หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 366 บุปผามั่วเยา (4)

หวนคืนชะตาแค้น

“​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​ต้น​นี้​ ​ข้า​เอา​เอง​”​ ​เสียงเย็น​ยะเยือก​เสียง​หนึ่ง​ดัง​แว่ว​มาจาก​มุม​ที่​ไม่​ไกล​นัก​ ​จากนั้น​สายตา​ของ​ทุกคน​ก็​จับจ้อง​ไป​ทาง​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ใน​ชุด​สีขาว​ทั้ง​ร่าง​ที่​ปรากฏตัว​ตรง​ริม​แท่น​ที่นั่ง​ ​ซึ่ง​เขา​กำลัง​มอง​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​บน​พื้น​พลาง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​อยู่​ด้วย​เช่นกัน

“​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​!​”​ ​หลาย​วัน​มานี​้​นอก​และ​ใน​เมือง​เผิง​เกิดเหตุ​การณ์​นองเลือด​ไม่​เว้นแต่​ละ​วัน​ ​เกรง​ว่า​ตลอด​หลาย​สิบ​ปี​มานี​้​เย​่า​หวัง​กู่​ฆ่า​คน​รวมกัน​ยัง​ไม่​เท่า​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งคน​เดียว​ในเวลานี้​เลย​ ​พอคน​ใน​ยุทธ​ภพ​เห็น​เขา​ปรากฏตัว​ก็​ย่อม​นั่ง​ไม่​ติด​ที่​เป็นธรรมดา​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ด้านบน​มีคุณ​ชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นที​่​ไม่​ควร​หาเรื่อง​ด้วย​และ​แม่ทัพ​ใหญ่​ที่​มีอำนาจ​ทางการทหาร​ใน​เงื้อมมือ​ ​เกรง​ว่า​คนใน​ยุทธ​ภพ​คง​พุ่ง​เข้าใส่​แล้ว

มู่​ชิง​อี​แอบ​นึก​เสียใจ​ที่​ก่อนหน้านี้​บอก​หรง​จิ​่น​ไป​ว่านาง​ชอบ​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​กระถาง​เดียว​จะ​จุดชนวน​เรื่อง​วุ่นวาย​ได้มา​กมาย​ขนาด​นี้

มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ไม่สน​ใจ​กลุ่มคน​ที่​อยาก​จะ​เชือดเฉือน​เขา​เลย​สักนิด​ ​เขา​เดิน​รุด​ขึ้นไป​ด้านหน้า​มอง​มู่​ชิง​อี​พลาง​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​ขอด​อก​เบญจมาศ​สีดำ​ให้​ข้า​เถิด​ ​ถือว่า​ข้า​ติดหนี้​บุญคุณ​แม่นาง​อีกครั้ง​แล้วกัน​”

มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งมี​สมญานาม​ว่า​หมอ​เทวดา​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ใต้​หล้า​ ​หาก​มี​หนี้บุญคุณ​ต่อ​บุคคล​เช่นนี้​มาก​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​ดี​ ​แต่​หรง​จิ​่​นก​ลับ​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ติดหนี้​บุญคุณ​หรือ​ ​เจ้าสำนัก​มั่ว​ลอง​คิดดู​ก่อน​เถิด​ว่า​จะ​มีชีวิตรอด​ออก​ไป​จาก​เมือง​เผิง​ได้​หรือเปล่า​ ​มิเช่นนั้น​ชิง​ชิง​ของ​ข้า​ก็​คง​เป็นหนี้บุญคุณ​โดย​เสียเปล่า​กระมัง​”

มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เงยหน้า​มอง​หรง​จิ​่น​ด้วย​สายตา​ราบเรียบ​ ​“​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นกำ​ลัง​เสนอ​ให้​ข้า​จัดการ​วาง​พิษ​คน​ทั้งเมือง​เผิ​งอย​่าง​นั้น​หรือ​”

ครั้น​ได้ยิน​เช่นนั้น​ทุกคน​ก็​อด​สีหน้า​เปลี่ยน​ไม่ได้​ ​คนใน​ยุทธ​ภพ​ที่​หูดี​ย่อม​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​เขา​พูด​กัน​ถ้วนหน้า​อยู่​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​ก่น​ด่าว่า​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เป็น​จอม​มาร​ร้าย​นอกรีต​ ​แต่​เรื่อง​ที่​น่าขัน​ก็​คือ​เจ้าสำนัก​เย​่า​หวัง​กู่​ที่​ถูก​มองว่า​เป็น​ดั่ง​หมด​เทวดา​ช่วยรักษา​คน​ ​แต่เพียง​เพราะ​ไม่รู้​ข้อเท็จจริง​เรื่อง​หญ้า​เซียน​เก้า​เมฆา​เลย​ทำให้​แต่ละคน​ล้วน​ประณาม​ว่า​เขา​เป็น​จอม​มาร​ร้าย​นอกรีต​เสีย​แล้ว

หรง​เซ​วี​ยน​และ​หรง​หวง​ที่​ยืน​ดู​เรื่อง​สนุก​ๆ​ ​ด้าน​ข้าง​ก็​เผย​สีหน้า​ดูไม่ได้​เช่นกัน​ ​ใน​ฐานะ​องค์​ชาย​อย่าง​พวกเขา​ย่อม​รัก​ชีวิต​มาก​ที่สุด​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​คนใน​ยุทธ​ภพ​ทำตาม​แต่​ใจ​ตนเอง​ ​หาก​ยุ​ให้​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​วางยา​ฆ่า​คน​ทั้งเมือง​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​เช่นนั้น​พวกเขา​ก็​ต้อง​พลอย​ตาย​ไป​ด้วย​มิใช่​หรือ

พวกเขา​สอง​คน​แอบ​แลกเปลี่ยน​สายตา​กัน​ ​เดิมที​พวกเขา​สอง​คน​ก็​มา​เพื่อ​หญ้า​เซียน​เก้า​เมฆา​อยู่​แล้ว​ ​เช่นนั้น​สู้​ชิง​วางแผน​จับ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​่อน​เลย​ดีกว่า​ ​แน่นอน​ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​ให้​พวกเขา​ทำ​เอง​ไม่ได้​ ​คนใน​ยุทธ​ภพ​โง่งม​เหล่านั้น​ต่างหาก​ที่​เป็น​หมาก​ชั้นดี

ครั้น​เห็น​มู่​ชิง​อี​ไม่​ตอบกลับ​อะไร​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​จึง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ขบคิด​พลาง​กล่าว​ ​“​ราก​ของ​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​ต้น​นี้​ได้รับ​ความเสียหาย​ ​นอกจาก​ข้า​ก็​ไม่มีใคร​ช่วย​มัน​ได้​อีกแล้ว​”

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​โปรด​อภัย​ให้​ด้วย​ ​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​นี้​ไม่ใช่​ของ​ข้า​ ​ท่าน​ผู้เฒ่า​คิดเห็น​เช่นใด​เล่า​เจ้า​คะ​”​ ​มู่​ชิง​อี​รู้สึก​ละอายใจ​ต่อ​ผู้เฒ่า​ท่าน​นี้​เหลือเกิน​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​หรง​จิ​่น​ไป​หยิบ​มาก​็​คง​ไม่​เกิดเรื่อง​แบบนี้​ขึ้น​ ​มู่​ชิง​อีสง​สัย​ว่า​คำพูด​เรื่อง​มั่ว​เยา​ของ​ตน​นั้น​คง​ไป​กระตุ้น​อะไร​เข้า​ ​ในเมื่อ​ตอนแรก​เชียน​หลิง​เอง​ก็​ไม่ได้​แสดงท่าที​สนอกสนใจ​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​ต้น​นี้​เลย​สักนิด

ผู้เฒ่า​ก้มหน้า​มอง​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​บน​พื้น​ ​ราก​ที่​โผล่​พ้น​ออกมา​ได้รับ​ความเสียหาย​บ้าง​จริงๆ​ ​ดอก​มั่ว​เยา​บอบบาง​มาก​ ​หาก​ได้รับ​ความเสียหาย​เพียง​เล็กน้อย​ก็​อาจ​เหี่ยว​ตาย​ได้​ทันที​ ​เพราะเหตุนี้​เขา​ถึง​ทุ่ม​เวลา​ถึง​หลาย​ปีก​ว่า​จะ​บ่ม​เพาะ​ดูแล​ทำให้​ดอกไม้​เบ่งบาน​ขนาด​นี้​ได้​ ​ถึงแม้​การ​มอบให้​คนอื่น​จะ​เป็นเรื่อง​น่า​ปวดใจ​ ​แต่​ก็ดี​กว่า​รอ​ให้​มัน​เหี่ยว​ตาย​กระมัง

ผู้เฒ่า​พยักหน้า​ด้วย​ท่าที​ท้อใจ​ผิดหวัง​แล้ว​ปัด​ป่าย​มือ​เอ่ย​ ​“​เอาเถิด​ ​หาก​เจ้า​อยากได้​ก็​เอา​ไป​ ​เพียงแต่​…​หวัง​ว่า​คุณชาย​จะ​เห็นแก่หน้า​ข้า​แล้ว​ไม่เอา​พิษ​นี้​ไป​ทำร้าย​ใคร​ก็​พอ​”

ถึงแม้​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​จะ​มีสี​หน้า​ดุดัน​ ​แต่​ก็​ยัง​พยักหน้า​ขานรับ​ ​“​แน่นอน​อยู่​แล้ว​ ​ขอบคุณ​มาก​”​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ผู้เฒ่า​ไม่​อยาก​อยู่​ต่อ​แล้ว​ ​เขา​ส่าย​ศีรษะ​ก่อน​หมุนตัว​เดิน​จากไป​ ​ดู​จาก​เงา​แผ่น​หลัง​คง​เศร้า​เสียใจ​ไม่น้อย

ปู้​อวี​้​ถัง​ถอนหายใจ​ออกคำสั่ง​ข้าหลวง​ข้าง​กาย​ให้​ไป​ส่ง​ผู้เฒ่า​ ​แล้ว​เอ่ย​พลาง​ทอดถอนใจ​ว่า​ ​“​ผู้เฒ่า​ท่าน​นี้​รัก​ดอก​เบญจมาศ​จน​กลายเป็น​ความหลง​ใหล​ ​เขา​อาศัย​อยู่​ใน​หมู่บ้าน​เล็ก​ๆ​ ​แห่งหนึ​่ง​ไม่​ไกล​จาก​เมือง​เผิง​นัก​ ​หน้าบ้าน​หลังบ้าน​และ​กลาง​สวน​เต็มไปด้วย​ดอก​เบญจมาศ​หลาก​สีสัน​ ​มี​ชาวบ้าน​ที่​ปลูก​ดอกไม้​หลาย​คน​เดินทาง​มา​เพื่อ​เรียนรู้​ทักษะ​การ​ปลูก​ดอกไม้​จาก​เขา​”​ ​เดิมที​นึก​ว่า​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​ต้น​นี้​จะ​คว้า​ชัยชนะ​มา​ ​ใคร​จะ​รู้​ว่า​สุดท้าย​จะ​กลายเป็น​แบบนี้​ไป​ได้

มู่​ชิง​อี​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​นาง​ย่อม​ฟัง​น้ำเสียง​แฝง​ความไม่พอใจ​ของ​ปู้​อวี​้​ถัง​ออก​ ​เพียงแต่​ต่อให้​ปู้​อวี​้​ถัง​จะ​ไม่พอใจ​แค่ไหน​ ​แต่​คนตรง​หน้า​ไม่ใช่​คนที​่​เขา​จะ​ล่วงเกิน​ได้​เลย​สัก​คน

บุรุษ​ท่าที​เย็นชา​ใน​ชุด​ขาว​ทั้ง​ร่าง​ย่อ​ตัว​ลง​ก่อน​ค่อยๆ​ ​หยิบ​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​ใน​กอง​ดิน​ขึ้น​มา​อย่างเบามือ​ ​ด้าน​ข้าง​มี​คน​ไหวพริบดี​เตรียม​กระถาง​ใหม่​ไว้​ให้​แล้ว​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​็​ไม่ได้เรื่อง​มาก​ ​ฉับพลัน​ก็​ค่อยๆ​ ​ประคอง​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​ใส่​ลง​ไป​ใน​กระถางดอกไม้​ใหม่​อย่างระมัดระวัง​ ​จากนั้น​ก็​ล้วง​หยิบ​ขวด​ขนาดเล็ก​กะทัดรัด​ออกมา​ใบ​หนึ่ง​แล้ว​เทน​้ำ​ยาที​่​ไม่ทราบ​ชื่อ​ด้านใน​ใส่​เข้าไป​จน​เกลี้ยง

ต่อมา​ก็​เอา​กระถาง​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​แล้ว​หยิบ​ถุงมือ​คู่​บาง​ดั่ง​ปีก​แมลงทับ​มาสวม​ใส่​ ​จากนั้น​ก็​จัดการ​เอาละ​ออง​เกสร​สีม่วง​อ่อน​ออกจาก​เกสร​ดอก​เบญจมาศ​อย่างง่ายดาย​ ​ทุกคน​ใน​งาน​ต่าง​ไม่เข้าใจ​ว่า​เขา​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​เลย​ทำได้​แค่​มอง​ต่อไป​อย่าง​เงียบๆ​ ​รอก​ระ​ทั่ง​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ทำ​ทุกอย่าง​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้วก็​หยิบ​น้ำยา​ขวด​หนึ่ง​ออกมา​เท​ใส่​เข้าไป​พลาง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ​ก่อน​จะ​ดัน​กระถางดอกไม้​ไป​ไว้​ตรงหน้า​มู่​ชิง​อี​แล้ว​กล่าว​ ​“​ขอบคุณ​แม่นาง​มาก​”

มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​เจ้าสำนัก​มั่ว​ ​นี่​คือ​อะไร​หรือ​”

มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​ล่าว​ ​“​ถึงแม้​ดอก​นี้​จะ​ยัง​เป็น​ดอก​มั่ว​เยา​อยู่​แต่​มัน​ไม่มี​พิษ​แล้ว​ ​หาก​แม่นาง​ชอบ​ก็​เก็บ​ไว้​ชื่นชม​เถิด​”​ ​นัย​ยะ​ของ​ความหมาย​ก็​คือ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ไม่เพียงแต่​เอาละ​ออง​เกสร​บางส่วน​ของ​มั่ว​เยา​ไป​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ช่วย​ขจัด​พิษ​ของ​มั่ว​เยา​จน​สิ้น​ด้วย

มู่​ชิง​อี​เงียบงัน​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พยักหน้า​รับ​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ขอบคุณ​เจ้าสำนัก​มั่ว​มาก​”

มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เก็บของ​ที่​ตน​ต้องการ​โดย​ไม่​คิด​ปรายตา​มอง​สายตา​คนที​่​เหลือ​เลย​สักนิด​แล้ว​สะบัดก้น​จากไป​ ​ทว่า​เชียน​หลิง​ที่อยู่​ด้านหลัง​กลับ​มอง​ไป​ยัง​ดอก​เบญจมาศ​สีดำ​ที่​ยังคง​งดงาม​เหมือนเดิม​บน​โต๊ะ​ด้วย​สีหน้า​ซีด​ขาว​ดั่ง​กระดาษ

งาน​ชมด​อก​เบญจมาศ​จบ​ลง​อย่าง​ไม่รู้​ตัว​ ​สุดท้าย​โชคดี​ที่​มีด​อก​โบตั๋น​สีเขียว​งดงาม​และ​หายาก​เช่นกัน​ ​ถึงแม้​มั่ว​เยา​จะ​ยังอยู่​แต่​ถึงอย่างไร​กลีบดอก​ก็​เกิด​ความเสียหาย​ ​ซึ่ง​หาก​เทียบ​กับ​ดอก​โบตั๋น​สีเขียว​ที่​วาง​ประดับ​อยู่​ใน​กระถาง​หยก​สีขาว​ประณีต​แล้ว​กลับ​งดงาม​สู้​ไม่ได้​อย่างชัดเจน

ถึงแม้​งาน​ชมดอกไม้​ปีนี​้​จะ​ไม่ได้​ยิ่งใหญ่​คึกคัก​เท่า​ปีก่อน​ๆ​ ​แต่​ผู้ว่า​เมือง​เผิ​งอย​่าง​ปู้​อวี​้​ถัง​กลับ​ลอบ​ผ่อน​ลมหายใจ​เฮือก​ใหญ่​ ​ขอ​แค่​ไม่​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​ก็​นับว่า​ไม่เลว​แล้ว​ ​เขา​ไม่กล้า​ร้องขอ​เรื่อง​ใด​แล้ว​จริงๆ

หลังจาก​ล่ำ​ลา​ปู้​อวี​้​ถัง​ ​พวก​มู่​ชิง​อีก​็​เดิน​ออกจากงาน​มารวม​ตัว​กับ​ฮั่ว​ซู​และ​ไท่​สื่อ​เหิง​ ​มู่​ชิง​อี​และ​หรง​จิ​่​นนั​่​งอยู​่​ใน​งาน​อย่าง​เบื่อหน่าย​ ​ทว่า​ฮั่ว​ซู​และ​ไท่​สื่อ​เหิ​งก​ลับ​เที่ยว​ชม​ภายใน​งาน​อย่างสนุกสนาน​ ​ใน​มือ​ของ​พวกเขา​แต่ละคน​หอบหิ้ว​ดอก​เบญจมาศ​ช่อ​หนึ่ง​มาด​้วย​ ​ดูท่าทาง​คง​เห็น​ใน​ตลาด​ดอกไม้​แล้ว​ชอบ​เลย​ซื้อ​กลับมา​ ​ใบหน้า​สุขุม​ใน​เดิมที​ของ​ฮั่ว​ซู​กลับ​แต่ง​แต้ม​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​แห่ง​ความสุข​และ​เปล่งประกาย​ความสด​ใส

“​ไอ​๊​หยา​ ​นั่น​มั่ว​เยา​หรือ​”​ ​ครั้น​เห็น​ดอกไม้​ใน​มือ​หรง​จิ​่น​ ​ไท่​สื่อ​เหิ​งก​็​ร้อง​ขึ้น​อย่างตกใจ​ ​“​งาน​ดอกไม้​ใน​เมือง​เผิง​โด่งดัง​สม​คำ​ร่ำ​ลือ​จริงๆ​ ​แม้แต่​ดอกไม้​หายาก​เช่นนี้​ก็​มีด​้วย​”

หรง​จิ​่น​แค่น​เสียง​เบา​ที​หนึ่ง​แล้ว​ปล่อยมือ​โยน​กระถางดอกไม้​ใส่​ไท่​สื่อ​เหิง​ ​ไท่​สื่อ​เหิง​รีบ​รับ​ไว้​ ​นี่​ดอก​มั่ว​เยา​เชียว​นะ​ ​ลำพัง​แค่​กระถาง​เดียว​ก็​เพียงพอ​ให้​ครอบครัว​คนธรรมดา​ร่ำรวย​ไป​ถึง​สอง​ชาติ​ภพ​แล้ว

เว​่​ยอู​๋​จี้​พา​เชียน​หลิง​เดินตาม​มาด​้าน​หลัง​ ​สีหน้า​ชวน​น่าสงสาร​ของ​เชียน​หลิง​ปรากฏ​ดวงตา​แดงก่ำ​ซึ่ง​เห็นได้ชัด​ว่า​เพิ่ง​ร้องไห้​มา​อย่างหนัก​ ​ครั้น​เห็น​ดอก​มั่ว​เยา​ใน​มือ​ของ​ไท่​สื่อ​เหิ​งก​็​เผย​สีหน้า​ซับซ้อน​เดา​ได้​ยาก​ ​ทว่า​ชวน​ให้​ไท่​สื่อ​เหิง​ทำตัว​ไม่​ถูก​เพราะ​ไม่รู้​ว่า​ตน​ไปล่​วง​เกิน​อะไร​แม่นาง​ผู้​นี้​เข้าถึง​ได้​ใช้​สายตา​โกรธแค้น​เช่นนั้น​จับจ้อง​มาที​่​ตน​เช่นนี้

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท