้าๆ​ ​ฉาก​เดิน​กลับ​ไป​ยัง​จวน​กง​อ๋อง​ชวน​ให้​คน​มากมาย​ใน​เมืองหลวง​ต่าง​พากัน​แปลกใจ​ไม่น้อย​ ​หลาย​วัน​มานี​้​ทุก​การกระทำ​ของ​จวน​กง​อ๋อง​และ​จู​ซื่อ​ที่​เคย​ทำต่อ​อดีต​ฮองเฮา​และ​ผิง​อ๋อง​ต่าง​เล่าลือ​ไป​ทั่วเมือง​หลวง​ ​ครั้งนี้​ชื่อเสียง​ภาพลักษณ์​ที่​ถือว่า​ก็​ไม่​แย่​นัก​สำหรับ​ใน​ใจ​ของ​ประชาชน​กลับ​พังทลาย​ลง​จนถึง​ขั้น​ที่​พวกเขา​คิดไม่ถึง​ด้วยซ้ำ​ ​ทุกคน​ต่าง​คิด​ไป​ว่า​ฉาก​ตรงหน้า​เป็น​เพราะ​ผิง​อ๋อง​มีนิ​สัย​สุขุม​และ​จิตใจ​เมตตา​ล้น​ฟ้า

มู่​หรง​ซียืน​ยิ้ม​บาง​จับจ้อง​มู่​หร​งอ​วี​้​อยู่​นอก​จวน​กง​อ๋อง​แล้ว​เอ่ย​ ​“​น้อง​หก​ ​รักษาตัว​ด้วย​”

มู่​หร​งอ​วี​้​ขมวดคิ้ว​มุ่น​พลัน​รู้สึก​ว่า​คำพูด​ของ​มู่​หรง​ซี​ไม่​เหมือน​คำ​อวยพร​เท่าไร​นัก​ ​แน่นอน​ว่า​ต่อให้​มู่​หรง​ซี​เกิด​เสียสติ​ขึ้น​มาก​็​ไม่มีทาง​กล่าว​อวยพร​เขา​กระมัง​ ​เพียงแต่​คำพูด​ของ​มู่​หรง​ซี​มัก​ทำให้​เขา​รู้สึก​ว่า​มีนัย​ยะ​บางอย่าง​ที่​ไม่​ให้​ใคร​รู้​แอบแฝง​ไว้​อยู่​ ​นี่​เลย​ทำให้​เขา​พลอย​รู้สึก​ไม่สบายใจ​และ​ว้าวุ่น​ใจ​ไม่น้อย

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท