หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 394 ความรักจากฮ่องเต้ที่ยากจะได้รับ (1)

หวนคืนชะตาแค้น

มู่​ชิง​อี​ไม่ได้​คัดค้าน​ ​เพียงแค่​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​ใน​คืน​ที่​มืดมิด​ ​รอยยิ้ม​อัน​งดงาม​ของ​ชายหนุ่ม​ชุด​ดำ​และ​ใบหน้า​ละเอียดอ่อน​ที่​โดดเด่น​ของ​สตรี​วัยสาว​ที่​สวม​ชุด​สีขาว​ ​ทำให้​ถนน​ที่ว่างเปล่า​ดู​งดงาม​ยิ่งขึ้น

“​อวี​้​อ๋อง​โปรด​ช้าก่อน​”​ ​ด้านหลัง​มี​ใคร​บางคน​รีบ​วิ่ง​ตามมา​ ​เมื่อ​ทั้งสอง​หันกลับ​ไป​มอง​ก็​เห็น​ว่า​เป็น​ขันที​และ​องครักษ์​ใน​วัง​ ​คนที​่​เดิน​นำหน้า​เอ่ย​ด้วย​ความเคารพ​ว่า​ ​“​อวี​้​อ๋อง​ ​ฮ่องเต้​ทรง​มี​รับสั่ง​ให้ท่าน​เข้า​วัง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

หรง​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​ ​เอ่ย​อย่าง​ไม่พอใจ​ว่า​ ​“​ฟ้า​มืด​แล้ว​ ​ยัง​จะเข้า​วัง​ทำไม​อีก​ ​ไม่​ไป​!​”

คนที​่​มา​เอ่ย​ด้วย​ความลำบาก​ใจ​ ​“​นี่​…​นี่​คือ​รับสั่ง​ของ​ฝ่า​บาท​ ​ขอ​องค์​ชาย​โปรด​เข้าใจ​ด้วย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​หรง​จิ​่น​ถอนหายใจ​พลาง​เอ่ย​ ​“​ข้า​เหนื่อย​แล้ว​ ​รู้สึก​ไม่สบาย​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​ดึง​มู่​ชิง​อี​เดิน​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​จวน​อวี​้​อ๋อง​อย่างรวดเร็ว​โดย​ไม่สน​ใจ​ว่า​คนที​่​อยู่​ข้างหลัง​จะ​มีสี​หน้า​อย่างไร​ ​บรรดา​คนที​่​อยู่​ข้างหลัง​ถึงกับ​พูดไม่ออก​ ​‘​บอกว่า​รู้สึก​ไม่สบาย​ ​แต่​องค์​ชาย​เก้า​ยัง​สามารถ​วิ่ง​ได้​เร็ว​เช่นนี้​ ​หาก​ร่างกาย​แข็งแรง​จะ​ไม่​สามารถ​บิน​ได้​เลย​หรือ​’

แต่​พวกเขา​ไม่กล้า​ใช้กำลัง​กับ​องค์​ชาย​เก้า​ผู้​นี้​ ​จึง​ทำได้​เพียง​หันหลัง​กลับ​วัง​ไปรา​ยงาน

ใน​ห้อง​ตำรา​หลวง​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​กำลัง​นั่ง​อ่าน​ฎีกา​อยู่​ที่​โต๊ะ​ด้านหลัง​ ​เมื่อ​ได้ยิน​องครักษ์​กลับมา​รายงาน​ ​ก็​ตรัส​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​เรา​รู้​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​ถอย​ออก​ไป​เถิด​”

ทุกคน​รีบ​ถอย​ออก​ไป​ด้วย​ความเคารพ​ ​ในขณะเดียวกัน​ก็​แอบ​รู้สึก​ทอดถอนใจ​กับ​ความ​โปรดปราน​ที่​ฮ่องเต้​มีต​่​อองค​์​ชาย​เก้า​ ​การ​ที่​กล้า​หลบเลี่ยง​รับสั่ง​เข้าเฝ้า​ของ​ฮ่องเต้​เช่นนี้​ถือได้ว่า​มีโทษ​ที่​ขัดต่อ​ราชโองการ​โดย​ไม่​ให้​ความเคารพ​ ​แต่​ฮ่องเต้​กลับ​ไม่ได้​กริ้ว​เลย​แม้แต่น้อย​ ​ปล่อย​เรื่อง​นี้​ไป​ทั้งอย่างนั้น

เมื่อ​เห็น​ว่า​ทุกคน​ถอย​ออก​ไป​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​จ้องมอง​ตำหนัก​ที่​สวยงาม​อย่าง​เหม่อลอย​เล็กน้อย​ ​ใช้เวลา​อยู่นาน​กว่า​จะ​ได้สติ​กลับมา​ ​ถอนหายใจ​พลาง​ตรัส​ถาม​ ​“​เจี่ยง​ปิน​ ​จิ​่น​เอ๋อร​์​กำลัง​โกรธ​เรา​อยู่​หรือ​”

เจี่ยง​ปิน​มองดู​สีหน้า​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​ตอบ​อย่างระมัดระวัง​ว่า​ ​“​ฝ่า​บาท​ทรง​คิดมาก​ไป​แล้ว​ ​องค์​ชาย​เก้า​ทรง​มีพ​ลานา​มัย​ไม่​ค่อย​ดี​มาตั​้ง​แต่​ยัง​ทรงพระ​เยาว์​ ​คาด​ว่า​พระองค์​คงจะ​ประชวร​จริงๆ​ ​พรุ่งนี้​องค์​ชาย​เก้า​จะ​ต้อง​เข้า​วัง​มาคา​รวะ​ฝ่า​บาท​แน่นอน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ถอนหายใจ​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​พูด​แก้ตัว​แทน​เขา​ ​มี​หรือ​ที่​เรา​จะ​ไม่รู้​นิสัย​ของ​จิ​่น​เอ๋อร​์​ ​คาด​ว่า​คง​เป็น​เพราะ​เรา​แต่งตั้ง​ฉิน​อ๋อง​จึง​ทำให้​เขา​ไม่พอใจ​”​ ​เจี่ยง​ปิน​แอบ​ถอนหายใจ​พลาง​ลอบ​บ่น​ใน​ใจ​ ​‘​หาก​ท่าน​กังวล​ว่า​องค์​ชาย​เก้า​จะ​ไม่พอใจ​ ​เหตุใด​จึง​แต่งตั้ง​ฉิน​อ๋อง​เล่า​ ​หาก​ท่าน​ตัดสินใจ​อย่าง​แน่วแน่​แล้ว​ว่า​จะ​แต่งตั้ง​ฉิน​อ๋อง​ ​แล้ว​เหตุใด​จึง​ต้อง​สนใจ​ว่า​องค์​ชาย​เก้า​จะ​พอใจ​หรือไม่​ด้วย​เล่า​’

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​วาง​พู่กัน​ลง​ ​ถอนหายใจ​พลาง​ตรัส​ขึ้น​ ​“​ไม่ว่า​อย่างไร​ ​เรา​ก็​ยังคง​หวัง​ว่า​จิ​่น​เอ๋อร​์​จะ​มีชีวิต​ที่​สงบสุข​และ​มั่นคง​ ​ไม่​เข้าไป​พัวพัน​กับ​เรื่อง​ขัดแย้ง​เหล่านี้​”​ ​เพียงแต่​บุตรชาย​กลับ​ยาก​ที่จะ​เข้าใจ​ความคิด​ของ​พ่อ​ ​เมื่อถึง​วัย​อัน​สมควร​ก็​ย่อม​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ที่จะ​กังวล​เรื่อง​อำนาจ

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ส่ายหน้า​ ​หยุด​คิด​เรื่อง​นี้​ไว้​ก่อน​ ​ตรัส​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​จวง​อ๋อง​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​สลบ​ไป​ตอน​อยู่​ที่​จวน​จื้อ​อ๋อง​ไม่ใช่​หรือ​ ​ฟื้น​แล้ว​หรือยัง​”

เมื่อ​ได้​ฟัง​น้ำเสียง​ที่​ไม่ใส่ใจ​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​เจี่ยง​ปิน​ก็​รู้​ว่า​ฮ่องเต้​ไม่พอ​พระ​ทย​จวง​อ๋อง​เล็กน้อย​ ​แม้ว่า​จะ​ทำ​เพื่อ​ปัดเป่า​ข่าวลือ​ด้านนอก​ ​แต่​การ​ที่​ทั้ง​คุกเข่า​ทั้ง​สลบ​ไป​ใน​จวน​จื้อ​อ๋อง​นั้น​ดูเหมือน​แสดงละคร​มากเกินไป​ ​จึง​ไม่​แปลกใจ​ที่​ฮ่องเต้​จะ​ไม่พอ​พระทัย

เจี่ยง​ปิน​เอ่ย​อย่าง​เคารพ​ ​“​กราบทูล​ฝ่า​บาท​ ​คน​จาก​จวน​จวง​อ๋อง​มารา​ยงา​นว​่า​องค์​ชาย​ฟื้น​แล้ว​ ​อาการ​บาดเจ็บ​ก็​ไม่ได้​มี​อะไร​ร้ายแรง​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​พยักหน้า​พลาง​ตรัส​ ​“​เรา​ก็​เดา​ว่า​เขา​คงจะ​ไม่ได้​เป็น​อะไร​มาก​ ​จริง​สิ​ ​เจ้า​เด็ก​ตระกูล​หนา​นกง​ผู้​นั้น​…​นาม​ว่า​หนา​นก​งอ​วี​้​ ​ก่อนหน้านี้​ได้ยิน​มา​ว่า​เขา​อยาก​จะ​ไป​ประจำการ​ที่​ชายแดน​หรือ​”

หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​ตระกูล​หนา​นก​งมี​บุตรชาย​ ​หนา​นก​งอี​้​บุตรชายคนโต​ปีนี​้​อายุ​สามสิบ​สอง​ปี​แล้ว​ ​แทนที่จะ​ติดตาม​หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​ผู้​เป็น​พ่อ​ ​แต่กลับ​เข้า​รับราชการ​โดย​สอบ​จอ​หงวน​จนได้​เป็น​ขุนนาง​พลเรือน​ ​ส่วน​หนา​นก​งอ​วี​้​บุตรชาย​คนที​่​สอง​พึ่ง​จะ​อายุ​ยี่สิบ​กว่า​ปี​ ​แต่​ฝึกฝน​ศิลปะ​การต่อสู้​กับ​หนา​นกง​เจ​วี​๋​ยมา​ตั้งแต่​เด็ก​ ​เพียงแต่ว่า​นิสัย​ของ​เขา​แตกต่าง​จาก​คนใน​ตระกูล​หนา​นกง​เล็กน้อย​ ​หรือ​เอ่ย​ได้​ว่า​เขา​ค่อนข้าง​เหมือน​หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​ตอน​วัย​หนุ่ม

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​ตรัส​ขึ้น​ว่า​ ​“​กลับ​ไป​ถ่ายทอด​คำสั่ง​แก่​กระทรวง​ขุนนาง​ให้​แต่งตั้ง​หนา​นก​งอ​วี​้​เป็น​แม่ทัพ​ระดับ​สาม​ ​ประจำการ​อยู่​ที่​…​ชิง​โจว​”​ ​แม่ทัพ​รักษาการณ์​ของ​ชิง​โจว​คือ​ซุน​เจ๋อ​หลิง​ ​ไม่ใช่​ผู้ใต้บังคับบัญชา​การ​ของ​หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​ ​การ​ส่ง​หนา​นก​งอ​วี​้​ไป​ฝึกฝน​ที่นั่น​นั้น​ถือว่า​เหมาะสม​แล้ว​ ​หาก​สำเร็จ​ ​ใน​ภายภาคหน้า​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​จะ​มี​แม่ทัพ​เพิ่ม​มา​อีก​หนึ่ง​คน

“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​กระหม่อม​น้อม​รับพระ​บัญชา​”

พิธี​พระศพ​ของ​องค์​รัชทายาท​เต้า​กง​ ​บรรดา​ผู้​ที่​มีตำ​แหน่ง​สูงศักดิ์​ใน​เมืองหลวง​ล้วน​มี​ความคิด​ที่​แตกต่าง​กัน​ ​แต่​ตระกูล​โจว​ซึ่ง​เป็น​ตระกูล​เดิม​ของ​ฮองเฮา​นั้น​เป็น​พรรคพวก​ของ​จื้อ​อ๋อง​ ​ซึ่ง​ตอนนี้​ควรจะ​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​ตระกูล​ของ​ฉิน​อ๋อง​ ​กับ​พรรคพวก​ของ​จวง​อ๋อง​นำ​โดย​ตระกูล​หนา​นก​งคง​จะ​ไม่​ปล่อย​ให้​เรื่อง​นี้​ผ่าน​ไป​ง่ายๆ​ ​ ​หลังจาก​พิธี​พระศพ​ของ​องค์​รัชทายาท​ผ่านพ้น​ไป​แล้ว​ ​ถึง​จะ​เป็นช่วง​เริ่มต้น​การต่อสู้​ที่แท้​จริง

เนื่องจาก​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ได้​ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วย​อย่างรวดเร็ว​ ​ทั้ง​แต่งตั้ง​บรรดาศักดิ์​เพิ่มเติม​เป็น​รัชทายาท​ ​ทั้ง​แต่งตั้ง​เป็น​ฉิน​อ๋อง​ ​อำนาจ​ของ​จวน​จื้อ​อ๋อง​โดย​พื้นฐาน​แล้ว​เลย​ไม่ได้​รับ​ผลกระทบ​มาก​นัก​ ​และ​ฉิน​อ๋อง​ที่พึ่ง​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​ก็ได้​ไป​ถวาย​งาน​อยู่​หน้า​พระพักตร์​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​ซึ่ง​แสดงให้เห็น​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ให้ความสำคัญ​กับ​ฉิน​อ๋อง​ ​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​องค์​ชาย​เก้า​ที่​ก่อเรื่อง​จน​ทำให้​คน​ตื่นตระหนก​ก่อนหน้านี้​กลับ​ไม่ได้​เป็น​ที่​สะดุดตา​แล้ว​ ​แม้ว่า​จะเข้า​ประชุม​ราชสำนัก​แต่กลับ​ไม่ได้​มี​งาน​เป็นชิ้นเป็นอัน​ ​แม้แต่​ประชุม​ราชสำนัก​ก็​ยัง​ขอลา​บ้าง​เป็นครั้งคราว​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​ไม่ได้​สนใจ​ ​เมื่อถึง​เวลา​ที่​ต้อง​ตำหนิ​องค์​ชาย​เก้า​ก็​ยังคง​ไม่​ออม​มือ​เช่นกัน​ ​มี​คน​คิด​ว่า​องค์​ชาย​เก้า​กำลังจะ​สูญเสีย​ความ​โปรดปราน​แล้วจึง​ลอง​ฟ้องร้อง​กล่าวโทษ​ ​แต่​ไม่​ถึง​สอง​วัน​ฝ่าย​ตรวจการณ์​ที่​เอ่ย​โทษ​ก็​ถูก​ปลดออก​จาก​ตำแหน่ง

อีก​ด้าน​หนึ่ง​ ​ฮองเฮา​สูญเสีย​บุตรชาย​เพียง​คนเดียว​ไป​ ​ใน​วัง​หลวง​จึง​เริ่ม​ระส่ำ​ระ​ส่าย​ ​ฮองเฮา​ทำ​ทุกอย่าง​เพื่อ​กดดัน​หนา​นกง​เสียน​เต​๋อ​เฟย​ ​แต่​หนา​นกง​เสียน​เกิด​ใน​ตระกูล​ทหาร​จึง​ไม่ยอม​ถูก​รังแก​ฝ่าย​เดียว​ ​ใน​ชั่วขณะหนึ่ง​ ​ทั้ง​ราชสำนัก​ทั้ง​วังหลัง​ต่าง​ก็​เกิด​ความวุ่นวาย​ ​ด้วยเหตุนี้​หรง​จิ​่น​จึง​ได้​นั่ง​ดู​ละคร​พลาง​ฉวยโอกาส​ใน​ช่วง​ที่​ชุลมุน

ใน​ห้อง​ตำรา​หลวง​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​มองดู​บรรดา​บุตรชาย​และ​หลานชาย​ที่​ยืน​อยู่​ด้านล่าง​ ​สายตา​เย็นชา​และ​ห่างเหิน​ราวกับว่า​นั่น​ไม่ใช่​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​ตัวเอง​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​เพียงแต่ว่า​ดวงตา​คู่​นั้น​ถูก​ซ่อน​อยู่​ภายใต้​หมวก​ที่​ร้อย​เส้น​ลูกปัด​สีทอง​ ​ทำให้​ไม่​สามารถ​เห็น​สีหน้า​ที่แท้​จริง​ของ​เขา​ได้

“​เรื่อง​ของ​ปู้​อวี​้​ถัง​ผู้ว่าราชการ​เมือง​เผิง​ ​พวก​เจ้า​คิด​ว่า​ควรจะ​จัดการ​อย่างไร​”​ ​เดิมที​ผู้ว่าราชการ​เล็ก​ๆ​ ​ระดับ​ห้า​อย่าง​ปู้​อวี​้​ถัง​ไม่จำเป็น​ต้อง​นำมา​หารือ​ใน​ราชสำนัก​ ​แต่ว่า​ปู้​อวี​้​ถัง​เป็น​ข้าราชการ​ใน​เผิง​โจว​มา​หลาย​ปี​ได้รับ​ความชื่นชม​จาก​ราษฎร​ไม่น้อย​ ​ครั้งนี้​หลังจาก​ถูก​ควบคุมตัว​เข้า​เมืองหลวง​ก็​มี​ราษฎร​จำนวน​ไม่น้อย​จาก​เมือง​เผิ​งมา​เมืองหลวง​เพื่อ​เรียกร้อง​ความยุติธรรม​ให้​ปู้​อวี​้​ถัง​ ​แม้ว่า​ราชวงศ์​จะ​สูงส่ง​ใน​ใต้​หล้า​ ​แต่กลับ​ไม่​สามารถ​ละเลย​ความรู้สึก​ของ​ราษฎร​ได้​ ​ดังนั้น​ปู้​อวี​้​ถัง​ผู้​ซึ่ง​ควร​ถูก​ประหารชีวิต​ในทันที​ ​จึง​มีชีวิต​อยู่​จนกระทั่ง​พิธี​พระศพ​ของ​หรง​หวง​สิ้นสุดลง

หรง​เซ​วี​ยน​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหน้า​สุด​ปิดปากเงียบ​ ​ตอนนี้​เขา​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​น่าอึดอัด​ใจ​ ​ไม่ว่า​จะ​พูด​อะไร​ก็​ผิด​ไป​หมด​ ​หาก​ขอร้อง​แทน​ปู้​อวี​้​ถัง​ ​คนนอก​ก็​จะ​คิด​ว่า​เขา​เป็น​พรรคพวก​เดียวกัน​กับ​ปู้​อวี​้​ถัง​และ​ร่วมมือ​กัน​ฆ่า​หรง​หวง​ ​หาก​ขอร้อง​ให้​มี​การ​ลงโทษ​อย่างรุนแรง​ ​เกรง​ว่า​คนอื่น​จะ​คิด​ว่า​เขา​ต้องการ​ฆ่าปิดปาก

หรง​ไหว​ฉิน​อ๋อง​ก้าว​เท้า​ขึ้น​มา​ข้างหน้า​ ​เอ่ย​เสียงดัง​ฟัง​ชัด​ว่า​ ​“​ปู้​อวี​้​ถัง​บกพร่อง​ใน​การคุ​้​มกั​นองค​์​ชาย​ ​เป็นเหตุให้​บิดา​ของ​ข้า​ถึง​แก่​ความตาย​ ​ถือเป็น​ความประมาท​เลินเล่อ​ ​หลาน​ขอร้อง​เสด็จ​ปู่​ให้​ประหาร​ปู้​อวี​้​ถัง​ ​เพื่อ​ปลอบโยน​วิญญาณ​ของ​บิดา​ที่อยู่​บน​สรวงสวรรค์​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

ฉิน​อ๋อง​พึ่ง​จะ​สูญเสีย​บิดา​ ​สำหรับ​เรื่อง​ของ​ปู้​อวี​้​ถัง​แล้ว​ ​ต่อให้​เขา​บอกว่า​จะ​หั่น​ปู้​อวี​้​ถัง​เป็น​หมื่น​ชิ้น​ก็​จะ​ไม่มีใคร​ว่า​อะไร

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​กลับ​ไม่​ตอบ​อะไร​ ​กวาดตา​มอง​บรรดา​องค์​ชาย​ที่อยู่​ข้างล่าง​แล้ว​ตรัส​เอ่ย​ว่า​ ​“ต​วน​อ๋อง​ ​เจ้า​ว่า​อย่างไร​”

ต​วน​อ๋อง​ขบคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​กล่าว​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​“​กราบทูล​เสด็จ​พ่อ​ ​ลูกคิด​ว่าการ​ที่​ปู้​อวี​้​ถัง​ละเลย​หน้าที่​นั้น​มีความผิด​ ​แต่​ใน​ช่วง​ไม่​กี่​ปี​ที่ผ่านมา​เขา​ได้​มีผล​งาน​ใน​การปกครอง​เมือง​เผิง​เป็น​อย่างดี​ ​แม้ว่า​จะ​นำผล​งาน​มา​หักล้าง​ไม่ได้​ ​แต่​ขอให้​เสด็จ​พ่อ​ไว้ชีวิต​เขา​เพื่อ​เห็นแก่​ราษฎร​เมือง​เผิ​งด​้วย​เถิด​”

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท