บทที่ 1283 ไม่ใช่กฎของฉัน
“โอเค…โอเคๆ ใจเย็นๆ นะ ฉันจะวางเด็กลง” ท่าทางชายชราจะกลัวว่าปืนในมือเธอจะลั่นใส่สมองเขากระจุย
ไม่นาน ชายชราก็วางฉิวฉิวลงกับพื้นอย่างเบามือ
พอเท้าเล็กๆ ถึงพื้น คุณนายโจวก็รีบวิ่งเข้าไปดึงฉิวฉิวมาอุ้ม
“หึๆ คุณหนูคนนี้ เธอคิดอะไรไม่ตก ถึงได้รนหาที่ตายด้วยการพกปืนอย่างงี้…เธอดูสิ ฉันก็ทำตามที่เธอบอกแล้ว ตอนนี้เราใจเย็นๆ แล้วมาคุยกันก่อนดีไหม…” ชายชรายกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วยิ้มบอก
คนจากพันธมิตรอู๋เว่ยคนอื่นๆ ก็หยุดเคลื่อนไหวแล้วเหมือนกัน ในรัฐอิสระแห่งนี้ มีคนกล้าเอาปืนพกออกมาใช้ในที่แจ้งอย่างงี้ ถือเป็นเรื่องที่บ้าบิ่นมาก…
“ทำไม แกไม่กลัวไม่ใช่เหรอ…พวกแกไม่เคยกลัวอะไรไม่ใช่เหรอ ตอนนี้กลัวแล้วสิ?” เยี่ยหวันหวั่นใช้ปืนจ่อหัวชายชราด้วยสีหน้าเย็นชา
ประกายเย็นชาและไอสังหารในดวงตาของหญิงสาวทำให้ชายชราอึ้งงัน “คุณหนูคนนี้ กฎของพวกเราชาวรัฐอิสระ…”
“หยุดพล่ามเรื่องกฎของรัฐอิสระกับฉันซักที นั่นมันกฎของพวกแก ไม่ใช่กฎของฉัน!” เยี่ยหวันหวั่นแค่นเสียงเย็น
ท่ามกลางฝูงชน เสี้ยววินาทีที่สิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น เด็กหนุ่มชีซิงที่ยืนเงียบขรึมมาตลอดแววตาดูสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง…
ผู้หญิงคนนี้…
“ฮ่าๆๆๆ…ดี…ดีมาก! ไม่ได้เจอเด็กที่น่าสนใจอย่างนี้มานานมากแล้ว…” ชายชราอึ้งงัน จากนั้นจู่ๆ ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว แล้วจ้องหน้าชายชราอย่างระแวดระวัง “ตอนนี้ พาคนของแกไปจากตระกูลโจวเดี๋ยวนี้!”
ใบหน้าของชายชราพลันเย็นชา เขาเอ่ยทีละคำๆ “คุณหนูคนนี้…ความอดทนของฉันก็มีจำกัดเหมือนกันนะ…อย่างมากหนึ่งชีวิตของฉันก็แลกกับหนึ่งชีวิตของเธอ ฉันเป็นคนของพันธมิตรอู๋เว่ย ฉันไม่กลัวตาย เธอน่าจะรู้จักสไตล์การทำงานของพันธมิตรอู๋เว่ยนะ!”
ทุกคนในพันธมิตรอู๋เว่ยล้วนขึ้นชื่อเรื่องไม่กลัวความตาย ก่อนหน้านี้เยี่ยหวันหวั่นได้ยินเรื่องนี้มาจากคนในตระกูลโจวตอนคุยเล่นกัน
เพียงแต่เยี่ยหวันหวั่นกลับไม่เชื่อ จะมีคนที่ไม่กลัวตายอยู่จริงเหรอ? ปืนจ่อหัวอย่างงี้แล้วก็ยังไม่กลัว?
“ถ้าแกจะเล่นไม้แข็งก็ดี…ฉันจะนับสาม ถ้าหากแกไม่ทำตามที่ฉันบอก ฉันก็จะลั่นไก” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยใบหน้าที่อ่านอารมณ์ไม่ออก
หากเป็นไม่กี่วันก่อน แม้ตายเยี่ยหวันหวั่นก็ไม่อาจจินตนาการว่าตัวเองจะกล้าเอาปืนจ่อหัวคนของพันธมิตรอู๋เว่ย แล้วยังกล้าขู่เขาอย่างงี้อีก
เธอต้องกินหัวใจหมีดีเสือขาวเข้าไปแน่ๆ…
แต่ตอนนี้เรื่องก็กลายมาเป็นอย่างงี้แล้ว ถึงเธอจะกลัวแทบตาย แต่ก็ต้องเข้มแข็งเข้าไว้
เธอรู้ว่าต่อหน้าคนพวกนี้ หากแสดงความอ่อนแอแค่นิดเดียว ก็จะต้องโดนจับกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่นอน!
นับตั้งแต่วินาทีที่เธอเลือกก้าวเข้ามาในรัฐอิสระ เธอก็รู้ดีว่าการมาถึงที่นี่หมายถึงเธอต้องเผชิญหน้าทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่มีใครช่วยเธอได้
เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจ แล้วนับถอยหลังเสียงเย็น
“สาม”
“สอง”
“หนึ่ง!”
เมื่อสิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น เธอขึ้นนกทันทีโดยไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อย
แต่ทว่า สิ่งที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นนึกไม่ถึงก็คือ ชายชราคนนั้น…ไม่กลัวตายจริงๆ ด้วย เขายังคงยืนหลังตรง และทำหน้าเหมือนเห็นความตายเป็นเรื่องธรรมดา!
“ปัง!”
“ปังๆ!”
เยี่ยหวันหวั่นลั่นไกติดกันหลายนัด แต่ทว่า มีเพียงเสียงลั่นไกเท่านั้นที่ดัง กลับไม่มีประกายไฟออกมาจากปากกระบอกปืนเลยแม้แต่น้อย
วินาทีนี้ ทุกอย่างรอบข้างเงียบกริบ เงียบจนเหมือนได้ยินเสียงหัวใจเต้น
————————————————————————————-
บทที่ 1284 ผู้หญิงคนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดเหรอ?
ตอนนี้ มีสองเรื่องที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมายของเยี่ยหวันหวั่น
เรื่องที่หนึ่ง ชายชราไม่กลัวตายจริงๆ เขายังคงหนักแน่นไม่เปลี่ยนคำเหมือนเดิม
เรื่องที่สอง ปืนของเธอ…เหมือนจะทำงานขัดข้องซะแล้ว…
ตามแผนของเยี่ยหวันหวั่น พอเธอนับถึงหนึ่ง ชายชราจะต้องตกใจกลัวจนเข่าทรุดฉี่ราด แล้วเธอก็จะยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งหนึ่งเพื่อคุมสถานการณ์ และขู่ขวัญพวกพันธมิตรอู๋เว่ย…
แต่วางแผนไว้ซะดิบดี ความเป็นจริงกลับเหมือนจะโหดร้ายไปหน่อย
“โทษที…รอแป๊บหนึ่งนะ…”
เยี่ยหวันหวั่นรีบถอดซองกระสุนออกมาดู แต่กลับพบว่าในนั้นไม่มีกระสุนอยู่
จนถึงตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นจึงเพิ่งนึกออก ว่าถึงตอนนั้นเธอจะซื้อปืนไว้เพื่อป้องกันตัวเอง แต่ไม่ได้เอากระสุนใส่ซองจริงๆ หลังจากนั้น…เหมือนว่ากระสุนจะจมหายไปในทะเลซะแล้ว…
สายตาของพันธมิตรอู๋เว่ยและฝูงชนรอบข้างต่างหันมามองเยี่ยหวันหวั่นเป็นตาเดียว ชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศพลันกระอักกระอ่วน
เห็นสีหน้าที่เย็นชาจนเหมือนจะมีน้ำหยดออกมาของชายชรา เยี่ยหวันหวั่นรีบปรับสีหน้าเป็นจริงจัง “นี่ผู้เฒ่า ดูสิคุณก็อายุปูนนี้แล้ว แขนขาก็อ่อนแรงตามสภาพอายุ ทำไมไม่อยู่บ้านสบายๆ วันๆ วิ่งออกมาหาเรื่องเข่นฆ่าคนอื่นไปทำไม ไม่ดีเลยนะ…
ฉันก็แค่เอาปืนของเล่นออกมาทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง แล้วก็ล้อเล่นนิดหน่อยด้วย ผู้เฒ่า…คุณก็แก่จนจะแย้มฝาโลงอยู่แล้ว คงไม่ถือสาคนหนุ่มสาวอย่างฉันหรอกเนอะ?”
กลุ่มคนของตระกูลโจวเงียบ
คนของพันธมิตรอู๋เว่ยพูดไม่ออก
ชีซิงอึ้ง
ผู้คนบนถนนที่มามุงดู “…”
“ช่างเถอะ เห็นแก่ที่เธอยังเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราว วันนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องเธอ เธอไปซะเถอะ” ชายชราถอนหายใจแล้วส่ายหัว
เยี่ยหวันหวั่นตาเป็นประกาย “ตาแก่…เอ๊ย ผู้เฒ่า พูดจริงเหรอ ฉันไปได้จริงเหรอ?”
“หึๆ…สาวน้อย ฉันก็ล้อเธอเล่นเหมือนกัน” ชายชรายิ้มเย็น
“ผู้เฒ่า คุณนี่ปลิ้นปล้อนนะ…” เยี่ยหวันหวั่นกวาดตามองรอบๆ มองหาโอกาสดีที่จะเผ่นหนี
“ตายซะเถอะ!” จู่ๆ ชายชราก็คำรามลั่น แล้วเหวี่ยงแขนใส่เยี่ยหวันหวั่นด้วยเรี่ยวแรงแทบทั้งหมด
“เร็วโคตร!”
เยี่ยหวันหวั่นหน้าเปลี่ยนสีเมื่อสัมผัสได้ถึงความเร็วของฝ่ามือนี้จากชายชราพันธมิตรอู๋เว่ย
เยี่ยหวันหวั่นรับรู้ถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ เธอแทบตั้งตัวตอบโต้ฝ่ามือของเขาไม่ทัน
เพียงชั่วพริบตา เยี่ยหวันหวั่นสมองขาวโพลนไปหมด ร่างกายเบี่ยงไปด้านข้างเล็กน้อย เคลื่อนไหวคล่องแคล่วว่องไวดุจผีเสื้อที่กำลังเริงระบำ แทบจะจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
วินาทีต่อมา เยี่ยหวันหวั่นยื่นนิ้วออกมาโดยสัญชาตญาณ แล้วเคาะหน้าผากของชายชราแรงๆ
เสียง “ปั๊ก” ดังสนั่น ร่างของชายชรากระเด็นลอยออกไปไกล เหมือนโดนรถไฟพุ่งชนก็ไม่ปาน
ท่ามกลางสายตาเหลือเชื่อของพันธมิตรอู๋เว่ย ร่างของชายชรากระแทกเข้ากับประตูเหล็กของตระกูลโจวอย่างแรง กระทั่งทำให้ประตูเหล็กยุบลงไปทั้งแถบ
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนในที่นั้นตกตะลึง ผู้หญิงคนนั้น…เป็นสัตว์ประหลาดรึเปล่า?!
แม้แต่เยี่ยหวันหวั่นเองก็ยังสับสน เมื่อกี้เธอ…ทำอะไรลงไป?
สมาชิกเก่าแก่คนหนึ่งของพันธมิตรอู๋เว่ยจ้องหน้าเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่อยากเชื่อ “นี่มัน…เป็นไปได้ยังไงกัน…นั่น…นั่นมันวิชาดรรชนีที่มีแค่หัวหน้าแก๊งใช้เป็นนี่…”
วินาทีนี้ แม้แต่ชีซิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้าตะลึงพรึงเพริด
โครงสร้างร่างกายหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเขาค่อนข้างพิเศษ เพราะฝึกฝนอย่างเข้มงวดมาตั้งแต่เด็ก ฉะนั้นกระบวนท่าและทักษะสังหารคนของแบดเจอร์จึงแทบจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทุกท่า บนโลกใบนี้ ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้แน่นอน
ถึงแม้จะเรียนมา แต่ก็ไม่มีทางทรงพลังเหมือนกับหัวหน้าแก๊งทุกประการอย่างนี้…
เมื่อกี้เขามักรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ…
หรือว่า…