หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 508 ตัดสินผู้ครองบัลลังก์เบื้องต้น(1)

หวนคืนชะตาแค้น

หร​งมู​่​หลี​่​ส่าย​ศีรษะ​พลาง​ถอนหายใจ​แล้ว​ใช้​สายตา​ซับซ้อน​จับจ้อง​หรง​จิ​่​นที​่​สวม​ชุด​สีดำ​ทั้ง​ร่าง​แวบ​หนึ่ง​ ​ซึ่ง​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​นิ่ง​ขรึม​อย่างมาก​ ​“​อวี​้​อ๋อง​ ​น้อม​รับพระ​ราชโองการ​เถิด​”

“​เสด็จ​ลุง​ ​ท่าน​อ่าน​ผิด​ไป​กระมัง​ ​เสด็จ​พ่อ​จะ​ทรง​ให้​พี่​เก้า​สืบทอด​บัลลังก์​ต่อ​ได้​เช่นไร​!​”​ ​หรง​จิ​่น​ยัง​ไม่ทัน​น้อม​รับพระ​ราชโองการ​ ​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​ที่​คุกเข่า​อยู่​ด้านหลัง​ก็​กระโดด​ออกมา​อย่าง​ข่มอารมณ์​ไว้​ไม่อยู่​อีกต่อไป

หร​งมู​่​หลี​่​สีหน้า​ขรึม​ลง​ ​มุ่น​คิ้ว​กล่าว​ ​“​ข้า​ยัง​ไม่ได้​สายตา​ฝ้าฟาง​ ​หาก​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​ไม่เชื่อ​ก็​มาตร​วจ​สอบ​เอง​ได้​”

องค์​ชาย​สิบเอ็ด​ย่อม​รู้ดี​ว่า​หร​งมู​่​หลี​่​ไม่ได้​อ่าน​ผิด​แน่นอน​ ​เขา​ก็​แค่​ไม่พอใจ​เท่านั้น​ ​อย่า​ว่าแต่​เขา​ไม่พอใจ​เลย​ ​เพราะ​องค์​ชาย​แต่ละคน​ไม่มีใคร​พอใจ​สัก​คน​ ​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​สีหน้า​เปลี่ยน​ยกใหญ่​ ​จ้อง​หรง​จิ​่​นพ​ลัน​เอ่ย​ ​“​เป็น​เจ้า​…​เจ้า​แอบ​แก้​สาสน์​สั่งเสีย​ของ​เสด็จ​พ่อ​!​”

หรง​จิ​่​นลุก​ขึ้น​ยืน​ด้วย​ท่าที​เนิ​่​บนาบ​ ​พลาง​จับจ้อง​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​ตรงหน้า​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​กล่าว​ ​“​แอบ​แก้​หรือ​ ​หลังจากที่​พวก​เจ้า​เข้ามา​ ​เสด็จ​พ่อ​ถึง​ได้​เอา​สาสน์​สั่งเสีย​นี่​ส่ง​ให้​เจี่ยง​ปิน​กับ​มือ​ ​ข้า​จะ​ไป​แก้​ได้​เช่นใด​”

“​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​ต้อง​เป็น​คน​บีบบังคับ​ให้​เสด็จ​พ่อ​เขียน​!​ ​ข้า​ไม่มีทาง​ยอมรับ​ว่า​เสด็จ​พ่อ​ทรง​ยก​บัลลังก์​ให้​เจ้า​สืบทอด​ต่อ​แน่นอน​!​”​ ​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​ตวาด​อย่าง​เกรี้ยว​โกรธ

จากนั้น​พวก​หรง​เหยี​่​ยน​ก็​ค่อยๆ​ ​มองหน้า​กัน​ ​เหมือน​เข้าใจ​ในทันที​ว่า​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​คิด​จะ​ทำ​อะไร​ ​หรง​จิ​่น​ไม่มี​พรรคพวก​ใด​ใน​ราชสำนัก​เลย​ ​หาก​คิด​จะ​ขึ้น​ครองราชย์​อย่างราบรื่น​คง​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​ ​ขอ​แค่​พวกเขา​หารือ​กัน​อย่างเหมาะสม​…​สาสน์​สั่งเสีย​ก็​เป็น​แค่​ของเล่น​ที่​เอาไว้​พรางตา​ประชาชน​คนธรรมดา​เท่านั้น

“​พี่​รอง​ ​ท่าน​คิดเห็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​หรง​เหยี​่​ยน​มอง​พลัน​เอ่ย​ถาม​หรง​เซ​วี​ยน

หลังจาก​ผ่าน​ความ​ทรมาน​มาทั​้​งคืน​ ​หรง​เซ​วี​ยน​จึง​สีหน้า​ซีด​ขาว​ร่างกาย​โงนเงน​นาน​แล้ว​ ​คน​ข้าง​กาย​รีบ​ประคอง​เขา​ขึ้นไป​นั่ง​อีก​ฝั่ง​ ​ถึงแม้​สีหน้า​ของ​หรง​เซ​วี​ยน​จะ​อ่อนแรง​โรยรา​ ​ทว่า​ภายในใจ​กลับ​ชัดเจน​ดี​ เวลานี้​ท่าน​น้า​ยัง​ไม่​ส่งข่าว​คราว​ใด​มา​ ​เกรง​ว่า​เรื่อง​นอกเมือง​ก็​คง​ไม่ได้​ราบรื่น​สัก​เท่าไร​นัก​ ​เอาเถอะ​ ​ถึงอย่างไร​ตน​ก็​ไม่ได้​มีโอกาส​อะไร​อยู่​แล้ว ​หรง​เซ​วี​ยน​เปิด​เปลือกตา​ขึ้น​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​ข้า​ย่อม​น้อม​รับ​ตาม​สาสน์​ของ​เสด็จ​พ่อ​อยู่​แล้ว​”

“​แต่​ทั้งๆ​ ​ที่​สาสน์​สั่งเสีย​นี่​มีปัญหา​ชัดๆ​!​”​ ​องค์​ชาย​หก​ร้อง​แหว​เสียง​สูง

หรง​เซ​วี​ยน​ปิด​ตาลง​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​ข้า​เหนื่อย​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​หารือ​จัดการ​กัน​เถิด​”

เวลานี้​ทุกคน​ถึง​เข้าใจ​ท่าที​ของ​หรง​เซ​วี​ยน​ ​เขา​ไม่ต้องการ​แก่งแย่ง​ตำแหน่ง​ฮ่องเต้​ ​ดังนั้น​ก็​อย่า​เอา​เขา​เข้าไป​ข้องเกี่ยว​ด้วย​ ​สุดท้าย​ใคร​เป็น​ฝ่าย​ชนะ​ ​เขา​ก็​พร้อม​น้อม​รับ​คน​นั้น​ขึ้น​เป็น​ฮ่องเต้

“​ข้า​คิด​ว่า​พี่​สี่​เป็นตัว​เลือก​ผู้สืบทอด​ที่​เหมาะสม​ที่สุด​!​”​ ​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​กล่าว​ ​หลังจาก​พูด​จบ​ ​ภายในใจ​ของ​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​ก็​เกิด​นึก​เจ็บปวด​ขึ้น​มา​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​หรง​เหยี​่​ยน​ไร้​ซึ่ง​ความ​โปรดปราน​ไป​นาน​แล้ว​ ​ขอ​แค่​ให้​เวลา​อีก​สัก​ไม่​กี่​ปี​เขา​คง​ช่วงชิง​อำนาจ​มา​แทน​ได้​ ​เพียงแต่​น่าเสียดาย​ที่​จู่ๆ​ ​เสด็จ​พ่อ​ก็​สิ้นพระชนม์​ไป​ ​ทว่า​ตน​ยัง​ไม่​แข็งแกร่ง​พอ​ ​ภายใต้​สถานการณ์​ที่​จนปัญญา​เช่นนี้​เลย​ทำได้​แค่​สนับสนุน​คนที​่​ดู​มี​ศักยภาพ​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ในเวลานี้​แทน

“​ข้า​เอง​ก็​สนับสนุน​พี่​สี่​เช่นกัน​!​”​ ​องค์​ชาย​ห้า​แสดงท่าที​เสียง​ขรึม

ชั่วขณะ​นั้น​ภายใน​พระตำหนัก​พลัน​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​ ​ราวกับ​ทุกคน​ลืม​ไป​พร้อมกัน​แล้ว​ว่า​ร่าง​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​และ​สาสน์​สั่งเสีย​สีเหลือง​อร่าม​ยัง​วาง​ไว้​ตรงนั้น​ ​กระทั่ง​แม้แต่​หรง​จิ​่น​ยัง​ถูก​หลงลืม​ไป​ ​ในเมื่อ​ใน​สายตา​ของ​คนอื่นๆ​ ​หรง​จิ​่น​ไม่น่า​หาเรื่อง​ด้วย​เลย​จริงๆ​ ​แต่​นั่น​เป็น​เพราะ​หรง​จิ​่​นมี​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​คอย​หนุนหลัง​ ​บัดนี้​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ทรง​สิ้นพระชนม์​แล้ว​ ​เขา​จะ​สามารถ​ฟื้นคืนชีพ​มาช​่วย​หนุนหลัง​เขา​ได้​อีก​หรือ​ ​พอ​ไม่มี​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​นอกจาก​ตำแหน่ง​อวี​้​อ๋อง​ค้ำหัว​แล้วก็​ไม่​เหลือ​อะไร​อีก​ ​เพราะเหตุนี้​องค์​ชาย​สิบเอ็ด​ถึง​กล้า​สงสัย​เรื่อง​สาสน์​สั่งเสีย​อย่างเปิดเผย​เช่นนั้น

หร​งมู​่​หลี​่​และ​หร​งมู​่​เฟิง​สบตา​กัน​ ​แต่​นั่ง​อยู่​อีก​ฝั่ง​โดย​ไม่​ปริปาก​พูด​อะไร​ ​พวกเขา​เคย​เป็น​องค์​ชาย​มาก​่อน​ ​ฉะนั้น​เขา​จะ​ไม่เข้าใจ​ทุก​การกระทำ​ของ​พวก​องค์​ชาย​ได้​เช่นไร​ ​เพียงแต่​ตอนนั้น​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​แข็งแกร่ง​เกินไป​ ​พี่น้อง​จึง​ไร้​หนทาง​จะ​ช่วงชิง​กับ​เขา​ได้​ ​ทว่า​สถานการณ์​ของ​หรง​จิ​่น​ในเวลานี้​กลับ​แตกต่าง​กัน​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​กระทั่ง​หร​งมู​่​หลี​่​ยัง​นึก​คลางแคลงใจ​ใน​สายตา​และ​ความลำเอียง​ใน​การ​เลือก​ผู้สืบทอด​บัลลังก์​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​อย่าง​อด​ไม่ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​เหล่า​องค์​ชาย​ผู้สืบทอด​ควร​พึงมี

สำหรับ​เหล่า​องค์​ชาย​แล้ว​ ​ตำแหน่ง​ฮ่องเต้​เป็น​สิ่ง​ที่​ใกล้​เพียง​เอื้อม​แต่กลับ​มี​ช่องว่าง​มา​ขวางกั้น​ไว้​อยู่

หร​งมู​่​เฟิ​งก​วาด​ตาม​อง​หรง​จิ​่​นที​่​นั่ง​เงียบกริบ​ไม่​พูด​อะไร​อยู่​อีก​ฝั่ง​พลาง​ขบคิด​บางอย่าง​ ​องค์​ชาย​เก้า​เหมือน​ไม่ได้​อารมณ์​ฉุนเฉียว​ขี้​หงุดหงิด​อย่างที่​ใครต่อใคร​ต่าง​เล่าลือ​กัน​ ​หาก​ไม่รู้​ความ​ใด​เลย​คง​ดื้อรั้น​ระเบิดอารมณ์​ใส่​ไป​แล้ว​ ​กระทั่ง​พอได้​ยิน​เหล่า​องค์​ชาย​พูด​เช่นนี้​ย่อม​ไฟ​โทสะ​ปะทุ​ ​แต่​หรง​จิ​่​นก​ลับ​เอาแต่​ก้มหน้า​นั่ง​อยู่​อีก​ฝั่ง​และ​มอง​พื้น​นิ่ง​ไม่​พูด​อะไร​ ​เหล่า​องค์​ชาย​ต่าง​มัว​แต่​กำลัง​แก่งแย่ง​บัลลังก์​ว่า​สรุป​แล้ว​ควร​เป็น​ของ​ใคร​โดย​ไม่สน​ใจ​หรง​จิ​่น​สักนิด​ ​แต่​หร​งมู​่​เฟิ​งก​ลับ​หลักแหลม​สามารถ​สัมผัส​อันตราย​ได้​จาก​ความ​นิ่งเงียบ​เช่นนี้​ของ​เขา

หร​งมู​่​เฟิ​งดึง​พี่ใหญ่​ของ​ตน​โดย​ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​ ​สื่อ​ให้​เขามอง​หรง​จิ​่น​ ​หร​งมู​่​หลี​่​มองตาม​สายตา​ไป​ก่อน​จะ​ชะงัก​เช่นกัน​ ​ไม่นาน​หร​งมู​่​หลี​่​ก็​กระแอม​ไอเสียง​เบา​ก่อน​เอ่ย​ว่า​ ​“​สาสน์​สั่งเสีย​อยู่​ตรงนี้

ทุกคน​ต่าง​ผงะ​ ​เวลานี้​ถึง​รู้​ว่า​พวกเขา​ถกเถียง​กัน​เสียงดัง​ดุเดือด​ ​กระทั่ง​โยน​ตัวเอก​ทิ้ง​ไว้​อีก​ฝั่ง​ ​จากนั้น​ก็​มอง​หรง​จิ​่น​แวบ​หนึ่ง​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ ​ทว่า​ยัง​ไม่ทัน​พูด​อะไร​ ​หรง​ซิง​ก็​เดิน​เข้ามา​ด้วย​ฝีเท้า​อัน​รวดเร็ว​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความ​ได้ใจ​ฮึกเหิม​ ​กล่าว​เสียง​โอหัง​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่ยอมรับ​ที่​เสด็จ​พ่อ​ยก​บัลลังก์​ให้​เขา​สืบทอด​!​ ​เสด็จ​พ่อ​ทรง​ยก​บัลลังก์​ให้​พี่​สี่​ต่างหาก​!​”

ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​นอก​ประตู​ก็​มีเสียง​ฝีเท้า​พร้อมเพรียง​ดัง​แว่ว​มาจาก​ด้านนอก​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​มี​คน​ไม่น้อย​กำลัง​ล้อม​พระตำหนัก​ชิง​เหอ​ไว้​อยู่​ ​หร​งมู​่​หลี​่​สีหน้า​เปลี่ยน​พลัน​เอ่ย​ ​“​องค์​ชาย​สิบ​ ​เจ้า​กำลัง​ทำ​อะไร​กัน​”

หรง​ซิง​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​เปล่า​นี่​ ​เสด็จ​พ่อ​ทรง​สิ้นพระชนม์​แล้ว​ ​ข้า​ก็​แค่​เคลื่อน​กองกำลัง​อวี​่​หลิน​มาคุ​้​มกั​นก​็​เท่านั้น​”

“​น้อง​สิบ​ช่าง​เหิมเกริม​นัก​!​ ​บังอาจ​เคลื่อน​กองกำลัง​อวี​่​หลิน​โดยพลการ​เลย​หรือ​!​”​ ​องค์​ชาย​หก​ตวาด​ขึ้น​ ​เขา​เป็น​พวก​เดียว​กับ​จวง​อ๋อง​ ​หลังจาก​จวง​อ๋อง​ถูก​วางยา​ก็​คิด​ว่า​ตน​คงมี​โอกาส​แทนที่​หรง​เซ​วี​ยน​ได้มา​ตลอด

หรง​ซิง​เลิก​คิ้ว​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ เวลานี้​จะ​มี​ใคร​มาคิด​ถึง​เรื่อง​กฎ​บ้าบอ​อีก​เล่า​ ​ใคร​แย่ง​อำนาจ​ทางการทหาร​ได้​ก่อน​ ​คน​นั้น​ก็​เป็น​ฝ่าย​ควบคุม​วัง​หลวง​ได้​ก่อนจากนั้น​ก็​จะ​กลายเป็น​ผู้ชนะ​ ​และ​ตอนนี้​เห็นได้ชัด​ว่า​ชัยชนะ​เป็น​ของ​พวกเขา​ “​ข้า​ก็​แค่​มาคุ​้​มกัน​ ​พี่​หก​พักผ่อน​ดี​ๆ​ ​เถิด​ ​อีก​เดี๋ยว​จะ​ได้​มี​แรง​ถวายบังคม​ให้​เสด็จ​พ่อ​อย่างไรเล่า​ ​หาก​มีพี​่​น้อง​คนใด​ไม่พอใจ​ก็​ลุกขึ้น​พูด​มา​เลย​”

ทุกคน​เงียบกริบ​ ​สีหน้า​ดุดัน​ของ​หรง​ซิง​บ่งบอก​ทุกอย่าง​หมด​แล้ว

ทันใดนั้น​น้ำเสียง​เย็นยะเยือก​เสียง​หนึ่ง​ก็​ดัง​ขึ้น​ท่ามกลาง​พระตำหนัก​ ​“​หรง​ซิง​ ​เจ้า​คิด​ก่อ​กบฏ​หรือ​”

ชั่ว​วินาที​่​นั้น​ภายใน​พระตำหนัก​ตก​อยู่​ใน​ความสงบ​ ​สักพัก​หรง​ซิง​ถึง​เลื่อน​สายตา​ไป​มอง​ตำแหน่ง​ที่​หรง​จิ​่​นอยู​่​อย่าง​ฉงน​ ​เลิก​คิ้ว​ยิ้มเยาะ​กล่าว​ ​“​พูด​กับ​ข้า​อยู่​หรือ​”

หรง​จิ​่น​ยิ้ม​เย้ยหยัน​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ ​“​องค์​ชาย​ที่​ยัง​ไม่​ถูก​แต่งตั้ง​เป็น​อ๋อง​ ​แต่กลับ​มีหน้า​ใช้​สรรพนาม​ที่​อ๋อง​ใช้​กัน​?​”

“​หรง​จิ​่น​!​ ​เจ้า​ใช้ชีวิต​เบื่อ​แล้ว​หรือ​อย่างไร​!​”​ ​หรง​ซิง​ตวาด​ขึ้นเสียง​ดัง​ ​จากนั้น​ก็​ชักดาบ​ยาว​ที่​นำ​ติดตัว​มาชี​้​ไป​ทาง​หรง​จิ​่น​ด้วย​ความโมโห​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​เหล่า​องค์​ชาย​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ต่าง​ให้​ความเกรงใจ​ต่อ​หรง​จิ​่น​ ​ทว่า​ความเกรงใจ​และ​ความ​อ่อนข้อ​ให้​ไม่ได้​เกิด​จาก​ตัว​ของ​หรง​จิ​่น​เอง​ ​แต่​เป็น​เพราะ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​ตอนนั้น​หรง​ไหว​ยั่วยุ​หรง​จิ​่น​ ​พวกเขา​ก็​ทำได้​แค่​แอบ​เย้ย​ว่า​เขา​โง่เขลา​ ​ใช่​ว่า​พวกเขา​ไม่​อยาก​ต่อกร​กับ​หรง​จิ​่น​ ​แต่​เป็น​เพราะ​พวกเขา​รู้จัก​อดทน​มากกว่า​หรง​ไหว​อยู่​มาก​ ​แต่​ตอนนี้​คนที​่​กดหัว​เขา​ไว้​ดั่ง​ภูผา​สูงใหญ่​อย่าง​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ได้​ตาย​ไป​แล้ว​ ​เหตุใด​พวกเขา​ยัง​ต้อง​ทน​หรง​จิ​่​นอี​กต​่อ​ไป​เล่า

ดังนั้น​ถึงแม้​หรง​ซิง​จะ​ไร้มารยา​ทกับ​หรง​จิ​่น​ ​แต่​เหล่า​องค์​ชาย​ที่อยู่​ ณ​ ​ที่​นั้น​กลับ​ไม่ได้​แสดงท่าที​สนใจ​แต่อย่างใด​ ​แม้แต่​คนที​่​ระมัดระวัง​ตัวอย่าง​หรง​เหยี​่​ยน​ยัง​ปล่อย​เลยตามเลย​ ​เวลานี้​เขา​ให้ความสนใจ​ว่า​สาสน์​ราชโองการ​และ​บัลลังก์​ที่อยู่​ใน​พระตำหนัก​ชิง​เหอ​ใคร​จะ​ได้​เป็น​คน​นั่ง​มากกว่า​กัน​แน่

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท