หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 303 สวินอ๋องหรงจัง (2)

หวนคืนชะตาแค้น

หรง​จิ​่น​ฟุบ​ตัว​ลง​บน​โต๊ะ​อย่าง​เกียจคร้าน​ ​มอง​มู่​ชิง​อี​พลาง​ยิ้ม​แผ่วเบา​ ​“​ข้า​ไม่เชื่อ​ว่า​ชิง​ชิง​จะ​ไม่มี​แผน​อะไร​เลย​แล้ว​ปล่อย​มู่​หร​งอ​วี​้​ไป​ใช้ชีวิต​อย่าง​สุขสำราญ​เช่นนี้​จริงๆ​ ​หรอก​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​มู่​หร​งอ​วี​้​จะ​เป็น​ดอง​กับ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​แล้ว​”

“​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​หรือ​ ​อภิเษก​ด้วย​ก็​ใช่​ว่า​จะ​แย่​เสียที​เดียว​”​ ​มู่​ชิง​อีก​ลับ​ไม่ใส่ใจ​นัก​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​ผิง​หูจ​วิ​้น​จู่​ ​หาก​อภิเษก​กับ​นาง​ ​คนที​่​เป็น​ฝ่าย​โชคร้าย​คือ​ใคร​นั้น​กลับเป็น​เรื่อง​ที่​พูด​ยาก​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​บัดนี้​มู่​หร​งอ​วี​้​เอง​ก็​เพิ่ง​มา​แคว้น​เย​่ว​์​ครั้งแรก​ ​ทุกคน​คง​เข้าใจ​ว่า​เขา​เป็น​คน​ของต​วน​อ๋อง​แน่นอน​ ​แต่​หาก​เขา​อภิเษก​กับ​บุตรสาว​ของ​จื้อ​อ๋อง​ ​เรื่อง​วันหน้า​คง​พูด​ยาก​ ​อีก​แง่​หนึ่ง​การ​ที่​มู่​หร​งอ​วี​้​ติดตามต​วน​อ๋อง​มา​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​นับว่า​ไม่ใช่​แผนการ​ที่​ดี​อะไร​นัก​ ​ถึงแม้​สถานการณ์​ตอนนั้น​จะ​ไม่มี​เส้นทาง​ให้​เขา​เลือก​แล้ว​ ​แต่​ด้วย​นิสัย​ของ​มู่​หรง​เทียน​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ย่อม​ไม่มีทาง​ให้ความสำคัญ​และ​ยิ่ง​ไม่มีทาง​เชื่อใจ​เขา​แน่นอน​ ​ขอ​แค่​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ครอง​บัลลังก์​ต่อไป​อีก​วัน​ ​ท่าน​อ๋อง​ที่​ไม่มี​อิทธิพล​อำนาจ​สอดคล้อง​กับ​ตำแหน่ง​คง​เป็น​จุดจบ​สุดท้าย​ชั่วชีวิต​นี้​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​แล้ว

ครั้น​ได้​ฟัง​คำ​วิเคราะห์​ของ​มู่​ชิง​อี​ ​แววตา​ที่​หรง​จิ​่น​ใช้​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​นาง​ก็​ยิ่ง​เป็นประกาย​มากกว่า​เดิม​ ​“​อ้อ​ ​ชิง​ชิง​คิด​ว่า​เสด็จ​พ่อ​ไม่มีทาง​เชื่อใจ​มู่​หร​งอ​วี​้​อย่างนั้น​หรือ​”

มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​หาก​องค์​ชาย​เก้า​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​นั้น​ ​ท่าน​จะ​เชื่อใจ​มู่​หร​งอ​วี​้​หรือ​”

หรง​จิ​่น​หรี่​ตายิ​้ม​เยาะ​ ​“​ข้า​คง​รีบ​ฆ่า​มู่​หร​งอ​วี​้​ทิ้ง​เสีย​”​ ​คนที​่​กล้า​ทรยศ​บ้านเมือง​เพื่อ​อำนาจ​ย่อม​ไม่มี​เรื่อง​ใด​ที่​เขา​ไม่กล้า​ทำ​อีกแล้ว​ ​ในเมื่อ​วันนี้​มู่​หร​งอ​วี​้​กล้า​ทรยศ​แคว้น​หวา​ ​พรุ่งนี้​ก็​ต้อง​ทรยศ​แคว้น​เย​่ว​์​ได้​แน่นอน

“​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​เช่นกัน​ ​เพียงแต่​เขา​ไม่ได้​ใจร้อน​เฉกเช่น​องค์​ชาย​เก้า​ก็​เท่านั้น​”​ ​มู่​ชิง​อี​ดื่ม​ชา​สีเขียว​หยก​ใน​แก้ว​ก่อน​ยิ้ม​กล่าว​ด้วย​ท่าที​สงบ

นิสัย​คน​อย่าง​มู่​หรง​เทียน​คง​กล้า​ลง​ไม้​ลงมือ​ได้​แม้กระทั่ง​บุตรชาย​และ​ขุนนาง​ของ​ตัวเอง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​นี่​เป็น​แค่​องค์​ชาย​เร่ร่อน​คน​หนึ่ง​ที่​หลบหนี​มา​พักพิง​จาก​แคว้น​อื่น​ ​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​คน​ตำแหน่ง​ชั้นสูง​ย่อม​เกลียดชัง​คน​ทรยศ​เข้าไส้​ ​ในเมื่อ​มู่​หร​งอ​วี​้​ทรยศ​แคว้น​หวา​ ​ทาง​ฝั่ง​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​คง​ลิขิต​ไว้​แล้ว​ว่า​เขา​คง​ไม่มี​โอกาส​จะ​ผงาด​ขึ้น​ได้​อีก​ชั่วชีวิต

“​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เอง​ก็​มา​เมืองหลวง​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​…​ชิง​ชิง​รู้จัก​กับ​เขา​แล้ว​หรือ​”​ ​หรง​จิ​่​นม​อง​มู่​ชิง​อี​แล้ว​เอ่ย​ถาม

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​ ​ก่อน​จะ​ขมวดคิ้ว​มุ่น​อย่าง​เป็นกังวล​ ​“​ไม่รู้​ว่า​พี่ใหญ่​กับ​พี่ชาย​เป็น​เช่นใด​บ้าง​แล้ว​”​ ​หรง​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่​ชอบ​กู้​ซิ่ว​ถิง​และ​มู่​หรง​ซี​เท่าไร​นัก​ ​แต่กลับ​ทน​เห็น​ชิง​ชิง​หน้านิ่วคิ้วขมวด​เป็นห่วง​พวกเขา​ไม่ได้​ ​จึง​เอ่ย​ปลอบ​เสียง​เบา​ ​“​ชิง​ชิง​วางใจ​เถิด​ ​ข้า​ส่ง​คน​ออก​ไป​ตามหา​พวกเขา​แล้ว​ ​ขอ​แค่​เขา​ปรากฏตัว​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​ ​ต้องหา​ตัว​พวกเขา​เจอ​ใน​อีกไม่ช้า​นี้​แน่นอน​”

มู่​ชิง​อี​ทำได้​แค่​พยักหน้า​ ​ถึงแม้​จะ​เป็นห่วง​พี่ใหญ่​และ​พี่ชาย​ ​แต่​ใต้​หล้า​นี้​ช่าง​กว้างใหญ่​นัก​ ​นอก​เสีย​จาก​พวกเขา​จะ​เป็น​ฝ่าย​ติดต่อ​นาง​กลับมา​ ​มิเช่นนั้น​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​งมเข็มในมหาสมุทร​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่รู้​ว่า​เบื้องหลัง​หรง​จิ​่น​จะ​มีอำนาจ​มาก​เพียงใด​ ​แต่​อย่างน้อย​ก็​มีความหวัง​มากกว่า​นาง​เร่​ตามหา​ไป​ทั่ว​เพียงลำพัง​อย่างแน่นอน

“​ตอนนี้​อย่า​เพิ่ง​ไปมาหาสู่​กับ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​จะ​ดีกว่า​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​หาก​ยัง​ตามหา​ตัว​พี่ชาย​ไม่​เจอ​ ​ไปมาหาสู่​กับ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​็​ไม่มี​ประโยชน์​อะไร​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​พวกเขา​เอง​ก็​ยัง​ไม่รู้​ว่า​ตกลง​แล้ว​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งกั​บมู​่​หร​งอ​วี​้​เป็น​อะไร​กัน​ ​ถึงแม้​ดู​จาก​ตัวตน​ของ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งอาจ​จะ​ไม่ได้​ชวน​ให้​เกลียดชัง​สัก​เท่าไร​ ​ทว่า​แต่ไหนแต่ไรมา​มนุษย์​เรา​ใช่​ว่า​จะ​แบ่ง​ประเภท​คน​ได้​จาก​ความดี​ความ​ชั่ว​อย่าง​เดียว​ ​หลาย​ครายัง​ต้อง​มี​จุดยืน​เหมือนกัน​ด้วย​ ​อย่างน้อย​นาง​ต้อง​แน่ใจ​ก่อน​ว่า​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ยืน​ฝั่ง​เดียว​กับ​มู่​หร​งอ​วี​้​โดย​ไม่ได้​ไร้​เงื่อนไข​ใด​ ​มิเช่นนั้น​ต่อให้​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ตอบ​ตกลง​นาง​ก็​ไม่กล้า​ให้​เขา​ตรวจ​อาการ​ให้​พี่ชาย​อยู่ดี

หรง​จิ​่​นพ​ยัก​หน้า​ ​เขา​ไม่ได้​สนใจ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​จึง​ยึด​ตาม​คำพูด​ของ​ชิง​ชิง​อยู่​แล้ว

มู่​ชิง​อี​ลังเลใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​มอง​หรง​จิ​่​นที​่​สีหน้า​ซีด​ขาว​กว่า​คน​ปกติ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​ไปหา​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ให้​ลอง​ตรวจ​อาการ​ดู​เสียหน่อย​ ​ในเมื่อ​เขา​ยอม​มา​เมืองหลวง​ ​คง​เกี่ยวข้อง​อะไร​กับ​เรื่อง​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​อีก​แน่นอน​ ​กฎ​ที่​ไม่​ให้​ผูกมิตร​กับ​คนใน​เชื้อพระวงศ์​อะไร​นั่น​คง​ไม่​เหมา​รวมถึง​ชีวิต​คน​ด้วย​หรอก​กระมัง​เพ​คะ​”

หรง​จิ​่น​แค่น​เสียง​เบา​ก่อน​จะ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ไม่จำเป็น​ ​ข้า​เป็น​แบบนี้​แล้ว​ ​อย่า​ว่าแต่​เขา​เลย​ ​เพราะ​เหมือน​เขา​เอง​ก็​คง​ไม่มี​ปัญญา​หรอก​”​ ​ครั้น​เห็น​เขา​ปฏิเสธ​เสียงแข็ง​เช่นนั้น​ ​มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​ไม่ได้​ฝืนใจ​ ​นาง​แค่​ลอบ​วางแผน​ใน​ใจ​ว่าวัน​หลัง​ถาม​ให้​ชัดเจน​ก่อน​ค่อย​คิด​วางแผน​อีกที​ดีกว่า

“​ทูล​องค์​ชาย​ ​เถ้าแก่​หยาง​ขอ​เข้าเฝ้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​อู๋​ฉิ​งก​ล่า​วทูล​รายงาน​เสียง​เบา​จาก​ด้านนอก

หรง​จิ​่น​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​ให้​เขา​เข้ามา​ได้​”

ประตู​ถูก​ผลัก​เปิด​ออก​ ​จากนั้น​มู่​ชิง​อีก​็​ต้อง​ตกใจ​เพราะ​ค้นพบ​ว่า​เถ้าแก่​หยาง​ที่​อู๋​ฉิง​พูดถึง​ก็​คือ​เจ้าของ​ม้า​ตัว​สีขาว​ที่​ตลาด​ม้า​คน​ก่อนหน้านี้​นี่เอง​ ​พอ​เถ้าแก่​หยาง​เห็น​มู่​ชิง​อี​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​หรง​จิ​่​นก​็​ผงะ​ไป​ชั่วครู่​ ​แต่​ไม่นาน​ก็ได้​สติ​แล้ว​ประสานมือ​ทำความเคารพ​อย่างนอบน้อม​กล่าว​ ​“​ข้า​น้อย​ขอ​คารวะ​อวี​้​อ๋อง​ ​คารวะ​ท่าน​…​”

“​คุณชาย​กู้​”​ ​หรง​จิ​่น​เอ่ย​เสียง​เรียบ

“​คารวะ​คุณชาย​กู้​”

หรง​จิ​่น​โบกมือ​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เอาเถอะ​ ​เป็น​อย่างไรบ้าง​…​หนา​นก​งอ​วี​้​เอา​ตั๋วเงิน​มา​ให้​หรือยัง​”​ ​เถ้าแก่​หยาง​ผู้​นั้น​พยักหน้า​รัว​ๆ​ ​พร้อม​รอยยิ้ม​เต็มใบ​หน้า​เอ่ย​ ​“​ท่าน​อ๋อง​คาดการณ์​ได้​อย่างแม่นยำ​ดั่ง​เทพ​ ​เซียน​ ​ตั๋วเงิน​หมื่น​ตำลึง​ไม่มี​ตกหล่น​แม้แต่น้อย​ ​นี่​เป็น​…​น้ำใจ​เล็กน้อย​จริงๆ​ ​ขอบ​พระทัย​ท่าน​อ๋อง​ที่​ชี้แนะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ขณะที่​พูด​ ​เถ้าแก่​หยาง​ก็​เอา​ตั๋วเงิน​ปึก​หนึ่ง​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​ตรงหน้า​ของ​หรง​จิ​่น​ด้วย​สอง​มือ​แล้วก็​ขอตัว​ออก​ไป​อย่าง​รู้​กาลเทศะ

หรง​จิ​่น​ยัก​คิ้ว​อย่าง​ลำพองใจ​ส่ง​ให้​ชิง​ชิง​ที่​กำลัง​จับจ้อง​ตน​อย่าง​ตกตะลึง​ ​หยิบ​ตั๋วเงิน​บน​โต๊ะ​ขึ้น​มาดู​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​วาง​ลง​ตรงหน้า​มู่​ชิง​อี​ ​มู่​ชิง​อี​หยิบ​มาดู​ ​เถ้าแก่​หยาง​ผู้​นั้น​ใจกว้าง​ไม่เบา​เพราะ​เป็น​ตั๋วเงิน​มูลค่า​ห้า​พัน​ตำลึง​ราว​สิบ​ใบ​ได้​ ​ทั้งหมด​รวม​เป็น​เงิน​ห้า​หมื่น​ตำลึง

“​หมายความว่า​อย่างไร​เพ​คะ​”

“​ให้​ชิง​ชิง​อย่างไรเล่า​ ​ชิง​ชิง​ใช้​เงิน​เก่ง​เกินไป​ ​เพิ่ง​เจอ​หนา​นก​งอ​วี​้​ครั้งแรก​ก็​ให้​เขา​ยืม​เงิน​มาก​ขนาด​นั้นแล​้ว​ ​หาก​เขา​ไม่​คืน​จะ​ทำ​อย่างไร​ ​แต่​ไม่เป็นไร​ ​ข้า​หาก​ลับ​มาคืน​ให้​แล้ว​ ​เงิน​ของ​ข้า​ให้​ชิง​ชิง​ใช้​หมด​เลย​”​ ​หรง​จิ​่น​เอ่ย​อย่างจริงใจ

ประเด็นสำคัญ​อยู่​ตรงนี้​หรือ

มู่​ชิง​อี​หาง​ตาก​ระ​ตุก​ ​เป็น​ถึง​องค์​ชาย​ท่าน​อ๋อง​แห่ง​ราชวงศ์​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​รวมหัว​กับ​คน​ค้า​ม้า​หลอก​ถลุง​เงิน​คนอื่น​เช่นนี้​ ​หาก​เป็น​พวก​ลูก​ตระกูล​ใหญ่​บ้าน​รวย​โง่เง่า​ที่​ใช้จ่าย​สุรุ่ยสุร่าย​ไป​ทั่ว​ยัง​ว่า​ไป​อย่าง​ ​แต่​ดัน​หลอก​เอา​เงิน​กับ​สุภาพชน​ที่​ทำ​อะไร​ตรงไปตรงมา​อย่าง​หนา​นก​งอ​วี​้​เสีย​ได้​ ​เขา​ทำ​เรื่อง​แบบนี้​ได้​ลงคอ​ได้​อย่างไร​กัน

“​เถ้าแก่​คน​นี้​ใจกว้าง​ใช้ได้​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ให้เงิน​มาก​ขนาด​นี้​”​ ​ทั้งหมด​ได้มา​แสน​ตำลึง​ ​หรง​จิ​่น​ไม่ได้​ทำ​อะไร​แค่นั​่ง​ตรงนั้น​พูด​ไม่​กี่​ประโยค​ก็ได้​มา​ห้า​หมื่น​ตำลึง​แล้ว​ ​ลำพัง​แค่​หลอก​คนอื่น​ไป​ทั่ว​โดย​ไม่ต้อง​ลงเงิน​ ​ลูกไม้​แบบนี้​องค์​ชาย​เก้า​ถนัด​ยิ่งนัก

หรง​จิ​่​นก​ลับ​ไม่ใส่ใจ​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​เรียบ​เฉย​ ​“​หาก​ไม่มี​ข้า​ ​อย่างมาก​เขา​ก็​คง​ขาย​ได้​แค่​สาม​หมื่น​ตำลึง​ ​ตอนนี้​กลับ​ทำเงิน​ได้​เพิ่ม​อีก​สอง​หมื่น​ตำลึง​ ​จะ​มีเรื่อง​ใด​ให้​ไม่พอใจ​อีก​หรือ​”

“​ที่​พูด​ก็​ถูก​”​ ​อีก​อย่าง​ได้​ผูก​ปฏิสัมพันธ์​กับ​อวี​้​อ๋อง​องค์​ชาย​เก้า​อีก​ต่างหาก​ ​หาก​ไม่​ทำ​คง​โง่น​่า​ดู​ ​ดังนั้น​คิด​ๆ​ ​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ​คนที​่​โชคร้าย​เพียง​หนึ่งเดียว​ก็​ยังคง​เป็น​หนา​นก​งอ​วี​้​อยู่ดี

“​องค์​ชาย​เก้า​ไม่​ชอบ​ขี้​หน้าหนา​นก​งอ​วี​้​หรือ​เพ​คะ​”​ ​หนา​นก​งอ​วี​้​เป็น​บุตรชาย​ของ​หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​ ​หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​ยัง​เป็น​น้า​แท้ๆ​ ​ของ​จวง​อ๋อง​หรง​เซ​วี​ยน​อีก​ต่างหาก​ ​หาก​หรง​จิ​่น​จะ​ไม่​ชอบ​ขี้​หน้า​ของ​หนา​นก​งอ​วี​้​ก็​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ธรรมดา

“​เดิมที​ก็​ไม่​หรอก​ ​แต่​ตอนนี้​ใช่​แล้ว​”​ ​องค์​ชาย​เก้า​เอ่ย​เสียงแข็ง​กร้าว

ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​จะ​ปลอบประโลม​หรง​จิ​่น​ได้​ ​ทั้งสอง​เพิ่ง​ลุกขึ้น​ออกจาก​โรงน้ำชา​มา​ ​ทว่า​เพิ่ง​ลงมา​ก็​เผชิญหน้า​กับ​คนที​่​ไม่​อยาก​เจอ​ด้วย​ ​สีหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​สดใส​ใน​ตอนแรก​ของ​หรง​จิ​่น​เรียบ​ตึง​ขึ้น​มาทัน​ที

ผู้มาเยือน​ก็​คือ​บุรุษ​วัยกลางคน​หน้าตา​หล่อเหลา​สง่างาม​สวม​ชุด​ผ้าแพร​ปัก​ลายเมฆ​สีขาว​นวล​ผู้​หนึ่ง​ ​บุรุษ​ผู้​นั้น​สีผิว​ขาวซีด​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​สุขภาพ​ไม่ดี​นัก​ ​อีกทั้ง​รูปร่าง​ก็​ซูบผอม​ ​แววตา​สุขุม​เย็นยะเยือก​ ​ดู​ทรง​แล้ว​น่าจะ​อายุ​ราว​สี่​สิบ​ปี​ ​แต่​เส้น​ผม​ตรง​ข้าง​หูก​ลับ​ขาวโพลน​หมด​แล้ว​ราวกับ​ผ่าน​ชีวิต​มา​อย่าง​โชกโชน

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท