หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 270 งานเลี้ยงฉลองอภิเษกนองเลือด (1)

หวนคืนชะตาแค้น

​“​คุณชาย​จัง​เป็น​คนเมือง​หลวง​หรือ​”​ ​เนี่ย​อวิ​๋น​เอ่ย​ถาม

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​ตอบ​อย่างใจ​เย็น​และ​เป็นมิตร​ ​“​มิใช่​ ​ข้า​เป็น​คน​อิ​๋ง​โจว​ ​สอง​สาม​เดือนก่อน​เพิ่ง​มา​เมืองหลวง​เป็นครั้งแรก​ ​พูดถึง​วันนี้​เป็น​วัน​มงคล​ของ​องค์​ชาย​เก้า​และ​องค์​หญิง​ไหว​หยาง​มิใช่​หรือ​ ​เหตุใด​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ย​ถึง​มา​อยู่​ที่นี่​ได้​เล่า​”

​เนี่ย​อวิ​๋ย​เอ่ย​ตอบ​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​“​คน​มากเกินไป​ ​ข้า​รัก​ความสงบ​”​ ​ก่อนหน้านี้​เนี่ย​อวิ​๋น​เป็น​องครักษ์​คนสำคัญ​ที่​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​โปรดปราน​มาก​ที่สุด​ย่อม​ต้อง​อยู่​ใน​งาน​สำคัญ​อย่าง​งาน​อภิเษก​ของ​องค์​ชาย​เช่นนี้​อยู่​แล้ว​ ​แต่​บัดนี้​เหมือน​เนี่ย​อวิ​๋น​จะ​ถูก​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​แสดงท่าที​เย็นชา​ใส่​ ​หาก​ต้อง​อยู่​ใน​งาน​อภิเษก​นี้​ด้วย​กลับ​ยิ่ง​น่าอึดอัด​มากกว่า​ ​ดังนั้น​หาก​เนี่ย​อวิ​๋น​ไม่​ไป​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​น่าแปลก​อะไร​ ​เพียงแต่​มู่​ชิง​อีนึก​ไม่​ถึงว่า​จะ​ได้​เจอ​เขา​ที่นี่

​ถึงแม้​หลาย​วัน​มานี​้​มู่​ชิง​อี​จะ​เก็บตัว​ไม่​ค่อย​ได้​ออก​ไป​ไหน​มา​ไหน​ ​แต่​เรื่อง​ที่​ควร​รู้​กลับ​รู้​มา​ไม่น้อย​ ​อย่างเช่น​ฮ่องเต้​แคว้น​หวายั​งคง​แสดงท่าที​เย็นชา​และ​ห่างเหิน​ใส่​เนี่ย​อวิ​๋น​ ​กระทั่ง​เลื่อนตำแหน่ง​องครักษ์​ที่​มีฝีมือ​วิทยา​ยุทธ​สูสี​กับ​เนี่ย​อวิ​๋​นคน​หนึ่ง​มา​เป็นรอง​หัวหน้า​องครักษ์​ ​ใน​สายตา​คนอื่น​นับว่า​รอจังหวะ​ขึ้น​เสียบ​ตำแหน่ง​แทน​เนี่ย​อวิ​๋น​ ​แต่กระนั้น​หาก​ยอด​ฝีมือ​อันดับ​หนึ่ง​ของ​แคว้น​หวา​ต้อง​ไป​เป็น​หัวหน้า​องครักษ์​ใน​ตำหนัก​หนึ่ง​ก็​ออกจะ​ใช้​คน​ไม่​ถูก​กับ​งาน​ไป​หน่อย​จริงๆ​ ​เวลานี้​ครั้น​เห็น​เนี่ย​อวิ​๋น​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​นี้​ ​ใน​ใจ​ของ​มู่​ชิง​อีก​ลับ​รู้สึก​ละอายใจ​ไม่น้อย

​“​ในเมื่อ​มี​วาสนา​ได้​เจอกัน​ ​เช่นนั้น​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ยมา​นั่ง​ดื่ม​ชาด​้ว​ยกัน​สัก​ถ้วย​เป็น​อย่างไรเล่า​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เชิญชวน​พร้อม​รอยยิ้ม

​เนี่ย​อวิ​๋​นม​อง​นาง​ด้วย​สายตา​ลึกล้ำ​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​เช่นนั้น​ต้อง​ขอ​รบกวน​คุณชาย​จัง​แล้ว​”

​ไม่นาน​ขบวน​ส่งตัว​เจ้าสาว​ยาวเหยียด​ก็​เดินผ่าน​ด้านล่าง​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​จวน​องค์​ชาย​เก้า​ ​มู่​ชิง​อีนั​่​งอยู​่​ริม​หน้าต่าง​จึง​เห็น​สถานการณ์​ด้านล่าง​พอดิบพอดี

​ขบวน​ส่งตัว​เจ้าสาว​ที่​ยิ่งใหญ่​ตระการตา​ยาวเหยียด​จน​มองไม่เห็น​ท้าย​ขบวน​ค่อยๆ​ ​เคลื่อน​ขบวน​มาจาก​อีก​ฝั่ง​ ​คนที​่​นำ​อยู่​หน้า​ขบวน​คือ​องค์​ชาย​จาก​แคว้น​เย​่ว​์​สอง​คน​ซึ่ง​ก็​คือ​หรง​เหยี​่​ยน​และ​หรง​จิ​่น​ ​พวกเขา​สอง​คน​ขี่ม้า​อยู่​ด้านหน้า​ขนาบ​ข้าง​ซ้าย​ขวา​รถ​เกี้ยว​ของ​องค์​หญิง​ไหว​หยาง​ ​หรง​เหยี​่​ยน​สวม​ชุด​สีม่วง​อม​แดง​ประจำตำแหน่ง​ชิน​อ๋อง​แคว้น​เย​่ว​์​ตาม​กาลเทศะ​ ​ทว่า​หรง​จิ​่​นก​ลับ​ไม่ได้​ให้ความร่วมมือ​ขนาด​นั้น​ ​เขา​ยังคง​สวม​ชุด​สีดำ​ที่​ดู​ธรรมดา​แต่​สง่างาม​เช่นเคย​ ​เพียงแต่​เพราะ​ใบหน้า​อัน​หล่อเหลา​ไร้​ใคร​เทียม​ช่วย​ทำให้​ทุกคน​ต่าง​ปล่อย​ผ่าน​เรื่อง​เสื้อผ้า​ที่​ไม่เหมาะสม​นี้​ไป

​บัดนี้​ทั้ง​สาม​แว่นแคว้น​ ​แคว้น​หวา​และ​แคว้น​เย​่ว​์​จะ​นิยม​ชื่นชอบ​สีเหลือง​ ​แต่​เป่ย​ฮั่น​นิยม​ชื่นชอบ​สีแดง​ ​ทว่า​สีดำ​กลับ​ไม่​สอดคล้อง​กับ​คำนิยาม​งานมงคล​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​แต่​หรง​จิ​่น​ไม่สน​ใจความ​คิด​เหล่านี้​เลย​สักนิด​ ​เขา​ยังคง​สวม​ชุด​สีดำ​ด้วย​ท่าที​หยิ่งผยอง​จงใจ​ตกเป็น​เป้าสายตา​ของ​คนอื่น​เฉกเช่น​เคย

​จนกระทั่ง​ขบวน​ส่งตัว​เจ้าสาว​เดินผ่าน​หน้าต่าง​ไป​ ​เหล่า​ผู้คน​ที่มา​ร่วม​ส่ง​ขบวน​บน​ท้องถนน​ก็​เดิน​ไล่ตาม​ไป​ด้วย​ ​ดังนั้น​บน​ถนน​ที่​เคย​คึกคัก​เสียงดัง​อึกทึก​ใน​เดิมที​ก็​พลัน​สงบ​ลง​อย่างรวดเร็ว

​“​เหตุใด​คุณชาย​จัง​ถึง​ไม่​ไปร​่วม​สนุก​กับ​พวกเขา​หรือ​”​ ​เนี่ย​อวิ​๋น​เอ่ย​พลาง​มอง​มู่​ชิง​อี

​มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​ก่อน​เอ่ย​พลาง​ยิ้ม​ตาหยี​ ​“​เรื่อง​นี้​…​ก็​เพราะ​ข้า​ไม่​ชอบ​ความวุ่นวาย​เหมือน​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ย​อย่างไรเล่า​”

​ความจริง​ย่อม​ไม่ใช่​อย่างที่​มู่​ชิง​อีก​ล่า​วอ​ยู่​แล้ว​ ​ศาลา​ชิง​อาน​ห่าง​จาก​จวน​องค์​ชาย​เก้า​ไม่​ไกล​นัก​ ​หาก​มีเรื่อง​สนุก​ๆ​ ​ใด​เกิดขึ้น​นาง​ยัง​วิ่ง​ไปดู​ทัน​ ​แต่​หาก​ร่วม​อยู่​ใน​วง​นั้น​ตั้งแต่แรก​เลย​ ​ด้วยเหตุที่​นาง​ไร้ความสามารถ​เหมือน​ไก่อ่อน​ ​ไม่แน่​อาจ​พลอย​เจอ​เรื่อง​หายนะ​ตาม​ไป​ด้วย​มากกว่า

​สำหรับ​มู่​ชิง​อี​แล้ว​ ​เนี่ย​อวิ​๋น​เป็น​คน​ชอบ​เก็บความ​รู้สึก​ ​เมื่อ​เห็น​เหมือน​เนี่ย​อวิ​๋​นก​ลุ้ม​ใจ​ครุ่นคิด​บางอย่าง​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ลอบ​ถอนหายใจ​อย่าง​ระอา​ นิสัย​ของ​เนี่ย​อวิ​๋​นก​็​นับว่า​ไม่เลว​ ​อีกทั้ง​ฝีมือ​วิทยา​ยุทธ​ก็​หา​ได้​ยาก​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ ​หาก​ได้​คน​เช่นนี้​มาทำ​งาน​ให้​ย่อม​เป็น​แรง​เสริม​ที่​ดีมาก​ทีเดียว​ ​เพียงแต่​น่าเสียดาย​…​ตอนนี้​นาง​ยัง​ไม่มี​ความสามารถ​แย่ง​บุคคล​สำคัญ​เช่นนี้​จาก​มือ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวามา​รับใช้​ตน​ได้​ ​ช่าง​น่าเสียดาย​มาก​จริงๆ

​“​ข้า​ดู​จาก​หว่าง​คิ้ว​ของ​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ย​เหมือน​มีเรื่อง​ใน​ใจ​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ความจริง​ไม่ว่า​จะ​มีเรื่อง​ใด​ก็​ควร​ระบาย​ออกมา​จะ​ดีกว่า​หน่อย​กระมัง​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ชี้แนะ​อย่าง​ลอยๆ​

​เนี่ย​อวิ​๋น​เงยหน้า​มอง​นาง​ด้วย​ท่าที​ตกใจ​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​อย่าง​รู้สึก​ผิด​ ​“​ข้า​ช่าง​ปากมาก​นัก​ ​หาก​เป็นการ​ล่วงเกิน​หัวหน้า​องครักษ์​เนี่ย​โปรด​อภัย​ให้​ด้วย​”

​เนี่ย​อวิ​๋น​ส่าย​ศีรษะ​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ขอบคุณ​คุณชาย​จัง​ที่​ชี้แนะ​ ​เพียงแต่​เรื่อง​บาง​เรื่อง​…​หาก​ผ่านพ้น​ไป​แล้ว​คง​มิ​อาจ​ย้อนกลับ​ไป​แก้ไข​สิ่งใด​ได้​ชั่วชีวิต​”

​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​แต่​บน​โลก​ใบ​นี้​มีเรื่อง​มากมาย​ที่​ใช่​ว่า​มนุษย์​อย่าง​เรา​จะ​แก้ไข​ได้​ ​องครักษ์​เนี่ย​ไม่จำเป็น​ต้อง​ตำหนิ​ตนเอง​จน​เกินไป​ ​ท่าน​ควร​รู้​ว่า​เรื่อง​ที่​ผ่าน​ไป​แล้วก็​คือ​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​มัว​แต่​กลัดกลุ้ม​ใจ​ไป​ก็​ไม่​ช่วย​อัน​ใด​เลย​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​เลือก​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ตนเอง​ทำได้​แทน​เล่า​”

​เนี่ย​อวิ​๋น​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​แต่​ไม่​พูด​อะไร​ ​หาก​กล่าวว่า​ก่อนหน้านี้​เขา​ยัง​มี​ความคิด​อยาก​ชดใช้​อะไร​ให้​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​บ้าง​ ​ทว่า​ตอนนี้​แม้แต่​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​อยู่​ที่ใด​เขา​ยัง​ไม่รู้​เลย​ ​แล้ว​แบบนี้​จะ​ทำ​อะไร​ได้​เล่า

​มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​รู้​ว่า​เรื่อง​แบบนี้​นอกจาก​ตัวนาง​เอง​แล้ว​ ​ต่อให้​พูด​กับ​คนอื่น​เช่นไร​ไป​ก็​เปล่าประโยชน์​ ​มิเช่นนั้น​เนี่ย​อวิ​๋​นคง​ไม่​กลัดกลุ้ม​เศร้าหมอง​มานาน​หลาย​ปี​ขนาด​นี้ ​สิ่ง​นี้​เป็นตัว​บ่งชี้​ว่า​ถึงแม้​เนี่ย​อวิ​๋น​ผู้​นี้​จะ​อยู่​ใน​สถานที่​ที่​กิน​คน​อย่าง​วัง​หลวง​มานา​นก​็​จริง​ ​แต่กลับ​มี​จิตใจ​ดี​ไร้​เจตนาร้าย​ซึ่ง​หา​ได้​ยาก​นัก​ ​ถึงแม้นาง​จะ​เคย​โกรธ​เกลียด​เนี่ย​อวิ​๋น​ ​แต่​ความจริง​ไม่ว่า​จะ​มอง​จาก​มุม​ไหน​การกระทำ​ใน​ตอนนั้น​ของ​เนี่ย​อวิ​๋​นก​็​ไม่​ถือว่า​ผิด​ด้วยซ้ำ​ ​อีกทั้ง​ต่อให้​ตอนนั้น​เขา​ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วย​จริงๆ​ ​เกรง​ว่าน​้า​หญิง​อาจจะ​ไม่​ไป​กับ​เขา​ก็ได้​ ​เพราะ​ในเมื่อ​ตอนนั้น​ใน​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​ยัง​มีน​้​อง​หญิง​อยู่​อีก​คน

​ยาม​ที่​มู่​ชิง​อี​และ​เนี่ย​อวิ​๋​นอ​อก​มาจาก​ศาลา​ชิง​อาน​ก็​เป็นเวลา​พลบค่ำ​แล้ว​ ​พวกเขา​สอง​คน​ต่างว่า​งงาน​ ​ถึงแม้​คน​หนึ่ง​จะ​มีสติปัญญา​เฉียบแหลม​จน​น่า​ตกใจ​ ​ส่วน​อีก​คน​มีสุด​ยอด​วิทยา​ยุทธ​จน​ทำให้​ใครต่อใคร​ต่าง​เลื่อมใส​ ​ทว่า​เหมือน​จะ​ถูกชะตา​กัน​มาก​พอสมควร​ ​พวกเขา​พูดคุย​กัน​จน​ผ่าน​ไป​สอง​ชั่ว​ยาม​โดยไม่รู้สึกตัว​เลย​สักนิด​ ​พอ​ออกจาก​ศาลา​ชิง​อาน​มา​ ​ขณะที่​มู่​ชิง​อี​หมุนตัว​เตรียม​เอ่ย​คำ​ล่ำ​ลากับ​เนี่ย​อวิ​๋น​ ​ทันใดนั้น​อีก​ฝั่ง​จาก​หัวมุมถนน​ก็​เกิด​เสียงดัง​อื้ออึง​วุ่นวาย​ขึ้น​ ​คน​มากมาย​ต่าง​ทยอย​วิ่ง​มาทาง​นี้​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ​ด้วย​เหตุ​อยาก​ให้​ราษฎร​สำนึก​ใน​พระมหากรุณาธิคุณ​ของ​เชื้อพระวงศ์​ ​นอก​จวน​ใน​งาน​อภิเษก​ของ​องค์​ชาย​เก้า​จึง​จัดงาน​เลี้ยง​ฉลอง​ไว้​ด้วย​เพื่อให้​ประชาชน​คน​ทั่วไป​ใน​เมืองหลวง​ได้​ลิ้มลอง​ ​คน​เหล่านี้​ก็​คือ​พวก​ที่​อยาก​ไปร​่วม​สนุก​ใน​งานเลี้ยง​ฉลอง​อภิเษก​นั่นเอง

​“​ใน​งานเลี้ยง​ฉลอง​อภิเษก​เกิดเรื่อง​ขึ้น​หรือ​”​ ​เนี่ย​อวิ​๋​นมุ​่​นคิ​้ว​เอ่ย​ ​เขา​ยก​เท้า​เตรียม​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​จวน​องค์​ชาย​เก้า​ ​ในเมื่อ​เขา​เป็น​ถึง​หัวหน้า​องครักษ์​วังหน้า​ ​หาก​ไม่รู้​ยัง​ว่า​ไป​อย่าง​ ​แต่​หาก​รู้​แล้ว​จะ​นิ่งดูดาย​ไม่ได้​เด็ดขาด

​ครั้น​เห็น​เขา​กำลังจะ​จากไป​ ​มู่​ชิง​อีก​็​รีบ​ร้องเรียก​รั้ง​เขา​ไว้​ ​“​พี่​เนี่ย​ ​พา​ข้า​ไป​ด้วย​ขอรับ​”

​เนี่ย​อวิ​๋​นขมวด​คิ้ว​แน่น​เอ่ย​ ​“​ไม่ได้​ ​เกรง​ว่า​จะ​เป็นอันตราย​”​ ​เนี่ย​อวิ​๋น​ย่อม​มองออก​ว่า​เขา​เป็น​หนุ่มน้อย​ที่​ไร้ความสามารถ​ใน​การต่อสู้​ ​หาก​ถึง​เวลา​นั้น​เกิดเรื่อง​เหนือ​ความคาดหมาย​ใด​ขึ้น​ ​ตน​กลัว​ว่า​จะ​ไม่มีเวลา​มาป​กป​้​อง​เขา

​มู่​ชิง​อีก​ล่าว​ ​“​ข้า​ดู​จาก​มุม​ไกลๆ​ ​ก็​พอแล้ว​ ​ข้า​ไม่​เข้าไป​วุ่นวาย​แน่นอน​”

​เนี่ย​อวิ​๋น​เลย​ทำได้​แค่​คว้า​ตัว​มู่​ชิง​อี​มา​แล้ว​กระโดด​ขึ้น​กลางอากาศ​ไป​พร้อมกัน​อย่างไร​้​ทางเลือก​ ​จากนั้น​ก็​ลอยตัว​กระโดด​ข้าม​หลังคา​บ้านเรือน​อื่นๆ​ ​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​จวน​องค์​ชาย​เก้า

​ด้วย​สุดยอด​วิชา​ตัวเบา​ของ​เนี่ย​อวิ​๋น​ทำให้​มาถึง​ตรอก​เล็ก​ๆ​ ​แห่งหนึ​่ง​ที่​ไม่​ไกล​จาก​จวน​องค์​ชาย​เก้า​นัก​ใน​เวลา​อัน​รวดเร็ว​ ​เนี่ย​อวิ​๋​นม​อง​หนุ่มน้อย​ตรงหน้า​แวบ​หนึ่ง​ด้วย​สีหน้า​สับสน​แล้ว​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​เกรง​ว่า​ด้านหน้า​จะ​มี​อันตราย​ ​เจ้า​อยู่​ตรงนี้​ไป​ก็แล้วกัน​”

​มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​สื่อ​ว่า​เนี่ย​อวิ​๋น​ไม่ต้อง​สนใจ​ตน​แล้ว​ ​เนี่ย​อวิ​๋​นม​อง​เขา​อีก​แวบ​หนึ่ง​ถึง​หมุนตัว​เดิน​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​จวน​องค์​ชาย​เก้า

​“​อู๋​ซิน​ ​งานเลี้ยง​ฉลอง​อภิเษก​ที่​จวน​องค์​ชาย​เก้า​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ถาม​เสียง​ขรึม​ ​ถึงแม้​วันนี้​นาง​จะ​เดา​ได้​ว่า​อาจ​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​ ​แต่​ถึงอย่างไร​พวกเขา​ก็​ไม่ได้​เป็น​พยาธิ​ใน​ท้อง​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​ ​ย่อม​มิ​อาจ​คาดเดา​ได้​ว่า​มู่​หร​งอ​วี​้​คิด​จะ​ทำ​อะไร​กัน​แน่

​ใน​ตรอก​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบ​ครู่หนึ่ง​ ​แต่​เวลา​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​นัก​อู๋​ซิน​ก็​ลอยตัว​กระโดด​ลงมา​จาก​หลังคา​เอ่ย​รายงาน​ด้วย​เสียง​นอบน้อม​ ​“​เหมือนว่า​จะ​มี​องค์​ชาย​และ​แขก​บางคน​โดน​วางยาพิษ​เข้า​ ​เมื่อ​ครู่​จู่ๆ​ ​ก็​มีนัก​ฆ่า​บุก​เข้ามา​อีกทั้ง​ยัง​สังหาร​คน​ไป​ไม่น้อย​ด้วย​ขอรับ​”

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท