หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 381 พระโพธิสัตว์อสุรา (3)

หวนคืนชะตาแค้น

เขา​ร้อนใจ​อยาก​เปิด​กล่อง​ ​แต่​เพราะ​การ​ผนึก​ปิด​ของ​กลอน​ศักดิ์สิทธิ์​เจ็ด​ทวาร​เลย​ทำให้​เปิด​ไม่ได้​ง่ายๆ​ ​ขนาด​นั้น

ไท่​สื่อ​เหิง​หัวเราะ​เย้ย​ที​หนึ่ง​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​จากนั้น​ก็​ส่าย​ศีรษะ​อย่าง​หดหู่​ ​เขา​อยู่​ใน​แวดวง​ยุทธ​ภพ​มานาน​จน​คิด​ว่า​ตน​มอง​เรื่อง​ใน​ยุทธ​ภพ​ทะลุปรุโปร่ง​ทุก​เรื่อง​ ​ทว่า​วันนี้​เขา​เพิ่ง​มอง​ทุกอย่าง​กระจ่าง​อย่างแท้จริง​ว่า​คนใน​ยุทธ​ภพ​สกปรก​และ​ต่ำทราม​มาก​เพียงใด​ ​ถึงขั้น​ฆ่า​อาจารย์​ ​ฆ่า​ศิษย์​ ​ฆ่า​พ่อ​ ​ฆ่า​ลูก​เพียง​เพราะ​หญ้า​เซียน​เก้า​เมฆา​ ​กระทั่ง​ยอม​ทำได้​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ ​ส่วน​คน​เบื้องหลัง​ที่​ก่อเรื่อง​ทุกอย่าง​กลับ​ยังคง​สะอาด​บริสุทธิ์​ดังเดิม​ ​ฉับพลัน​รอยยิ้ม​ของ​เขา​ก็​จาง​ลง​ ​เพราะเหตุนี้​สอง​มือ​เรียว​งาม​ดั่ง​หยก​คู่​นั้น​ของ​นาง​จึง​ไม่​แปดเปื้อน​เลือด​แม้แต่​หยด​เดียว

ไท่​สื่อ​เหิง​ถอนหายใจ​มอง​หญิงสาว​ใน​ชุด​สีขาว​ที่อยู่​ไม่​ไกล​จาก​ต้นไม้​ใหญ่​แวบ​หนึ่ง​ ​พลัน​ลอบ​เอ่ย​ใน​ใจ​ว่า​ ​อวิ​๋น​เกอ​ ​น้องสาว​ของ​เจ้า​ใจ​เหี้ยม​กว่า​เจ้า​นัก​ ​แต่​แบบนี้​ก็ดี​…​เพราะ​บน​โลก​นี้​ ​คนที​่​ใจ​เหี้ยม​ต่างหาก​ถึง​จะ​อยู่รอด

“​อย่า​เปลือง​แรง​อีก​เลย​ ​นั่น​เป็น​กล่อง​ที่​ทำ​ขึ้น​จาก​หยก​เย็น​พันปี​ ​บัดนี้​คนใน​ใต้​หล้า​ที่สามา​รถ​สะเดาะ​กลอน​ศักดิ์สิทธิ์​เจ็ด​ทวาร​ภายใต้​สถานการณ์​ที่​ไม่รู้​ความเป็นมา​ได้​มีอยู่​ไม่​ถึง​ห้า​คน​ ​เจ้า​วาง​กล่อง​ลงพื้น​แล้วไป​จาก​ที่นี่​เสียเถิด​”​ ​สู้​เจ้า​กลับ​ไป​จัดการ​เรื่อง​หลังจากนี้​จะ​ดีกว่า​ ​ครั้น​เห็นท่า​ที​หวาดกลัว​จน​ใกล้​บ้า​เต็มที​เช่นนั้น​ของ​เซ​วีย​เจี​้​ยน​ ​ไท่​สื่อ​เหิ​งก​็​เอ่ย​โน้มน้าว​เขา​อย่าง​อด​ไม่ได้

น่าเสียดาย​ที่​เซ​วีย​เจี​้​ยน​ไม่​รับ​น้ำใจ​นั้น​ ​“​ไม่​…​พวก​เจ้า​อย่า​ได้คิด​จะ​แย่ง​สมบัติ​ข้า​ไป​เชียว​”​ ​ใช่​ว่า​เซ​วีย​เจี​้​ยน​จะ​บ้า​เสียที​เดียว​ ​เขา​รู้​ว่า​ตน​ไม่ใช่​คู่ต่อสู้​ของ​ใคร​หลาย​ๆ​ ​คน​ ​ดังนั้น​เขา​เลย​หมุนตัว​กระโจน​เข้าใส่​ไท่​สื่อ​เหิง​ที่​อ่อนแอ​ที่สุด​ใน​นั้น​แทน

ทั้งๆ​ ​ที่​กล่าว​โน้มน้าว​ด้วย​เจตนา​อัน​ดีแต่​กลับ​ประสบ​หายนะ​เสีย​ได้​ ​ไท่​สื่อ​เหิง​เอง​ก็​โมโห​ไม่น้อย​ ​ถึงแม้​วิทยา​ยุทธ​ของ​เขา​จะ​ไม่ได้เรื่อง​แต่​วิชา​ตัวเบา​กลับดี​ไม่​หยอก​ ​ครั้น​เห็น​เซ​วีย​เจี​้​ยน​กระโจน​ใส่​ก็​รีบ​เตะ​เท้า​พุ่งตัว​ไปหา​เทียน​เฉวียน​ทันที​ ​“​ช่วย​ด้วย​ ​สหาย​เทียน​เฉวียน​”

เทียน​เฉวียน​มอง​ไท่​สื่อ​เหิ​งด​้ว​ยสี​หน้า​เหมือน​จะ​ยิ้ม​แต่​ก็​ไม่​ยิ้ม​แวบ​หนึ่ง​ ​เพียง​ยก​ลูกคิด​ใน​มือขึ้น​เขวี้ยง​ไป​ทาง​เซ​วีย​เจี​้​ยน​ ​เดิมที​ท้องฟ้า​ก็​มืดมิด​อยู่​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ลูกคิด​นั้น​ก็​พุ่ง​ใส่​อย่าง​ฉับพลัน​และ​รวดเร็ว​ ​เซ​วีย​เจี​้​ยน​ยก​กล่อง​หยก​ใน​มือขึ้น​บัง​ไว้​ตาม​สัญชาตญาณ​ ​จากนั้น​ก็​มีลูก​ธนู​ปัก​ลง​บน​ข้อมือ​ของ​เขา​เสียงดัง​ ​สวบ​!​ ​เซ​วีย​เจี​้​ยน​กรีดร้อง​ ​“อ​๊าก​!​”​ ​อย่าง​เจ็บปวด​ ​จากนั้น​กล่อง​หยก​ใน​มือ​พลัน​ตกลง​พื้น​ทันที​ ​หลังจาก​มี​เงา​คน​แวบ​ปรากฏ​ ​กล่อง​หยก​ที่​อาบ​ไป​ด้วย​เลือด​สด​ก็​ถูก​เทียน​เฉวียน​ช่วงชิง​มา​ไว้​ใน​มือ​เรียบร้อย

“​ไม่​นะ​…​คืน​มา​ให้​ข้า​!​ ​คืน​มา​ให้​ข้า​!​”​ ​เซ​วีย​เจี​้​ยน​ดวงตา​แดงก่ำ​เพราะ​โมโห​อย่าง​สุดขีด​แล้ว​กระโจน​เข้าหา​เทียน​เฉวียน​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ​ทันใดนั้น​มีเสียง​ดัง​ ​สวบ​!​ ​พร้อม​สายลม​เบา​ๆ​ ​พัดผ่าน​ ​จากนั้น​ก็​ปรากฏ​ลูกธนู​ที่​แฝง​นัย​ยะ​ตักเตือน​ยิง​ลงมา​ปัก​ไขว้​ขวางหน้า​เขา​ไว้​พอดี

เทียน​เฉวียน​เช็ด​รอย​เลือด​บน​กล่อง​จน​เกลี้ยงเกลา​ด้วย​ท่าที​แน่นิ่ง​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​กล่อง​หยก​เดิน​ไป​ตรงหน้า​มู่​ชิง​อี​แล้ว​มอบให้​ด้วย​ท่าที​นอบน้อม​ ​“​แม่นาง​”

มู่​ชิง​อี​โบกไม้โบกมือ​เป็น​เชิง​ว่า​ให้​เขา​เก็บ​ไว้​เอง​ ​ทว่า​เซ​วีย​เจี​้​ยน​ที่​ไม่​คิด​ล้มเลิก​และ​โดน​ลูกธนู​ไป​สอง​ดอก​กลับ​เอ่ย​อย่าง​ฉุนเฉียว​ ​“​ตกลง​พวก​เจ้า​เป็น​ใคร​กัน​แน่​ ​หญ้า​เซียน​เก้า​เมฆา​เป็น​ของ​ข้า​ ​พวก​เจ้า​อย่า​ได้คิด​!​ ​อย่า​ได้คิด​จะ​เอา​ไป​เชียว​!​”

มู่​ชิง​อี​มอง​คน​ร่างกาย​สกปรก​มอมแมม​บน​พื้น​แวบ​หนึ่ง​ด้วย​สีหน้า​ราบเรียบ​ ​หมุนตัว​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ไป​กัน​เถิด​”

“​ขอรับ​/​เจ้าค่ะ​ ​แม่นาง​”​ ​หลังจาก​ผ่าน​วันนี้​ไป​เทียน​เฉวียน​และ​ฮั่ว​ซู​ยอมจำนน​ต่อมู​่​ชิง​อี​อย่างแท้จริง​แล้ว​ ​คนนอก​อาจม​อง​เห็น​ไม่ชัด​แจ้ง​ ​แต่​คนที​่​อยู่​ข้าง​กาย​นาง​อย่าง​พวกเขา​กลับ​มองเห็น​อย่างชัดเจน​จน​กระจ่าง​ ​สาวน้อย​ชุด​ขาว​ตรงหน้า​ที่​ดู​อ่อนโยน​เผย​รอยยิ้ม​หวาน​หยดย้อย​ ​ทว่า​เพียง​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​ก็​สามารถ​วาง​อุบาย​ทำเอา​คน​ทั่วทั้ง​ยุทธ​ภพ​เข่นฆ่า​กัน​ชุลมุน​เพียง​เพราะ​หญ้า​เซียน​เก้า​เมฆา​ของปลอม​นี้​ได้​ ​ความเสียหาย​ที่เกิด​ขึ้น​ทั้ง​นอก​และ​ใน​เมือง​เผิง​วันนี้​เรียกว่า​แทบ​ล้ม​อิทธิพล​ใน​ยุทธ​ภพ​ของ​แคว้น​เย​่ว​์​ ​แคว้น​หวา​ ​กระทั่ง​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​หก​ถึง​เจ็ด​ส่วน​เลย​ทีเดียวอ

อีกทั้ง​เมือง​เทียน​เช​วีย​ยัง​สามารถ​ฉกฉวย​ยาม​ที่​ยุทธ​ภพ​ชุลมุน​วุ่นวาย​นี้​เข้ามา​มีอิทธิพล​ใน​ยุทธ​ภพ​ได้​ด้วย

“​เทียน​เฉวียน​ ​อีก​สอง​วัน​ข้า​กับ​ฮั่ว​ซู​จะ​กลับ​เมืองหลวง​ ​เรื่อง​ใน​ยุทธ​ภพ​คง​ต้อง​มอบหมาย​ให้​เจ้า​ต่อ​แล้ว​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ออกคำสั่ง​เสียง​เรียบ​ระหว่าง​ที่​ย่างกราย​ช้าๆ​ ​อยู่​ใน​ป่า​เขา

เทียน​เฉวียน​พยักหน้า​รับ​อย่า​เชื่อฟัง​ ​“​ขอรับ​ ​ข้า​น้อม​รับคำ​สั่ง​”

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​ก่อน​หันไป​มอง​พวกเขา​สาม​คน​ข้าง​กาย​แวบ​หนึ่ง​ ​สุดท้าย​สายตา​ก็​เลื่อน​ไป​จับจ้อง​ที่​ร่าง​ไท่​สื่อ​เหิง​พร้อม​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ไท่​สื่อ​เหิง​ ​ท่าน​กลัว​ข้า​หรือ​”

ไท่​สื่อ​เหิง​ผงะ​ไป​ก่อน​ลูบ​จมูก​ปอย​ๆ​ ​ทว่า​รอยยิ้ม​ดู​เจื่อน​ลง​เล็กน้อย​ ​เขา​ยอมรับ​ว่า​เขา​นึก​กลัว​สาวน้อย​ชุด​ขาว​ผู้​นี้​ขึ้น​มา​แล้ว​จริงๆ​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​ละม้าย​คล้าย​อวิ​๋น​เกอ​เหลือเกิน​…​แต่ว่า​…

มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​ไม่สน​ใจ​เขา​ ​เพียง​เอ่ย​ว่า​ ​“​หาก​ไม่​อยาก​อยู่​ต่อ​ ​ก็​ไป​ได้​ทุกเมื่อ​”​ ​ต่อให้​ตอนนี้​นาง​บอก​เขา​ว่านา​งคื​อกู​้​อวิ​๋น​เกอ​ ​ไท่​สื่อ​เหิ​งคง​ยัง​ไม่กล้า​เชื่อ​ด้วยซ้ำ​กระมัง​ ​เพราะ​เวลานี้​มู่​ชิง​อีก​ลับ​ไป​เป็น​กู้​อวิ​๋น​เกอ​อย่าง​ใน​วันวาน​หรือ​กระทั่ง​แม่นาง​หว่าน​อวิ​๋น​ใน​หอนาง​โลม​ชุ่ย​หง​ไม่ได้​อีกแล้ว

ไท่​สื่อ​เหิ​งม​อง​มู่​ชิง​อี​ที่​เดิน​ห่าง​ออก​ไป​ไกล​เรื่อยๆ​ ​โดย​ไม่​พูด​อะไร​ ​แต่​จู่ๆ​ ​ก็​หลุด​หัวเราะ​เสียง​เบา​ขึ้น​มา​พลาง​เร่ง​สับ​เท้า​ไล่ตาม​ไป​ ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​หาก​ติดตาม​แม่นาง​มู่​ไป​คง​สนุก​กว่า​ร่อนเร่​อยู่​ใน​ยุทธ​ภพ​เป็น​ไหน​ๆ​ ​ไม่แน่​วันใด​ข้า​อาจจะ​เขียน​ตำรา​ประวัติศาสตร์​ที่​ไม่​เหมือน​ใคร​ออกมา​ได้​สัก​เล่ม​ก็​เป็นได้​”

ฮั่ว​ซู​เอ่ย​ชื่นชม​อย่าง​กลั้น​ไว้​ไม่อยู่​ ​“​วิธีการ​ของ​แม่นาง​สุดยอด​จริงๆ​ ​เวลานี้​คนใน​ยุทธ​ภพ​คง​ไม่มี​เรี่ยวแรง​ใด​ตาม​รังควาน​เจ้าสำนัก​มั่ว​อีกแล้ว​”

ไท่​สื่อ​เหิง​เหลือบมอง​ฮั่ว​ซูด​้ว​ยสาย​ตา​แปลกใจ​แวบ​หนึ่ง​ ยัย​เด็ก​คน​นี้​ใส​ซื่อ​ขนาด​ไหน​กัน​ถึง​เชื่อ​เพียง​ว่า​แม่นาง​มู่​ทำ​สิ่ง​เหล่านี้​เพียง​เพราะ​ไม่​ให้​ใคร​ไป​วุ่นวาย​กับ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เท่านั้น

มู่​ชิง​อี​ทอด​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​ ​ก่อน​แหงนหน้า​มอง​แสงดาว​บน​ท้องฟ้า​อัน​มืดมิด​ ​“​วันนี้​…​คง​ทำบาป​ไป​ไม่น้อย​ ​เห็นที​วันหน้า​คง​ต้อง​ทำ​เรื่อง​ดี​ๆ​ ​หน่อย​แล้ว​ ​เทียน​เฉวียน​ ​เจ้า​เอา​ของ​ไป​ส่ง​ให้​จื้อ​อ๋อง​เถิด​ ​ระ​หวัง​หน่อย​ล่ะ​ ​อย่า​ถูก​จื้อ​อ๋อง​ลอบ​วางแผน​ทำร้าย​เอา​”

เทียน​เฉวียน​เก็บ​กล่อง​หยก​ไว้​อย่างดี​ ​เอ่ย​เสียง​นอบน้อม​ ​“​รับทราบ​แล้ว​”

ณ​ ​หอ​ที่​มีแสง​อรุณ​ส่อง​ผ่าน​เข้ามา​ใน​เมือง​เผิง​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งกำ​ลัง​นั่ง​ดื่ม​สุรา​อยู่​ริม​หน้าต่าง​อย่าง​เงียบๆ​ ​ ​หาก​เป็น​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​เขา​คง​ไม่มีเวลา​ว่าง​มานั​่​งดื​่ม​สุรา​ใน​หอมู​่​หวา​อย่าง​ผ่อนคลาย​เช่นนี้​ ​แต่​วันนี้​แตกต่าง​ออก​ไป​ ​เพราะ​ไม่มีใคร​ใน​เมือง​เผิ​งมา​ตาม​วุ่นวาย​เขา​สัก​คน​ ​กระทั่ง​หอมู​่​หวา​ที่​มี​คน​เหล่า​สำนัก​ดัง​ใน​ยุทธ​ภพ​อาศัย​กัน​แน่นหนา​ยัง​เงียบสงบ​อย่างเห็นได้ชัด​ ​คน​เหล่านี้​ออก​นอกเมือง​ไป​ตั้งแต่​เมื่อวาน​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​รู้ดี​ว่า​พวกเขา​คง​ไม่​กลับมา​แล้ว

อาศัย​แค่​กลิ่น​อ่อน​ๆ​ ​และ​ยากระตุ้น​อารมณ์​ฮึกเหิม​เล็กน้อย​ ​นัก​สู้​ทั่วทั้ง​ยุทธ​ภพ​ก็​พร้อม​พลีชีพ​เพื่อ​กล่อง​หยก​งดงาม​อย่าง​ ​‘​หญ้า​เซียน​เก้า​เมฆา​’​ ​แล้ว

มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ยกแก้ว​สุรา​ขึ้น​จิบ​พลัน​นึกถึง​ข้อเสนอ​ของ​สาวน้อย​ชุด​ขาว​ ​ต่อให้​กำลัง​กล่าวถึง​ความ​เป็นความ​ตาย​ของ​ชีวิต​คน​มากมาย​ ​แต่​หว่าง​คิ้ว​ของ​สาวน้อย​คน​นี้​กลับ​ไม่​แผ่​ไอ​สังหาร​ออกมา​เลย​สักนิด​ ​กระทั่ง​ระหว่าง​ที่​กลอก​ดวงตา​สุกใส​ไปมา​ ​เขา​กลับ​เห็น​ความเศร้า​สร้อย​และ​น่าสงสาร​ที่เก็บ​ซ่อน​อีก​ต่างหาก

รูปโฉม​ดั่ง​พระโพธิสัตว์​แต่​จิตใจ​โหดเหี้ยม​ดั่ง​อสุรา​ ​ยาม​เมตตา​โลก​หล้า​เหมือน​เกิด​ใหม่​ ​แต่​ยาม​โหดร้าย​ขึ้น​มาก​็​พร้อม​ทำให้​โลก​หล้า​พังพินาศ​ได้​เช่นกัน

เสียง​ฝีเท้า​แผ่วเบา​นุ่มนวล​กำลัง​เดิน​ขึ้น​บันได​มา​ ​มู่​ชิง​อีก​้าว​ขึ้น​บันได​อย่าง​ช้าๆ​ ​ครั้น​เห็น​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​็​ไม่​แสดงท่าที​ตกใจ​แต่อย่างใด​ ​เพียงแค่​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​“​เจ้าสำนัก​มั่ว​ดู​ผ่อนคลาย​ไม่น้อย​”

“​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​”​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​เวลานี้​เขา​ไม่ใช่​เจ้าสำนัก​ของ​เย​่า​หวัง​กู่​แล้ว​ ​หว่าง​คิ้ว​ที่​ขมวด​มุ่น​เย็นชา​ใน​เดิมที​ก็​คลาย​ลง​และ​สงบ​ลง​กว่า​เมื่อก่อน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​สำหรับ​เขา​แล้ว​ตำแหน่ง​เจ้าสำนัก​เย​่า​หวัง​กู่​ไม่ใช่​ตำแหน่ง​อัน​ทรงเกียรติ​แต่​เป็น​ภาระ​เสียมา​กก​ว่า

มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​พลาง​คลี่​ยิ้ม​บาง​ ​เอ่ย​รับคำ​อย่างรวดเร็ว​ ​“​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​”

มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​คนที​่​เจ้า​อยาก​ให้​ข้า​ช่วย​ ​หาก​ได้​เจอกัน​ข้า​ก็​จะ​ช่วย​เจ้า​เลย​ ​แต่​หาก​ไม่ได้​เจอกัน​ ​เจ้า​ก็​ส่ง​คน​ไป​ตาม​ข้า​เถิด​”

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​รับ​ ​“​ขอบคุณ​มาก​”

“​แล้ว​เรื่อง​หญ้า​เซียน​เก้า​เมฆา​…​”​ ​หลังจาก​เงียบ​ไป​พักใหญ่​ ​ในที่สุด​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​็​เปิดปาก​ถาม​ขึ้น

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท