หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 476 แพ้ทั้งสองฝ่าย (3)

หวนคืนชะตาแค้น

​หรง​ซิง​เล่น​แหวน​ใน​มือ​พลาง​มอง​ทุกคน​จาก​มุม​สูง​ด้วย​ท่าที​สูงส่ง​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ข้า​ไม่​มัว​มา​เสียน​้ำ​ลาย​กับ​พวก​เจ้า​หรอก​ ​ได้ยิน​ว่าที่​ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ของ​พวก​เจ้า​จับกุม​ตัว​ท่าน​เจ้ากรม​ซุน​กับ​ใต้เท้า​จ้าว​มา​หรือ​ ​พวก​เจ้า​เหิมเกริม​นัก​!​ ​ท่าน​เจ้ากรม​ซุน​เป็น​ถึง​ขุนนาง​ชั้นสูง​ระดับ​หนึ่ง​ ​เป็น​คนที​่​ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​อย่าง​พวก​เจ้า​จะ​แตะต้อง​ได้​หรือ​”

​ฉิน​ฮุย​หน้าซีด​เผือด​ ​ผ่าน​ไป​นาน​ก็​ยัง​กล้า​ๆ​ ​กลัว​ๆ​ ​พูด​อะไร​ไม่​ออก​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​รู้​แต่แรก​แล้ว​ว่า​ฉิน​ฮุย​ใช้การไม่ได้​ ​ดังนั้น​ถึง​ได้​ตาม​ออกมา​เจอ​หรง​ซิง​ด้วย​ ​เขา​ก้าว​เท้า​ขึ้นไป​ข้างหน้า​ประสานมือ​เอ่ย​ ​“​องค์​ชาย​สิบ​ทรง​ตรัส​เกินไป​แล้ว​ ​เขา​ว่า​กัน​ว่า​หาก​ฮ่องเต้​ทำผิด​ยัง​มีโทษ​เฉกเช่น​เดียว​กับ​ราษฎร​ ​แล้ว​นับประสา​อะไร​กับ​ท่าน​เจ้ากรม​คน​หนึ่ง​เล่า​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​…​ที่ว่าการ​ของ​เรา​ก็​ไม่ได้​จับกุม​ตัว​ใต้เท้า​ซุน​กับ​ใต้เท้า​คนอื่นๆ​ ​มา​ ​เพียงแค่​ขอความร่วมมือ​ให้การ​สอบปากคำ​ก็​เท่านั้น​ ​เรื่อง​นี้​เป็นไปตาม​กระบวนการ​ของ​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ปกติ​ ​แล้ว​มีความผิด​ที่ใด​หรือ​”

​“​เป็นไปตาม​กระบวนการ​ปกติ​?​!​”​ ​หรง​ซิ่ง​ตวาด​ขึ้น​ ​“​ใต้เท้า​ซุน​กับ​ใต้เท้า​คนอื่นๆ​ ​เป็น​ขุนนาง​คนสำคัญ​ของ​บ้านเมือง​ทั้งสิ้น​ ​หาก​ทำให้​เรื่อง​ของ​บ้านเมือง​ล่าช้า​ ​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ของ​พวก​เจ้า​จะ​รับผิดชอบ​ไหว​หรือ​”​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​เอ่ย​อย่าง​จำยอม​ ​“​เพราะ​รับผิดชอบ​ไม่ไหว​ ​ใต้เท้า​กู้​ถึง​ไป​เข้าเฝ้า​ฝ่า​บาท​อย่างไรเล่า​ ​ฝ่า​บาท​ย่อม​ทรง​มีพ​ระ​บัญชา​ลงมา​เอง​ ​ฝ่า​บาท​รับสั่ง​ให้​สิทธิ์​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​เข้า​วัง​เข้าเฝ้า​ได้​ทุกเมื่อ​ก็​ไม่ใช่​เพราะเหตุนี้​หรอก​หรือ​”

​หรง​ซิน​เจอ​คำพูด​ที่​ไม่เชิง​แข็งกร้าว​และ​ไม่เชิง​อ่อนข้อ​ให้​ของ​เขา​จน​พูดไม่ออก​ไป​ชั่วขณะ​ ​กระทั่ง​กัดฟัน​เอ่ย​ ​“​ปาก​คอ​เราะร้าย​เหมือน​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ไม่มี​ผิด​ ​เพียงแต่​น่าเสียดาย​…​เกรง​ว่า​แค่​ที่ปรึกษา​ตัวเล็ก​ๆ​ ​อย่าง​เจ้า​จะ​ไม่มี​สิทธิ์​พูด​เช่นนี้​กับ​ข้า​ได้​!​ ​รอง​ผู้ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ ​รีบ​ปล่อย​คน​เดี๋ยวนี้​!​”

​ฉิน​ฮุย​แสดงท่าที​ตื่นตกใจ​แล้ว​พยักหน้า​หงึกหงัก​ ​“​พ่ะ​…​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​เร็ว​ ​รีบ​เชิญ​ใต้เท้า​ซุน​กับ​ใต้เท้า​จ้าว​ออกมา​เร็ว​!​”

​“​ใคร​บังอาจ​!​”​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​เอ่ย​ขัด​เสียง​สูง

​เหล่า​ข้าหลวง​และ​ขุนนาง​ใน​นั้น​ต่าง​ตัดสินใจ​กัน​ไม่​ถูก​ ​ท่าน​อ๋อง​ย่อม​เป็น​คนที​่​พวกเขา​ล่วงเกิน​ไม่ได้​อยู่​แล้ว​ ​แต่​หาก​เทียบ​กับ​ฉิน​ฮุย​แล้ว​เห็นได้ชัด​ว่า​ปู้​อวี​้​ถัง​เป็น​คนที​่​ใต้เท้า​กู้​ไว้วางใจ​และ​ให้ความสำคัญ​มากกว่า​ ​พวกเขา​ล่วงเกิน​องค์​ชาย​สิบ​ไม่ได้​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ล่วงเกิน​ใต้เท้า​กู้​ไม่ได้​เช่นกัน​ ​ถึงอย่างไร​รอง​ผู้ว่าการ​ก็​สู้​ผู้ว่าการ​ไม่ได้

​“​ยัง​ไม่​รีบ​ไป​อีก​”​ ​ครั้น​เห็น​คนธรรมดา​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​น่าเกรงขาม​มากกว่า​รอง​ผู้ว่าการ​อย่าง​ฉิน​ฮุย​ ​หรง​ซิง​ก็​หรี่​ตา​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์

​“​นี่​…​”

​“​องค์​ชาย​สิบ​ ​เกรง​ว่า​คนที​่​ทาง​เรา​ต้อง​สอบปากคำ​ ​ท่าน​อ๋อง​คง​ไม่มี​สิทธิ์​เอา​ตัว​ไป​ได้​”​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​เอ่ย​เสียงแข็ง​กร้าว​ไม่​อ่อนข้อ​ให้​เลย​สักนิด​ ​หรง​ซิง​สีหน้า​ขรึม​ลง​ ​เขา​รู้ดี​ว่า​เขา​ไม่มี​สิทธิ์​เอา​ตัว​คนใน​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ไป​ ​แต่​หาก​วันนี้​ฉิน​ฮุย​ส่งตัว​คน​เหล่านั้น​ให้​เขา​ ​เขา​ย่อม​มี​วิธี​ลบล้าง​ความผิด​ครั้งนี้​ได้​ ​สุดท้าย​ค่อย​โยน​ข้อหา​ละเลย​หน้าที่​ให้​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ต้อง​มา​เจอ​คน​ไม่รู้​กาลเทศะ​อย่าง​ปู้​อวี​้​ถัง​เข้า

​หรง​ซิง​ยิ้ม​เย็นชา​กล่าว​ ​“​สามหาว​!​ ​ประชาชน​คนธรรมดา​ตัวเล็ก​ๆ​ ​อย่าง​เจ้า​บังอาจ​ยื่นมือ​มา​แทรกแซง​เรื่อง​ใน​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ ​ใคร​ให้​ความกล้า​นี้​กับ​เจ้า​กัน​ ​ใครก็ได้​มานี​่​ ​ไป​ลาก​ตัว​ปู้​อวี​้​ถัง​มา​ให้​ข้า​แล้ว​โบย​สามสิบ​ที​ ​โทษ​ฐาน​ที่​ไม่​ให้​ความเคารพ​แก่​ข้า​”

​องครักษ์​ที่​ติดตาม​หรง​ซิง​มาต​่าง​รับคำ​ก่อน​ก้าว​เข้าไป​จับกุม​ตัว​ปู้​อวี​้​ถัง​ไว้​ ​ฉิน​ฮุย​รีบ​กล่าว​โน้มน้าว​ด้วย​ท่าที​ตกอกตกใจ​ ​“​องค์​ชาย​สิบ​ ​องค์​ชาย​สิบ​อย่า​ทรง​กริ้ว​ไป​”​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​รู้​ว่าวั​นนี​้​คง​ยาก​จะ​รอดพ้น​วิบากกรรม​นี้​ไป​ได้​จึง​กัดฟัน​เอ่ย​เสียงเย็น​ชา​ ​“​องค์​ชาย​สิบ​ก็​แค่​อยาก​ใช้อำนาจ​ข่ม​คน​เช่นนั้น​หรือ​ ​กระหม่อม​ยัง​ยืนยัน​คำ​เดิม​ ​หาก​ฮ่องเต้​ทำผิด​ก็​ต้อง​ได้รับ​โทษ​เหมือน​ราษฎร​ ​ใต้เท้า​กู้​เข้า​วัง​ไป​เข้าเฝ้า​ฝ่า​บาท​แล้ว​ ​ควร​ทำ​เช่นใด​พระองค์​ทรง​ไตร่ตรอง​เอา​เอง​เถิด​!​”

​“​สามหาว​นัก​!​”​ ​หรง​ซิง​ตบ​โต๊ะ​ตรงหน้า​อย่างแรง​ ​เอ่ย​เสียงเย็น​ชา​ ​“​ข้า​อยาก​เห็น​นัก​ว่าที่​ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ของ​พวก​เจ้า​จะ​มี​ความยุติธรรม​มาก​เพียงใด​ ​แม้กระทั่ง​ข้าเจ้า​ก็​กล้า​พูดว่า​มีโทษ​เฉกเช่น​ประชาชน​?​”

​“​กล้า​หรือไม่​…​องค์​ชาย​สิบ​ก็​ลองดู​เถิด​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เสียงใส​กังวาน​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านนอก​ ​ครั้น​ได้ยิน​เช่นนั้น​ฉิน​ฮุย​ก็​สีหน้า​เปลี่ยน​ ​ส่วน​ปู้​อวี​้​ถัง​กลับ​เผย​สีหน้า​ดีอกดีใจ

​ทุกคน​ต่าง​หันหน้า​มา​อย่าง​พร้อมเพรียง​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​มู่​ชิง​อี​ที่​สวม​ชุด​คลุม​ยาว​สีขาว​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ประตู​พร้อม​สีหน้า​ราบเรียบ​ ​ซึ่ง​ชุด​สีขาว​ทั้ง​ร่าง​ขับ​ให้​เหมือน​ดั่ง​เกล็ด​หิมะ​เย็นยะเยือก​ ​ใบหน้า​หล่อเหลา​อ่อนโยน​ที่​มัก​แต่ง​แต้ม​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ใน​ยาม​ปกติ​กลับ​เย็นเฉียบ​ดั่ง​หิมะ​ ​ดวงตา​เย็นชา​กวาด​มอง​ร่าง​ทุกคน​จน​ชวน​ให้​สะท้าน​เฮือก​ราวกับ​ร่าง​อยู่​กลาง​หิมะ​เย็นยะเยือก​ก็​มิ​ปาน

​ส่วน​ข้าง​กาย​ของ​มู่​ชิง​อีก​็​มี​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ที่​สวมหน้ากาก​ยืน​อยู่​ด้วย

​มู่​ชิง​อี​ถอด​ชุด​คลุม​สีขาว​บน​ร่าง​ออก​แล้ว​มอบให้​เซี​่ย​ซิวจู​๋​จน​เผย​ให้​เห็น​ชุด​เครื่องแบบ​สีแดง​ด้านใน​ ​จากนั้น​ก็​ย่างกราย​เดิน​เข้ามา​ใน​โถง​ใหญ่

​ครั้น​เห็น​หนุ่มน้อย​ชุด​แดง​เดิน​เข้ามา​อย่าง​ช้าๆ​ ​หรง​ซิง​ก็​อด​ตกตะลึง​ไม่ได้​ ​เขา​เจอ​กู้​หลิว​อวิ​๋​นมา​นับ​ครั้ง​ไม่​ถ้วน​ ​แต่​หรง​ซิง​กลับ​ไม่เคย​สังเกตเห็น​เลย​ว่า​บุรุษ​ที่​คน​ต่าง​เล่าลือ​ว่า​รูปงาม​เป็นอัน​ดับ​หนึ่ง​ใน​เมืองหลวง​ผู้​นี้​จะ​งดงาม​สะกด​ตา​เช่นนี้​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​สายตา​เย็นชา​คู่​นั้น​แฝง​ความ​ดุดัน​ไว้​ ​หรง​ซิง​คง​อด​คิด​ไม่ได้​ว่า​คนตรง​หน้า​ผู้​นี้​เป็นสาว​งาม​คน​หนึ่ง

​เมื่อ​เดิน​มา​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​หรง​ซิง​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ประสานมือ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​กระหม่อม​กู้​หลิว​อวิ​๋​นขอ​คารวะ​องค์​ชาย​สิบ​ ​ไม่ทราบ​ว่า​องค์​ชาย​สิบ​เสด็จ​มาถึง​ที่นี่​ด้วย​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

​พอ​หรง​ซิง​ได้สติ​ก็​แค่น​เสียง​เบา​แล้ว​เบือนหน้า​หนี​ ​เขา​เป็น​ถึง​องค์​ชาย​แห่ง​แคว้น​เย​่ว​์​ ​ทว่า​กลับ​ยืน​มอง​บุรุษ​คน​หนึ่ง​ตาค้าง​ ​เพราะเหตุนี้​ถึง​ทำให้​เขา​แอบ​รู้สึก​หงุดหงิด​ใจ​ขึ้น​มา​โดย​ไร้​ต้นสายปลายเหตุ​ ​ทว่า​ครั้น​เลื่อน​ตามา​มอง​มู่​ชิง​อี​ ​หรง​ซิง​ก็​สงบอารมณ์​ลง​ได้​ ​เมื่อ​นึกถึง​เรื่อง​ที่​พี่​สี่​มอบหมาย​ให้​แล้วก็​เอ่ย​ถาม​เสียง​ขรึม​ว่า​ ​“​ใต้เท้า​กู้​ ​คุย​กัน​เป็นการ​ส่วนตัว​ได้​หรือไม่​”

​มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​งาม​เล็กน้อย​โดย​ไม่ได้​ตอบกลับ​เขา​แต่อย่างใด​ ​ทว่า​หมุนตัว​หันไป​มอง​ปู้​อวี​้​ถัง​ที่​ถูก​องครักษ์​ของ​หรง​ซิง​คุมตัว​ไว้​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​อวี​้​ถัง​ล่วงเกิน​อะไร​องค์​ชาย​สิบ​หรือ​ ​องค์​ชาย​สิบ​โปรด​อภัยโทษ​ให้​ด้วย​เถิด​”

​หรง​ซิง​ขมวดคิ้ว​ ​เอ่ย​อย่าง​ไม่​ชอบใจ​ว่า​ ​“​ปู้​อวี​้​ถัง​เป็น​แค่​คนธรรมดา​แต่​บังอาจ​เสียมารยาท​กับ​ข้า​ ​ข้า​แค่​โบย​เขา​ไม่​กี่​ที​ผิด​มาก​นัก​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​หาก​เป็น​แต่ก่อน​คง​ไม่เป็นไร​ ​แต่​ตอนนี้​เห็นที​คง​ไม่ได้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​หรง​ซิง​รู้สึก​สังหรณ์ใจ​ไม่ดี​ ​มุ่น​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​ทำไม​เล่า​”

​มู่​ชิง​อี​ล้วง​หยิบ​สาสน์​สีเหลือง​ที่อยู่​ใน​แขน​เสื้อ​ออกมา​ด้วย​ท่าที​สงบ​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​เพราะ​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​มี​ภารกิจ​มากมาย​ ​ฝ่า​บาท​เลย​ทรง​เมตตา​แต่งตั้ง​ให้​ปู้​อวี​้​ถัง​ขึ้น​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​รอง​ผู้ว่าการ​ ​ขุนนาง​ระดับ​ห้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ใน​ฐานะ​องค์​ชาย​ ​นอกจาก​จะ​มี​ความ​ใจกล้า​และ​เป็น​ที่​โปรดปราน​อย่าง​หรง​จิ​่น​แล้ว​ ​การ​โบย​ขุนนาง​ที่​มี​ลำดับชั้น​กลับเป็น​เรื่อง​ที่​ไม่​สามารถ​เอา​มา​พูด​ได้

​หรง​ซิง​ชะงัก​ไป​ ​“​เหลวไหล​!​ ​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ก็​มี​รอง​ผู้ว่าการ​อยู่​แล้ว​!​”​ ​รอง​ผู้ว่าการ​มีหน้า​ที่​คอย​เป็น​แรง​เสริม​และ​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​ผู้ว่าการ​ ​ถึงแม้​ตำแหน่ง​รอง​ผู้ว่าการ​อย่าง​ฉิน​ฮุย​จะ​อยู่​มานาน​หลาย​ปีก​ระ​ทั่ง​เปลี่ยนตัว​ผู้ว่าการ​มา​หลายครั้ง​โดย​ไม่ต้อง​แต่งตั้ง​ใคร​มา​เพิ่ม​ ​ทว่า​แต่ไหนแต่ไรมา​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ก็​มี​รอง​ผู้ว่าการ​แค่​คนเดียว

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เย็นชา​เอ่ย​ ​“​องค์​ชาย​สิบ​ทรง​ฟัง​ผิด​แล้ว​ ​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​รอง​ผู้ว่าการ​อีกที​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​รอง​ผู้ว่าการ​ถือว่า​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​ผู้ว่าการ​ ​ส่วน​ผู้ช่วย​ของ​รอง​ผู้ว่าการ​ก็​เป็น​ผู้ช่วย​และ​แรง​เสริม​อีกที​ ​หาก​ผู้ว่าการ​ให้ความสำคัญ​กับ​ผู้ช่วย​ของ​รอง​ผู้ว่าการ​มากกว่า​ก็​ใช่​ว่าวัน​หน้า​จะ​เลื่อนตำแหน่ง​ไม่ได้

​“​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​ไม่มี​ตำแหน่ง​นี้​!​”​ ​หรง​ซิง​กัดฟัน​กล่าว​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​ตอนนี้​มี​แล้ว​ ​ปู้​อวี​้​ถัง​ยัง​ไม่​น้อม​รับพระ​ราชโองการ​อีก​หรือ​!​”

​ครั้น​ปู้​อวี​้​ถัง​ได้สติ​ก็​รีบ​คุกเข่า​น้อม​รับพระ​ราชโองการ​ ​“​กระหม่อม​อวี​้​ถัง​ ​ซาบซึ้ง​ใน​พระกรุณาธิคุณ​ยิ่งนัก​”​ ​ตอนนั้น​เขา​คิด​ไม่ผิด​เลย​จริงๆ​ ​ที่​เลือก​เข้าพวก​กับ​อวี​้​อ๋อง​และ​คุณชาย​กู้​ ​ใคร​จะ​โชคดี​รอด​จาก​เคราะห์ร้าย​หลังจาก​เจอ​เรื่อง​แย่​ๆ​ ​อย่าง​องค์​ชาย​ถูก​ฆ่า​ตาย​มา​ได้​แล้ว​กลับมา​รับราชการ​ใหม่​อีกครั้ง​ได้​ภายใน​ระยะเวลา​ไม่​กี่​เดือน​อย่าง​เขา​อีก​บ้าง​ ​ถึงแม้​จะ​เป็น​แค่​ขุนนาง​ระดับ​ห้า​ ​แต่​ก็​นับว่า​ไม่เลว​แล้ว​มิใช่​หรือ

​พอ​วาง​สาสน์​ราชโองการ​ลง​บน​มือ​ของ​ปู้​อวี​้​ถัง​ ​มู่​ชิง​อีก​็​ยื่นมือ​ดึง​ตัว​ปู้​อวี​้​ถัง​ขึ้น​มา​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​“​ลำบาก​ท่าน​แล้ว​”

​ปู้​อวี​้​ถัง​รีบ​กล่าวว่า​มิบั​งอาจ​ ​ส่วน​หรง​ซิง​ที่​ถูก​เมิน​อยู่​อีก​ฝั่ง​ก็​เผย​สีหน้า​ขรึม​ลง​ราวกับ​หมึก​ดำ​ก็​มิ​ปาน​ ​กัดฟัน​เอ่ย​ ​“​ใต้เท้า​กู้​!​”

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท