หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 504 หลังฮ่องเต้แคว้นเย่ว์เสด็จสวรรคต(1)

หวนคืนชะตาแค้น

หรง​จิ​่น​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​ขอบ​พระทัย​เสด็จ​พ่อ​ที่​ช่วย​ทำให้​ลูก​สมหวัง​”​ ​ระยะทาง​จาก​เมือง​เผิง​ถึง​เมืองหลวง​ใช้เวลา​เดินทาง​เพียง​สอง​วัน​ ​บัดนี้เฝิง​จื่อ​สุ่ย​คุม​เมือง​เผิง​ได้​แล้ว​ ​หลังจาก​กำลัง​ทหาร​ของ​เมือง​เทียน​เช​วี​ยอ​อก​จาก​หุบเขา​มาก​็​ไม่มีปัญหา​น่าเป็นห่วง​ใด​เกิดขึ้น​ ​เพียงแค่​นอน​กลางวัน​แล้ว​ออกเดินทาง​ตอนกลางคืน​ ​ใช้เวลา​เพียง​สามสี​่​วัน​ก็​เดินทาง​ถึง​บริเวณ​ใกล้​ๆ​ ​เมืองหลวง​แล้ว

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ถอนหายใจ​ ​มอง​หรง​จัง​ที่อยู่​บน​พื้น​ด้วย​สีหน้า​เหมือน​จะ​ยิ้ม​แต่​ก็​ไม่​ยิ้ม​ตรัส​ ​“​เห็น​หรือยัง​ ​เจ้า​สามารถ​ควบคุม​เจ้า​เด็ก​นี่​ได้​หรือ​”​ ​พอต​รัส​จบ​ก็​ไม่​พูด​อะไร​อีก​ ​จากนั้น​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​หยิบ​พู่กัน​ขึ้น​มา​เริ่ม​ขีดเขียน​ลง​บน​สาสน์​สีเหลือง​อร่าม​นั้น

“​เจ้า​…​สกัด​อู๋​จี้​ไว้​นอกเมือง​หรือ​”​ ​หรง​จัง​เอ่ย​ถาม​อย่าง​ยากลำบาก​ ​เว​่​ยอู​๋​จี้​นำ​กองกำลัง​เสิน​เช่อ​ซึ่ง​เป็น​ไพ่​ลับ​ใน​มือ​ของ​เขา​ไป​ด้วย​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ถูก​หรง​จิ​่น​ปั่นหัว​เอา​ได้​ ​“​ข้า​เคย​บอก​แล้ว​ว่า​ข้า​จะ​ช่วย​เจ้า​”

หรง​จิ​่น​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​ข้า​เอง​ก็​เคย​บอก​แล้ว​ว่า​ไม่จำเป็น​ ​และ​ข้า​ก็​ไม่เชื่อ​ด้วย​”

ความจริง​เชื่อ​หรือไม่​นั้น​เป็นเรื่อง​รอง​ ​เขา​ไม่ต้องการ​ความช่วยเหลือ​เลย​สักนิด

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​เขียน​สาสน์​สั่งเสีย​เรียบร้อย​ก่อน​มอง​หรง​จิ​่​นพ​ลาง​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​ ​รับสั่ง​กับ​เจี่ยง​ปิน​ว่า​ ​“​ไป​เรียก​พวกเขา​เข้ามา​เถิด​ ​จิ​่น​เอ๋อร​์​ ​เจ้า​พอใจ​หรือไม่​”

หรง​จิ​่​นม​อง​พระราช​โองการ​ที่​กาง​ไว้​ตรงหน้า​ก่อน​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​ ​หาก​ตาแก่​ดึงดัน​ไม่ยอม​เขียน​อีก​ละ​ก็​ ​เขา​คง​ต้อง​เปลือง​แรง​จัดการ​อะไร​อีก​มาก

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​มอง​หรง​จัง​บน​พื้น​ ​ตรัส​เสียง​เรียบ​ ​“​องค์​ชาย​สาม​หรง​จัง​มี​เจตนา​ลอบทำร้าย​เรา​…​เอา​ตัว​ออก​ไปร​อลง​โทษ​ก่อน​แล้วกัน​”

หรง​จัง​จ้อง​สีหน้า​ซีดเซียว​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​แน่นิ่ง​ ​เอ่ย​เสียง​เย้ยหยัน​ ​“​เขา​ไม่มีทาง​ฆ่า​ข้า​หรอก​ ​หาก​ท่าน​ไม่เชื่อ​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​ฆ่า​ข้า​เสีย​ตอนนี้​เลย​เล่า​”​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ยิ้ม​ตรัส​ ​“​เรา​เคย​รับปาก​ว่า​จะ​ไม่​ฆ่า​เจ้า​ก็​จะ​ไม่​ฆ่า​เจ้า​ ​เจ้า​คิด​ว่า​…​จิ​่น​เอ๋อร​์​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​เจ้า​จริงๆ​ ​หรือ​”

หรง​จัง​ชะงัก​ไป​แต่​ไม่นาน​ก็​ยิ้มเยาะ​กล่าว​ ​“​ท่าน​ไม่​อยาก​ยอมรับ​อย่างนั้น​หรือ​”

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​ยิ่ง​ประหลาด​เข้าไป​ใหญ่​ ​“​ช่าง​โง่เขลา​นัก​…​เจ้า​คิด​ว่า​ได้รับ​จดหมาย​ลายมือ​ของ​ซี​เอ๋อร​์​แล้ว​จะ​ต้อง​เป็น​ของจริง​อย่างนั้น​หรือ​ ​จดหมาย​ฉบับ​นั้น​เรา​สั่ง​ให้​คน​เอา​ไป​ให้​เจ้า​เอง​ ​หาก​เจ้า​ไม่​คิด​ว่า​จิ​่น​เอ๋อร​์​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​เจ้า​ละ​ก็​ ​หลาย​ปี​มานี​้​เจ้า​คง​คิด​สังหาร​เขา​ทิ้ง​นาน​แล้ว​กระมัง​ ​จดหมาย​ฉบับ​นั้น​ก็​แค่​ช่วย​ทำให้​เจ้า​คอย​แอบ​คุ้มกัน​จิ​่น​เอ๋อร​์​แทน​เรา​อย่างว่า​ง่าย​ก็​เท่านั้น​ ​เพียงแต่​เรา​คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​จะ​ไร้ประโยชน์​ขนาด​นี้​ ​แม้แต่​เด็ก​คนเดียว​ยัง​ดูแล​ไม่ได้​!​”

ชั่ว​วินาที​นั้น​ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​หรง​จัง​ก็​บิดเบี้ยว​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​“​ท่าน​มีสิทธิ์​อะไร​มาตำ​หนิ​ข้า​ ​เจ้า​ทิ้ง​เขา​ไว้​ที่​ตำหนัก​เหมย​อย่าง​ไม่สน​ใจ​ใยดี​ก็​มิใช่​เพราะ​สงสัย​ว่า​เขา​ไม่ใช่​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​ท่าน​เหมือนกัน​มิใช่​หรือ​”

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​นิ่งเงียบ​ ​จากนั้น​ด้านนอก​ก็​มีเสียง​ฝีเท้า​เร่งรีบ​ดัง​เข้ามา​เป็น​ระลอก​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​เผย​แววตา​เย็นยะเยือก​ ​เพียง​ดีดนิ้ว​เบา​ๆ​ ​ครั้ง​เดียว​ก็​มี​ลม​แผ่วเบา​พัดผ่าน​ร่าง​ของ​หรง​จัง​ไป​ ​จุด​ประสาทสัมผัส​ทั้ง​แปด​ชาวาบ​ ​พลัน​ขยับตัว​ไม่ได้​ไป​ชั่วขณะ

“​พวก​ลูก​ถวายบังคม​เสด็จ​พ่อ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

หรง​เซ​วี​ยน​กับ​หรง​เหยี​่​ยน​เดิน​นำหน้า​ ​เหล่า​องค์​ชาย​หลานชาย​ต่าง​เดิน​เข้ามา​ใน​พระตำหนัก​ ​ครั้น​เห็น​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​นั่ง​บน​ตั่ง​นุ่ม​ก็​ผงะ​ไป​อย่างแปลกใจ​เล็กน้อย​ก่อน​รีบ​โค้ง​คุกเข่า​ทำความเคารพ

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​กระแอม​ไอเสียง​เบา​ ​ตรัส​เสียง​เรียบ​ ​“​พวก​เจ้า​มา​แล้ว​”​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​บอก​ให้​ลุกขึ้น​ ​ทุกคน​เลย​ทำได้​แค่​คุกเข่า​ต่อไป

แววตา​ของ​หรง​เหยี​่​ยน​กวาด​มอง​หรง​จัง​ที่​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​ด้วย​สีหน้า​ไม่​สู้​ดีนั​กค​รู่​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เหลือบมอง​หรง​จิ​่​นที​่​ยืน​อยู่​ข้าง​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​แวบ​หนึ่ง​ ​ขมวดคิ้ว​แต่กลับ​ไม่ได้​พูด​อะไร

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​กวาดตา​มอง​พวกเขา​ด้วย​สายตา​ราบเรียบ​ ​ด้านนอก​ปกคลุม​ไป​ด้วย​ละอองฝน​ดั่ง​ควัน​จางๆ​ ​ถึงแม้​บน​ร่าง​ของ​พวกเขา​จะ​ไม่ได้​เปียกปอน​มาก​นัก​ ​แต่​เสื้อผ้า​และ​เส้น​ผมเปีย​กชุ​่ม​ไป​ด้วย​น้ำ​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ตรัส​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​“​ดึกดื่น​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​ช่าง​กตัญญู​นัก​”

หรง​เหยี​่​ยน​เอ่ย​อย่างนอบน้อม​ ​“​การก​ตัญ​ญู​ต่อ​เสด็จ​พ่อ​เป็น​สิ่ง​ที่​ลูก​ๆ​ ​พึงกระทำ​ ​ไม่ทราบ​ว่า​พระวรกาย​ของ​เสด็จ​พ่อ​ดีขึ้น​บ้าง​หรือไม่​”

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เอา​พระราช​โองการ​ใน​มือ​ส่ง​ให้​เจี่ยง​ปิน​แล้ว​ตรัส​ว่า​ ​“​เรา​ใกล้​ลาโลก​นี้​เต็มที​แล้ว​ ​วันหน้า​คง​บงการ​อะไร​พวก​เจ้า​ไม่ได้​อีก​ ​พวก​เจ้า​จัดการ​กันเอง​ดี​ๆ​ ​แล้วกันั​”

เหล่า​องค์​ชาย​ต่าง​รีบ​เอ่ย​ ​“​เสด็จ​พ่อ​ต้อง​อายุ​ยืนยาว​อยู่​เป็น​ร้อย​ปี​แน่นอน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​อายุ​ยืนยาว​ร้อย​ปี​หรือ​”​ ​ถึงแม้​ทุกคน​จะ​ไม่​แสดงท่าที​ใด​ ​แต่​สายตา​กลับ​เหลือบ​ไป​มอง​พระราช​โองการ​ใน​มือ​ของ​เจี่ยง​ปิน​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ยิ้ม​เย้ยหยัน​ก่อน​ตรัส​ว่า​ ​“​บน​โลก​นี้​มี​ใคร​อายุ​ยืนยาว​เป็น​ร้อย​ปี​บ้าง​ ​เรา​อายุ​เจ็ดสิบ​ปี​แล้ว​ ​ถือว่า​เป็น​ไม้ใกล้ฝั่ง​เต็มที​ ​ฮ่องเต้​ที่จะ​มาสื​บท​อด​บัลลังก์​แคว้น​เย​่ว​์​คน​ต่อไป​เรา​ได้​เลือก​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เรา​ครองราชย์​มาสี​่​สิบ​ปี​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่ได้​เป็น​ฮ่องเต้​ที่​ดีมาก​นัก​ ​แต่​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​ไม่ได้​ล่มสลาย​ใน​มือ​เรา​ ​เรื่อง​หลังจากนี้​เรา​คง​ยุ่ง​ไม่ได้​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​จัดการ​กันเอง​เถิด​”

นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ภาคภูมิใจ​ ​ระยะเวลา​ยี่สิบ​ปี​ที่ผ่านมา​เขา​ไม่ได้​ทำการ​ใหญ่​มากมาย​แต่​อาศัย​รากฐาน​ยี่สิบ​ปีก่อน​มากกว่า​ ​ถึงแม้​เขา​จะ​เข่นฆ่า​ขุนนาง​ ​ตระกูล​ทรงอิทธิพล​ ​ลดตำแหน่ง​ขุนนาง​อาลักษณ์​ ​ข่ม​อำนาจ​ทางการทหาร​ ​แต่​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​มิได้​เสื่อมถอย​ลงมาก​ ​ยัง​ถือว่า​เป็น​แว่นแคว้น​ที่​ร่ำรวย​ที่สุด​ใน​สาม​แคว้น​ภาค​กลาง​ ​ส่วน​วันข้างหน้า​…​แม้แต่​เรื่อง​ขณะที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่ยัง​จัดการ​ได้​ไม่​หมด​ ​ใคร​จะ​ยุ่ง​เรื่อง​หลัง​ความตาย​ได้​บ้าง​เล่า

ครั้น​ตรัส​เสร็จ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​กลิ่นคาว​เลือด​จางๆ​ ​แผ่​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​พระตำหนัก​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ยกมือ​ขึ้น​ ​เลือด​สด​ใน​ปาก​กระเด็น​ลอดผ่าน​หว่าง​นิ้ว​ไหลริน​ ​สีหน้า​ยิ่ง​ดู​ซีดเซียว​ชรา​ลง​อย่างรวดเร็ว

“​เสด็จ​พ่อ​!​”​ ​ทุกคน​ต่าง​ตกอกตกใจ​ ​เมื่อ​ครู่​เห็น​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​นั่ง​อยู่​บน​ตั่ง​นุ่ม​ยัง​มี​คน​แอบ​กระวนกระวายใจ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​แค่​พูด​ไม่​กี่​ประโยค​ก็​เกือบ​เป็นลม​ล้ม​ลง​ไป​เสีย​ได้

หรง​จิ​่​นที​่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​มุ่น​คิ้ว​พลาง​ยกมือ​ประคอง​เขา​ไว้​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ผ่อน​ลมหายใจ​ก่อน​ตรัส​เสียง​เรียบ​ ​“​รู้จัก​ประคอง​เรา​ด้วย​หรือ​ ​ถือว่า​เรา​ก็​ไม่ได้​เลี้ยง​เจ้า​มา​เสียเปล่า​ตั้ง​หลาย​ปี​”

หรง​จิ​่น​แค่น​เสียง​เบา​ใส่​แต่​ไม่​พูด​อะไร

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​กวาดตา​มอง​เหล่า​องค์​ชาย​ตรงนั้น​อย่าง​หงุดหงิด​เอ่ย​ตรัส​ ​“​ประคอง​เรา​ไป​นอน​พัก​ข้างใน​ ​โวยวาย​จน​เรา​รำคาญ​”

ทันใดนั้น​เสียงร้อง​ไห้​ดังระงม​ก็​หยุด​ลง​ทันที​ ​ภายใน​พระตำหนัก​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบ​ไป​ชั่วขณะ​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​จับ​แขน​ของ​หรง​จิ​่น​แล้ว​หยัด​ตัว​ลุกขึ้น​ก่อน​เดิน​ไป​ทาง​เตียง​หลังฉาก​กั้น​ลม​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​หรง​จิ​่น​ปรนนิบัติ​ใคร​ไม่​เป็น​ ​ถึงแม้​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​จะ​ป่วย​จน​ใกล้​สิ้นใจ​เต็มที​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​ประคอง​เดิน​ไม่ได้เรื่อง​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ที่​คุกเข่า​อยู่​ที่​พื้น​ชั่งใจ​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ลุกขึ้น​เข้าไป​ช่วย​ประคอง​อีก​ฝั่ง​พา​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​เดิน​เข้า​ห้อง​ไป

ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​มอง​เขา​แวบ​หนึ่ง​โดย​ไม่ได้​ปฏิเสธ​อะไร

หลังจาก​เข้า​ห้อง​ไป​ก็​ล้ม​ตัว​ลงนอน​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ตรัส​ว่า​ ​“​จิ​่น​เอ๋อร​์​อยู่​ก่อน​ ​เจ้า​ออก​ไป​เถิด​”

หรง​เหยี​่​ยน​มอง​หรง​จิ​่​นที​่​เผย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​ถึงแม้​จะ​รู้สึก​ไม่พอใจ​บ้าง​แต่​ก็​ทำได้​แค่​เดิน​ออก​ไป​อย่าง​จำใจ​ ​ความจริง​ที่นี่​เป็น​ตำหนัก​หลัง​ของ​พระตำหนัก​ชิง​เหอ​ ​เป็น​ห้อง​บรรทม​ใน​ยาม​ปกติ​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​เตียง​กับ​นอก​ห้อง​มี​แค่​ฉาก​ภาพ​ภูเขา​แม่น้ำ​กั้น​ไว้​เท่านั้น​ ​คน​ด้านนอก​จึง​เห็น​คน​ด้านใน​อย่างชัดเจน​เช่นกัน​ ​ครั้น​ได้ยิน​เสียง​ด้านใน​เช่นนั้น​ก็​อด​คิด​ไม่ได้​ว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​จะ​พูด​ความลับ​อะไร​ที่​ไม่​อยาก​ให้​พวกเขา​รู้​หรือเปล่า

แต่​เพราะ​ความ​สนิทสนม​และ​ท่าที​โปรดปราน​ที่​มีต​่อ​หรง​จิ​่​นข​อง​เสด็จ​พ่อ​เลย​ทำให้​หรง​เหยี​่​ยน​พลอย​อด​คิด​ในแง่​ดี​ไม่ได้

พอ​ออกมา​จาก​ฉาก​กั้น​ลม​ก็​ประสาน​กับ​สายตา​ที่​กำลัง​ขบคิด​ของ​หรง​เซ​วี​ยน​เข้า​พอดี​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​พวกเขา​ทั้งสอง​คน​คิด​ไป​ใน​ทางเดียว​กัน​ ​หรง​เหยี​่​ยน​เดิน​เข้าไป​นั่งคุกเข่า​ลง​ข้าง​หรง​เซ​วี​ยน​ ​ทว่า​ก่อน​คุกเข่า​กลับ​ส่งสายตา​ให้​หรง​ซิง​ที่​กำลัง​นั่งคุกเข่า​อยู่​ด้านหลัง​ ​หรง​ซิง​พยักหน้า​แล้ว​เหลือบมอง​พี่น้อง​ซ้าย​ขวาก​่อน​เคลื่อนตัว​ไป​ด้านหลัง​อย่างเงียบเชียบ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​ขณะที่​สายตา​ของ​ทุกคน​กำลัง​จับจ้อง​ไป​ทาง​ด้านหลัง​ฉาก​กั้น​ลม​นั้น

องค์​ชาย​แปด​และ​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​ที่​เดิมที​คุกเข่า​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​ต่าง​สบตา​กัน​ ​ทว่า​กลับ​ไม่​พูด​อะไร​ราวกับ​มองไม่เห็น​ก็​มิ​ปาน

บรรยากาศ​ภายใน​พระตำหนัก​อึมครึม​จน​น่าประหลาด​ ​กระทั่ง​น่าอึดอัด​จน​ชวน​ให้หาย​ใจ​ไม่​ออก

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท