หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 497

หวนคืนชะตาแค้น

​หรง​จิ​่น​เอนหลัง​พิง​พนักเก้าอี้​พลาง​มอง​ชาย​ชรา​ที่​ค่อยๆ​ ​หลับตา​ลง​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​ทว่า​กลับ​ลอบ​แค่น​เสียงหัวเราะ​ใน​ใจ​กล่าว​ ไม่​กลัว​ตาย​เลย​จริงๆ​ ​หรือ​ ​เขา​นั่ง​อยู่​ตรงนี้​ยัง​กล้า​นอน​อีกแต่​ไม่นาน​ความคิด​ก็​แวบ​ออก​ไปนอก​วัง​ ในเมื่อ​ตา​เฒ่า​นี่​อยาก​เล่น​นัก​ ​เขา​ก็​จะ​อยู่​เล่น​เป็นเพื่อน​ ​เรื่อง​ด้านนอก​มี​ชิง​ชิง​คอย​จัดการ​ก็​เพียงพอ​แล้ว

​ภายใน​ห้อง​ตำรา​จวน​สวิน​อ๋อง​ ​หลังจาก​หรง​จัง​ได้ยิน​คำ​รายงาน​ของ​ลูกน้อง​สีหน้า​ก็​ค่อยๆ​ ​ขรึม​ลง​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​ ​เจ้า​ออก​ไป​เถิด​”

​ส่วน​เว​่​ยอู​๋​จี้​ที่นั่ง​อยู่​อีก​ฝั่ง​ก็​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​มา​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​กักตัว​อวี​้​อ๋อง​อยู่​ใน​วัง​มาส​อง​วัน​แล้ว​…​อู๋​จี้​เข้า​วัง​ไปดู​หน่อย​ดีกว่า​กระมัง​”

​หรง​จัง​ส่าย​ศีรษะ​ ​มุ่น​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​ตอนนี้​ใน​วัง​น่าจะ​คุ้มกัน​หนาแน่น​ ​แล้ว​กู้​หลิว​อวิ​๋​นที​่​อยู่​ใน​จวน​อวี​้​อ๋อง​มี​ความเคลื่อนไหว​เช่นใด​บ้าง​”

​เว​่​ยอู​๋​จี้​ส่าย​ศีรษะ​กล่าว​ ​“​ไม่มี​เลย​ ​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ยังคง​ทำงาน​ใน​ศาล​ที่ว่าการ​เฟิ​่ง​เทียน​ตามปกติ​เช่นเคย​”

​หรง​จัง​เงียบ​ไป​ ​ขบคิด​ครู่หนึ่ง​ถึง​เอ่ย​ ​“​เช่นนั้น​…​จิ​่น​เอ๋อร​์​ก็​ไม่น่า​มี​อันตราย​ใด​ ​พวกเรา​มีเรื่อง​สำคัญ​กว่า​ที่​ต้อง​จัดการ​ ​เสด็จ​พ่อ​…​คงทน​ได้​อีก​ไม่​กี่​วัน​แล้ว​”

​เว​่​ยอู​๋​จี้​แน่นิ่ง​ ​กล่าว​ได้​ว่า​อำนาจ​ใน​เมืองหลวง​ที่​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ทรง​มี​ใน​มือ​เหมือน​ดั่ง​ภูผา​สูงใหญ่​ที่​กด​ทับ​ยอดเขา​ไว้​จน​ยาก​จะ​สั่นคลอน​ได้​ ​หาก​จู่ๆ​ ​คน​เช่นนี้​ใกล้​ตาย​คง​ชวน​ให้​คน​มากมาย​รู้สึก​อกสั่นขวัญแขวน​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน

​“​เตรียมการ​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​”​ ​หรง​จัง​เอ่ย​ถาม

​เว​่​ยอู​๋​จี้​เอ่ย​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ ​“​เตรียม​ทุกอย่าง​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ ​แต่​เหมือนว่า​จวน​ของ​ท่าน​อ๋อง​และ​องค์​ชาย​ทั้งหลาย​จะ​ยัง​…​”​ ​หรง​จัง​ยิ้ม​เย็นชา​เอ่ย​ ​“​บัลลังก์​อัน​สูงส่ง​ ​ใคร​ที่​มีสิทธิ์​แย่งชิง​จะ​ไม่​คิด​แก่งแย่ง​บ้าง​เล่า​ ​อู๋​จี้​ ​หาก​เวลา​นั้น​มาถึง​แล้ว​ ​เจ้า​คิด​หา​อุบาย​ให้​หนา​นกง​เจ​วี​๋​ยมี​ส่วน​เอี่ยว​ด้วย​ก็​พอ​”

​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​ทหาร​มาก​ ​นอกจาก​ตัว​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​เอง​แล้ว​ ​ก็​มี​แค่​หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​เท่านั้น​ที่จะ​อาศัย​อิทธิพล​ของ​ตัวเอง​แตะต้อง​อำนาจ​ทางการทหาร​ได้​ ​ขอ​แค่​หนา​นกง​เจ​วี​๋ย​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ ​จวน​จวง​อ๋อง​ก็​ไม่มี​อะไร​ต้อง​พูดถึง​แล้ว

​“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​อู๋​จี้​เข้าใจ​แล้ว​”​ ​เว​่​ยอู​๋​จี้​พยักหน้า​กล่าว​ ​ภายใน​แววตา​สุขุม​แฝง​ไป​ด้วย​อารมณ์​ฮึกเหิม​ ​เพราะ​เขา​ปกปิด​สถานะ​และ​ความสามารถ​ทาง​วิทยา​ยุทธ์​ของ​ตัวเอง​มาต​ลอด​ ​ยอด​ฝีมือ​ที่​เว​่​ยอู​๋​จี้​เคย​ปะทะ​ฝีมือ​ด้วย​ก็​มี​แค่​หรง​จิ​่​นคน​เดียว​เท่านั้น​ ​หาก​มีโอกาส​ได้​ปะทะ​ฝีมือ​กับ​หนา​นกง​เจ​วี​๋​ยก​็​คงพลาด​ไม่ได้​เช่นกัน

​หรง​จัง​ผ่อน​ลมหายใจ​อย่าง​ช้าๆ​ ​สีหน้า​ผุด​รอยยิ้ม​จางๆ​ ​ออกมา​พลาง​จับจ้อง​เปลวไฟ​สีแดง​เบื้องหน้า​กล่าว​ ​“​ข้ามี​ลางสังหรณ์​ว่า​ภายใน​สอง​วันนี้​คง​…​เสด็จ​พ่อ​ ​อย่า​ทำให้​ลูก​ผิดหวัง​ก็แล้วกัน​”

​“​ทูล​ท่าน​อ๋อง​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​มี​รับสั่ง​ให้ท่า​นอ​๋​อง​เข้าเฝ้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​หัวหน้า​ผู้ดูแล​ที่อยู่​นอก​จวน​สวิน​อ๋อง​รีบ​พุ่งตัว​เข้ามา​พร้อม​ทูล​รายงาน​ด้วย​เสียงดี​อก​ดีใจ

​สวิน​อ๋อง​เงยหน้า​ขึ้น​ ​“​เข้าใจ​แล้ว​ ​ทรง​รับสั่ง​ให้​องค์​ชาย​คนอื่น​เข้าเฝ้า​หรือไม่​”

​หัวหน้า​ผู้ดูแล​เอ่ย​ ​“​ฝ่า​บาท​ทรง​รับสั่ง​ให้​องค์​ชาย​ทุกคน​เข้า​วัง​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

​“​ดีมาก​ ​เจ้า​ไป​เถิด​ ​ข้า​จะเข้า​วัง​เดี๋ยวนี้​”​ ​หรง​จัง​ลุกขึ้น​ยืน​มอง​ไป​ทาง​เว​่​ยอู​๋​จี้​แล้ว​เอ่ย​ ​“​อู๋​จี้​ ​จัดการ​คืนนี้​เลยเถิด​”

​“​อู๋​จี้​น้อม​รับ​บัญชา​ ​ท่าน​พ่อ​…​ระวังตัว​ด้วย​”​ ​เว​่​ยอู​๋​จี้​เอ่ย​เสียง​ขรึม

​“​อืม​”​ ​หรง​จัง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​เหม่อมอง​ไป​ทาง​วัง​หลวง​ ​ถอนหายใจ​เสียง​เบา​กล่าว​ ​“​ควร​จบ​ทุกอย่าง​ได้​แล้ว​”

​ภายใน​พระตำหนัก​ชิง​เหอ​แห่ง​วัง​หลวง​ ​มี​เหล่า​องค์​ชาย​และ​หลาน​ๆ​ ​สถานะ​สูงศักดิ์​คุกเข่า​อยู่​เต็ม​พื้น​ ​ถึงแม้​เวลานี้​จะ​เป็นช่วง​เดือน​สาม​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​แต่​ท้องฟ้า​มืดมิด​กลับ​นำพา​ไอ​เย็น​จางๆ​ ​มาด​้วย

​ยาม​ที่​หรง​จัง​มาถึง​ก็​เห็น​พี่น้อง​และ​ลูกหลาน​ต่าง​นั่งคุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​แล้ว​ ​ทุกคน​ต่าง​ก้มหน้า​หลุบ​ตารา​วกับ​เกรงขาม​และ​เศร้าสร้อย​ในเวลาเดียวกัน​ ​แต่​ความจริง​ภายในใจ​กลับ​กำลัง​นึก​วางแผน​ต่างๆ​ ​อยู่​ ​หรง​จัง​ยิ้มเยาะ​ที​ก่อน​เดิน​ย่างกราย​ช้าๆ​ ​เตรียม​มานั​่​งคุก​เข่า​ข้าง​กาย​หรง​เหยี​่​ยน

​“​สวิน​อ๋อง​ ​ฝ่า​บาท​เรียก​ท่าน​เข้าไป​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​นั่งลง​ ​เจี่ยง​ปิน​ก็​รีบ​เดิน​เข้ามา​ทูล​ด้วย​เสียง​นอบน้อม

​หรง​จัง​ยิ้ม​บาง​เอ่ย​ภายใต้​สายตา​สับสน​ของ​ทุกคน​ว่า​ ​“​ขันที​เจี่ยง​ ​เสด็จ​พ่อ​…​”

​เจี่ยง​ปิน​เอ่ย​เสียง​นอบน้อม​แผ่วเบา​ ​“​ฝ่า​บาท​ทรง​เชิญ​สวิน​อ๋อง​เข้าไป​โดยเร็ว​ ​ท่าน​อ๋อง​ก็​รีบ​เข้าไป​เถิด​ ​อย่า​ให้​ฝ่า​บาท​ทรง​คอย​นาน​เลย​”

​หรง​จัง​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​เช่นนั้น​ก็​รบกวน​ขันที​นำทาง​เถิด​”

​“​เชิญ​ท่าน​อ๋อง​”

​หรง​จัง​เดินตาม​เจี่ยง​ปิน​ไป​ยัง​ประตู​พระตำหนัก​ชิง​เหอ​ที่​ปิด​แน่น​ด้วย​ท่าที​สงบ​ภายใต้​สายตา​ที่​กำลัง​จับจ้อง​ของ​ทุกคน

​“​พี่​สอง​ ​เสด็จ​พ่อ​หมายความว่า​อย่างไร​กัน​ ​ก่อนหน้านี้​ก็​ให้​น้อง​เก้า​อยู่​ใน​วัง​หลาย​วัน​ ​ตอนนี้​ยัง​ทิ้ง​องค์​ชาย​มากมาย​อย่าง​พวกเรา​ไว้​ข้างนอก​แล้ว​เรียก​หรง​จัง​เข้าเฝ้า​คนเดียว​อีก​!​ ​หรือ​เสด็จ​พ่อ​คิด​จะ​เอา​…​”​ ​องค์​ชาย​แปด​ที่​เป็น​คน​อารมณ์ร้อน​เอ่ย​พลาง​มอง​หรง​จัง​ หาก​เสด็จ​พ่อ​ทรง​อยาก​เรียก​องค์​ชาย​เข้าเฝ้า​เพียงลำพัง​จริงๆ​ ​ถ้าว่า​กัน​ด้วย​เรื่อง​อายุ​แล้ว​ต้อง​เป็น​หรง​เซ​วี​ยน​เข้าไป​ก่อน​ถึง​จะ​ถูก​ ​นับประสา​อะไร​กับ​พี่​สาม​ที่​ป่วย​ออด​ๆ​ ​แอด​ๆ​ ​มา​หลาย​ปี​เช่นนั้น​เล่า

​เหล่า​องค์​ชาย​ที่​อายุ​พอ​ๆ​ ​กันตอ​นอยู​่​ใน​เหตุการณ์​เมื่อยี​่​สิบ​ปีก่อน​นั้น​ต่าง​พอ​จะ​รู้กัน​อยู่​บ้าง​ ​เพราะ​ลึก​ๆ​ ​แล้ว​องค์​ชาย​เหล่านี้​ก็​ดูถูก​หรง​จัง​ ​เวลานี้​ย่อม​ทน​เห็น​หรง​จัง​เป็น​คน​เข้าไป​ใน​พระตำหนัก​ชิง​เห​อก​่อน​ไม่ได้​เป็นธรรมดา​ ​ควร​รู้​ว่า​หาก​ตอนนี้​ใคร​เข้าไป​ใน​พระตำหนัก​ชิง​เหอ​และ​เข้าใจ​สถานการณ์​ภายใน​อย่างชัดเจน​ก่อน​ก็​สื่อ​ว่า​มี​ความมั่นใจ​และ​คว้า​โอกาส​มา​ได้มา​กก​ว่า

​ใบหน้า​ซูบ​ตอบ​ของ​หรง​เซ​วี​ยน​ไร้​ซึ่ง​เลือดฝาด​ ​ร่างกาย​ปราดเปรียว​บึกบึน​ใน​เดิมที​กลับ​บอบบาง​ราวกับ​หาก​เจอ​ลม​พัด​ก็​พร้อม​ปลิว​ได้​ทุกเมื่อ​ ​ดูๆ​ ​ไป​แล้ว​เหมือน​คน​อาการป่วย​รุมเร้า​มากกว่า​หรง​จัง​ที่​ไอค​่​อก​แค่ก​ไม่​หยุด​เสียอีก​ ​ฤทธิ์​ยาพิษ​ของ​เย​่า​หวัง​กู่​ดัง​สม​คำ​ล่ำ​ลือ​จริงๆ​ ​หาก​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ไม่​ตก​อยู่​ใน​อาการ​เช่นนี้​ ​หรง​เซ​วี​ยน​ก็​ไม่​ควร​ออกจาก​จวน​ ​แต่​ควร​นอน​พัก​รักษาตัว​อยู่​บน​เตียง​ต่อไป

​หรง​เซ​วี​ยน​มอง​องค์​ชาย​แปด​แวบ​หนึ่ง​ถึง​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ทรง​มี​ความคิด​เป็น​ของ​พระองค์​เอง​ ​พวกเรา​เป็น​ลูก​ก็​มีหน้า​ที่​แค่​ทำตาม​รับสั่ง​ไป​เท่านั้น​ ​น้อง​แปด​อย่า​ร้อนใจ​ไป​เลย​”

​หรง​เซ​วี​ยน​รู้ดี​แก่​ใจ​ว่ายา​พิษ​ครั้งนี้​ไม่ใช่​แค่​ทำลาย​ร่างกาย​ของ​เขา​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ทำลาย​ความหวัง​ขึ้น​ปกครอง​บ้านเมือง​อีก​ต่างหาก​ ​ส่วน​จะ​อายุ​ยืนยาว​เพียงใด​คง​ต้อง​รอดู​ฟ้า​ลิขิต​ ​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​เขา​จะ​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​ได้​อีก​หรือ

​พอคิด​ถึง​จุด​นี้​สายตา​นิ่ง​สงบ​ของ​หรง​เซ​วี​ยน​ก็​พาด​ผ่าน​ความร้าย​กาจ​ออกมา​ ​ใช้​สายตา​ราบเรียบ​กวาด​มอง​หรง​เหยี​่​ยน​ที่​กำลัง​คุกเข่า​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​แวบ​หนึ่ง​ ​ถึงแม้​หรง​เหยี​่​ยน​จะ​ถูก​ปลดออก​จาก​ตำแหน่ง​ชิน​อ๋อง​ ​ลูกน้อง​ใน​มือ​ถูก​ทำลาย​ไม่​เหลือ​ ​แต่​รากฐาน​ของ​เขา​ไม่ได้​ถูก​ทำลาย​ทั้งหมด​เสียที​เดียว​จึง​พอ​จะ​มีโอกาส​ ​แต่​หาก​เขา​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​อย่างราบรื่น​ ​คน​ของ​จวน​จวง​อ๋อง​คง​ตาย​กัน​หมด

​“​พี่​สอง​…​”​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ที่นั่ง​อยู่​ใกล้​หรง​เซ​วี​ยน​มาก​ที่สุด​ ​ไหน​เลย​จะ​สัมผัส​สายตา​คุกรุ่น​ของ​หรง​เซ​วี​ยน​ไม่ได้​ ​จากนั้น​ใน​ใจ​ก็​อด​สบถ​ด่า​มู่​หร​งอ​วี​้​ที่​จัดการ​อะไร​ไม่ได้เรื่อง​ไม่ได้​ ​ถึงแม้​จะ​ทำลาย​หรง​เซ​วี​ยน​ได้​ ​แต่​ก็​เป็นการ​สร้างศัตรู​ให้​เขา​เช่นกัน​ ​หาก​หรง​เซ​วี​ยน​กับ​ตระกูล​หนา​นก​งก​่​อก​วน​ขึ้น​มาคง​จัดการ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ได้​ยาก​ยิ่งขึ้น

​“​พี่​สอง​ ​เรื่อง​ก่อนหน้านี้​เป็นเรื่อง​เข้าใจผิด​กัน​ทั้งนั้น​ ​พี่​สอง​โปรด​เชื่อ​น้อง​ด้วย​เถิด​”​ ​หรง​เหยี​่​ยน​รู้แก่ใจ​ดี​ ​หาก​ตน​อยาก​คว้า​ตำแหน่ง​ฮ่องเต้​สูงส่ง​มา​ได้​อย่างราบรื่น​ดีละ​ก็​ ​หรง​เซ​วี​ยน​เป็น​คน​แรก​ที่​เขา​ต้อง​ทำให้​ยอมจำนน​และ​เป็น​ด่าน​ที่​ยุ่งยาก​ที่สุด​ ​หรง​เซ​วี​ยน​ไม่มี​โอกาส​ที่จะ​ได้​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​แล้ว​ ​ดังนั้น​เกรง​ว่า​จะ​ยิ่ง​เกลียดชัง​ใน​ฐานะ​ศัตรู​ของ​เขา​มากกว่า​ ​หาก​ระหว่าง​นี้​หรง​เซ​วี​ยน​กับ​คนใน​ตระกูล​หนา​นกง​ทำ​อะไร​ขึ้น​มา​ ​อย่า​ว่า​จะ​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​เลย​ ​ไม่แน่​อาจ​ต้อง​กังวล​เรื่อง​ชีวิต​ด้วยซ้ำ​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ย่อม​รู้เรื่อง​ที่​หนา​นก​งอี​้​แวะ​ไป​เยี่ยมเยียน​กู้​หลิว​อวิ​๋น​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​อยู่​แล้ว​ ​เพียงแต่​ปฏิกิริยา​นิ่ง​สงบ​ของ​จวน​อวี​้​อ๋อง​กลับ​ทำให้​เขา​ต้อง​ลอบ​พรู​ลมหายใจ

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท