หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 299

หวนคืนชะตาแค้น

ตอนที่ 299 องค์ชายเก้าผู้ที่ถนัดก่อเรื่องทำร้ายคนอื่นแต่กลับไม่มีผลดีอะไรกับตัวเอง (2)

“​หลบ​ไป​ ​หลบ​ไป​!​”​ ​ขณะที่​หนา​นก​งอ​วี​้​กำลังจะ​เปิดปาก​พูด​ ​ฉับพลัน​ถนน​ด้านล่าง​ก็​มีเสียง​ดัง​อึกทึกครึกโครม​ดัง​แว่ว​มา​ ​อีกทั้ง​ยัง​มีเสียง​เกือกม้า​ดัง​แทรก​เข้ามา​ด้วย​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​เป็น​คนที​่​เรียน​วิทยา​ยุทธ​มาย​่​อม​ฟังออก​ว่า​มี​คน​ขี่ม้า​เร็ว​กำลัง​มุ่งหน้า​มาทาง​นี้​ ​เลย​อด​สีหน้า​เปลี่ยน​ไม่ได้​ ​“​สารเลว​!​ ​ใคร​ใจกล้า​ขี่ม้า​ใน​เมืองหลวง​เช่นนี้​กัน​นะ​”​

ครั้น​เหล่า​ผู้คน​บน​ท้องถนน​เห็น​ม้า​สง่า​ผึ่งผาย​วิ่ง​มาด​้วย​ความเร็ว​จาก​มุม​ไกล​จึง​ทยอย​หลบ​เข้า​สอง​ฝั่ง​ข้างทาง​ ​ทว่า​ย่อม​มี​คนที​่​ปฏิกิริยา​เชื่องช้า​อยู่​แล้ว​ ​หญิง​ชรา​เส้น​ผม​ขาวโพลน​คิ้ว​ขมวด​มุ่น​คน​หนึ่ง​ที่​ยืน​ซื้อของ​จาก​แผง​ร้านค้า​ด้าน​ข้าง​ริมฝั่ง​ถนน​ ​นาง​กำลัง​ยิ้ม​ตาหยี​หมุนตัว​หมาย​จะ​เดิน​ข้ามถนน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​หญิง​ชรา​หู​ไม่​ค่อย​ดีนัก​จึง​ไม่ได้​ยิน​เสียง​ของ​ม้าเร็ว​ที่​กำลัง​วิ่ง​พุ่ง​เข้ามา​แต่อย่างใด

“​ยัง​ไม่​รีบ​หลบ​ไป​อีก​!​ ​รนหาที่​ตาย​!​”​ ​บน​ม้ามี​สาวน้อย​หน้าตา​สะสวย​สวม​เสื้อ​กัน​ลม​ครึ่งตัว​สีแดง​อ่อน​ปัก​ลาย​ดอก​พุด​ตาน​คน​หนึ่ง​พร้อม​กำ​แส้​อ่อนสี​แดง​ใน​มือ​ ​เมื่อ​เห็น​หญิง​ชรา​ผู้​นั้น​ก็​สีหน้า​เปลี่ยน​ ​พลัน​แส้​ยาว​ใน​มือ​ก็​ตวัด​ฟาด​ร่าง​ของ​หญิง​ชรา​ผู้​นั้น

“​สมควร​ตาย​นัก​!​”​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​เอ่ย​สาปแช่ง​เสียงต่ำ​ ​ต่อให้​เขา​ลุกขึ้น​พุ่งตัว​เข้าไป​ช่วย​ก็​คง​ไม่ทันการ​แล้ว​ ​ทุกคน​บน​ท้องถนน​เผลอ​กรีดร้อง​ขึ้น​อย่างตกใจ​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​สาวน้อย​ผู้​นั้น​ ​เพราะ​ต่อให้​หญิง​ชรา​ไม่​ถูก​ม้า​เหยียบ​ตาย​ก็​ต้อง​ถูก​แส้​ของ​สาวน้อย​ผู้​นั้น​ฟาด​ใส่​อยู่ดี

ทว่า​จู่ๆ​ ​กลับ​เห็น​เงา​สีขาว​ประกาย​พาด​ผ่าน​ ​ทันใดนั้น​ม้า​ตัวงาม​ที่​สาวน้อย​ผู้​นั้น​ควบ​อยู่​ก็​ร้อง​คำราม​พลัน​ยก​ขา​หน้า​ขึ้น​ชี้​ฟ้า​ ​กระทั่ง​ทำเอา​สาวน้อย​ที่หมาย​จะ​ฟาด​แส้​ใส่​หญิง​ชรา​ก็ได้​รับ​แรง​กระแทก​จน​ร่าง​เกือบ​หล่น​ลง​จาก​หลัง​ม้า​ไป​ด้วย​ ​แส้​เส้น​นั้น​จึง​ตวัด​ฟาด​ไม่​โดน​หญิง​ชรา

พอทุ​กค​นม​อง​อีกที​ถึง​สังเกตเห็น​บุรุษ​หนุ่ม​สวม​ชุด​ขาว​ดั่ง​หิมะ​สีหน้า​สุขุม​เยือกเย็น​คน​หนึ่ง​อยู่​ข้าง​ม้า​ตัว​นั้น​ ​พวกเขา​ก็​อด​กรีดร้อง​อุทาน​ขึ้น​อีกครั้ง​ไม่ได้

มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​หรือ​?​ ​มู่​ชิง​อี​ที่อยู่​ด้านบน​เลิก​คิ้ว​มอง​อย่างตกใจ

ทว่า​หนา​นก​งอ​วี​้​กลับ​ผ่อน​ลมหายใจ​ ​จากนั้น​ก็​เพ่ง​สายตา​จับจ้อง​สาวน้อย​บน​หลัง​ม้า​ตัว​นั้น​พลัน​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​“​หรง​ซิน​เย​่ว​์​”

“​หนา​นกง​รู้จัก​นาง​ด้วย​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ถาม​อย่างแปลกใจ​ ​แซ่​หรง​ ​ฉะนั้น​น่าจะเป็น​คน​ของ​เชื้อพระวงศ์​แคว้น​เย​่ว​์​แน่นอน

หนา​นก​งอ​วี​้​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​ปวดเศียรเวียนเกล้า​ ​“​นาง​เป็น​บุตรสาว​คนโต​ของ​จื้อ​อ๋อง​ ​มียศ​เป็น​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ ​นาง​กำเริบเสิบสาน​ขึ้น​ทุกวัน​ ​จริงๆ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​กล้า​ขี่ม้า​ใน​เมืองหลวง​เช่นนี้​”

มู่​ชิง​อี​คลับคล้ายคลับคลา​พอ​รู้เรื่อง​ของ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​อยู่​บ้าง​ ​นาง​เป็น​บุตรสาว​คนที​่​สาม​ของ​องค์​ชาย​คนโต​หรง​หวง​และ​เป็น​หลานสาว​ที่​อายุ​มาก​ที่สุด​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​บัดนี้​นาง​เพิ่ง​อายุ​ได้​สิบ​แปด​ชันษา​ ​มี​คนเล​่า​ลือ​กัน​ว่านาง​นิสัย​จองหอง​โอหัง​ไม่เห็น​ใคร​อยู่​ใน​สายตา​ ​ถึงขนาด​กล้า​ควบ​ม้าเร็ว​พุ่งพรวด​เข้ามา​ใน​ย่าน​คน​พลุกพล่าน​ของ​เมืองหลวง​เช่นนี้​ ​เห็นที​คำเล่าลือ​คง​น่าเชื่อถือ​จริงๆ

หนา​นก​งอ​วี​้​ถอนหายใจ​เอ่ย​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​ฝ่า​บาท​คิด​จะ​ให้​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​อภิเษก​กับ​อาน​ซุ่นจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ที่​เพิ่ง​ถูก​แต่งตั้ง​ยศ​ ​มิน่าเล่า​ ​นาง​ถึง​ไม่พอใจ​”

“​อาน​ซุ่นจ​วิ​้​นอ​๋​อง​หรือ​ ​อ๋อง​ต่าง​สกุล​ที่​เพิ่ง​ถูก​แต่งตั้ง​คน​นั้น​น่ะ​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ทรงโปรด​ปรานจ​วิ​๋​นอ​๋​อง​ผู้​นั้น​ไม่น้อย​”

เขา​รู้​ว่าน​้​อง​ชาย​ผู้​นี้​ตรงหน้า​เป็น​คน​แคว้น​หวา​ ​ทว่า​น้ำเสียง​แปลก​ๆ​ ​นั้น​กลับ​ไม่ได้​ทำให้​หนา​นก​งอ​วี​้​เก็บ​มา​ใส่ใจ​นัก​ ​ในเมื่อ​คน​มากมาย​ต่าง​รู้​ว่า​จู​อวี​้​ผู้​นั้น​เป็น​คน​แคว้น​หวา​ ​ได้รับแต่งตั้ง​เป็น​อ๋อง​ต่าง​สกุล​ ​อีกทั้ง​ไม่ใช่​อ๋อง​ต่าง​สกุล​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​อีก​ต่างหาก​ ​ฉะนั้น​การ​ได้รับแต่งตั้ง​ตำแหน่ง​จาก​ฝ่า​บาท​ย่อม​ไม่ใช่​เรื่อง​ไร้​ต้นสายปลายเหตุ​อย่างแน่นอน​ ​หาก​ซิน​เย​่ว​์​จะ​นึก​ไม่พอใจ​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ผยอง​เย่อหยิ่ง​ ​แล้ว​นาง​จะ​เต็มใจ​อภิเษก​กับจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ที่​ไม่รู้​จัก​หัวนอน​ปลายเท้า​คน​หนึ่ง​ได้​เช่นไร​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​คน​ๆ​ ​นั้น​ยัง​เป็น​คนที​่ต​วน​อ๋อง​เอา​ตัว​กลับมา​อีกด้วย​”​ ต​วน​อ๋อง​และ​จื่อ​อ๋อง​เป็น​คู่กัด​กัน​ ​เกรง​ว่า​จื้อ​อ๋อง​เอง​ก็​คง​ไม่​นิ่งดูดาย​ปล่อย​ให้​บุตรสาว​อภิเษก​กับ​คนที​่​เป็น​พวก​เดียว​กับต​วน​อ๋อง​อย่างชัดเจน​หรอก​กระมัง

บน​ถนน​ด้านล่าง​ ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​เอง​ก็​ถูก​ทำให้​ตกใจ​ไม่น้อย​ ​ครั้น​ได้สติ​จาก​อาการ​ตื่นตระหนก​ ​นาง​ก็​มอง​บุรุษ​ชุด​ขาว​ที่​กำลัง​ประคอง​หญิง​ชรา​หู​ไม่ดี​คน​นั้น​เดิน​ไป​หลบ​ริมถนน​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ร้อง​ลั่น​ด้วย​ความโมโห​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​“​เจ้า​หยุด​นะ​!​”

หลังจาก​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​พา​หญิง​ชรา​มารว​มกั​บก​ลุ่ม​ฝูงชน​ริมถนน​แล้ว​ถึง​หันกลับ​มาม​อง​หญิงสาว​บน​หลัง​ม้า​ด้วย​ท่าที​สงบ​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​หาก​ขี่ม้า​เร็ว​เข้ามา​ใน​ย่าน​ที่​คน​พลุกพล่าน​ ​ตาม​กฎ​ต้อง​ถูก​บั่น​หัว​”

ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​อด​แค่น​เสียง​เบา​ใส่​ไม่ได้​ ​นาง​ย่อม​รู้​กฎ​ของ​แคว้น​เย​่ว​์​ดี​อยู่​แล้ว​ ​เพียงแต่​วันนี้​นาง​โมโห​มากเกินไป​เลย​คุมตัว​เอง​ไม่อยู่​ชั่วขณะ​ ​อีก​อย่าง​…​นี่​ก็​ไม่ได้​ทำให้​ใคร​บาดเจ็บ​มิใช่​หรือ​ ​คนที​่​ตกใจ​คือ​นาง​ต่างหาก​เล่า

“​เจ้า​ช่าง​เหิมเกริม​นัก​ ​ใคร​จะ​กล้า​บั่น​หัว​ข้า​ได้​”​ ​ไม่ว่า​ผู้มีอำนาจ​หรือ​ประชาชน​ธรรมดา​ตาดำๆ​ ​ก็​ต้อง​ใช้​กฎหมาย​เดียวกัน​ ​แต่​บน​โลก​นี้​จะ​มี​เชื้อพระวงศ์​คนใด​ต้อง​มา​โดน​ข้อหา​เพียง​เพราะ​คนธรรมดา​ต่ำต้อย​แค่นี้​กัน​เล่า​ ​เรื่อง​แบบ​นั้น​แค่​เอา​มา​หลอก​ชาวบ้าน​ที่​ไม่รู้​อีโหน่อีเหน่​อะไร​เลย​มากกว่า

“​เจ้า​ต่างหาก​ที่​ทำให้​ข้า​ขวัญเสีย​ ​ยัง​ไม่​ขอโทษ​ข้า​อีก​!​”​ ​ครั้น​เห็น​บุรุษ​ตรงหน้า​เผย​สีหน้า​เย็นชา​ราวกับ​ไม่เห็น​ตน​อยู่​ใน​สายตา​ ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ก็​ไฟ​โทสะ​ปะทุ​ ​นาง​เป็น​ถึง​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ ​หลานสาว​คนโต​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เสด็จ​ปู่​จะ​ให้​นาง​อภิเษก​กับ​จู​อวี​้​อาน​ซุ่นจ​วิ​้​นอ​๋​อง​อะไร​นั่น​ ​คิด​ว่านาง​เป็น​สตรี​แล้ว​จะ​ไม่รู้​ภูมิหลัง​ของ​จู​อวี​้​นั่น​หรือ​ ​อาน​ซุ่นจ​วิ​้​นอ​๋​อง​อะไร​กัน​ ​เขา​ก็​เป็น​แค่​องค์​ชาย​ตกอับ​ที่​ถูก​ขับไล่​ออกจาก​เชื้อพระวงศ์​ไร้​ชื่อ​ไร้​สกุล​คน​หนึ่ง​ก็​เท่านั้น​ ​ตอนนี้​ดู​ทรง​แล้ว​แม้แต่​คนที​่​สัญจร​ไปมา​บน​ท้องถนน​ยัง​ดู​โดดเด่น​กว่า​เขา​ด้วยซ้ำ​ ​กระนั้น​ยัง​เพ้อฝัน​จะ​มา​เป็น​คนใน​เชื้อพระวงศ์​ของ​ข้า​อีก​!

ทว่า​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​กลับ​ไม่รู้​ว่า​บุรุษ​ที่นาง​เห็น​ไม่ใช่​แค่​คน​สัญจร​ไปมา​ทั่วๆ​ ​ไป​ ​แต่​เขา​เป็น​ผู้​มีปัญญา​ที่​แม้แต่​ใน​ฝูงชน​นับ​หมื่น​ก็​ยัง​หาไม่​เจอ​สัก​คน

มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งมุ​่​นคิ​้ว​เล็กน้อย​ ​เขา​รู้สึก​เพียง​ว่า​หญิงสาว​ตรงหน้า​ทั้ง​ขี้​โวยวาย​ ​ดื้อรั้น​และ​ไร้มารยาท​ถึง​ขีดสุด​ ​เขา​มาจาก​เย​่า​หวัง​กู่​ ​มีศักดิ์​เป็น​ผู้สืบทอด​เจ้าสำนัก​เย​่า​หวัง​กู่​มาตั​้ง​แต่กำเนิด​ ​สถานะ​สูงศักดิ์​ ​แม้แต่​เดินทาง​ไป​ทั่ว​ยุทธจักร​ ​ทุกหน​แห่ง​ไม่ว่า​ชาวบ้าน​ประชาราษฎร์​หรือ​ผู้มีอำนาจ​ล้วน​ให้​ความเกรงใจ​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ต่อหน้า​เขา​ทั้งสิ้น​ ​ไม่มีใคร​กล้า​เสียมารยาท​กับ​เขา​เช่นนี้​เลย​ ​หาก​ไม่ใช่​ว่า​ตอนนี้​อยู่​ต่อหน้า​คน​มากมาย​ ​ด้วย​การกระทำ​ต่ำทราม​ของ​สตรี​คน​นี้​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งคง​ป้อน​ยาพิษ​ให้​นาง​กิน​ไป​แล้ว

มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​วาด​ตาม​อง​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ด้วย​แววตา​เรียบ​นิ่ง​ก่อน​หมุนตัว​เดิน​จากไป

“​สามหาว​!​”​ ​ครั้น​ถูก​คนดู​แคลน​เช่นนี้​ ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​จะ​ข่มอารมณ์​โกรธ​ไว้​ได้​เช่นไร​ ​นาง​จึง​ยก​แส้​ขึ้น​แล้ว​ตวัด​ฟาด​ไป​ที่​แผ่น​หลัง​ของ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง

“​หยุด​นะ​!​”

ครั้งนี้​กลับเป็น​หนา​นก​งอ​วี​้​ที่​รุดหน้า​เข้าไป​ช่วย​ ​พอ​เห็น​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​คิด​จะ​ตวัด​แส้​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ก็​พุ่งตัว​ลงมาก​จาก​หน้าต่าง​ทันที​แล้ว​ยกมือ​ขึ้น​ดึง​แส้​สีแดง​นั้น​ไว้​กลางอากาศ​

“​หนา​นก​งอ​วี​้​ ​เจ้า​บังอาจ​นัก​!​”

ลำพัง​แค่​แรง​มือ​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​ก็​สามารถ​ฉุดกระชาก​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ที่นั่ง​อยู่​บน​หลัง​ม้า​ลงมา​ได้​แล้ว​ ​โชคดี​ที่​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​เป็น​วิทยา​ยุทธ​ ​นาง​ลง​จาก​หลัง​ม้า​ด้วย​ท่าที​โงนเงน​เล็กน้อย​ ​ครั้น​เท้า​จรด​แตะ​พื้น​ก็​จับจ้อง​หนา​นก​งอ​วี​้​ตาเขม​็ง

หนา​นก​งอ​วี​้​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ ​“จ​วิ​้น​จู่​แค่​ขี่ม้า​เร็ว​เข้ามา​ใน​ย่าน​คน​พลุกพล่าน​ยัง​พอ​ว่า​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ยก​แส้​ขึ้น​มาทำ​ร้าย​ร่างกาย​คนอื่น​ด้วย​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​ไป​ขอร้อง​ต่อหน้า​พระพักตร์​ฮองเฮา​ให้​ช่วย​ตัดสิน​เรื่อง​นี้​กัน​ดีกว่า​กระมัง​”

ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​สีหน้า​เปลี่ยน​เล็กน้อย​ ​แค่น​เสียง​เบา​ที​หนึ่ง​ก่อน​จะ​เก็บ​แส้​ตัวเอง​กลับมา​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ข้า​ไม่มีเวลา​มา​โอ้เอ้​กับ​เจ้า​ ​ให้​เขา​ขอโทษ​ข้า​ ​ข้า​ก็​จะ​ถือว่า​เรื่อง​นี้​ไม่เคย​เกิดขึ้น​”

“​ช่าง​น่าขัน​ ​หาก​ไม่ได้​คุณชาย​ผู้​นี้​ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วย​ ​หญิง​ชรา​คน​เมื่อ​ครู่​คง​ถูก​ท่าน​เหยียบ​ตาย​ไป​แล้ว​ ​ท่าน​ยัง​จะ​ให้​เขา​ขอโทษ​อีก​หรือ​ ​ท่าน​มีเหตุผล​บ้าง​หรือไม่​”​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​ยิ้มเยาะ

ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ ​“​ก็​แค่​ชาวบ้าน​ชั้นต่ำ​คน​หนึ่ง​ ​ตาย​ก็​ตาย​ไป​สิ​ ​จะ​อะไร​หนักหนา​เล่า​”

ทุกคน​ตรงนั้น​ต่าง​สีหน้า​เปลี่ยน​แล้ว​จับจ้อง​สาวน้อย​ที่​เผย​สีหน้า​หยิ่งผยอง​อย่าง​ไม่​ชอบใจ​ ​ถึงแม้​พวกเขา​จะ​เป็น​ราษฎร​คนธรรมดา​ที่​ไม่มี​อำนาจ​อิทธิพล​ใด​แต่​ก็​ยัง​มีศักดิ์ศรี​ใน​ตัวเอง​ ​ครั้น​ถูกจ​วิ​้น​จู่​ผู้​สูงส่ง​ก่น​ด่า​อย่าง​ดูถูก​เช่นนี้​ย่อม​ไม่มีใคร​พอใจ​อยู่​แล้ว

หนา​นก​งอ​วี​้​เลิก​คิ้ว​แล้ว​คลี่​ยิ้ม​เชิง​ดูแคลน​ใส่​นาง​ก่อน​เอ่ย​เสียงต่ำ​ ​“​ใต้​หล้า​นี้​ไม่มี​คนชั้นต่ำ​ ​ยกเว้น​ก็​แต่​ท่าน​แล้ว​”

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท