หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 294 ลูกน้องทรงอิทธิพลเริ่มโค่นล้มเจ้านาย (1)

หวนคืนชะตาแค้น

ครั้น​เห็น​เหมย​เหนียง​ปิดปาก​ลอบ​หัวเราะ​ ​มู่​ชิง​อีก​็​เอ่ย​อย่าง​ระอา​ใจ​ว่า​ ​“​เหมย​เหนียง​ ​ตลอด​สอง​ปี​มานี​้​ทาง​แคว้น​เย​่ว​์​เป็น​เช่นไร​บ้าง​หรือ​”

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​เหมย​เหนียง​อันตรธาน​หาย​ไป​แล้ว​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​เอ่ย​ ​“​พูดตาม​ตรง​…​หาก​คุณชาย​ยัง​ไม่​มา​ล่ะ​ก็​…​เกรง​ว่า​ข้า​เอง​ก็​คง​คุม​ไม่ไหว​แล้ว​”

“​รุนแรง​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​มุ่น​คิ้ว​เอ่ย

ดวงตา​สอง​ข้าง​ของ​เหมย​เหนียง​แดงก่ำ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ตั้งแต่​เมื่อ​สี่​ปีก่อน​ก็​ไม่มี​เจ้านาย​คนใด​มาที​่​ซี​หลิง​อีก​เลย​ ​แม้แต่​สอง​ปี​ที่ผ่านมา​ผู้ดูแลเฝิง​เอง​ก็​เพิ่ง​มา​แค่​ครั้ง​เดียว​เพราะ​ภารกิจ​ใน​แคว้น​หวา​ที่​รัดตัว​แน่น​ ​คุณชาย​เอง​ก็​รู้​คำ​โบราณ​ที่ว่า​ ​มนุษย์​ตาย​เพราะ​ความโลภ​ใน​เงินทอง​ ​ส่วน​ปักษา​ตาย​เพราะ​โลภ​ใน​อาหาร​ ​ในเมื่อ​มีเงิน​ตรา​มากมาย​อยู่​ใน​กำมือ​ขนาด​นั้น​ ​ใคร​จะ​ไม่​หวั่นไหว​บ้าง​เล่า​ ​แรกเริ่ม​คน​พวก​นี้​ยัง​ไม่​ใจกล้า​มาก​นัก​ ​แต่​พอนา​นวัน​เข้า​เห็น​ว่า​ไม่มีใคร​มาส​อด​ส่อง​ตรวจสอบ​ ​ความ​ใจกล้า​ของ​คน​พวก​นี้​ก็​ยิ่ง​มากขึ้น​ ​ตลอด​หนึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​มี​คน​ไม่น้อย​เอา​กิจการ​เหล่านี้​ไป​เป็น​ของ​ตระกูล​ตัวเอง​แล้วด้วย​ซ้ำ​ ​อีกทั้ง​เวลานี้​การช่วงชิง​บัลลังก์​ของ​องค์​ชาย​ใน​เมืองหลวง​ก็​ยิ่ง​หนัก​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เป็นผล​ให้​เบี้ยหวัด​ตำลึง​ที่​ใคร​ต่าง​ปรารถนา​ก็​ยิ่ง​ทะลัก​เข้ามา​เป็น​มหาศาล​ ​ตอนนี้​หลาย​กิจการ​ของ​เรา​ที่​ทำเงิน​ได้​ล้วน​ถูกจับ​ตาม​อง​ทั้งสิ้น​”

“​ลำบาก​เจ้า​แล้ว​”​ ​มู่​ชิง​อี​มอง​ใบหน้า​เหนื่อยล้า​เล็กน้อย​ของ​เหมย​เหนียง​แล้ว​เอ่ย​พลาง​ถอนหายใจ​เสียง​เบา

เหมย​เหนียง​เอ่ย​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ ​“​คุณชาย​พูด​อัน​ใด​กัน​ ​ตระกูล​กู้​มีบุญ​คุณ​กับ​ข้า​ล้น​ฟ้า​ ​สิ่ง​ที่​เหมย​เหนียง​ทำ​ไป​ทุกอย่าง​ล้วน​เพราะ​หน้าที่​ทั้งนั้น​ ​เพียงแต่​เหมย​เหนียง​ไร้ความสามารถ​เลย​คุม​กิจการ​ของ​ตระกูล​กู้​ไม่อยู่​”

มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ปลอบใจ​ ​“​วันหลัง​เรื่อง​พวก​นี้​มอบให้​ข้า​เป็น​คน​จัดการ​เถิด​ ​เจ้า​ไป​ป่าวประกาศ​ว่า​สอง​วันหลัง​จากนี้​ให้​ผู้ดูแล​ทุกคน​มา​เจอ​ข้า​ที่​จวน​ตระกูล​กู้​ ​หาก​ถึง​เวลา​นั้นแล​้ว​ยัง​ไม่​มา​ ​ข้า​ก็​จะ​ไม่เห็น​ว่า​เขา​เป็น​คน​ของ​ตระกูล​กู้​อีกต่อไป​เช่นกัน​”

ครั้น​เห็นท่า​ทาง​มั่นอกมั่นใจ​เช่นนี้​ของ​มู่​ชิง​อี​ ​หว่าง​คิ้ว​ของ​เหมย​เหนียง​ก็​คลาย​ลง​ ​รีบ​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​เจ้าค่ะ​ ​เหมย​เหนียง​จะ​รีบ​ไป​จัดการ​เดี๋ยวนี้​เลย​”

หลังจาก​เห็น​เหมย​เหนียง​ออก​ไป​แล้ว​ ​มู่​ชิง​อี​ถึง​ถอนหายใจ​อย่าง​เหนื่อยหน่าย​ ​“​ถึงแม้​ข้า​จะ​สังหรณ์ใจ​อยู่​แล้ว​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​สถานการณ์​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​จะ​ย่ำแย่​กว่า​ที่​ข้า​คาดการณ์​เอาไว้​เสียอีก​”​ ​มู่​ชิง​อี​เหลือบมอง​อู๋​ซิน​ที่​ยืน​อยู่​อีก​ฝั่ง​ทำท่า​อึกอัก​เหมือน​อยาก​พูด​อะไร​แต่​ก็​ไม่​พูด​แวบ​หนึ่ง​พลัน​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​มีเรื่อง​ใด​ก็​ว่า​มาตรง​ๆ​ ​เถิด​”

หลังจาก​ทำความรู้จัก​กัน​มา​หลาย​วัน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​คอย​ติดตาม​คุ้มกัน​มาต​ลอด​การ​เดินทาง​จาก​แคว้น​หวา​จนถึง​แคว้น​เย​่ว​์​ ​อู๋​ซิน​ย่อม​เข้าใจ​ดี​ว่า​คุณหนู​ค่อยๆ​ ​เห็น​ตน​เป็น​คน​ของ​นาง​แล้ว​ ​อู๋​ซิน​ลังเลใจ​ครู่หนึ่ง​ถึง​เอ่ย​ ​“​คุณชาย​…​ท่าน​ลืม​ไป​แล้ว​หรือ​ ​ท่าน​รับปาก​กับ​องค์​ชาย​เก้า​ไว้​ว่า​ทันทีที่​มาถึง​เมืองหลวง​จะ​ไปหา​เขา​”

“​…​”​ ​มู่​ชิง​อี​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ก่อน​จะ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​เพิ่ง​มาถึง​เมืองหลวง​ ​ทุกคน​เอง​ก็​วุ่น​ๆ​…​วันหลัง​ก็แล้วกัน​”

ณ​ ​จวน​อวี​้​อ๋อง​องค์​ชาย​เก้า​ใน​เมืองหลวง​ ​องค์​ชาย​เก้า​ที่​เพิ่ง​ย้ายออก​จาก​วัง​มา​แสดงท่าที​ไม่​ชอบใจ​นัก​ ​เขา​เดิน​วนเวียน​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​ไม่​หยุด​ ​“​เหตุใด​ชิง​ชิง​ถึง​ไม่​มาหา​ข้า​เล่า​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​ชิง​ชิง​มาถึง​เมืองหลวง​แล้ว​…​ชิง​ชิง​ขี้​โกหก​…​แม้แต่​จวน​ที่พัก​ข้า​เอง​ก็​จัดแจง​เตรียม​แทน​นาง​ไว้​หมด​แล้ว​”

อู๋​ฉิง​ที่​กำลัง​ยืน​แสร้ง​เป็น​ภาพวาด​แขวน​บน​ผนัง​อยู่​อีก​ฝั่ง​มอง​องค์​ชาย​ของ​ตน​ที่​บ่นพึมพำ​พลาง​เดิน​วน​ไป​วน​มา​ใน​ห้อง​หนังสือ​และ​ปรารถนา​อยาก​จะ​เจาะ​รู​พื้น​ใน​ห้อง​หนังสือ​เต็มที​อย่าง​เงียบๆ​ ​ก็​อดไม่ไหว​กระแอม​ไอเสียง​เบา​เอ่ย​ ​“​องค์​ชาย​ ​คุณหนู​มู่​เพิ่ง​มาถึง​แคว้น​เย​่ว​์​…​คุณหนู​ย่อม​ต้องการ​เวลา​เตรียมตัว​บ้าง​ ​หาก​ตอนนี้​องค์​ชาย​โผล่​ไปหา​นาง​ ​นาง​ต้อง​ไม่​ชอบใจ​แน่ๆ​”

ทำเอา​องค์​ชาย​เก้า​ที่​คิด​จะ​สาวเท้า​ก้าวเดิน​ออก​ไป​ ​ต้อง​รีบ​เก็บ​กลับ​อย่าง​เก้​ๆ​ ​กัง​ๆ​ ​ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​องค์​ชาย​เก้า​เต็มไปด้วย​กลิ่นอาย​ความ​ดุดัน​ ​“​เหตุใด​นาง​ถึง​จะ​ไม่​ชอบใจ​”

อู๋​ฉิง​ลอบ​กลอกตา​ใน​ใจ​แล้ว​เอ่ย​ ​“​องค์​ชาย​…​คุณหนู​มู่​มา​แคว้น​เย​่ว​์​มิใช่​เพื่อ​พึ่งพา​ท่าน​ ​ถึง​อิทธิพล​เรื่อง​เงินทอง​ของ​ตระกูล​กู้​จะ​ไม่​ถึงขั้น​เป็น​ที่หนึ่ง​ใน​ใต้​หล้า​ ​แต่​…​แค่ก​ๆ​ ​ย่อม​มีมาก​กว่า​องค์​ชาย​แน่นอน​ ​บัดนี้​กิจการ​ของ​ตระกูล​กู้​ล้วน​เป็น​หน้าที่​ของ​คุณหนู​ที่​ต้อง​จัดการ​ดูแล​ ​เช่นนั้น​…​คุณหนู​มู่​จะ​ไม่ต้องการ​เวลา​จัดการ​เรื่อง​กิจการ​ของ​ตระกูล​กู้​เลย​หรือ​”

ในที่สุด​หรง​จิ​่​นก​็​เลิก​ทารุณ​พื้น​กระดาน​ใน​ห้อง​หนังสือ​แล้ว​หมุนตัว​เดิน​ไป​ทาง​โต๊ะ​หนังสือ​ ​ทว่า​จู่ๆ​ ​ชั่ว​วินาที​นั้น​ก็​หมุนตัว​กลับมา​พลัน​ขยับ​แขน​เสื้อ​ข้าง​ขวา​ปล่อย​แรง​แหวก​กลางอากาศ​ไป​ ​ไม่นาน​ด้านนอก​ก็​มีเสียง​กระอัก​ดัง​แว่ว​มา​พร้อม​เสียง​สิ่งของ​หนัก​ร่วง​ตกลง​พื้น​ ​ขณะเดียวกัน​อู๋​ฉิ​งก​็​กระโจน​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว​แล้ว​คุมตัว​บุรุษ​ที่​แต่งกาย​เหมือน​ลูกน้อง​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ล้ม​ตัว​นอน​อยู่​ก่อน​ลาก​เขา​เข้ามา​ใน​ห้อง​หนังสือ​

หรง​จิ​่​นนั​่ง​ลง​ใต้​แสงไฟ​พลาง​จับจ้อง​บุรุษ​ที่​แสร้งทำ​ที​ตื่นตระหนก​ตรงหน้า​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง​เอ่ย​ถาม​ ​“​เจ้า​มาทำ​อะไร​ที่นี่​”

“​เปล่า​…​กระหม่อม​อยาก​เข้า​ห้องน้ำ​ ​ปวดท้อง​กลางดึก​ ​เดินผ่าน​…​เดินผ่าน​ทาง​นี้​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ถูก​…​ ​”

“​พูดตาม​ความจริง​คง​ไม่ยาก​กระมัง​”​ ​มุม​ปากของ​หรง​จิ​่น​ยก​ยิ้ม​อย่าง​ร้ายกาจ​แล้ว​ใช้​นิ้วมือ​เย็นเฉียบ​ไป​วาง​ไว้​บน​คอ​ของ​บุรุษ​ผู้​นั้น

“​ปวดท้อง​…​กระหม่อม​ปวดท้อง​อยาก​เข้า​ห้องน้ำ​จริงๆ​ ​องค์​ชาย​โปรด​ไว้ชีวิต​ด้วย​เถิด​…​กระหม่อม​พูดความจริง​…​จริงๆ​”​ ​บุรุษ​ผู้​นั้น​ร้อง​โหยหวน​อ้อนวอน​ขอ​ชีวิต​ ​ทว่า​ฉับพลัน​แววตา​ก็​เปลี่ยนไป​แล้ว​ชัก​มีด​สั้น​วาววับ​สีน้ำเงิน​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​แทง​ไป​ที่​หรง​จิ​่น​ ​ทว่า​อู๋​ฉิง​ที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​กลับ​ทำตัว​แน่นิ่ง​เหมือน​มองไม่เห็น

หรง​จิ​่น​แค่น​เสียง​เบา​อย่าง​โมโห​ ​จากนั้น​ข้อมือ​ข้าง​ที่​บุรุษ​ผู้​นั้น​กุม​มีด​สั้น​ไว้​ใน​มือ​ก็​ห้อย​โตงเตง​ผิดรูป​ ​มีด​สั้น​หล่น​ลงพื้น​เสียงดัง​ ​พลั่ก​ ​บุรุษ​ผู้​นั้น​เอ่ย​อย่าง​หวาดกลัว​ ​“​เจ้า​…​เจ้า​เป็น​วิทยา​ยุทธ​ด้วย​หรือ​!​”

“​ดีกว่า​เจ้า​มาก​”​ ​หรง​จิ​่น​ยิ้ม​เย็นชา​กล่าว​ ​ราวกับ​สิบ​นิ้ว​เรียว​ยาว​แค่​ปัด​ผ่าน​แขน​ของ​บุรุษ​ผู้​นั้น​ตามอำเภอใจ​เท่านั้น​แต่​ไม่เห็น​นิ้วมือ​ของ​เขา​ใช้​แรง​แต่อย่างใด​ ​ทว่า​ได้ยิน​เพียง​เสียง​ ​แกร​๊ก​ๆ​ ​ดัง​ขึ้น​ ​จากนั้น​บุรุษ​ผู้​นั้น​ก็​ล้ม​นอนลง​บน​พื้น​แล้ว​เริ่ม​กรีดร้อง​โหยหวน

อู๋​ฉิง​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​เผย​สีหน้า​เรียบ​ตึง​ ​แววตา​ที่จับ​จ้อง​บุรุษ​ผู้​นั้น​เต็มไปด้วย​ความเห็นใจ​ ​องค์​ชาย​ใช้กำลัง​ภายใน​หัก​กระดูก​แขน​ทุกข​้อ​ต่อ​ของ​เขา​ ​จาก​แขน​ที่​เคย​แข็งแรง​กำยำ​ใน​เดิมที​ก็​อ่อน​ยวบ​ราวกับ​บะหมี่​เส้น​หนึ่ง​ก็​มิ​ปาน​ ​อาการ​บาดเจ็บ​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่า​ต่อให้​เทพ​เซียน​โผล่​มาก​็​คง​จนปัญญา​จะ​รักษา​ได้

หรง​จิ​่​นก​ลับ​ไป​นั่งลง​บน​เก้าอี้​แล้ว​ดึง​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​เช็ดมือ​ตัวเอง​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​ทว่า​แววตา​ยังคง​จดจ้อง​ที่​ร่าง​ของ​บุรุษ​บน​พื้น​เช่นเคย​ ​“​ใคร​ส่ง​เจ้า​มา​ ​หาก​พูด​ออกมา​…​ข้า​จะ​ไม่​ทรมาน​เจ้า​มาก​นัก​”

“​ไม่​…​ไม่มี​”​ ​บุรุษ​ร้อง​ครวญคราง​อย่าง​เจ็บปวด​แต่​ยังคง​ยืนยัน​คำ​เดิม

“​ดีมาก​”​ ​ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​หรง​จิ​่น​ผุด​รอยยิ้ม​จางๆ​ ​ออกมา​ ​แม้แต่​เสียง​เอง​ก็​ดู​มีความสุข​ไม่น้อย​ ​“​อู๋​ฉิง​ ​ตัด​ลิ้น​มัน​…​เอา​ตัว​ไป​มัด​ไว้​บน​ต้นไม้​ใหญ่​ด้านนอก​แล้ว​ฟาด​มัน​เสีย​!​”

“​องค์​ชาย​จะ​ให้​ฟาด​เท่าใด​หรือ​”​ ​อู๋​ฉิง​ถาม

“​ฟาด​จนกว่า​จะ​ตาย​ ​แต่​หาก​น้อยกว่า​พัน​ครั้ง​ ​ส่วนที่เหลือ​เจ้า​ก็​โดน​ฟาด​แทน​เขา​แล้วกัน​”​ ​หรง​จิ​่น​เอ่ย​อย่าง​ไม่ใส่ใจ

อู๋​ฉิง​แอบ​ใจหายวาบ​ ​แส้​ที่​องค์​ชาย​ใช้​ลงโทษ​ ​ลำพัง​แค่​ใช้​แรง​นิดเดียว​ฟาด​สิบ​ที​ก็​เอา​ถึงตาย​แล้ว​ ​หาก​ไม่​ต่ำกว่า​พัน​ครั้ง​ ​องค์​ชาย​คิด​จะ​ฟาด​เขา​จน​เละ​เป็นน้ำ​เต้า​อาบ​เลือด​เลย​หรือ​ ​ไม่​สิ​ ​ฟาด​จน​กลายเป็น​กอง​เลือด​มากกว่า​ ​เพื่อ​เลี่ยง​ไม่​ให้​แส้​นั้น​มา​โดน​ร่าง​ตน​ ​อู๋​ฉิง​เลย​ตัดสินใจ​เป็น​คน​จัดการ​เอง​จะ​ดีกว่า​ ​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​องครักษ์​ติดตาม​คนสำคัญ​ผ่าน​เกณฑ์​คน​หนึ่ง​ย่อม​ไม่ใช่​มีดี​แค่​วิทยา​ยุทธ​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​อยู่​แล้ว

หลังจาก​เห็น​อู๋​ฉิง​เผย​สีหน้า​หดหู่​หิ้วปีก​สายลับ​ผู้​โชคร้าย​ออก​ไป​แล้ว​ ​ไม่นาน​ก็ได้​ยิน​เสียง​แส้​ฟาด​ ​เปรี๊ยะ​ๆ​ ​ดัง​แว่ว​มาจาก​ด้านนอก​ ​หรง​จิ​่น​ยิ้ม​เย็นชา​เอนกาย​ลง​บน​เก้าอี้​พลาง​ปิด​ตา​พักผ่อน​อย่าง​ผ่อนคลาย​ ​เขา​เพิ่ง​ย้าย​เข้ามา​ก็​วางตัว​สายลับ​ป้วนเปี้ยน​รอบตัว​เขา​แล้ว​ ​คิด​ว่า​เขา​ตาบอด​ไป​แล้ว​หรือ​อย่างไร​กัน

เขา​ขมวดคิ้ว​มุ่น​อย่าง​รำคาญใจ​ ​พอ​ไม่​เจอ​ชิง​ชิง​…​ช่าง​ชวน​ให้​หงุดหงิด​เหลือเกิน

เช้าตรู่​วัน​ต่อมา​ทั้ง​นอก​และ​ใน​เมืองหลวง​แคว้น​เย​่ว​์​ต่าง​แพร่สะพัด​ข่าว​อัน​น่ากลัว​ว่า​เมื่อคืน​จู่ๆ​ ​องค์​ชาย​เก้า​ก็​โมโห​คลุ้มคลั่ง​ใช้​แส้​ฟาด​ลูกน้อง​ตัว​เป็น​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​จนตาย​ ​ได้ยิน​ว่า​ตอนที่​ถูก​ยกตัว​ออกมา​จาก​จวน​องค์​ชาย​เก้า​แทบ​มองไม่เห็น​ว่า​เป็น​คน​แต่กลับ​เห็น​แค่​ก้อน​เนื้อ​จม​กอง​เลือด​เท่านั้น​ ​กระทั่ง​พลอย​ทำให้​คนที​่​เผลอ​เห็น​เข้า​ต่าง​ตกใจ​เป็นลม​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท