บทที่ 246 การแต่งงานที่หลอกลวง
บทที่ 246 การแต่งงานที่หลอกลวง
“อ่า คุณเองก็อย่าไปโทษคุณนายเลย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใคร ใครจะไปอารมณ์ดีได้?”
“ถ้าจะโทษก็ต้องโทษพระเจ้าแล้วล่ะ คนดี ๆ อย่างคุณนายฮัวมีแต่คนคอยดูแล ตอนท้องก็กินยาบำรุงครรภ์ไปก็ตั้งเยอะ จนใกล้จะคลอดแล้วแท้ ๆ แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นก่อน ทำให้ต้องเสียชีวิตน้อย ๆ ไป”
“นั่นสิ จะมีครอบครัวธรรมดา ๆ ที่ไหนมีชีวิตได้สุขสบายเท่ากับเธอ ไม่ใช่ว่าจะดูแลเธอไม่ดีเสียหน่อย น้องสะใภ้ของฉันทั้งทำงานทั้งดูแลบ้าน เมื่อ 2 วันก่อนพึ่งคลอดลูกตัวอ้วนน่ารักออกมา ทำให้คนอื่นเป็นห่วงแทบแย่”
“ถ้าให้ฉันพูดนะ บุคลิกและท่าทางของคุณฮัวก็เกินจะบรรยาย ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนธรรมดา ๆ ก็คงมีสามีจำนวนมากที่ไม่พอใจภรรยา แต่กับคุณฮัว คำพูดไม่ดีสักคำก็ไม่มี แถมยังขอลางานมาดูแลเธอด้วยตัวเองอีก ฉันเห็นคุณนายเอาแต่ทำตัวเย็นชา คุณฮัวก็ไม่โกรธเลยสักนิด”
เดิมทีอวิ๋นจิ้งหว่านอยากจะลงมาดื่มน้ำ ไม่คิดว่าเธอจะได้ยินความคิดเห็นของคนรับใช้
ถึงแม้คนใช้จะพูดว่าเธอไม่มีลูก ผู้ชายคนนั้นก็ยังทนได้ แต่ยังจะพูดว่าฮัวจิงดีกับเธอจริง ๆ อย่างงั้นอย่างงี้อีก
อวิ๋นจิ้งหว่านรู้สึกเหมือนมีมดนับหมื่นตัวกำลังกัดกินหัวใจของเธอ เธอเจ็บปวดจนยากจะทน
คนที่ต้องทุกข์ทรมานก็คือเธอ ผู้บริสุทธิ์ก็คือลูกของเธอ ไม่คิดจะพูดอะไรดี ๆ ก็อย่าพูดดีกว่า คนที่มีเมียน้อยจนทำให้เธอต้องแท้งลูกอย่างฮัวจิงกลับได้รับแต่คำยกย่องชื่นชม
โลกใบนี้ช่างไร้ความยุติธรรมเสียจริง
เธอขว้างแก้วน้ำลงกับพื้นจนมีเสียง ‘เพล้ง’ ดังขึ้น
ราวกับฟ้ากำลังร้องคำราม สาวใช้ที่รวมหัวซุบซิบต่างพากันมองมา
เมื่อเห็นคนที่มา ใบหน้าของพวกเธอก็เปลี่ยนสี ก่อนจะรีบยืนเข้าแถวในทันที
ร่างกายของอวิ๋นจิ้งหว่านยังไม่แข็งแรง หลังจากยืนอยู่สักระยะหนึ่ง เธอก็รู้สึกไม่สบายท้อง เธอเดินช้า ๆ ไปนั่งลงบนโซฟา
พร้อมกับมองทุกคนด้วยใบหน้าอันเย็นชา “เมื่อกี้นี้ใครพูดจานินทาลับหลัง?”
เหล่าคนใช้มองหน้ากัน ไม่มีใครกล้ายอมรับ
อวิ๋นจิ้งหว่านหัวเราะขึ้น “ดูเหมือนว่าเมื่อก่อนฉันจะดีกับพวกเธอมากเกินไปสินะ มีกฎของบ้านไหนที่เจ้านายถามแล้วไม่ตอบเหรอ?”
น้ำเสียงที่ฟังดูยังคงสงบนิ่งของเธอทำให้คนใช้คนหนึ่งกล้าพูดขึ้น “คุณนายอย่าโกรธพวกเราเลยค่ะ พวกเราก็แค่พูดจาเลอะเทอะไปทั่ว ต่อไปจะไม่กล้าทำแบบนี้อีกแล้วค่ะ”
“ไม่กล้าอีกแล้วเหรอ? ถ้าวันนี้ไม่พูดเรื่องนี้ให้ชัดเจน งั้นพวกคุณก็โดนลงโทษไปพร้อมกันเลยละกัน”
“พวกคุณทำงานให้ตระกูลฮัวมาตั้งหลายปี ฉันแต่งงานเข้ามาในตระกูลฮัวได้แค่ปีกว่าๆ พวกคุณคงยอมรับแค่ว่าฮัวจิงเป็นเจ้านายแต่ไม่ยอมรับฉันสินะ”
เหล่าคนรับใช้คุกเข่าลง “ไม่ใช่นะคะ คุณนาย”
อวิ๋นจิ้งหว่านมองต้นไม้ที่อยู่นอกหน้าต่างด้วยสายตาอ้างว้าง
ความสุขในการแต่งงาน
ถ้าสามีทำให้เธอต้องผิดหวัง เธอควรจะจัดการตัวเองอย่างไรดี?
เธอหลงคิดไปว่าตัวเองได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่สุดในโลก แต่กลับกลายเป็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามันก็แค่คำหลอกลวง
คนที่อยากจะเป็นภรรยาที่ดีมีเพียงแค่ตัวเธอเองเท่านั้น!
ฮัวจิงเอาแต่เฝ้าดูเธอและปล่อยให้เธอจมลงไปในกับดักความอ่อนโยนของเขา โดยที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย
ช่วงเวลาที่เธอท้องแก่ เขาก็ยังไปพัวพันอยู่กับผู้หญิงอื่น!
พอคิดถึงเรื่องต่าง ๆ ขึ้นมา อวิ๋นจิ้งหว่านเริ่มรู้สึกว่าเธอหายใจไม่ค่อยออก เธอพลิกตัวไปมากลางดึกด้วยความทรมานแทบขาดใจ
“หากไม่มีใครพูด งั้นก็รับโทษไปด้วยกัน ไปนั่งคุกเข่าข้างนอก จนกว่าฉันจะบอกให้กลับเข้ามา”
สาวใช้คนหนึ่งพูดอย่างเอาแต่ใจในทันที “คุณนายคะ แม้ว่าคุณจะเป็นนายจ้าง แต่พวกเราไม่ได้ขายตัวนะ คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งให้พวกเราคุกเข่า”
อารมณ์ของอวิ๋นจิ้งหว่านยังคงไม่เปลี่ยนไป “ถ้าคุณยอมคุกเข่าก็คุกเข่าลง ถ้าไม่งั้นก็ออกไป ตระกูลฮัวไม่ต้องการคนรับใช้แบบคุณ”
เดิมที่เหล่าคนรับใช้อยากจะโต้แย้ง แต่พอได้ยินเช่นนั้นก็รีบคุกเข่าลงอย่างสิ้นหวัง
ตระกูลฮัวเป็นหนึ่งในตระกูลสูงส่งที่จะปฏิบัติต่อผู้คนอย่างโอบอ้อมอารี ทำงานง่าย ๆ มีงานไม่เยอะ ดูแลดี เมื่อก่อนอวิ๋นจิ้งหว่านดีกับพวกเธอมาก หลาย ๆ ครั้งที่เธอนำสิ่งของดี ๆ ที่พวกเธอไม่รู้จักเอามาให้พวกเธอกินในทุก ๆ เทศกาล
ไม่มีใครยินยอมที่จะเสียงานดี ๆ เช่นนี้ไป
ฮัวจิงเลิกงานกลับมาบ้าน เขาเห็นคนนั่งคุกเข่าเข้าแถวกันอยู่ที่หน้าประตู
เขาขมวดคิ้วและถามแม่บ้าน “เกิดอะไรขึ้น?”
มือทั้งสองข้างของแม่บ้านไขว้กันและก้าวออกมา “พวกเขาแอบซุบซิบกันลับหลังแล้วคุณนายได้ยินเข้า คุณนายเลยทำโทษให้พวกเธอนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น เพื่อที่จะหาคนที่พูดค่ะ”
ฮัวจิงนิ่งไป “ในเมื่อทำให้จิ้งหว่านอารมณ์ไม่ดี งั้นก็ไล่ออกไปให้หมดแล้วหาคนใหม่มาแทน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าคนรับใช้ต่างตื่นตระหนก เมื่อครู่พวกเธอยังคิดอยู่เลยว่ารอให้ฮัวจิงกลับมาแล้วจะได้ฟ้องเขา ตอนนี้กลับพากันกล่าวหากันเอง
“คุณฮัว ฉันแค่อยู่ฟังด้วยเฉย ๆ ไม่ได้ร่วมวงนินทาอะไรเลยค่ะ”
“ใช่ คนที่พูดถึงคุณนายคือเสี่ยวฟาง กูกู แล้วก็พี่เหม่ย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลย”
ฮัวจิงไม่ได้ขยับไปไหน “ใครจะไปรู้ว่าที่พวกเธอพูดคือเรื่องจริงหรือปลอม? ตอนที่จิ้งหว่านถามทำไมไม่พูดความจริงออกไป ตั้งใจรอให้ผมกลับมาเพราะคิดอยากจะทำอะไรกันแน่?”
เขามองทะลุความคิดในใจของคนรับใช้ทุกคน
“อยู่ในบ้านหลังนี้ จิ้งหว่านคือที่หนึ่ง ผมคือที่สอง พวกคุณทำให้เธอไม่พอใจก็ไม่ต้องมาทำงานที่ตระกูลฮัวอีกต่อไป รีบเก็บของแล้วแยกย้ายไปซะ”
“แม่บ้าน เอาเงินเดือนเดือนนี้ให้พวกเธอไป”
พูดจบเขาก็เดินเข้าบ้านไป
เหล่าคนรับใช้รู้ว่าไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ พวกเธอจึงรู้สึกเสียใจมาก
อวิ๋นจิ้งหว่านยืนอยู่ริมหน้าต่างที่ชั้นสอง เธอมองเห็นฮัวจิงจัดการกับเหล่าคนรับใช้ทั้งหมด
หึ
เขาก็เป็นแบบนี้ เคยชินกับการแสดงเป็นคนรักภรรยาเยี่ยงชีวิตต่อหน้าคนรับใช้ จึงสามารถหลอกลวงทุกคนได้อย่างแนบเนียนสินะ
ประตูถูกเปิดออก เสียงฝีเท้าอันมั่นคงเดินเข้ามา
จากนั้นก็มีผ้าคลุมห่อหุ้มร่างบอบบางของอวิ๋นจิ้งหว่านเอาไว้
“อย่าตากลมนาน ๆ มันไม่ดี”
น้ำเสียงของฮัวจิงอ่อนโยนมาก
อวิ๋นจิ้งหว่านหมุนตัวกลับไป เธอใช้ดวงตาอันเฉียบคมมองไปยังผู้ชายที่คุ้นเคย แต่เธอไม่เคยรู้จักคนนี้ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงอันแหบแห้ง “ฮัวจิง ไม่ต้องทำอะไรไร้ประโยชน์ต่อไปแล้วค่ะ คุณหลอกฉันไม่ได้อีกแล้ว”
ฮัวจิงถอดเสื้อคลุมออกและมองเธออย่างทำอะไรไม่ถูก “จิ้งหว่าน ผมเป็นห่วงคุณจริง ๆ”
ไม่ว่ามันจะใช่ความรักของคนหนุ่มสาวหรือไม่ แต่เขาเคารพและเป็นห่วงเธอมากจริง ๆ
“เป็นห่วงฉัน? ใช้ความเป็นพี่ชายมาเป็นห่วงฉันงั้นเหรอคะ? งั้นทำไมไม่ยอมรับให้ฉันเป็นน้องสาวไปเลยล่ะ? มาขอฉันแต่งงานด้วยทำไม?”
“คุณเป็นสามีของฉัน แต่กลับบอกฉันว่ามองฉันเป็นแค่น้องสาว?”
ใช่
ครั้งแรกที่อวิ๋นจิ้งหว่านรู้สึกตัวและตื่นขึ้นมา ตอนที่เธอต่อว่าฮัวจิงอย่างบ้าคลั่ง ฮัวจิงก็สารภาพทุกอย่างออกมา
รวมถึงความตั้งใจเดิมที่แต่งงานและความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ
“การแต่งงานจอมปลอม!”
พอพูดประโยคนี้ออกมา อวิ๋นจิ้งหว่านรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งตัว
ฮัวจิงอยากจะเข้าประคองเธอแต่ก็ถูกจิ้งหว่านผลักออกจนเธอโซเซล้มไปกับเตียง น้ำตาพลั่งพรูออกมา “คุณรู้บ้างไหมว่าทำไมฉันถึงแต่งงานกับคุณ?”
ฮัวจิงนิ่งค้างไป
ไม่ใช่เพราะตระกูลเตรียมการไว้แล้วงั้นเหรอ?
แม้ว่าตระกูลของอวิ๋นจิ้งหว่านจะไม่ได้ถือว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยในระดับต้น ๆ แต่ก็เป็นตระกูลที่ดีและเหมาะสม
โดยปกติแล้วการแต่งงานของลูกสาวจากครอบครัวประเภทนี้จะถูกตัดสินใจโดยพ่อกับแม่ และไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกของอวิ๋นจิ้งหว่านเลย แน่นอนว่าเธอไม่มีทางปฏิเสธคำสั่งของพ่อกับแม่
“พ่อกับแม่หวังให้ชีวิตของฉันมีแต่ความสุขและไม่เคยบังคับฉันในเรื่องการแต่งงานเลยสักครั้ง”
ฮัวจิงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “งั้นทำไมตระกูลอวิ๋นถึงเป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องแต่งงานล่ะ?”
ตอนนั้นฮัวจิงคิดว่าตระกูลอวิ๋นต้องการจะใช้อวิ๋นจิ้งหว่านเพื่อสานสัมพันธ์กับตระกูลฮัว แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?
อวิ๋นจิ้งหว่านพึมพำ “ไม่ใช่ เป็นเพราะฉันชอบคุณก่อน ฉันจึงไปขอให้พวกเขาไปพูดเรื่องแต่งงานกับตระกูลฮัว”
ฮัวจิง คุณไม่เคยรู้เลยว่าตอนที่ตระกูลฮัวรับปากเรื่องการแต่งงานในครั้งนี้ เธอมีความสุขมากแค่ไหน
คุณไม่เคยรู้เลยว่าการที่เธอนับนิ้วรอวันแต่งงานในทุก ๆ วันรู้สึกอย่างไร
เธอหลงคิดมาโดยตลอดว่านี้คือความรัก ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็เป็นคู่สามีภรรยาที่เข้ากันได้ดีมาโดยตลอด
ฮัวจิง คุณทำให้เธอประหลาดใจมากจริง ๆ
คุณทำลายความคาดหวังในความรักของเธอจนหมด