หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 421 ฟาดแส้ใส่ผู้ว่าการ (1)

หวนคืนชะตาแค้น

หรง​จิ​่น​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ชิง​ชิง​วางใจ​เถิด​ ​ข้า​ไม่ได้​มี​ความแค้น​กับ​พวกเขา​”​ ​ถึงแม้​เขา​จะ​ไม่ได้​ชอบ​นัก​แต่​ก็​ไม่ได้​ถึงขั้น​ดูแคลน​ราวกับ​เป็นต้น​หญ้า​เล็ก​ๆ​ ​อย่างน้อย​คน​พวก​นี้​ก็​น่ามอง​มากกว่า​คนใน​วัง​หลวง​อยู่​มาก

บัดนี้​พอ​จวน​อวี​้​อ๋อง​และ​ตระกูล​กู้​อยู่​ภายใต้​การ​จัดการ​ของ​มู่​ชิง​อีก​็​ได้​ประสิทธิภาพ​ถึง​ขีดสุด​ ​ผ่าน​ไป​สักพัก​ร้าน​ข้าวสาร​อาหารแห้ง​ ​โรง​หมอ​ ​กระทั่ง​โรงทอผ้า​ภายใต้​นาม​อวี​้​อ๋อง​ก็​นำ​เสบียง​มาถึง​อย่างว่องไว​ ​จัดการ​ซ่อมแซม​บ้านพักอาศัย​ที่​ไม่ได้​ถล่ม​ลงมา​พร้อม​รักษา​อาการ​คนที​่​บาดเจ็บ​หนัก​ ​จุด​ที่​ไม่มี​ลมหนาว​พัดผ่าน​บน​พื้น​หิมะ​เกิด​ประกายไฟ​ลุกโชน​ ​ผ่าน​ไป​สักพัก​ก็​มีกลิ่น​โจ๊ก​หอมฉุย​ร้อน​ๆ​ ​และ​กลิ่น​ยาลอ​ยมา​เตะจมูก

เสื้อผ้า​มากมาย​ถูก​ทับ​อยู่​ใต้​กอง​หิมะ​จน​ใส่​ไม่ได้​อีก​ ​ตระกูล​กู้​เอง​ก็​ส่ง​เสื้อผ้า​เก่า​และ​ผ้านวม​มากมาย​มา​เช่นกัน​ ​ผู้หญิง​หลาย​คน​รีบ​เข้ามา​มุง​ช่วยกัน​ตัดเย็บ​เสื้อผ้า​เพื่อ​ใช้​กัน​ลมหนาว​ ​ถึงแม้​จะ​ยัง​หนาวเหน็บ​ ​ถึงแม้​จะ​รู้สึก​หมดหวัง​กับ​สภาพ​ตรงหน้า​ ​แต่​ถึงอย่างไร​ก็​สัมผัส​ได้​ถึง​ไออุ่น​จางๆ

ศาล​บรรพชน​ภายใน​หมู่บ้าน​ ​บัดนี้​เป็น​สถานที่​เพียง​แห่ง​เดียว​ที่​ยังคง​รักษา​ไว้​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​ที่สุด​ใน​ตอนนี้​แล้ว​ ​เหล่า​ราษฎร​และ​ผู้บาดเจ็บ​มากมาย​ต่าง​พัก​รักษาตัว​ที่นี่​ ​มู่​ชิง​อี​และ​หรง​จิ​่​นนั​่​งอยู​่​ข้าง​กองไฟ​ภายใน​ศาล​บรรพชน​โดย​ไม่​คิด​รังเกียจ​สภาพ​ซอมซ่อ​นั้น​เลย​สักนิด

ผู้เฒ่า​ร่างกาย​โงนเงน​ผู้​นั้น​อายุ​มาก​ที่สุด​ใน​หมู่บ้าน​แห่ง​นี้​แล้ว​ ​เวลานี้​เขา​สวม​เสื้อ​กัน​ลม​ของ​หรง​จิ​่​นนั​่​งอยู​่​ข้าง​กองไฟ​พลาง​ใช้​แววตา​ซาบซึ้ง​ระคน​ตกใจ​จับจ้อง​พวกเขา​ทั้งสอง​ที่​ใบหน้า​งดงาม​หล่อเหลา​ยิ่งกว่า​เทพ​เซียน​ใน​ภาพวาด​เสียอีก

หรง​จิ​่น​ย่อม​นึก​รำคาญใจ​เลย​หลับตา​พักผ่อน​ ​ทว่า​คน​จิตใจ​ดี​อย่าง​มู่​ชิง​อีก​ลับ​อมยิ้ม​บาง​ส่งกลับ​ไป​ให้​ผู้เฒ่า​ที่​กวาดตา​มอง​มาทาง​พวกเขา​แทน

ผู้เฒ่า​มอง​รอยยิ้ม​สดใส​ของ​หนุ่มน้อย​ชุด​ขาว​ตรงหน้า​ ​ลังเลใจ​ครู่หนึ่ง​ก่อน​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​มาจาก​เมืองหลวง​หรือ​”

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ท่าน​ผู้เฒ่า​อย่า​เกรงใจ​ไป​เลย​ ​ข้า​แซ่กู้​ ​ส่วน​เขา​…​เรียก​เขา​ว่า​องค์​ชาย​เก้า​ก็​พอแล้ว​”

ผู้เฒ่า​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​ช่วย​พวกเรา​มากมาย​เหลือเกิน​…​ข้า​ไม่รู้​ว่า​ควร​ขอบคุณ​เช่นใด​เลย​จริงๆ​”​ ​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​หาก​ไม่มี​หมอ​มาดู​อาการ​คน​บาดเจ็บ​จาก​เหตุการณ์​หิมะ​ถล่ม​ได้​ทันเวลา​ ​แปด​เก้า​ใน​สิบ​คน​เหล่านั้น​คง​ไม่รอด​แน่​ ​เดิมที​อาการป่วย​ของ​คนธรรมดา​ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​สวรรค์​อยู่​แล้ว​ ​อย่างเช่น​ในเวลานี้​คง​ทำได้​แค่​ฟัง​คำบัญชา​จาก​สวรรค์​เท่านั้น

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​เอ่ย​ ​“​แค่​เรื่องเล็ก​น้อย​เท่านั้น​ ​ท่าน​ผู้เฒ่า​อย่า​ได้​กังวล​ไป​เลย​ ​อีก​เดี๋ยว​ทาง​ราชสำนัก​ก็​คงมา​ช่วย​หมู่บ้าน​ซ่อมแซม​สร้าง​ใหม่​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​…​เรื่อง​นี้​ก็​จะ​ผ่าน​ไป​ด้วยดี​”

ท่าน​ผู้เฒ่า​ถอนหายใจ​พร้อม​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​คุณชาย​พูด​ถูก​”​ ​เขา​เพียงแค่​ฝืน​เค้น​รอยยิ้ม​ออกมา​เล็กน้อย​ ​ถึงอย่างไร​ท่าน​ผู้เฒ่า​ก็​มีชีวิต​อยู่​มาถึง​เจ็ดสิบ​ปี​ย่อม​ผ่าน​เรื่อง​ใดๆ​ ​มามาก​กว่า​ ​ที่​แห่ง​นี้​ไม่ได้​ห่าง​จาก​เมืองหลวง​มาก​นัก​ ​แต่​ผ่าน​ไป​นาน​ขนาด​นี้​แล้ว​คนใน​ราชสำนัก​กลับ​ยัง​ไม่​ส่ง​คน​มา​ ​เกรง​ว่า​คง​ฝาก​ความหวัง​ไว้​กับ​ราชสำนัก​ไม่ได้​กระมัง

“​คุณชาย​ ​ข้ามี​เรื่องด่วน​มารา​ยงาน​”​ ​มีบุ​รุษ​สวม​ชุด​ผ้าป่าน​คน​หนึ่ง​ปรากฏตัว​อยู่​นอก​ประตู​ ​เขา​เป็นหนึ่ง​ใน​ทหาร​หกสิบ​คนที​่​หรง​จิ​่​นพา​มาจาก​เมือง​เทียน​เช​วีย​ ​แต่​ภายหลัง​ถูก​มู่​ชิง​อี​จัด​ให้​ไป​อยู่​ใน​หมู่บ้าน​ของ​ตระกูล​กู้​เป็นการชั่วคราว

มู่​ชิง​อี​ฉงนใจ​ ​ลุกขึ้น​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เข้ามา​คุย​ด้านใน​เถิด​”

บุรุษ​ผู้​นั้น​เข้า​ประตู​มา​แล้ว​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​ด้านล่าง​เขา​ชุ่ย​อวิ​๋​นที​่​ห่าง​จาก​ที่นี่​ไป​อีก​สี่​สิบ​ลี้​มี​หมู่บ้าน​เล็ก​ๆ​ ​แห่งหนึ​่ง​ ​เมื่อคืน​จู่ๆ​ ​เขา​ชุ่ย​อวิ​๋​นก​็​ถล่ม​ลงมาก​ ​หมู่บ้าน​ถูก​ทับ​ไป​เกิน​กว่า​ครึ่ง​ขอรับ​!​”

มู่​ชิง​อีสู​ดล​มหาย​ใจ​เข้า​ลึก​ ​ส่วน​หรง​จิ​่​นที​่​อยู่​ด้าน​ข้าง​ก็​ลุกขึ้น​พลาง​เบิกตา​กว้าง

มู่​ชิง​อี​หันไป​เอ่ย​กับ​ผู้เฒ่า​ว่า​ ​“​ท่าน​ผู้เฒ่า​ ​พวกเรา​คง​ต้อง​ขอตัว​ลาก่อน​”

ผู้เฒ่า​เอง​ก็​รู้​ว่า​เป็น​เหตุการณ์​คับขัน​เลย​ไม่กล้า​รั้ง​ไว้​ ​“​ผู้​มีพ​ระ​คุณ​ทั้งสอง​โปรด​ระวังตัว​ด้วย​”

ขบวน​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ออกจาก​หมู่บ้าน​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​แต่​ประจวบ​กับ​ปู้​อวี​้​ถัง​มาถึง​พอดี​ ​หรง​จิ​่น​ตวาด​ขึ้น​ด้วย​ใบหน้า​อัน​ดุดัน​ ​“​ผู้ว่าการ​ของ​เมืองหลวง​ตาย​ไป​แล้ว​หรือ​อย่างไร​กัน​”

ปู้​อวี​้​ถัง​เผย​สีหน้า​จนใจ​พร้อม​ปาด​เม็ด​เหงื่อ​ที่​ผุด​บน​หน้าผาก​เพราะ​รีบ​วิ่ง​มา​แล้ว​กล่าว​ ​“​ยัง​…​ยัง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​แต่​…​เมื่อคืน​ผู้ว่าการ​จัดงาน​เลี้ยง​ ​ตอนนี้​เลย​ยัง​ไม่​สร่าง​เมา​”

“​หาก​ผ่าน​ไป​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​แล้วยัง​ไม่​เจอ​เขา​อีก​ ​ข้า​จะ​ไป​ช่วย​ทำให้​เขา​สร่าง​เมา​เอง​”​ ​หรง​จิ​่น​เอ่ย​เสียงเย็น​ยะเยือก

หมู่บ้าน​เล็ก​ๆ​ ​นั้น​ตั้งอยู่​ห่าง​จาก​เมืองหลวง​ออก​ไปราว​หกสิบ​เจ็ดสิบ​ลี้​ซึ่ง​ไม่​เป็น​ที่​เตะตา​เท่าไร​นัก​ ​ถึงแม้​ตั้งอยู่​ไม่​ใกล้​ไม่​ไกล​เมืองหลวง​ ​ทว่า​ไม่ได้​อยู่​ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​เมืองหลวง​ ​หาก​หมู่บ้าน​ละแวก​เมืองหลวง​ยัง​ไม่มีใคร​มาดู​แล​ ​สถานที่​แบบนี้​ยิ่ง​ไม่มีใคร​ใส่ใจ​เข้าไป​ใหญ่​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ตอนนี้​เพิ่ง​ผ่าน​ช่วง​ปีใหม่​มา​ ​แต่​ยัง​ไม่​พ้น​ปีใหม่​ดี​ก็​เกิดเหตุ​การณ์​นี้​ขึ้น​เสีย​แล้ว​ ​หาก​กราบทูล​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ไป​ก็​จะ​เป็นการ​หา​เหา​ใส่​หัว​ ​ดังนั้น​เหล่า​ขุนนาง​จึง​ปกปิด​เรื่อง​นี้​ไว้

หมู่บ้าน​แห่ง​นั้น​ตั้งอยู่​ตรง​ตีนเขา​ชุ่ย​อวิ​๋น​ ​เพราะเหตุนี้​ถึง​เรียกว่า​หมู่บ้าน​ชุ่ย​อวิ​๋น​ ​ปกติ​มี​คน​ค้าขาย​แวะเวียน​ไปมา​ไม่ขาดสาย​เพราะ​ติดกับ​เมืองหลวง​ ​ชาวบ้าน​ใน​หมู่บ้าน​เอง​ก็​ใช้ชีวิต​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​แต่​ครั้งนี้​กลับ​ประสบภัย​พิบัติ​กะทันหัน​ ​หิมะ​ที่​ตก​โปรยปราย​ลงมา​ต่อเนื่อง​ถึง​หนึ่ง​วันหนึ่ง​คืน​ทำให้​บ้านพักอาศัย​ที่​ไม่​ค่อย​แข็งแรง​เท่าไร​ทยอย​ถล่ม​ลงมา​ ​แค่นี้​ยัง​พอ​ว่า​ ​แต่​เพราะ​เขา​ชุ่ย​อวิ​๋​นที​่​อยู่​ด้านหลัง​หมู่บ้าน​แห่ง​นี้​ถล่ม​ลงมา​ด้วย​เลย​ทำให้​หิมะ​ชั้น​หนา​ลึก​อัน​หนาวเหน็บ​พลอย​ทับ​ชาวบ้าน​ตาดำๆ​ ​ไป​ด้วย

ยาม​ที่​มู่​ชิง​อี​และ​หรง​จิ​่​นมา​ถึง​เขา​ชุ่ย​อวิ​๋​นก​็​ปา​ไป​ตอนบ่าย​แล้ว​ ​ทั่วทั้ง​หมู่บ้าน​ถูก​ถล่ม​เละ​ไป​ครึ่งหนึ่ง​อย่างที่​รายงาน​จริงๆ​ ​บ้านเรือน​ครึ่ง​หมู่บ้าน​ถูก​ฝัง​อยู่​ใต้​หิมะ​และ​ดิน​โคลน​ ​ส่วน​อีก​ครึ่ง​ก็​ถูก​หิมะ​ทับ​ปกคลุม​จน​ขาวโพลน​ ​ทั่วทั้ง​หมู่บ้าน​เต็มไปด้วย​เสียง​ร่ำไห้​ดังระงม​กึกก้อง

มู่​ชิง​อี​มุ่น​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​เหตุใด​ข้าหลวง​ใน​วัง​ถึง​ไม่​ส่ง​คน​มาสัก​ที​”

ปู้​อวี​้​ถัง​ที่อยู่​ด้านหลัง​เอ่ย​เสียงต่ำ​ ​“​คุณชาย​กู้​คง​ไม่รู้​ว่า​ปกติ​หมู่บ้าน​เล็ก​ๆ​ ​เช่นนี้​จะ​ไม่มี​คน​คอย​ดูแล​ ​หาก​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​ก็​ต้อง​ส่งจดหมาย​ไป​…​จากนั้น​ค่อย​เอา​ขึ้นไป​รายงาน​ต่อ​”

ข้าหลวง​ใน​ราชสำนัก​ที่​ตำแหน่ง​ต่ำต้อย​ที่สุด​ใน​โลก​ใบ​นี้​ก็​คง​ไม่​พ้นหมื่น​แคว้น ​ดังนั้น​ฮ่องเต้​จึง​ไม่สน​ใจ​คน​ตำแหน่ง​เล็ก​ๆ​ ​เหล่านี้​ ​ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​หน้าที่​ของ​เหล่า​อาวุโส​ตามเมือง​แขวนต่างๆ​ ​มู่​ชิง​อี​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ ​“​ต่อให้​เป็น​เช่นนั้น​ ​ผ่าน​ไป​นาน​ขนาด​นี้​ก็​ยัง​ไม่มีใคร​มาส​อด​ส่อง​ดู​บ้าง​เลย​หรือ​”

ปู้​อวี​้​ถัง​ยิ้ม​เจื่อน​อย่าง​ระอา​ใจ​ จุด​ที่อยู่​ห่าง​จาก​เมืองหลวง​ไม่​ไกล​ยัง​รับมือ​ไม่ทัน​เลย​ ​นับประสา​อะไร​กับ​หมู่บ้าน​ที่อยู่​ห่างไกล​ถึง​หกสิบ​เจ็ดสิบ​ลี้​เล่า

มู่​ชิง​อี​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​คงโทษ​ปู้​อวี​้​ถัง​ไม่ได้​ ​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​เอ่ย​ ​“​ท่าน​ไป​จัดการ​เรื่อง​ของ​ท่าน​เถิด​”​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​ประสานมือ​ทำความเคารพ​พวกเขา​สอง​คน​แล้ว​รีบ​หมุนตัว​เดิน​จากไป

พวกเขา​สอง​คน​เดิน​มายัง​ถนน​ที่​ข้าวของ​เกลื่อนกลาด​ ​เด็กน้อย​ที่​ไร้​บ้านพัก​พิง​มากมาย​ต่าง​หลบ​อยู่​ใต้​ชายคา​สอง​ข้างทาง​พลาง​จับจ้อง​บุรุษ​ใบหน้า​งดงาม​เหนือ​ใคร​ทั้งสอง​ตรงหน้า​อย่าง​ระแวดระวัง​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​จัดการ​หาบุ​รุษ​ร่าง​บึกบึน​มาช​่วย​เหลือ​คน​ ​หา​เสบียงอาหาร​และ​ไปรับ​ขบวน​เสบียง​ที่​ขนมา​จาก​เมืองหลวง​จึง​ไม่มีใคร​ว่าง​ดูแล​เด็กน้อย​วัยเยาว์​และ​สตรี​ร่าง​บอบบาง​เหล่านี้

บน​ท้องฟ้า​มี​หิมะ​ตก​โปรยปราย​ลงมา​อีกแล้ว​ ​ครั้น​เห็น​เด็กน้อย​ร่าง​สั่นสะท้าน​ท่ามกลาง​ลมหนาว​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ถอนหายใจ​แล้ว​เดิน​ไปหา​เด็กผู้ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​กำลัง​จูงมือ​เด็กสาว​วัย​สี่​ห้า​ขวบ​ตรงหน้า​ ​เอ่ย​ถาม​เสียงอ่อน​โยน​ว่า​ ​“​เจ้า​ชื่อ​อะไร​ ​อายุ​กี่​ขวบ​แล้ว​”

ดูท่าทาง​เด็กผู้ชาย​อายุ​คง​ราว​เจ็ด​แปด​ขวบ​เท่านั้น​ ​แต่​สายตา​ที่​มอง​มู่​ชิง​อีก​ลับ​เต็มไปด้วย​ความระแวง​และ​ป้องกันตัว​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ไม่ยอม​ตอบ​ ​มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​ไม่สน​ใจ​แล้ว​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​ศีรษะ​ของ​เด็กสาว​ตัว​น้อย​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​หนูน้อย​ ​เจ้า​ชื่อ​อะไร​หรือ​”

เด็กสาว​เผย​ดวงตา​สุกใส​ ​ถึงแม้​จะ​ยังคง​สับสน​มึนงง​ ​แต่​เพราะ​ความไม่รู้​เลย​ยิ่ง​ขับ​ให้​ไร้เดียงสา​มากกว่า​เดิม​ ​เด็กสาว​แหงนหน้า​มอง​พี่ชาย​ก่อน​เม้ม​ริมฝีปาก​ตอบ​ ​“​ข้า​ชื่อว่า​อวิ​๋น​เอ๋อร​์​ ​สี่​ขวบ​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท