Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว – บทที่ 153 คุณเกลียดผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 153 คุณเกลียดผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

บทที่ 153 คุณเกลียดผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

ซูโย่วอี๋ไม่สนใจเจ้าสุนัขจิ้งจอก แต่ยังคงจมอยู่กับความรู้สึกผิดหวัง “นี่กี่ชั่วยามแล้ว?”

สุนัขจิ้งจอกมองเธออย่างประหลาดใจก่อนตอบ [เดี๋ยวนี้คุณพูดจาดูโบราณขนาดนี้เลยเหรอ? ตอนนี้ใกล้จะเช้าแล้ว]

ซูโย่วอี๋ยิ้มให้กับตัวเอง เธอหมกมุ่นมากเกินไปแล้วจริง ๆ

เธอเปิดดูโทรศัพท์ก็พบว่ามีคนมากมายติดต่อหาเธอ

คนที่ติดต่อหาเธอมากที่สุดคือลู่เฉิน ทั้งวิดีโอคอลและส่งข้อความมาด้วย

ซูโย่วอี๋สงสัย “นายหลอกฉันเหรอ?”

สุนัขจิ้งจอกพูดด้วยน้ำเสียงขี้เกียจ [เรื่องแค่นี้เอง ไม่รู้หรอว่าฉันเป็นใคร]

และนอกจากนี้ สุ่ยเวยและเหมยเหมยโทรมาหาเพื่อติดต่อเรื่องรายละเอียดการออดิชั่น สุนัขจิ้งจอกตอบกลับไปเพียงประโยคเดียวว่า ‘เตรียมตัวสัมภาษณ์อย่างจริงจัง ห้ามรบกวน’

จู่ ๆ เจ้าสุนัขจิ้งจอกก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ท่าทีดูจริงจังขึ้นมา [มีเรื่องหนึ่งที่คุณควรรู้เอาไว้]

[ซูหยินออดิชั่นบทนางเอกเรื่องรักในฝันไม่ผ่าน]

ซูโย่วอี๋เงยหน้าขึ้น “นายว่าอะไรนะ?”

เธอเปิดดูวีแชท พบว่าเมื่อสองวันก่อนซูหยินส่งข้อความเสียงมาหาเธอ [ที่รัก ฉันแย่แล้ว]

หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงอะไรอีก

ซูโย่วอี๋ไถโทรศัพท์ หลังจากกระวนกระวายอยู่พักหนึ่งเธอก็โทรหาซูหยิน

เธอโทรติด แต่กลับไม่มีคนรับสายเลย

หรือจะเข้านอนแล้ว

ซูโย่วอี๋ตอบกลับข้อความ [ขอโทษนะหยินหยิน หลายวันมานี้ฉันปิดโทรศัพท์เลยไม่ทันได้ตอบข้อความของเธอ ไม่ว่าเธอจะได้บทนั้นหรือไม่ ในสายตาของฉันเธอเก่งมากที่สุด การคัดเลือกอยู่ที่ความชอบของกรรมการ ไม่ได้แสดงถึงความสามารถทั้งหมดสักหน่อย ดังนั้นไม่เป็นไรนะ เธอยังมีฉันอยู่!]

หลังจากนั้น เธอก็เลือกดูกำหนดการของวันพรุ่งนี้ที่เหมยเหมยส่งมาอย่างละเอียด เหมยเหมยจะมารับเธอตอนแปดโมง เดินทางถึงบริษัทออดิชั่นตอนสิบโมง

ซูโย่วอี๋ค่อย ๆ ตอบกลับข้อความ

เธอได้รับข้อความจากเหมยเหมยหลังจากผ่านไปหนึ่งนาที [รีบพักผ่อนนะคะ พรุ่งนี้จะได้ออกไปแบบสวย ๆ]

กลางดึกอันเงียบสงบ

แต่สำหรับซูหยินกลับไม่สงบเสียเลย

เพราะตอนที่ซูโย่วอี๋กำลังโทรศัพท์มาหา เธอถูกฮัวจิงควบคุมเอาไว้จนขยับไม่ได้ไปทั้งตัว

“ปล่อยฉันนะ!”

สายตาของฮัวจิงเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “แมวน้อย คุณหนีไม่พ้นหรอก กลับมาหาผมเถอะ”

ซูหยินไม่ต้องการคุยอะไรอีก พยายามหนีออกมาจากฮัวจิงเพื่อที่จะรับโทรศัพท์

เธอรู้ดีว่าซูโย่วอี๋โทรมา เสียงเรียกเข้านี้เป็นเสียงเรียกเข้าที่เธอตั้งค่าเอาไว้โดยเฉพาะ ซึ่งมันแตกต่างจากของคนอื่น ๆ

ฮัวจิงหรี่ตาลงอย่างสงสัย “คุณกังวลอะไร? หรือคุณมีคนใหม่เร็วขนาดนั้นเลย?”

“ฮัวจิง คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย?”

“คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองแต่งงานแล้วและกำลังจะมีลูก? ทำไมคุณถึงไม่ยอมปล่อยฉันไปสักที? จบกันด้วยดีไม่ได้เลยเหรอ?”

น้ำเสียงของฮัวจิงดูน่าขนลุก “ไม่ได้ ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าซือซือท้อง ก็อย่าหาเรื่องให้ผมปวดหัวเพิ่ม ผมไม่มีเวลามากพอที่จะมาเสียเวลากับคุณ”

ซูหยินแค่นยิ้มอย่างอดไม่ได้ ตอนนี้แค่ต้องเสแสร้งเธอก็เหนื่อยที่จะทำแล้ว “เสียเวลา? ทำอย่างไรถึงจะไม่เสียเวลาล่ะ? หรือแค่ขึ้นเตียงกันเลยอย่างนี้เหรอ?”

ฮัวจิงเห็นท่าทางดูถูกของเธอ ในใจก็รู้สึกหงุดหงิด

ซูหยินเห็นอย่างนั้นก็รีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ แต่ก็ถูกฮัวจิงแย่งเอาไป เขาคลิกเปิดดูข้อความที่ ซูโย่วอี๋ส่งมา ก่อนที่จะค่อย ๆ อ่านออกมาที่ละคำ

“ซูหยิน ซูโย่วอี๋คนนี้จริงใจกับคุณดีนะ”

ซูหยินรู้สึกเหมือนโดนแทงใจดำ กับคนนอกเธอมักจะขี้เกียจประจบสอพลอ ไม่ว่าจะกับใครเธอก็มักจะแยกตัวออกมา และมักจะบล็อกการสื่อสารกับคนอื่น ๆ ทั้งหมด จนเพื่อนที่จริงใจข้างกายมีเพียงซูโย่วอี๋คนเดียว

ตรงกันข้ามกับฮัวจิง ทายาทหนึ่งในบริษัทชั้นนำทั้งสิบและเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลระดับสูง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีครอบครัวสุขสันต์ ในสายตาคนภายนอกเขาคือผู้ชายที่แสนดี

แต่กลับแอบเลี้ยงเมียน้อยเอาไว้ และยุ่งพัวพันกับเธอไม่หยุด?

ซูหยินรู้ว่าเธอไม่ใช่คนดีอะไร แต่ฮัวจิงถือดีอะไรมาหัวเราะเยาะเธอกัน?

ซูหยินแย่งโทรศัพท์คืนมาและกดโทรแจ้งตำรวจ

ฮัวจิงโกรธมากพร้อมกับดึงโทรศัพท์มาและปิดเครื่องในทันที

เขาลากซูหยินเข้าไปในห้องนอนและโยนเธอไปกับเตียง ร่างของเธอถูกกดทับเอาไว้จนหนีไปไหนไม่ได้ “ซูหยิน คุณบ้าไปแล้วหรือไง? คุณโทรแจ้งตำรวจ คิดจะขู่ใครกัน?”

“ผมจะบอกคุณให้นะ สวีโหมวลังเลว่าจะใหบทกู้ชิงเฉิงระหว่างคุณกับดาราหญิงอีกคน ผมเลยให้คนไปบอกบางอย่างกับสวีโหมว และเขาก็เลือกดาราหญิงอีกคนอย่างไม่ต้องลังเลเลย”

“คุณคิดว่าผมไม่รู้เหรอว่าคุณกำลังคิดอะไร? คิดว่าสวีโหมวจะยึดมั่นในความคิดของตัวเองแล้วเลือกคุณงั้นเหรอ ผมจะบอกคุณให้นะ ในโลกใบนี้ไม่มีใครแยกตัวออกจากเงินได้หรอก นี่คือความจริง!”

หลังจากพูดจบเขาก็ดึงเสื้อคลุมของซูหยินออก และกัดลงไปอย่างแรง

แสงจันทร์สีขาวที่แทรกเข้ามาจากทางหน้าต่างสาดส่องลงบนร่างของทั้งสองคนที่กำลังนัวเนียกัน

น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของซูหยินไม่หยุด

เธอหลับตาลงอย่างหมดหวัง ไม่คิดต่อต้านอะไร ไม่ได้ขัดขวางความหยาบคายของคนด้านบนที่ต้องการระบายความโกรธออกมาผ่านทางการกระทำ

หัวใจของเธอในตอนนี้เหมือนได้ตายไปแล้ว

ไม่มีผู้ชายคนนี้อยูในนั้นแม้แต่เสี้ยว

หลังจากเสร็จกิจ ฮัวจิงลุกไปอาบน้ำแล้วสวมเสื้อผ้า เมื่อสำรวจในกระจกดีแล้วว่าไม่มีร่องรอยใด ๆ จึงมองซูหยินอย่างเย็นชา “ท่าทางของคุณแข็งทื่ออย่างกับคนตาย ผมไม่ชอบรู้ไหม”

“ซือซือรอผมอยู่ที่บ้าน ผมกลับก่อนนะ”

ซูหยินไม่ได้เงยหน้ามองฮัวจิงเลยแม้แต่น้อย สายตาของเธอจับจ้องอยู่กับของเหลวที่เปรอะเปื้อนบนเตียงจนเธอรู้สึกคลื่นไส้

“ฮัวจิง คุณไม่ต้องมาหาฉันอีกแล้ว”

ฮัวจิงหยุดเดิน “คุณว่าอะไรนะ?”

ดวงตาของซูหยินสบตากับเขาด้วยความว่างเปล่าราวกับหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึก

สายตาเธอทำให้หัวใจของฮัวจิงแทบหยุดเต้น

“ประธานฮัว ต่อให้ทุกคนจะดูถูกชีวิตอันน่าสงสารของฉันฉันก็ยอม แต่คุณกำลังบีบบังคับฉัน เพราะฉะนั้น พวกเราไปลงนรกด้วยกันเถอะ”

ฮัวจิงกำมือขวา ดวงตาหรี่ลงด้วยท่าทีข่มขู่ “คุณคิดจะทำอะไร?”

ซูหยินยิ้ม น้ำตายังคงพลั่งพลูไม่หยุด “ทำอะไรงั้นเหรอ? คุณสนใจอะไรล่ะ? คุณสนใจชื่อเสียง ฉันจะทำให้ชื่อเสียงของคุณป่นปี้ คุณสนใจภรรยา ฉันก็จะไปเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคนให้เธอฟัง ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้ว”

“คุณคิดว่าใหญ่โตของคุณมั่นคงมากพอแล้วเหรอ? ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เมื่อฉันไม่ต้องการอะไร คุณก็ไม่มีทางข่มขู่ฉันได้อีก”

เธอจะไม่คาดหวังให้ผู้ชายคนนี้รักเธออีกต่อไป

และจะไม่คาดหวังว่าจะได้เดินทางบนเส้นทางการแสดงนี้อีก

ขอเพียงแค่ออกห่างจากผู้ชายคนนี้ได้ เธอยอมได้แม้กระทั่งละทิ้งความฝันและกลับไปเป็นคนธรรมดา

กำปั้นของฮัวจิงต่อยไปยังกำแพงด้วยดวงตาแดงก่ำและพูดว่า “ซูหยิน คุณเกลียดผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ใช่”

“อยากหนีไปจากผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ใช่”

สายตารังเกียจของซูหยินทำให้หัวใจของชายหนุ่มเจ็บปวด

เขาใช้เวลาเนิ่นนานก่อนจะพูดขึ้น “ตามที่คุณต้องการเลย”

ปัง! เสียงประตูปิดลงอย่างแรง

ครั้งนี้ซูหยินมีลางสังหรณ์ว่าพวกเขาคงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว

ดีจริง ๆ

ผ่านไปไม่นาน ชั้นบนก็มีเสียงเด็กร้องไห้และเสียงประณามสาปแช่ง

“ดึกดื่นป่านนี้แล้วจะไม่ให้ชาวบ้านชาวช่องได้นอนเลยหรือไง?”

“ทำไมคนสมัยนี้ไม่เกรงใจกันซะเลย”

“โอ้ย เลิกทะเลาะกันสักที เรื่องใหญ่อะไรกันนักหนา”

หลังจากนั้นบรรยากาศรอบ ๆ ก็ค่อย ๆ กลับมาเงียบสงบลง

ซูหยินรู้สึกโดดเดี่ยว เธอกอดตัวเองอย่างอ่อนแรง

ซูหยิน จริง ๆ แล้วผมรู้สึกดีกับคุณนะ

ฮัวจิง จริงๆ แล้วฉันชอบคุณมากและจะรอวันที่คุณมาขอฉันแต่งงานนะ

ซูหยิน ผมมีครอบครัวแล้ว คงแต่งงานกับคุณไม่ได้หรอก

ฮัวจิง นี่จะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่ฉันจะชอบคุณ

ซูหยิน ทำไมถึงไม่อยู่เคียงข้างผมล่ะ ตำแหน่งภรรยาสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

ฮัวจิง ในชาติหน้าและชาติหน้า ขออย่าให้พวกเราได้เจอกันอีกเลย

ซูหยิน อย่าเจอกันอีกเลย

ฮัวจิง ฉันเกลียดคุณ

(ความคิดดังก้องอยู่ในหัว)

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

Status: Ongoing
ซูโย๋วอี่เพิ่งถูกสามีที่เป็นทั้งชีวิตนอกใจ แต่แล้วกลับมีระบบสุดยอดเทพธิดาปรากฏขึ้นตรงหน้า แถมบอกอีกว่าเธอจะต้องกลายเป็นดาราสุดฮอตได้แน่!‘ซูโย๋วอี่’ สาวอ้วนหนักกว่าแปดสิบแปดกิโลกรัม ถูกสามีที่เป็นทั้งชีวิตนอกใจ แต่เมื่อเธออับจนหนทางกลับมีระบบสุดยอดเทพธิดาปรากฎขึ้นตรงหน้า แถมบอกว่าเธอต้องสวยขึ้นแล้วกลับไปแก้แค้นสามีที่กล้านอกใจ ด้วยเส้นทางสู่ดาราสุดฮอตเบอร์ต้นของประเทศ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท