เนี่ยอวิ๋นเหลือบมองมู่ชิงอีที่ยืนอยู่ข้างๆ สุดท้ายเขาก็พยักหน้า “ตกลง คำไหนคำนั้นพ่ะย่ะค่ะ”
หรงจิ่นพยักหน้าด้วยความพอใจ “คำไหนคำนั้น” มีเนี่ยอวิ๋นคอยปกป้องชิงชิง เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของชิงชิง เขาคือองครักษ์ที่มีฝีมือการต่อสู้ยอดเยี่ยม แล้วยังเป็นคนซื่อสัตย์มีไหวพริบ คนแบบนี้ช่างหายากจริงๆ
หลังจากตกลงเรื่องนี้แล้ว เนี่ยอวิ๋นก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย เขายิ้มอย่างแผ่วเบา “กระหม่อมคิดไม่ถึงว่า องค์ชายเก้าแห่งแคว้นเย่ว์ก็เป็นยอดฝีมือเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ” เขารู้ตั้งแต่วันที่หรงจิ่นช่วยควบคุมพิษที่อยู่ในตัวของตนแล้ว องค์ชายเก้าคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ อายุยังเยาว์วัยแต่กลับมีกำลังภายในแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าตน ตอนที่ตนอายุเท่านี้ เกรงว่าฝีมือยังไม่แข็งแกร่งเท่ากับองค์ชายเก้าด้วยซ้ำ คนเช่นนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
หรงจิ่นหรี่ตาลง เขามองไปที่เนี่ยอวิ๋นแล้วเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้หัวหน้าองครักษ์เนี่ยกำลังคิดอะไรอยู่หรือ” เนี่ยอวิ๋นไม่ได้โง่ หากเนี่ยอวิ๋นเป็นคนโง่ก็คงจะคาดเดาตัวตนของมู่ชิงอีไม่ออก แล้วยิ่งไม่มีทางกลายเป็นยอดฝีมือ เขาก็แค่ไม่ชอบการหลอกกันไปหลอกกันมาเท่านั้น
เนี่ยอวิ๋นมองหรงจิ่น ผ่านไปครู่หนึ่งถึงเอ่ยว่า “กระหม่อมก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าองค์ชายเก้าแห่งแคว้นเย่ว์คือคุณชายอวิ๋นอิ่นที่มีชื่อเสียง”
“รู้มากนัก…เจ้าไม่กลัวข้าจะฆ่าเจ้าหรอกหรือ” หรงจิ่นเอ่ยด้วยสายตาที่มีความอันตราย หากตัวตนขององค์ชายเก้าและคุณชายอวิ๋นอิ่นเชื่อมโยงกัน เรื่องราวมากมายก็จะถูกผู้คนรู้ ย่อมเป็นอันตรายต่อหรงจิ่น
เนี่ยอวิ๋นยิ้มเอ่ย “หากองค์ชายเก้ากลัวเนี่ยอวิ๋นรู้เรื่องนี้ แล้วเหตุใดต้องช่วยรักษาเนี่ยอวิ๋นด้วยพระองค์เองเล่า” ตั้งแต่หรงจิ่นตัดสินใจที่จะช่วยเขา เขาก็คิดแล้วว่าเนี่ยอวิ๋นต้องรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาแน่นอน หรงจิ่นไม่มีทางไม่รู้เรื่องนี้
หรงจิ่นแค่นเสียงเอ่ย “ข้าเชื่อว่าหัวหน้าองครักษ์เนี่ยคือคนที่มีสัจจะ”
เนี่ยอวิ๋นเอ่ยอย่างจริงจัง “ในเมื่อเนี่ยอวิ๋นสัญญากับองค์ชายเก้าแล้ว ไม่มีทางเปลี่ยนใจ”
หรงจิ่นพยักหน้าเบาๆ บนโลกใบนี้นอกจากมู่ชิงอี หากจะบอกว่าใครที่หรงจิ่นเชื่อใจได้อีก ก็คงจะเป็น เนี่ยอวิ๋น แต่การที่เขาเชื่อใจมู่ชิงอีเพราะเขามีความรู้สึกที่ดีและเข้าใจนาง แต่เชื่อใจเนี่ยอวิ๋นเพราะเขาเชื่อในความเป็นมนุษย์ของเนี่ยอวิ๋น เนี่ยอวิ๋นคือสุภาพบุรุษที่มีศีลธรรม แต่น่าเสียดายที่ชีวิตของคนเช่นนี้ไม่ค่อยราบรื่นนัก
เมื่อเห็นท่าทางของเนี่ยอวิ๋น หรงจิ่นก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “เห็นเจ้ารู้ความ ประเดี๋ยวข้าจะช่วยถอนพิษทั้งหมดให้”
เนี่ยอวิ๋นเอ่ยด้วยความแปลกใจ “องค์ชายเก้ามีวิธีอย่างนั้นหรือ”
ถึงแม้พิษส่วนใหญ่ในตัวของเขาจะถูกขับออกมาแล้ว ส่วนที่เหลือก็ถูกกำลังภายในควบคุมเอาไว้ แต่หากจะขับออกมาทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่เช่นนั้น ยอดฝีมือที่มีกำลังภายในแข็งแกร่งก็คงไม่รู้สึกอะไรต่อยาพิษ คำที่ว่าใช้กำลังภายในขับพิษ คล้ายกับหลักการการปล่อยเลือดเพื่อขับพิษส่วนหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถปล่อยเลือดทั้งหมดในตัวออกมา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขับพิษทั้งหมดออกจากร่างกาย
หรงจิ่นแค่นเสียงหัวเราะ “ข้ามีวิธีอยู่แล้ว แต่ต้องใช้เวลาเตรียมการสักสองสามวัน”
เนี่ยอวิ๋นไม่ถามอะไรมาก เขาประสานมือคำนับเอ่ย “ขอบพระทัยองค์ชายเก้าพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่จำเป็น เจ้าจำสัญญาของเจ้าไว้ให้ดี ปกป้องชิงชิงก็พอแล้ว” หรงจิ่นเอ่ยอย่างนิ่งขรึม
“องค์ชาย ตวนอ๋องมาพ่ะย่ะค่ะ” นอกประตู อู๋ฉิงรายงานด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
หรงจิ่นขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ เขาโบกมือแล้วเอ่ยว่า “ข้าไปดูเอง ชิงชิงมีอะไรจะพูดคุยกับเขาก็พูดเถิด เขาคงต้องอยู่ที่นี่อีกสักสองสามวัน” พูดจบก็เดินออกไปโดยที่ไม่สนใจเนี่ยอวิ๋น
บรรยากาศในห้องศิลาพลันเงียบสงัดทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง เนี่ยอวิ๋นก็ถอนหายใจเอ่ย “คิดไม่ถึงว่าชาตินี้ยังจะได้พบองค์หญิงอีกครั้ง” มู่ชิงอียิ้มบาง “หัวหน้าองครักษ์เนี่ยไม่ต้องเรียกข้าเช่นนี้ คำว่าองค์หญิงเป็นเพียงแค่แผนรับมือชั่วคราว ตอนนี้ข้ามีนามว่ากู้หลิวอวิ๋น”
เนี่ยอวิ๋นยิ้มเอ่ย “คุณ…ชายกู้ก็ไม่ต้องเรียกข้าว่าหัวหน้าองครักษ์เนี่ย เรียกข้าว่าเนี่ยอวิ๋นเถิด” ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เนี่ยอวิ๋นก็พูดต่ออีกว่า “เกรงว่าต่อไปคงจะใช้ชื่อเนี่ยอวิ๋นไม่ได้แล้วกระมัง” หากฮ่องเต้แคว้นหวารู้ว่าเขามาเป็นองครักษ์ให้คนอื่นอยู่ที่แคว้นเย่ว์ คนที่เกี่ยวข้องกับเขาอย่างเช่นจ้าวจื่ออวี้และคนอื่นคงจะถึงคราวซวยเอาได้ เขาเองก็เบื่อชีวิตที่แคว้นหวาเต็มที ไม่สู้ทิ้งชื่อนี้ไปเสียดีกว่า ตราบใดที่เขาฆ่ามู่หรงอวี้ได้แล้ว ก็ถือว่าเขาได้ทำตามสัญญาที่มีต่อฮ่องเต้แคว้นหวาอย่างสมบูรณ์แล้ว
“มารดาของข้าแซ่เซี่ย ต่อไปคุณชายกู้เรียกข้าว่าเซี่ยซิวจู๋เถิด”
มู่ชิงอียิ้มเอ่ย “เซี่ยซิวจู๋ นามนี้ช่างสง่างาม”
เนี่ยอวิ๋นยิ้มตอบ แต่สีหน้าของเขากลับมีความเศร้าโศก ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ยอดฝีมือที่เก่งที่สุดบนโลกใบนี้ แต่เขาไม่ใช่คนไร้ซึ่งภูมิหลัง ถึงแม้ตระกูลเนี่ยจะไม่ได้มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแคว้นหวาเท่าตระกูลกู้ แต่ก็ไม่ใช่ตระกูลทั่วไป ในฐานะบุตรชายคนโตของตระกูลเนี่ย เขาไม่ใช่คนไม่มีความรู้
ตอนนี้ แม้แต่ชื่อเนี่ยอวิ๋นเขายังยอมทิ้ง หมายความว่าเขาตัดขาดกับทุกอย่างแล้วใช่หรือไม่ แต่ไม่รู้ว่าหลังจากที่ท่านพ่อรู้ข่าวการตายของเขา ท่านพ่อจะเสียใจหรือไม่
ณ ห้องโถงจวนอวี้อ๋อง หรงเหยี่ยนที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ พอเห็นหรงจิ่นที่เดินเข้ามาด้วยความเกียจคร้าน เขาไม่มีความตกใจเลยแม้แต่น้อย กลับแอบเห็นอกเห็นใจหรงไหวที่ถูกเสด็จพ่อตำหนิอย่างรุนแรงเมื่อครู่ ส่วนหรงจิ่นที่โมโหหรงไหวจนล้มป่วยเมื่อครู่นั้นกำลังเดินเข้ามาในห้องโถงอย่างไม่เสแสร้งอะไร
เหลือบมองหรงเหยี่ยนอย่างเกียจคร้าน หรงจิ่นเลิกคิ้วแล้วเอ่ยว่า “พี่สี่มาหาข้ามีเรื่องอันใดหรือ”
หรงเหยี่ยนยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงนำสิ่งของมาให้เจ้าตามคำสั่งของเสด็จพ่อ เลยถือโอกาสมาเยี่ยมน้องเก้าด้วย”
หรงจิ่นเลิกคิ้วเอ่ย “ขอบพระทัยพี่สี่ที่เป็นห่วง ข้าสบายดี”
หรงเหยี่ยนก้มหน้าลงแล้วเอ่ยว่า “อย่างนั้นหรือ เสด็จพ่อได้ยินว่าน้องเก้าหมดสติไปเลยเป็นห่วงเจ้ามาก เมื่อครู่ยังเรียกไหวเอ๋อร์เข้าไปตำหนิ” หรงจิ่นหาวอย่างเกียจคร้าน “หมดสติไปแล้วจะตื่นขึ้นมาใหม่ไม่ได้หรือ ข้าได้สติแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว”
หรงเหยี่ยนไม่ได้โกรธอะไร ยิ้มเอ่ย “น้องเก้าพูดถูก ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แต่ต่อไปน้องเก้าต้องระวังให้มากกว่านี้”
หรงจิ่นเลิกคิ้วแล้วมองเขาด้วยความสงสัย หรงเหยี่ยนเอ่ยขึ้น “ช่วงนี้เสด็จพ่อให้ความสำคัญกับไหวเอ๋อร์ เจ้าก็รู้ว่าเขาเป็นหลานชายคนโต อีกทั้งพี่ใหญ่ยังถูกแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท สถานะเลยเปลี่ยนไปอย่างมาก ซ้ำช่วงนี้ยังถูกเสด็จพ่อตามใจจนเกินไป เลยไม่ระวังเผลอทำให้น้องเก้าไม่พอใจ…”
ที่จริงแล้วในสายตาของบรรดาองค์ชาย ฮ่องเต้แคว้นเย่ว์ไม่ได้รักและเอ็นดูหรงไหวมากนัก อย่างมากก็แค่เห็นความสำคัญ หากเมื่อไรที่ฮ่องเต้แคว้นเย่ว์รักและเอ็นดูหรงไหวได้ครึ่งหนึ่งของหรงจิ่น พวกเขาค่อยกังวลก็ยังทัน
แต่น่าเสียดายที่หรงไหวไม่เข้าใจสถานการณ์ เพราะสถานะบุตรชายขององค์รัชทายาท แล้วยังมีแรงสนับสนุนของฮ่องเต้แคว้นเย่ว์ รวมถึงการที่ข่มเหงหรงเซวียนและหรงเหยี่ยนได้ยิ่งทำให้หรงไหวเข้าใจผิด อาจคิดว่าบิดาของเขาคือองค์รัชทายาท ในฐานะบุตรขององค์รัชทายาทอย่างเขาย่อมมียศฐาบรรดาศักดิ์เป็นหวงจั่งซุน[1] ไม่ว่าจะเป็นสถานะหรืออะไรก็ตาม เขาล้วนแต่สูงส่งกว่าบรรดาท่านอาอย่างองค์ชายแบบพวกเขาอยู่แล้ว
——————————————
[1] หวงจั่งซุน ตำแหน่งบุตรขององค์รัชทายาท