หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 269 การตายของมู่ฉังหมิง (4)

หวนคืนชะตาแค้น

“​ตาย​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ต่อ​บทสนทนา​พร้อม​ฉีก​ยิ้ม​กว้าง​ ​ครั้น​เห็นท่า​ที​ตื่นตระหนก​ของ​มู่​ฉัง​หมิง​ ​มู่​ชิง​อีก​็​เปิดปาก​เอ่ย​ท่อน​เพลง​พื้นบ้าน​เสียง​เบา​โดย​ไร้​ทำนอง​ ​“​ความแค้น​เอย​ ​ความเกลียดชัง​เอย​ ​ยาก​ที่จะ​ลืมเลือน​ไป​ชั่วชีวิต​ ​หมดสิ้น​ความยุติธรรม​ ​เหตุใด​แคว้น​ยัง​ไม่​สูญสิ้น​…​”

สีหน้า​ของ​มู่​ฉัง​หมิง​ยิ่ง​ซีด​ขาว​ลง​เรื่อยๆ​ ​ตอนนั้น​กู้​อวิ​๋น​เกอ​ตาย​ที่​หอนาง​โลม​ชุ่ย​หง​ ​ในเมื่อ​ที่นั่น​เป็น​หอนาง​โลม​ย่อม​มี​คน​อยู่​ไม่น้อย​ ​บทเพลง​ที่นาง​ขับร้อง​ก่อน​ตาย​เรียก​ได้​ว่า​ออก​เชิง​ต่อต้าน​การปกครอง​แคว้น​ ​ต่อให้​ไม่กล้า​นำมา​เผยแพร่​ต่อหน้า​หมู่​มวลชน​ ​แต่​โดยส่วนตัว​แล้ว​มู่​ฉัง​หมิง​กลับ​รู้เรื่อง​อยู่​พอสมควร

“​เจ้า​คือ​กู้​อวิ​๋น​เกอ​จริงๆ​ ​หรือ​ ​เช่นนั้น​ชิง​อี​ไป​ไหน​เล่า​”

มู่​ชิง​อี​คลี่​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​น้า​เขย​ยัง​ไม่เข้าใจ​อีก​หรือ​ ​ข้า​คือ​กู้​อวิ​๋น​เกอ​ ​และ​คือ​มู่​ชิง​อี​ด้วย​เช่นกัน​ ​ส่วน​อี​เอ๋อร​์​ที่​เคย​เคารพ​รัก​ท่าน​ผู้​นั้น​…​น้า​เขย​น่าจะ​จดจำ​ฝ่ามือ​ของ​ท่าน​ใน​ตอนนั้น​ได้​ ​อี​เอ๋อร​์​ได้​จากไป​ตั้งแต่​ตอนนั้น​แล้ว​ ​น้า​เขย​ ​ท่าน​ไม่เพียงแต่​ฆ่า​แม่​แท้ๆ​ ​ที่​ให้กำเนิด​และ​เลี้ยงดู​ท่าน​มา​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ฆ่า​ลูก​แท้ๆ​ ​ของ​ตัวเอง​ด้วย​”

“​ไม่​…​กู้​อวิ​๋น​เกอ​ ​เจ้า​…​”

“​ใช่​แล้ว​ ​ข้า​กู้​อวิ​๋น​เกอ​…​กลับมา​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​ถึงแม้​จะ​อยู่​ใน​ร่าง​ของ​น้อง​หญิง​ก็ตาม​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​สงบ​ ​เหลือบมอง​มู่​ฉัง​หมิง​ที่นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​พร้อม​สติ​เลื่อนลอย​ร่าง​แวบ​หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​หมุนตัว​เดิน​ออก​ไป​โดย​ไม่​คิด​อาลัยอาวรณ์​สักนิด​ ​ภายใต้​ต้นไม้​ใหญ่​นอก​ประตู​ ​กู้​ซิ่ว​ถิง​ยังคง​หมุน​ถ้วย​สุรา​ภายใต้​แสงจันทร์​ด้วย​ท่วงท่า​สบาย​ๆ​ ​เช่น​เดิม​ ​ทว่า​หรง​จิ​่​นที​่​อยู่​ด้าน​ข้าง​กลับ​นั่ง​พิง​ต้นไม้​ด้วย​ท่าที​เกียจคร้าน​เบื่อหน่าย​ ​ครั้น​เห็น​มู่​ชิง​อี​เดิน​ออกมา​ ​ดวงตา​ก็​ลุก​เป็นประกาย​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ขาน​เรียก​ ​“​ชิง​ชิง​…​”

กู้​ซิ่ว​ถิง​ผู้​นี้​เป็น​คนที​่​น่าเบื่อ​จริงๆ​ ​ฉลาด​เกินไป​ ​แม้กระทั่ง​คิด​จะ​หลอกล่อ​ปั่นหัว​ยัง​ทำไม​่​ได้​เลย​ ​เพราะ​เขา​เป็น​พี่ใหญ่​ของ​ชิง​ชิง​จึง​อาศัย​วิทยา​ยุทธ​ชั้นสูง​ของ​ตน​มารัง​แก​เขา​ไม่ได้​ ​สุขุม​เยือกเย็น​เกินไป​ ​ไม่ว่า​จะ​พูด​ยุแหย่​เช่นไร​ก็​ไม่​อาจ​ยั่วโมโห​ได้​ ​แบบนี้​ไม่สนุก​เลย​สักนิด​!

“​คุย​กัน​จบ​แล้ว​หรือ​”​ ​กู้​ซิ่ว​ถิง​วาง​ถ้วย​สุรา​ลง​เอ่ย​พลาง​ยิ้ม​บาง

มู่​ชิง​อี​คลี่​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​เดิมที​ข้า​ก็​ไม่ได้​มี​อะไร​อยาก​พูด​อยู่​แล้ว​ ​เพียงแต่​…​”​ ​เพียงแต่​ถ้า​ไม่เอา​เรื่อง​พวก​นี้​บอก​มู่​ฉัง​หมิง​ไป​ ​ต่อให้​มู่​ฉัง​หมิง​ตาย​นาง​ก็​คง​ไม่​สะใจ​ ​นาง​ทำ​ไป​เพื่อ​ชิง​อี

กู้​ซิ่ว​ถิง​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​“​ในเมื่อ​คุย​กัน​จบ​แล้วก็​ปล่อยวาง​เถิด​”​ ​จวน​หนิง​อ๋อง​และ​จวน​กง​อ๋อง​จบสิ้น​แล้ว​ ​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​เอง​ก็​ใกล้​ล่มสลาย​เต็มที​ ​คนใน​จวน​ซู่​เฉิง​โหวก​็​ตาย​เกือบ​หมด​แล้ว​ ​กู้​ซิ่ว​ถิง​หวัง​อยาก​ให้​น้องสาว​วาง​เรื่องราว​ใน​อดีต​ลง​ได้​ทุกอย่าง​แล้ว​ใช้ชีวิต​สงบสุข​อย่างที่​ต้องการ

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​พร้อม​รอยยิ้ม​เอ่ย​ ​“​เจ้าค่ะ​ ​พี่ใหญ่​ก็​เช่นกัน​”​ ​มู่​หร​งอาน​เอง​ก็​ตาย​ด้วย​น้ำมือ​ของ​พี่ใหญ่​เช่นกัน​ ​มู่​หร​งอ​วี​้​…​ก็​คง​ต้องตาย​ในไม่ช้า​ก็​เร็ว​ ​ความอัปยศ​ของ​ตระกูล​กู้​และ​พวกเขา​ถูก​ลบล้าง​จน​สิ้น​แล้ว​ ​นาง​กับ​พี่ใหญ่​จะ​วาง​เรื่อง​ทุกอย่าง​แล้ว​เริ่มต้น​ใช้ชีวิต​ใหม่​อีกครั้ง

กู้​ซิ่ว​ถิง​พยักหน้า​แล้ว​มอง​น้องสาว​อย่าง​อ่อนโยน​พร้อม​รอยยิ้ม​บาง​ๆ​ ​โดย​ไม่​พูด​อะไร

หรง​จิ​่​นที​่​อยู่​ด้าน​ข้าง​กลอกตา​ใส่​อย่าง​รำคาญใจ​แล้ว​ถาม​แทรก​ขึ้น​ว่า​ ​“​แล้ว​จะ​จัดการ​เจ้า​นั่น​อย่างไร​หรือ​ ​จะ​ส่ง​เขา​กลับ​คุก​กรม​อาญา​จริงๆ​ ​หรือ​”​ ​เขา​ไม่​อยาก​กลับ​ไป​ใน​สถานที่​ทั้ง​สกปรก​และ​เหม็นอับ​เช่นนั้น​อีกแล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​มู่​ฉัง​หมิง​หายตัว​ไป​นาน​ขนาด​นี้​ย่อม​ถูก​ใคร​เห็น​เข้า​แล้ว​กระมัง

มู่​ชิง​อี​มุ่น​คิ้ว​ขบคิด​อยู่นาน​ถึง​เอ่ย​ ​“​โยน​เขา​ออก​นอกเมือง​แล้ว​ส่ง​คน​คอย​สอดส่อง​ติดตาม​เขา​ไป​”​ ​นาง​ไม่​อยาก​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​ของ​มู่​ฉัง​หมิง​แล้ว​ ​อีก​อย่าง​นาง​ก็​พอ​จะ​เดา​จุดจบ​ของ​มู่​ฉัง​หมิง​ได้​ ​หาก​เขา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​คง​กล่าว​ได้​เพียง​ว่า​เขา​เข้มแข็ง​หรือ​ใจดำ​อำมหิต​จนกระทั่ง​นาง​ยัง​ต้อง​นับถือ​แล้ว​จริงๆ

ถึงแม้​จะ​นึก​แปลกใจ​อยู่​บ้าง​ ​ทว่า​หรง​จิ​่​นก​ลับ​ไม่ได้​ซักไซ้​ถาม​อะไร​เพียง​โบกมือ​สั่ง​ให้​อู๋​ฉิง​ไป​จัดการ

ยาม​ที่​ท้องฟ้า​เริ่ม​สว่าง​เล็กน้อย​ ​อู๋​ฉิ​งก​็​ได้​กลับมา​รายงาน​ว่า​มู่​ฉัง​หมิง​ฆ่าตัวตาย​ต่อหน้า​หลุมฝังศพ​ของ​ฉินกั​๋วฮู​หยิน​หรือ​สะใภ้​จัง​แล้ว

ครั้น​ได้ยิน​คำ​รายงาน​ของ​อู๋​ฉิง​ ​มู่​ชิง​อีก​็​แค่​ชะงัก​ไป​ ​ก่อน​จะ​โบกมือ​ไล่​ให้​เขา​ออก​ไป​ ​มู่​ฉัง​หมิง​ตาย​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ยัง​ตาย​ต่อหน้า​หลุมศพ​ของ​น้า​หญิง​ ​ภายหลัง​ย่อม​มี​คน​จัดการ​เรื่องราว​หลังจากนั้น​เอง​ ​เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​เขา​คิด​เรื่อง​ใด​ต่อหน้า​หลุมศพ​ของ​น้า​หญิง​บ้าง​ ​เขา​จะ​นึก​เสียใจ​และ​ละอายใจ​ใน​พฤติกรรม​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​บ้าง​หรือไม่

เรื่อง​ที่​มู่​ฉัง​หมิง​หายตัว​ไป​จาก​คุก​กลับ​ไม่ได้​แพร่งพราย​ออก​ไป​ให้​ใคร​รู้​ ​เพราะ​สุดท้าย​คนที​่​เก็บ​ศพ​ของ​มู่​ฉัง​หมิง​ก็​คือ​องครักษ์​ใน​วัง​ที่​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ส่ง​มา​ ​อีกทั้ง​คน​และ​คดี​ของ​ตระกูล​มู่​เหมือน​จะ​ถูก​คน​ลืมเลือน​ไป​อย่าง​พร้อมเพรียง​และ​ไม่มีใคร​เอ่ยถึง​สัก​คน​ ​อีกทั้ง​ไม่มีใคร​รู้ความ​เป็นความ​ตาย​ของ​ตระกูล​มู่​ราวกับ​แต่ไหนแต่ไรมา​เมืองหลวง​ไม่เคย​มีต​ระ​กูล​นี้​ก็​มิ​ปาน

หลังจากนั้น​ผล​วิธีการ​จัดการ​กับ​จวน​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ก็​ออกมา​แล้ว​ ​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​จู​เปี้ยน​ย่อม​รับโทษ​ประหาร​สถาน​เดียว​ ​แต่​เห็นแก่​คุณงามความดี​ของ​บรรพบุรุษ​จึง​ให้​เลือก​วิธีการ​ฆ่าตัวตาย​เอง​ ​ส่วน​ทุกคน​ใน​จวน​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ถูกจับ​ออก​ไป​กักขัง​แถบ​ชายแดน​ ​ดังนั้น​ตำแหน่ง​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ย่อม​สลาย​หาย​ไป​ด้วย​ ​เวลานี้​จึง​เหลือ​เพียง​อาน​ซีจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ที่​เป็น​อ๋อง​คนละ​สกุล​กับ​เชื้อพระวงศ์​เพียง​หนึ่งเดียว​ใน​แคว้น​หวา​เท่านั้น

ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​เพียง​หนึ่ง​เดือน​จวน​อ๋อง​สาม​แห่ง​ใน​เมืองหลวง​ ​สอง​พระ​ชายา​ ​สอง​ตระกูล​ที่​มีอำนาจ​นั้น​ล่มสลาย​หายวับ​ไป​กับ​ตา​ ​ทั่วทั้ง​เมืองหลวง​อบอวล​ไป​ด้วย​บรรยากาศ​กดดัน​และ​เศร้าสร้อย​ ​เพราะเหตุนี้​งาน​อภิเษก​ของ​องค์​ชาย​เก้า​และ​องค์​หญิง​ไหว​หยาง​ที่​ใกล้​เข้ามา​จึง​ทำให้​คน​ผู้คน​ต่าง​ตั้งตารอ​คอย​เป็นพิเศษ​ ​แม้แต่​ฮ่องเต้​แคว้น​หวายัง​ทรง​หวัง​ว่าการ​อภิเษก​ครั้งนี้​จะ​ช่วง​ลบล้าง​ความ​โชคร้าย​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ระยะนี้​ได้​ ​ด้วยเหตุนี้​พิธี​อภิเษก​จึง​ยิ่งใหญ่​มากกว่า​แผนการ​ใน​ตอนแรก​อยู่​มาก​ ​กระทั่ง​ทำให้​องค์​ชาย​เก้า​ที่​เดิมที​ไม่ได้​รับ​ความสำคัญ​พลอย​รู้สึก​เปรมปรีดิ์​ขึ้น​มา​ไม่น้อย

ต้นเดือน​เจ็ด​ยังคง​เป็นช่วง​ฤดูร้อน​แดด​แรง​จ้า​เฉกเช่น​เคย​ ​วันนี้​ในเมื่อ​หลวง​เต็มไปด้วย​ความยินดี​และ​คึกคัก​เป็นพิเศษ​ ​เหล่า​ปวงชน​ที่ว่าง​จาก​การทำงาน​แห่​เข้ามา​ห้อมล้อม​มุง​ดูงาน​อภิเษก​ของ​องค์​ชาย​เก้า​และ​องค์​หญิง​แคว้น​เย​่ว​์​ไม่น้อย

มู่​ชิง​อีนั​่​งอยู​่​ริม​หน้าต่าง​ชั้นสอง​ของ​ศาลา​ชิง​อาน​มอง​บรรยากาศ​คึกคัก​ของ​ฝูงชน​ด้านล่าง​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​รถ​เกี้ยว​พิธีการ​ของ​องค์​หญิง​ยัง​ไม่​ผ่าน​มา​ ​แต่​ด้านล่าง​กลับ​รายล้อม​ด้วย​ผู้คน​เต็มไปหมด​ ​บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​งาน​อภิเษก​วันนี้​เลย​ทำให้​ศาลา​ชิง​อาน​ที่​กิจการ​ดีมาก​ใน​ยาม​ปกติ​ซบเซา​ลง​ไป​พอสมควร​ ​เหล่า​ขุนนาง​และ​คน​มีอำนาจ​ใน​เมืองหลวง​ต่าง​พากัน​ไป​แสดงความยินดี​ที่​จวน​องค์​ชาย​เก้า​แห่ง​แคว้น​หวา

“​คุณชาย​ผู้​นี้​…​ไม่ทราบ​ว่า​เรา​เคย​เจอกัน​มาก​่อน​หรือไม่​”​ ​ขณะที่​มู่​ชิง​อีกำ​ลัง​มอง​ฝูงชน​เบื้องล่าง​ ​เสียง​เข้ม​ทุ้ม​ต่ำ​พลัน​ดัง​ขึ้น​ข้าง​กาย​ทำให้​มู่​ชิง​อี​ชะงัก​ไป​ ​เลิก​คิ้ว​งาม​เล็กน้อย​ก่อน​หันไป​มอง​ผู้มาเยือน

เฝิง​จื่อ​สุ่ย​ที่อยู่​ใน​มุม​ไม่​ไกล​นัก​เห็น​เช่นนั้น​ก็​รีบรุด​หน้า​เดิน​เข้ามา​หมาย​จะ​ช่วย​แก้​สถานการณ์​ให้​ ​ทว่า​กลับ​เห็น​มู่​ชิง​อีส​่า​ยศีร​ษะ​เล็กน้อย​สื่อ​ว่า​ไม่ต้อง​เดิน​มา​ เฝิง​จื่อ​สุ่ย​จึง​ชะงัก​ฝีเท้า​ ​จากนั้น​ก็​ทำท่า​หมุนตัว​เดิน​ไป​ยัง​มุม​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง

“​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ย​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อีก​ลับ​ไม่ได้​หลบหลีก​แต่​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม

เนี่ย​อวิ​๋​นม​อง​รอยยิ้ม​เบิกบาน​ของ​หนุ่มน้อย​ชุด​ขาว​พลาง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​เขา​มัก​รู้สึก​ว่า​หนุ่มน้อย​ชุด​ขาว​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ให้ความรู้​สึก​คุ้นเคย​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ ​แต่​จาก​ความทรงจำ​ของ​เขา​ ​ต่อให้​จะ​ไม่ได้​ถึงขนาด​ความจำ​ดีมาก​ ​แต่​หาก​ได้​เจอ​หนุ่มน้อย​ที่​โดดเด่น​คน​หนึ่ง​เช่นนี้​ย่อม​ไม่มีทาง​ลืม​ได้​ถึง​จะ​ถูก​ ​ใน​ความทรงจำ​ของ​เขา​กลับ​เหมือนว่า​แต่ไหนแต่ไรมา​ไม่เคย​เจอ​คน​ๆ​ ​นี้​มาก​่อน​ด้วยซ้ำ

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​กว้าง​เอ่ย​ ​“​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ย​เป็นยอด​ฝีมือ​อันดับ​หนึ่ง​ของ​แคว้น​หวา​ ​น้องชาย​เลื่อมใส​ท่าน​มานาน​แล้ว​ ​ความจริง​เคย​เจอ​จาก​มุม​ไกลๆ​ ​มา​หลายครั้ง​ ​คิดไม่ถึง​ว่าวั​นนี​้​จะ​ได้​สนทนา​กับ​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ย​ ​ช่าง​เป็นเกียรติ​นัก​”

“​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​เนี่ย​อวิ​๋​นมุ​่​นคิ​้ว​ ​ขบคิด​แล้ว​กล่าว​ ​“​คุณชาย​มีนาม​ว่า​อัน​ใด​หรือ​”

“​ข้า​สกุล​จัง​ ​มีนาม​ว่า​ชิง​ ​พยางค์​เดียว​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ตอบ

“​จัง​ชิง​หรือ​”​ ​ชื่อ​ช่าง​ไม่​คุ้นหู​เอา​เสีย​เลย​ ​ทว่า​กลับเป็น​หนุ่มน้อย​ที่​รู้สึก​คุ้นหน้า​อย่าง​ประหลาด​ ​เนี่ย​อวิ​๋​นพา​นนึก​ถึง​มู่​ชิง​อี​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​ที่​หายตัว​ไป​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ขึ้น​มา​ ​หลาย​วัน​มานี​้​เขา​เอง​ก็​คอย​แอบ​ตามหา​หญิง​งาม​และ​ชาญฉลาด​ผู้​นั้น​อยู่​ ​ทว่า​กลับ​ไม่​เจอ​ร่องรอย​เบาะแส​ใด​เลย​สักนิด​ ​บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​หนุ่มน้อย​ผู้​นี้​ละม้ายคล้ายคลึง​นาง​อยู่​บ้าง​เลย​ทำให้​เขา​รู้สึก​คุ้นหน้า​กระมัง

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท