หวนคืนชะตาแค้น – ตอนที่ 534 ทูตจากแคว้นหวา (4)

หวนคืนชะตาแค้น

“​อัครมหาเสนาบดี​กู้​ถ่อมตน​เกินไป​แล้ว​”​ ฝู​อ๋อง​ยิ้ม​เอ่ย

ถึงอย่างไรฝู​อ๋อง​ก็​รู้สึก​ดี​กับ​หนุ่มน้อย​ชุด​ขาว​ตรงหน้า​อยู่​บ้าง​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​กู้​หลิว​อวิ​๋น​หรือ​จัง​ชิง​ ​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​เมืองหลวง​แคว้น​หวา​ครานั้น​กระพือข่าว​ใหญ่โต​เกินไป​จริงๆ​ ​แต่​ถึงอย่างไร​ก็​ไม่มี​ความเกี่ยวข้อง​อะไร​กับ​เขา​ ​ในทางกลับกัน​เพราะ​เหตุการณ์​ใน​ปีนั​้น​ถึง​กล่าว​ได้​ว่า​เป็น​มหันตภัย​ครั้ง​ใหญ่​ของ​เชื้อพระวงศ์​แคว้น​หวา​ ​สุดท้าย​ผลประโยชน์​กลับ​ตก​มา​อยู่​ใน​มือ​ของ​องค์​ชาย​คนโต​ที่​ไม่​เป็น​ที่​โปรดปราน​และ​ถูก​มองข้าม​อย่าง​เขา​เสีย​ได้​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​เหล่า​องค์​ชาย​แคว้น​หวา​เจ็บป่วย​ล้มตาย​ไป​ ​เรื่อง​เป็นตัวแทน​ทูต​มา​แคว้น​เย​่ว​์​ครั้งนี้​ก็​คง​ไม่ใช่​เขา

ในขณะเดียวกัน​มู่​ชิง​อี​เอง​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​เกลียดชังฝู​อ๋อง​ผู้​นี้​แต่อย่างใด​ ​ในเมื่อ​ช่วง​นั้น​องค์​ชาย​ที่​มี​ความสัมพันธ์​ซึ่ง​นับว่า​ไม่​แย่​กับ​พี่ชาย​ของ​นาง​ก็​มี​เพียง​เขา​คนเดียว​เท่านั้น​ ​เพราะ​แต่ไหนแต่ไรมา​ไม่ได้​รับ​ความสำคัญ​จึง​ไม่มี​ความแค้น​ใด​กับ​ตระกูล​กู้​ ​บางที​อาจ​เพราะ​สิ่งแวดล้อม​ที่​เติบโต​มาท​่า​นอ​๋​อง​ผู้​นี้​จึง​ไม่มี​ท่าที​ผยอง​โอหัง​เฉกเช่น​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​ทว่า​กลับ​เข้ากับ​คนอื่น​ได้​ง่าย​ซึ่ง​หา​ได้​ยาก​นัก

“​ท่าน​อ๋อง​เดินทาง​รอนแรม​มา​ไกล​เหนื่อย​มาต​ลอด​ทาง​ ​หลิว​อวิ​๋น​ไม่​ขอ​รบกวน​ท่าน​อ๋อง​แล้ว​ดีกว่า​ ​เชิญ​ท่าน​อ๋อง​พักผ่อน​ก่อน​แล้ว​พรุ่งนี้​เช้า​ค่อย​เข้าเฝ้า​ฝ่า​บาท​เถิด​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เอ่ย​พร้อม​ลุกขึ้น​ยืน

รู้​ว่า​ธุระ​ของ​เขา​เยอะ​ ฝู​อ๋อง​จึง​ไม่ได้​รั้ง​แต่อย่างใด​ ​ลุกขึ้น​ยืน​ตาม​แล้ว​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ไม่​ไป​ส่ง​แล้วกัน​”​ ​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​เชิญ​ท่าน​อ๋อง​พัก​เถิด​”

“​ข้า​ไป​ส่ง​อัครมหาเสนาบดี​กู้​เอง​”​ ​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ลุกขึ้น​ด้วย​ท่าที​เคร่งขรึม​พร้อม​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ฝู​อ๋อง​เอง​ก็​ไม่ได้​คัดค้าน​อะไร​ ​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​”

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บางอย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​เพียงแค่​เอ่ย​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ต้อง​ลำบาก​อาน​ซีจ​วิ​้​นอ​๋​อง​แล้ว​”

หลังจาก​ร่ำลาฝู​อ๋อง​ ​พวกเขา​สาม​คน​ก็​เดิน​ออกจาก​สถานทูต​อย่าง​เงียบๆ​ ​หลังจาก​ออกจาก​ประตู​มา​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ก็​ไม่มี​ท่าที​จะ​กลับ​เข้าไป​แต่อย่างใด​ ​มู่​ชิง​อี​หันไป​มอง​เซี​่ย​ซิวจู​่​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ตน​แวบ​หนึ่ง​พลาง​ลอบ​ถอนหายใจ​ ​เพียงแค่​แวบเดียว​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ยัง​จำ​นาง​ได้​ ​แล้ว​เหตุใด​จะ​จำ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ที่​เติบโต​มาด​้ว​ยกั​นมิ​ได้​เล่า​ ​นาง​จึง​เดิน​ก้าว​นำหน้า​มุ่ง​ไป​ตรงจุด​ที่​คน​ไม่​พลุกพล่าน​อย่าง​ช้าๆ

“จ​วิ​้​นอ​๋​อง​?​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​อยาก​พูด​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​หลังจาก​เดิน​มา​ใน​ตรอก​เปลี่ยว​มุม​หนึ่ง​ ​มู่​ชิง​อีก​็​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ก่อน​หันไป​เอ่ย​ถาม​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ ​จ้าว​จื่อ​อวี​้​เลิก​คิ้ว​มอง​มู่​ชิง​อี​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ตกลง​เจ้า​เป็น​ใคร​กัน​แน่​ ​จัง​ชิง​หรือ​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ ​หรือ​…​ไม่ใช่​ทั้งคู่​”​ ​คนอื่น​อาจ​ไม่รู้​ ​จ้าว​จื่อ​อวี​้​อยู่​เมืองหลวง​แคว้น​หวามา​นาน​ ​ตอนนั้น​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ตระกูล​จ้าว​และ​ตระกูล​กู้​ก็​ไม่ได้​แย่​ ​เหตุใด​จะ​ไม่รู้​เรื่อง​ที่​กู้​หลิว​อวิ​๋​นอา​ยุ​สั้น​เล่า

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​บัดนี้​ข้า​อยู่​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​ ​ข้า​เป็น​ใคร​แล้ว​อาน​ซีจ​วิ​้​นอ​๋​อง​จะ​สนใจ​ไป​ทำไม​กัน​ จ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​ท่าน​คิด​เช่นนั้น​หรือไม่​เล่า​”

จ้าว​จื่อ​อวี​้​แค่น​เสียง​ ​ฉับพลัน​ก็​เหวี่ยง​มือ​หมาย​ฟาด​ไป​ทาง​มู่​ชิง​อี​ ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ที่อยู่​ด้านหลัง​ดึง​ตัว​มู่​ชิง​อี​ออก​ใน​คราว​เดียว​ก่อน​รับมือ​กับ​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ด้วยมือ​เดียว​ ​ทว่า​ไม่ได้​ตอบโต้​กลับ​ ​ชั่วขณะ​นั้น​ก็​ถูก​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ไล่ต้อน​ไป​ด้านหลัง​ ​แต่​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ไม่ได้​ต้อน​จนมุม​เสียที​เดียว​ ​ขณะที่​เหวี่ยง​มือ​หมาย​ตบ​ไป​ที่​หัวใจ​ของ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​จู่ๆ​ ​ก็​ชะงัก​มือ​กลางคัน​ ​จับจ้อง​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ก่อน​เอ่ย​เสียงเย็น​ชา​ ​“​เป็น​ท่าน​จริงๆ​ ​ด้วย​”

เซี​่ย​ซิวจู​๋​ถอนหายใจ​ ​ยกมือ​ขึ้น​ถอด​หน้ากาก​บน​ใบหน้า​ออก​ ​ใบหน้า​สะอาดหมดจด​จับจ้อง​ไป​ทาง​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ด้วย​สายตา​ซับซ้อน​ ​ครั้น​เห็น​ใบหน้า​ของ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ ​แววตา​ของ​จ้าว​จื่อ​อวี​้​ก็​มี​ประกาย​ความสบายใจ​ผุด​ขึ้น​มา​ ​แต่​ไม่นาน​ก็​ถูก​แทนที่​ด้วย​ความโกรธ​ ​แค่น​ยิ้ม​มอง​ไป​ทาง​เซี​่ย​ซิวจู​๋​เอ่ย​ ​“​ดีเหลือ​เกิน​ ​เป็น​ถึง​หัวหน้า​องครักษ์​วังหน้า​แคว้น​หวา​ ​เป็น​ถึง​ศิษย์​พี่​ของ​อาน​ซีจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​ทว่า​กลับ​วิ่ง​แจ้น​มา​เป็น​องครักษ์​ให้​คนอื่น​ ​ตอนนั้น​ท่าน​เอง​ก็​จงใจ​ปล่อย​พวกเขา​ไป​ด้วย​กระมัง​”

เซี​่ย​ซิวจู​๋​เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ ​“​ศิษย์​น้อง​…​”​ ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ละอายใจ​ต่อ​เรื่อง​นี้​อยู่​ไม่น้อย​ ​ตอนนั้น​เขา​ปล่อย​พวก​มู่​ชิง​อี​ไป​ ​อีกทั้ง​ยัง​สร้างเรื่อง​หนักใจ​ให้​จ้าว​จื่อ​อวี​้​พอควร

จ้าว​จื่อ​อวี​้​มอง​เขา​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ข้า​ลืม​ไป​ ​ตอนนี้​ท่าน​ไม่ได้​เป็น​แค่​องครักษ์​ติดตาม​ ​แต่​ท่าน​เป็น​ถึง​หัวหน้า​กองทัพ​ประจำเมือง​หลวง​แห่ง​แคว้น​เย​่ว​์​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​องค์​ใหม่​ทำ​อะไร​ไร้​กฎเกณฑ์​ ​หาก​ท่าน​ยัง​เห็น​ข้า​เป็น​ศิษย์​น้อง​อยู่​ละ​ก็​ ​หลัง​จบ​พิธี​ขึ้น​ครองราชย์​ก็​กลับ​ไป​กับ​ข้า​เสีย​”

เซี​่ย​ซิวจู​๋​ส่าย​ศีรษะ​เอ่ย​ ​“​ไม่ได้​”

ในเมื่อ​เขา​รับปาก​กับ​หรง​จิ​่น​แล้ว​ว่า​จะ​คอย​ปกป้อง​มู่​ชิง​อี​ย่อม​ไม่มีทาง​ผิดคำพูด​เด็ดขาด​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เขา​ตอบแทน​บุญคุณ​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ไป​แล้ว​ ​เขา​ไร้​หนทาง​จะ​เห็นพ้อง​ต้อง​กับ​วิธี​จัดการ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​หาก​เทียบ​กับ​เป็น​หัวหน้า​องครักษ์​ที่​ได้รับ​ความ​ยำเกรง​จาก​ทุกคน​ยาม​อยู่​ใน​วัง​หลวง​แคว้น​หวา​ ​เขา​กลับ​ชอบ​ใช้ชีวิต​อย่างที่​ตัวเอง​ชอบ​ใน​แคว้น​เย​่ว​์​มากกว่า​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​มู่​ชิง​อี​หรือ​หรง​จิ​่น​ต่าง​ไม่เคย​มอง​เขา​เป็น​องครักษ์​เลย​สักนิด​ ​อีกทั้ง​ยัง​ให้​อิสระ​เขา​มากมาย​ ​ถึงแม้​จะ​ต้อง​ใช้ชีวิต​โดย​พึ่งพา​คนอื่น​ ​แต่​เซี​่ย​ซิวจู​๋​กลับ​รู้สึก​มีอิสระ​และ​เป็นสุข​อย่างที่​ไม่เคย​มีมาก​่อน​ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​ ​เพียงแต่​…​รู้สึก​ผิด​ต่อ​อาจารย์​ที่​คอย​ชี้แนะ​ตน​มาต​ลอด​ ​รวมถึง​ศิษย์​น้อง​ที่​เป็นห่วง​ตน​มาต​ลอด​ด้วย

จ้าว​จื่อ​อวี​้​โมโห​ถึง​ขีดสุด​ ​“​ช่าง​ไร้ยางอาย​นัก​ ​เช่นนั้น​ก็​ลงมือ​เถิด​”

“​เจ้า​ไม่ใช่​คู่ต่อสู้​ของ​ข้า​”​ ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ก้มหน้า​ลง​พร้อม​เอ่ย​เสียง​เรียบ

จ้าว​จื่อ​อวี​้​แค่น​เสียงเย็น​ชา​ ​ก่อน​จะ​ชักดาบ​พุ่ง​ใส่​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​เบี่ยง​ตัว​หลบ​ ​จากนั้น​พวกเขา​ทั้งสอง​คน​ก็​ปะทะ​ฝีมือ​กัน​อีกครั้ง​ ​ครั้น​เห็น​พวกเขา​สอง​คน​ฟาดฟัน​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ใน​ตรอก​เล็ก​ๆ​ ​เช่นนั้น​ ​มู่​ชิง​อี​จึง​ทำได้​เพียง​พิง​ข้าง​กำแพง​ดูกา​รต​่​อสู​้​อย่าง​เบื่อหน่าย

“​เอ๊ะ​ ​เหตุใด​ถึง​สู้​กัน​เล่า​”​ ​บน​โลก​นี้​ไม่มีวัน​ขาด​คน​ไร้สีสัน​แน่นอน​ ​ไม่นาน​บุคคล​ลึกลับ​ที่​ชอบ​ผลุบ​ๆ​ ​โผล่​ๆ​ ​อย่าง​คุณชาย​เหวิน​หวา​ไท่​สื่อ​เหิง​ที่​ไม่รู้​ว่า​หนีหาย​ไป​ไหน​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ก็​กระโดด​ลงมา​จาก​หลังคา​จรด​เท้า​ลง​ข้าง​กาย​มู่​ชิง​อี​พอดิบพอดี​พร้อม​ยิ้ม​ตาหยี

“​…​…​”

“​อ้าว​ ​แม่นาง​มู่​ ​ไม่​เจอกัน​นาน​”​ ​คุณชาย​ไท่​สื่อ​เหิง​ไม่รู้​สึก​ผิด​เลย​สักนิด​ ​แถม​ยัง​ทักทาย​นาง​อย่าง​คุ้นเคย​ ​ทำเอา​มู่​ชิง​อี​หมด​คำพูด​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​มอง​ชุด​คลุม​สีขาว​ปัก​ลายเมฆ​สีเงิน​บน​กาย​แวบ​หนึ่ง​ ​“​คุณชาย​ไท่​สื่อ​ ​คนฉลาด​มัก​อยู่​ได้​ไม่นาน​”​ ​เหมือนว่า​นาง​จะ​ไม่เคย​บอก​ตัวตน​ให้​ไท่​สื่อ​เหิง​รู้มาก​่อน​ ​แต่​พอ​เห็นท่า​ที​ที่​เขา​แสดงออก​มารา​วกับ​ว่า​มัน​ควร​เป็น​เช่นนั้น​ ​ดูท่าทาง​ไม่ใช่​ว่า​เพิ่ง​รู้​แน่นอน

ไท่​สื่อ​เหิง​ลูบ​จมูก​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​คือ​ว่า​…​เมื่อก่อน​แม่นาง​มู่​ยัง​มีแก่ใจ​ต้อนรับ​ข้า​ ​เหตุใด​เวลานี้​ถึง​ทำหน้าทำตา​ไร้อารมณ์​เช่นนี้​เล่า​ ​หรือ​ข้า​จะ​ขอเวลา​ไตร่ตรอง​ไม่ได้​เลย​หรือ​”

มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​กล่าว​ ​“​การไตร่ตรอง​ของ​คุณชาย​ไท่​สื่อ​คือ​การพลิก​ฟ้า​พลิกแผ่นดิน​ตาม​สืบ​ตัวตน​ของ​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​”

“​แหะๆ​”​ ​คุณชาย​ไท่​สื่อ​ยิ้ม​เจื่อน​ ​ไม่​พลิก​ตาม​สืบ​ได้ที่​ไหน​กัน​ ​ติดตาม​เจ้าเมือง​เทียน​เช​วี​ยกับ​ติดตาม​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​ถึงแม้​จะ​ต้อง​เป็น​วัว​เป็น​ม้า​ให้​เขา​เหมือนกัน​ ​แต่​ค่าตอบแทน​กับ​อนาคต​แตกต่าง​ราว​ฟ้า​กับ​เหว​ ​ไท่​สื่อ​เหิง​ไม่มีทาง​พูด​แน่นอน​ ​เขา​ใช้เวลา​ตั้ง​สอง​สาม​เดือน​กว่า​จะ​สืบ​เรื่อง​ทุกอย่าง​จน​กระจ่าง​ซึ่ง​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​เลย​ ​กระทั่ง​ตกตะลึง​กับ​สอง​คน​นี้​ไป​พักใหญ่​ ​สุดท้าย​พอ​ขบคิด​ได้​ว่า​หาก​วันใด​พวกเขา​สอง​คน​รู้​ว่า​ตน​ตาม​สืบ​เบื้องหลัง​พวกเขา​ละ​ก็​ต้อง​ลงมือ​ฆ่าปิดปาก​ตน​แน่นอน​ ​หลังจาก​คุณชาย​เหวิน​หวา​เก็บตัว​ขบคิด​มาสาม​วัน​สาม​คืน​แล้ว​เลย​ตัดสินใจ​เป็น​ฝ่าย​มา​ขอ​เข้าพวก​อย่าง​รู้​งาน​จะ​ดีกว่า

มู่​ชิง​อี​คลี่​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​ความจริง​ข้า​จะ​บอกว่า​เห็นแก่​มิตรภาพ​ระหว่าง​ท่าน​กับ​พี่สาว​ ​หาก​คุณชาย​ไท่​สื่อ​ไม่เต็มใจ​ก็ช่าง​เถอะ​ ​แต่​…​ใคร​ใช้​ให้​คุณชาย​ไท่​สื่อ​อยากรู้อยากเห็น​เกินไป​เล่า​ ​พอดี​เลย​ ​ตอนนี้​ใน​มือ​ข้ามี​ตำแหน่ง​หนึ่ง​ว่าง​อยู่​ ​คุณชาย​ไท่​สื่อ​ต้อง​สนใจ​อย่างแน่นอน​”

ไท่​สื่อ​เหิ​งด​วง​ตา​เป็นประกาย​ ​“​อาลักษณ์​บันทึก​ประวัติศาสตร์​หรือ​”

อาลักษณ์​บันทึก​ประวัติศาสตร์​ก็ดี​สิ​ ​สิ่ง​สุดยอด​ของ​อาลักษณ์​บันทึก​ประวัติศาสตร์​ก็​คือ​สามารถ​บันทึก​เรื่อง​ใน​ปัจจุบัน​ถ่ายทอด​ให้​คนรุ่นหลัง​ได้​ ​แถม​ยัง​ใช้​สถานะ​ของ​เขา​ขุดคุ้ย​ความลับ​ที่​ใครๆ​ ​ต่าง​ไม่รู้​ได้​ด้วย​ ​จาก​สมญานาม​ผู้รอบรู้​ใน​ยุทธ​ภพ​ก็​เลื่อนขั้น​เป็น​ผู้รอบรู้​ใน​ใต้​หล้า​แทน

มู่​ชิง​อี​ผุด​รอยยิ้ม​เย็นชา​ข้าง​มุม​ปาก​ ​“​ขุนนาง​ฝ่าย​ตรวจการ​ต่างหาก​ ​วันข้างหน้า​คง​ต้อง​ลำบาก​คุณชาย​ไท่​สื่อ​แล้ว​”

หวนคืนชะตาแค้น

หวนคืนชะตาแค้น

Status: Ongoing
ความงาม…ไหวพริบ… ล้วนเป็นหมากในเกมกระดานของนาง เพื่อช่วยเหลือพี่ชายและกอบกู้ตระกูล แม้หัวใจนางก็พร้อมยอมแลก!ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้ามีชีวิตอยู่…ความแค้นและความเกลียดชังเอย…แม้ตายเก้าครั้งก็ยากจะลืมเลือน…ความยุติธรรมหมดไป…เหตุใดแคว้นยังไม่สูญสิ้น? ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกันจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมและยศฐากลับร่วงหล่นสู่โคลนตมเพราะแผนร้ายของคนใกล้ตัวบ้านแตกสาแหรกขาด เสียทั้งเพื่อนสนิทและคู่หมั้นไปในคราวเดียวในงานประมูลคืนแรกของตน หญิงสาวฝังคมมีดลงบนร่างศัตรูและเผาร่างในกองเพลิงเมื่อฟื้นตื่นมาอีกครั้งนางกลับกลายเป็น มู่ชิงอี ญาติผู้น้องผู้อ่อนแอไปเสียแล้วเมื่อได้มีชีวิตกลับมาอีกครั้งนางจะทวงทุกสิ่งที่เคยเป็นของตนคืนมาคืนความยุติธรรมให้ตระกูลกู้ด้วยสองมือของนางเอง!“ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าคือมู่ชิงอีและคือกู้อวิ๋นเกอด้วยเช่นกัน ความอยุติธรรมทั้งหลายข้าจะคืนมันกลับไปทั้งหมด!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท