หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 253 รอดพ้นอันตราย ริมแม่น้ำใต้แสงจันทรา (3)

หวนคืนชะตาแค้น

ทว่า​มีด​ใน​มือ​ของ​หรง​จิ​่น​ปรากฎ​ให้​เห็น​ประกาย​ไอ​เย็นยะเยือก​เพียง​แวบเดียว​ก็​ถูก​เขา​เก็บ​กลับ​ไป​จากนั้น​ก็​หยิบ​อาวุธ​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​พร้อม​ยิ้ม​ตาหยี​ ​ที่จริง​แล้ว​มีด​ซิว​หลัว​เหมาะกับ​การต่อสู้​แบบ​ประชิดตัว​มากกว่า​ ​อีก​อย่าง​หรง​จิ​่น​เอง​ก็​ชอบ​ต่อสู้​แบบ​ประชิดตัว​อยู่​แล้ว​ ​การปะทะ​ด้วย​อาวุธ​มีด​ขนาด​สั้น​ใน​ระยะ​ประชิด​ ​ชั่ว​วินาที​ที่​มีด​ซิว​หลัว​แทง​เข้า​ร่าง​ของ​ศัตรู​ ​เลือด​สีสด​จะ​ทะลัก​ออกมา​งดงาม​ดั่ง​ศิลปะ​มัน​ดาลา​ซึ่ง​เป็น​แบบ​ที่​เขา​ชอบ​มาก​ที่สุด​ ​แต่​ยาม​ที่​มี​อีก​คน​อยู่​ใน​อ้อมอก​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่​เหมาะกับ​การต่อสู้​ระยะ​ประชิด​ ​ดังนั้น​หรง​จิ​่น​เลย​ทำได้​แค่​ล้มเลิก​การ​ใช้​อาวุธ​ที่​ถนัดมือ​ที่สุด​อย่าง​เศร้าใจ​แล้ว​หันมา​เลือก​ใช้​อาวุธ​อื่น​แทน

หรง​จิ​่น​ใช้​แส้​ถนัดมือ​มาก​ไม่​แพ้​กัน​ ​แส้​ยาว​สีเงิน​เส้น​หนึ่ง​กวัดแกว่ง​ไปมา​ราว​ระบำ​งู​สีทอง​ ​ทำให้​พวกเขา​สอง​คน​ปลอดภัย​อยู่​ใน​อาณาเขต​วงล้อม​นั้น​ ​อีกทั้ง​หาก​ใคร​ไม่ทัน​ระวัง​เผลอ​โดน​แส้​นั้น​เข้า​ก็​ต้อง​หนัง​ถลอก​จน​เห็น​เนื้อ​ด้านใน​ ​จากนั้น​ไม่นาน​แส้​สีเงิน​ขาว​ก็​ถูก​ย้อม​เป็น​สีแดง​สด

มู่​หร​งอ​วี​้​จับจ้อง​พวกเขา​สอง​คนที​่​อยู่​ท่ามกลาง​วงล้อม​ด้วย​สีหน้า​ดุดัน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ฝีมือ​วิทยา​ยุทธ​ขั้นสูง​ของ​บุรุษ​ชุด​ดำ​เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​เขา​ไปมาก​ ​ดังนั้น​คนที​่​พุ่ง​เข้าไป​ต่าง​ก็​ร้อง​โหยหวน​จน​ต้อง​ถอย​ออกมา​ใน​เวลา​ไม่นาน​ ​ฝีมือ​การต่อสู้​ห่าง​ชั้น​กัน​มาก​ ​คน​พวก​นี้​แทบ​บุก​ฝ่า​วงล้อม​ป้องกัน​ของ​หรง​จิ​่น​ไม่ได้​เลย​ ​หาก​ไม่ยอม​สละ​ชีวิต​บุกเข้าไป​สังเวย​ชีวิต​ก็​ต้อง​รอจังหวะ​หรง​จิ​่น​สิ้นเปลือง​กำลังภายใน​จน​หมดแรง​ตอบโต้​ไป​เอง

เห็นได้ชัด​ว่า​มู่​หร​งอ​วี​้​ไม่มี​ความอดทน​พอ​จะ​รอ​ให้​หรง​จิ​่น​หมดแรง​ ​เขา​คว้า​คนที​่​เพิ่ง​ถูก​แส้​ฟาด​จน​หมดสติ​ล้ม​ลงพื้น​ขึ้น​มาก​่อน​เตะ​ไป​ทาง​หรง​จิ​่น​และ​มู่​ชิง​อี

หรง​จิ​่​นมี​แสงประกาย​พาด​ผ่าน​แววตา​ครู่หนึ่ง​ ​แส้​ยาว​ใน​มือ​กวัดแกว่ง​ฟาด​ร่าง​ของ​คนที​่​ถูก​เตะ​มาก​ลาง​อากาศ​ ​แม้แต่​เสียงร้อง​โอดครวญ​เจ็บปวด​ยัง​ไม่ทัน​ร้อง​สัก​แอะ​ ​คนที​่​หมดสติ​คน​นั้น​ก็​สิ้นใจ​ไป​ก่อน​ ​กระทั่ง​แม้แต่​แขน​ยัง​ขาดลอย​กระเด็น​ไป​ด้วย

เหล่า​ลูกน้อง​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​ตรงนั้น​ต่าง​ลอบ​สะท้าน​เฮือก​ใน​ใจ​ ​แส้​ยาว​ไม่ใช่​อุปกรณ์​ที่​ดี​ใน​การสังหาร​คนเลย​ ​ดังนั้น​ถึงแม้​พวก​ที่นอน​อยู่​บน​พื้น​จะ​บาดเจ็บ​หนัก​บาดแผล​เหวอะหวะ​แค่ไหน​แต่​ก็​แค่​หมดสติ​ไป​เท่านั้น​ ​ส่วน​คนที​่​ตาย​จริงๆ​ ​กลับ​มี​ไม่​มาก​นัก​ ​ทว่า​วิธีการ​ของ​กง​อ๋อง​เช่นนี้​แทบ​ไม่เห็น​ชีวิต​ของ​พวกเขา​อยู่​ใน​สายตา​ด้วยซ้ำ

มู่​หร​งอ​วี​้​กลับ​ไม่สน​ใจ​ว่า​คนอื่น​จะ​คิด​เช่นไร​ ​พอ​เห็น​ว่า​ได้ผล​จึง​รีบ​คว้า​ตัว​อีก​คนตรง​มุม​หนึ่ง​โยน​เข้าไป​อีก​ ​ทันทีที่​แส้​ของ​หรง​จิ​่น​ได้​ปะทะ​กับ​คนที​่​โยน​เข้าไป​ถึง​จะ​ปรากฏ​ช่องว่าง​จู่โจม​ ​คนใน​ยุทธ​ภพ​ตรงนั้น​เอง​ก็​รับรู้​ได้​ในทันที​จึง​รีบ​พุ่งตัว​เข้าใส่​เพื่อ​ไม่​ให้​แส้​ยาว​ของ​หรง​จิ​่น​แสดง​อิทธิฤทธิ์​ได้​อีก

“​แค่ก​ๆ​…​ชิง​ชิง​ ​เจ้า​กลัว​หรือไม่​”​ ​ขณะที่​รับมือ​กับ​คนที​่​ฝ่า​วงล้อม​บุก​เข้ามา​ ​หรง​จิ​่​นก​ลับ​ยัง​มี​กะ​จิต​กะ​ใจ​แบ่ง​สมาธิ​คอย​ดูแล​มู่​ชิง​อี​ไป​ด้วย​ ​ถึงแม้​ตอนนี้​จะ​เข่นฆ่า​กัน​เลือด​สาด​ ​แต่​ชุด​สีขาว​ดั่ง​หิมะ​ของ​มู่​ชิง​อีก​ลับ​ไม่​แปดเปื้อน​เลือด​เหล่านั้น​เลย​สักนิด

มู่​ชิง​อี​ที่​แนบกาย​อยู่​ใน​อ้อมอก​ของ​หรง​จิ​่น​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​สุดท้าย​คนเรา​ก็​ต้องตาย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​หม่อมฉัน​เอง​ก็​กลับมา​มีชีวิต​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ ​มี​อะไร​ให้​กลัว​กัน​”​ ​ครั้น​ได้ยิน​หรง​จิ​่น​ไอเสียง​ต่ำ​ ​มู่​ชิง​อีก​็​รู้ทัน​ที​ว่า​ไม่ใช่​เรื่อง​ดี​แล้ว​ ​จุดอ่อน​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ของ​หรง​จิ​่​นคื​ออา​การ​ป่วย​ของ​เขา​ ​หาก​กำเริบ​ขึ้น​มาก​็​หนัก​เอา​การ​ทีเดียว​ ​นี่​จึง​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​การต่อสู้​ของ​หรง​จิ​่​นมาก​ ​เพราะ​แม้แต่​หรง​จิ​่น​เอง​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​ครั้งหน้า​เขา​จะ​อาการ​กำเริบ​ขึ้น​มา​อีก​เมื่อไร​ ​ดังนั้น​ถึงแม้​จะ​ปะทะ​กับ​ใคร​ก็​ต้อง​ระวัง​มาก​เป็นพิเศษ

อีกทั้ง​เห็นได้ชัด​ว่า​ครั้งนี้​พวกเขา​โชค​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก

“​แค่​ก.​..​ข้า​จัดการ​ฆ่า​มู่​หร​งอ​วี​้​ก่อน​ได้​หรือไม่​”​ ​หรง​จิ​่น​เอ่ย​ถาม​เสียง​เบา​ด้วย​ความ​เกรี้ยว​โกรธ

มู่​ชิง​อีสัม​ผัส​ได้​ว่า​มือ​ที่​กำลัง​โอบ​เอว​ของ​นาง​สั่นเทา​จึง​เอ่ย​เสียง​นิ่ง​ ​“​ได้​สิ​ ​หาก​ตอนนี้​องค์​ชาย​ยัง​มี​แรง​อยู่​นะ​เพ​คะ​”

หรง​จิ​่น​ถอนหายใจ​อย่าง​จนปัญญา​ที​หนึ่ง​ ​“​ไม่มี​แล้ว​”​ ​ขอ​แค่​อาการ​กำเริบ​ ​แรง​ใน​ร่างกาย​ของ​เขา​ก็​จะ​อันตรธาน​หาย​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​เขา​จึง​ต้อง​รีบ​หนี​ออกจาก​ความวุ่นวาย​นี้​ไป​ให้​ได้​ ​หาก​ปล่อย​เวลา​ผ่าน​ไป​เพียง​ครู่เดียว​เกรง​ว่า​แม้แต่​แรง​ขยับตัว​ก็​คง​ไม่มี​แล้ว

“​แค่ก​ๆ​”​ ​หรง​จิ​่น​ไอ​พลาง​โอบ​ร่าง​มู่​ชิง​อี​ถอย​ไป​อีก​ฝั่ง​ ​ขณะเดียวกัน​ก็​ลง​ไม้​ลงมือ​เหี้ยมโหด​มากกว่า​เดิม

มู่​หร​งอ​วี​้​หรี่​ตา​แล้ว​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​ขวางทาง​เขา​ไว้​ ​เขา​คิด​จะ​หนี​!​”​ ​พูด​จบ​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​ก็​ไม่สน​ใจ​ใคร​อีกแล้ว​ถือ​ดาบ​พุ่ง​เข้าไป​ ​หรง​จิ​่น​เหวี่ยง​แส้​กวาด​คน​พวก​นั้น​ที่​พุ่ง​เข้ามา​หาก​่อน​เอ่ย​เสียงต่ำ​ ​“​ชิง​ชิง​ ​หาก​ตาย​ขึ้น​มา​ ​เจ้า​จะ​โทษ​ข้า​หรือไม่​”

“​ไม่เลย​”​ ​เสียง​ของ​มู่​ชิง​อี​ชัดเจน​และ​สงบ​มาก​ ​ไม่ว่า​เช่นไร​หรง​จิ​่​นก​็​ทำ​เพื่อ​ช่วย​นาง​ ​ต่อให้​นาง​ใจดำ​อำมหิต​แค่ไหน​ก็​ไม่​เนรคุณ​คน

“​เหอะ​ๆ​…​เช่นนั้น​มา​เดิมพัน​กับ​ข้า​สัก​ตั้ง​แล้วกัน​”​ ​สิ้น​เสียง​หรง​จิ​่​นก​็​ดึง​ตัว​มู่​ชิง​อี​มา​แล้ว​เตะ​เท้า​ถีบตัว​ขึ้น​ ​ขณะเดียวกัน​ก็​ใช้​ดาบ​ใน​มือ​ฟาดฟัน​มู่​หร​งอ​วี​้​ที่​จู่โจม​เข้าใส่​ ​พละกำลัง​ที่​เปี่ยมล้น​ทำให้​มู่​หร​งอ​วี​้​ต้อง​เบี่ยง​หลบ​ประกาย​คม​ดาบ​ ​แต่กระนั้น​ก็​ยังคง​ถูก​จู่โจม​ช่วง​ไหล่​เข้า​อย่าง​จัง​ ​สีหน้า​พลัน​ซีด​ขาว​ในทันที​ ​จากนั้น​หรง​จิ​่​นก​็​อาศัย​แรง​ฮึด​โอบ​มู่​ชิง​อีก​ระ​โดด​ลง​หน้าผา​ด้านหลัง​ไป

“​ท่าน​อ๋อง​”

มู่​หร​งอ​วี​้​จับจ้อง​หน้าผา​ที่ว่างเปล่า​พร้อม​สีหน้า​เกรี้ยว​โกรธ​ ​เอ่ย​เสียงเย็น​ชา​ ​“​หน้าผา​ไม่​สูง​นัก​ ​พวกเขา​ไม่​ตาย​แน่นอน​ ​ลง​ไป​ตามหา​!​”

“​แต่​ท่าน​อ๋อง​…​ด้านล่าง​เป็น​แม่น้ำ​หยาง​หลิ่ว​”​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​เอ่ย​เตือน​เสียง​เบา​ ​แม่น้ำ​หยาง​หลิ่ว​พื้นที่​กว้างขวาง​ ​อีกทั้ง​จุด​ที่​พวกเขา​อยู่​เป็น​จุด​ที่​แม่น้ำ​หยาง​หลาว​กับ​แม่น้ำ​สาย​ใหญ่​อีก​สาย​ไหลมา​บรรจบ​กัน​ ​สายน้ำ​เชี่ยวกราก​ ​หาก​คิด​จะ​หา​สอง​คน​นั้น​คง​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​งมเข็มในมหาสมุทร

มู่​หร​งอ​วี​้​กัดฟัน​เอ่ย​ ​“​ไปหา​มา​!​ ​หาก​ด้านล่าง​ไม่มี​ก็​ไปหา​ตาม​ริมฝั่ง​แม่น้ำ​!​ ​หาก​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ต้อง​เจอ​ตัว​ ​หาก​ตาย​ก็​ต้อง​เจอ​ศพ​!​”

“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ท่าน​อ๋อง​!​”

“​ท่าน​อ๋อง​ ​มี​คน​มาทาง​นี้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​จู่ๆ​ ​บุรุษ​วัยกลางคน​ผู้​หนึ่ง​ก็​รุดหน้า​เข้ามา​รายงาน​ ​“​มุ่งหน้า​มาจาก​เมืองหลวง​ ​อาจจะ​เป็น​คน​ของ​จวน​ผิง​อ๋อง​!​”

มู่​หร​งอ​วี​้​แค่น​เสียง​เบา​อย่าง​หัวเสีย​ ​“​แยกย้าย​!​”

ณ​ ​สถานที่​แห่งหนึ​่ง​ริมแม่น้ำ​หยาง​หลิ่ว​ ​บุรุษ​คน​หนึ่ง​อุ้ม​หญิงสาว​คน​หนึ่ง​ลุกขึ้น​ยืน​ท่ามกลาง​แม่น้ำ​ยามค่ำคืน​ ​ทั่ว​ร่างกาย​เปียกปอน​น้ำ​หยด​ไหล​เป็น​ทาง​ไม่​หยุด​ ​แต่​โชคดี​ที่​ตอนนี้​คือ​เดือน​หก​อยู่​ใน​ช่วง​ฤดูร้อน​พอดี​เลย​ทำให้​ไม่รู้​สึก​เหน็บ​หนาว​เลย​สักนิด

“​องค์​ชาย​ ​ปล่อย​หม่อมฉัน​ลง​เถิด​”​ ​หญิงสาว​ใน​ชุด​ขาว​ที่อยู่​ใน​อ้อมอก​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​หรง​จิ​่​นอา​การกำ​เริบ​ ​แล้วยัง​อุ้ม​นาง​ลอยตัว​อยู่​ใน​แม่น้ำ​มานา​นข​นาด​นั้น​ ​ตอนนี้​คง​ฝืน​กำลัง​มาก​เต็มที​แล้ว

ถึงแม้​หรง​จิ​่น​จะ​เพิ่ง​หนี​ขึ้น​มาจาก​แม่น้ำ​ ​ร่างกาย​ทรุดโทรม​ไม่น้อย​ ​แต่​ภายใต้​แสง​จันทรา​อ่อน​ๆ​ ​กลับ​ขับ​ให้​ดู​หล่อเหลา​เย้ายวนใจ​มากกว่า​เดิม​ ​“​ชิง​ชิง​ไม่ต้อง​กลัว​นะ​ ​พวกเขา​ตามมา​ไม่ทัน​แล้ว​ ​ข้า​เดา​ว่า​พวกเรา​คง​ลอยมา​ไกล​แล้ว​ล่ะ​ ​อีก​อย่าง​…​ตอนนี้​พวก​พี่ใหญ่​น่าจะ​มากัน​แล้วด้วย​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​คง​ไม่มีเวลา​ตาม​ไล่​ล่า​พวกเรา​”

มู่​ชิง​อี​ไม่มีแรง​ซักไซ้ไล่เลียง​เขา​แล้ว​ ​เพียงแค่​มุ่น​คิ้ว​จับจ้อง​ริมฝีปาก​บาง​อัน​ซีด​ขาว​ ​“​ปล่อย​หม่อมฉัน​ลง​เถิด​ ​พวกเรา​หา​ที่พักผ่อน​กัน​ก่อน​ดีกว่า​”

หรง​จิ​่​นลัง​เลอ​ยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ในที่สุด​ก็​ปล่อย​มู่​ชิง​อี​ลง​อย่างว่า​ง่าย​ ​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​เจ้า​พูด​ถูก​ ​ข้า​…​ไม่ไหว​แล้ว​จริงๆ​ ​หลังจากนี้​…​คง​ต้อง​รบกวน​ชิง​ชิง​แล้ว​”

ครั้น​พูด​จบ​…​ก็​ไม่สน​ใจ​แล้ว​ว่า​ตอนนี้​ขา​ของ​พวกเขา​ยัง​แช่​อยู่​ใน​น้ำ​ ​หรง​จิ​่​นล​้​มลง​น้ำ​ไป​อย่าง​ฉับพลัน​ ​โดย​ไม่​แม้แต่​จะ​ตะเกียกตะกาย​ตัว​ขึ้น​มา​อีก​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​หมดสติ​ไป​แล้ว​จริงๆ

“​หรง​จิ​่น​!​ ​หรง​จิ​่น​!​”​ ​มู่​ชิง​อี​ตกใจ​ยกใหญ่​ ​รีบ​ยก​ศีรษะ​เขา​ขึ้น​มา​เพื่อ​เลี่ยง​ไม่​ให้​สำลัก​น้ำ​ ​ภายใต้​แสง​จันทรา​ ​บุรุษ​หนุ่ม​รูปงาม​ที่นอน​หมดสติ​ร่างกาย​เปียกชุ่ม​เหมือน​ถูก​แสงสี​เงิน​อ่อน​ๆ​ ​เคลือบ​ร่าง​ไว้​ชั้นหนึ่ง​ขับ​ให้​ดู​ไร้เดียงสา​และ​นิ่ง​สงบ​มาก​เป็นพิเศษ​ ​แต่​ก็​เหมือน​พร้อม​จะ​หายตัว​ไป​ได้​ทุกเมื่อ​เช่นกัน

มู่​ชิง​อีส​่า​ยศีร​ษะ​แล้ว​รีบ​สงบสติอารมณ์​ฟุ้งซ่าน​ ​นาง​พยายาม​ใช้​แรง​ลาก​ตัว​หรง​จิ​่​นขึ​้​นมา​บน​ฝั่ง​ ​หญิงสาว​ร่าง​บอบบาง​อ้อนแอ้น​ลาก​บุรุษ​ร่าง​สูงใหญ่​กว่า​ตน​ ​ถึงแม้​หรง​จิ​่น​จะ​ถือว่า​ผอม​แต่กลับ​เปลือง​แรง​มู่​ชิง​อี​ไป​ไม่น้อย

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท