Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว – บทที่ 288 สั่งสอนไปหนึ่งยก

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 288 สั่งสอนไปหนึ่งยก

บทที่ 288 สั่งสอนไปหนึ่งยก

ไป๋เหิงยืนอยู่นอกประตูของห้องอาหาร เธอยืนรออยู่ตลอด ตั้งแต่ที่ซูโย่วอี๋จากไป เธอก็ไม่ได้ไปไหนเลย

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดประตูก็เปิดออก

ใบหน้าของซูโย่วอี๋ดูเย็นชา แต่เมื่อเห็นไป๋เหิงมันก็ดูอบอุ่นขึ้นมา

“เมื่อกี้ฉันรีบเดินมา เธอไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม?”

ไป๋เหิงส่ายหัวอย่างงุนงง “ไม่ค่ะ”

“งั้นก็ดี ตอนนี้ไปห้องซ้อมเต้นกับฉัน”

พูดจบเธอก็เดินนำไป ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในนั้นเลยสักคำ

ไป๋เหิงได้แต่ก้มหน้าเดินตามไปสักพัก พอมองดูหิมะสีขาวที่พื้นนาน ๆ ทำให้รู้สึกไม่สบายตา

เธอจึงเงยหน้าขึ้นและมองไปยังเส้นผมสีดำขลับของซูโย่วอี๋ “อาจารย์ซู หลังจากที่คุณเข้าไป… เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”

“สั่งสอนพวกเธอไปหนึ่งยก”

ไป๋เหิงนึกว่าตัวเองฟังผิดไป จึงถามขึ้นอีกครั้ง “คุณพูดว่าอะไรนะคะ?”

“ฉันบอกว่า ฉันสั่งสอนพวกเธอไป”

ซูโย่วอี๋หมุนตัวกลับมา พร้อมรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้าและดวงตาคู่สวย

“ห้ามพูดเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น เก็บเป็นความลับ เข้าใจไหม?”

ไป๋เหิงพยักหน้า “แต่พวกเธอ?”

“พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้หรอก บางทีพวกนั้นอาจจะพูดอะไรไปเรื่อย พวกนั้นอาจจะกล่าวหาเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“แต่พวกเราก็ไม่กลัว ถ้าพวกนั้นกล้าพูดจริง ๆ พวกเราก็พูดบ้าง บอกเรื่องที่พวกนั้นทำร้ายเธอไป ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ยังไงก็ไม่มีหลักฐานอยู่แล้ว”

ซูโย่วอี๋ตั้งใจเข้าไปจัดการพวกเธอในห้องน้ำเพราะไม่อยากให้ใครเห็น

ไป๋เหิงเลยพูดความในใจออกไปทั้งหมด “อาจารย์ซู คุณทำเพื่อฉันมามากพอแล้ว คุณวางใจเถอะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างด้วยตัวเอง จะไม่ทำให้คุณต้องลำบากเลยแม้แต่นิดเดียว”

ถ้าเรื่องมันใหญ่เกินจะรับมือ เธอก็จะลาออกจากรายการเอง

ซูโย่วอี๋ตบลงที่ไหล่ของเธอ “ต่อไปถ้าเจอกัวหลินหลิน จะต้องแสดงความกล้าแบบนี้นะ คนเราเท่าเทียมกัน เธอเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหล่อนเลย”

“แล้วต่อไปก็ไม่ต้องล้างจานแล้วนะ”

“ค่ะ” น้ำเสียงของไป๋เหิงบางเบา

แม้จะมองไม่เห็น แต่เธอก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปแล้ว

ตอนบ่าย กัวหลินหลินและเหมยโจวไม่ได้มาซ้อม จนเด็กฝึกในคลาส B ใช้เวลาในช่วงพักพูดคุยกัน

“นี่ ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอได้รับบาดเจ็บ”

“เธอไปฟังใครพูดมา?”

“เมื่อกี้นี้ตอนไปเข้าห้องน้ำ ฉันได้ยินผู้กำกับพูด ข่าวเรื่องนี้ไม่ผิดแน่นอน”

“คลาส B ของพวกเรากำลังอยู่ในช่วงโชคร้ายหรือเปล่า ก่อนหน้านี้บาดเจ็บไปแล้วคนหนึ่ง ตอนนี้บาดเจ็บไปอีกสองคน”

“พวกเธอบาดเจ็บตรงไหนเหรอ?”

“เหมือนว่าเหมยโจวจะมือหัก ส่วนกัวหลินหลินฉันก็ไม่แน่ใจ”

หักอีกแล้วเหรอ?

ผู้คนพากันมองไปยังไป๋เหิง นี่มันบังเอิญเกินไปแล้ว

ไป๋เหิงนั่งอยู่คนเดียวที่มุมห้อง เธอดื่มน้ำและแสร้งทำเป็นว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

เพียงแต่ฟังมาตั้งนานแล้ว ก็ไม่ได้ยินเลยว่ากัวหลินหลินและเหมยโจวได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร และก็ไม่ได้ยินอะไรที่เกี่ยวกับซูโย่วอี๋เลยแม้แต่คำเดียว

ไป๋เหิงทำได้เพียงคิดไปว่ากัวหลินหลินไม่กล้าทำอะไรอาจารย์ซู จึงได้ปกปิดเรื่องนี้เอาไว้

วันต่อมาผู้กำกับเชิญอาจารย์ทั้งสี่คนไปยังห้องประชุมโดยเฉพาะ เพื่ออธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับกัวหลินหลินและเหมยโจว

“หลินหลินเป็นหวัดหนักมาก เลยกลัวว่าจะแพร่เชื้อให้คนอื่น ผมเลยให้อาการป่วยของเธอหายดีก่อนแล้วค่อยกลับมาถ่ายรายการต่อ การประเมินในสัปดาห์นี้เธอจะไม่เข้าร่วม”

อาจารย์ชายแสดงท่าทางเป็นห่วง “รอให้เธอหายดีก่อนแล้วค่อยว่ากันก็ได้ครับ”

“ใช่ กัวหลินหลินก็มีพื้นฐานไม่เลว ล่าช้าไป 2-3 วันคงไม่ใช่ปัญหา ถ้าจำเป็นจริง ๆ รอให้เธอกลับมาแล้วพวกเราค่อยช่วยสอนเธออีกรอบก็ได้”

ผู้กำกับยิ้มขึ้นมา “ผมขอบคุณพวกคุณแทนหลินหลินด้วยครับ คุณซู คุณคิดว่ายังไงครับ?”

“แน่นอนว่าต้องให้เธอพักผ่อน แต่ไม่เพียงแค่ต้องดูแลร่างกายให้ดี เธอควรได้รับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ด้วย”

เป็นคำพูดที่มีความหมายแฝงอยู่

รอยยิ้มของผู้กำกับกลายเป็นฝืน ๆ “ผมจะบอกเธอให้นะครับ”

“งั้นเรื่องกัวหลินหลินก็เอาตามนี้นะ”

พูดจบ ผู้กำกับก็หยิบเอกสารออกมาจากลิ้นชัก “อาจารย์ทุกคนดูนะครับ นี่คือรายงานการตรวจร่างกายของเหมยโจว มือขวาหักอย่างรุนแรง หมอวินิจฉัยว่าจะไม่สามารถใช้มือได้ในหนึ่งเดือนนี้”

“เหมยโจวไม่สามารถถ่ายรายการได้อีกต่อไปแล้ว ถ้าหากว่าอาจารย์ทุกท่านไม่ได้มีความเห็นอื่น ผมจะแจ้งให้เธอออกจากการแข่งขันเลย”

ซูโย่วอี๋มองภาพขาวดำของกระดูกมือที่หักในรายงานการตรวจร่างกายด้วยความอึดอัดเล็กน้อย

อย่างไรเสีย มือนี้ก็เป็นฝีมือของเธอ

แต่เธอก็ไม่ได้ร้องขออะไร

เหมยโจวถูกคัดออกอย่างโหดเหี้ยม

เมื่อเดินออกมาจากห้องประชุม อวี๋ชิงจ้าวรับรู้ถึงความรู้สึกหม่นหมองของซูโย่วอี๋ “ไม่มีความสุขเหรอ?”

“เปล่า”

ซูโย่วอี๋ถอนหายใจออกมา “ฉันแค่ค้นพบว่าโลกของผู้ใหญ่มีแต่คนดีและคนเลวเต็มไปหมด”

แม้แต่ตัวเธอเอง ยังพูดไม่ได้เลยว่าเป็นคนดี

น้ำเสียงเย็นชาของอวี๋ชิงจ้าวพูดขึ้น “ในโลกใบนี้ไม่ต้องการนักบุญหลายคนหรอกนะ แค่ปกป้องคนที่เราใส่ใจให้ดีก็พอแล้ว”

ไม่จำเป็นต้องกังวลไปหรอก

“อืม ฉันพอจะเข้าใจสังคมของเราอยู่”

“ไม่ ตรงกันข้ามเลย” อวี๋ชิงจ้าวตอบกลับมา “เธอยังเรียนรู้สังคมได้ไม่มากพอ”

ซูโย่วอี๋ขมวดคิ้ว “ชิงจ้าว ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอเรียนอะไรกัน?”

“คงไม่ใช่ปรัชญาใช่ไหม”

ทำไมถึงอธิบายเหตุผลได้เป็นชุด ๆ

มุมปากของอวี๋ชิงจ้าวยกขึ้น “เธอเข้าใจคำที่ฉันพูดหรือเปล่า?”

“เข้าใจ”

“ดูเหมือนว่าการเรียนปรัชญาของฉันก็ไม่เลวเลยนะ”

ซูโย่วอี๋ตกใจ “เธอเรียนปรัชญาจริง ๆ เหรอ?”

อวี๋ชิงจ้าวปิดปากไม่พูดต่อ

เธอเรียนปรัชญาที่ไหนกัน ทำไมทำอะไรก็ดูเป็นเหตุเป็นผล เธอเรียนรู้ด้วยตัวเองจากการใช้ชีวิตทั้งนั้น

และแล้วมาถึงวันหยุดอย่างรวดเร็ว ซูโย่วอี๋กำลังคำนวณบางอย่างระหว่างทางกลับ เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์กว่า ๆ ก็จะถึงวันคัดเลือกคนขึ้นปก [นิตยสารรายสัปดาห์] แล้ว เธอจะต้องเร่งถ่ายรูปให้เสร็จ

ทันใดนั้น เสียงเรียกจากสุนัขจิ้งจอกดังขึ้นมาในหัว “นายยังอยู่บ้านของฮันเจ๋อหยางอีกเหรอ?”

[ใช่สิ คุณคิดว่าฉันจะไปอยู่ที่ไหน บ้านพี่ไป๋งั้นเหรอ? ต่อให้ฉันอยากไป แต่พี่ไป๋ไม่สนใจฉันเลยสักนิด หรือเป็นเพราะรูปลักษณ์ของฉันไม่เข้าตาพี่ไป๋เลยจริง ๆ?]

“พอเลย”

ซูโย่วอี๋รีบขัดเอาไว้ “อย่าพูดมาก รออีกแป๊บฉันจะไปรับนาย พวกเรามาใช้โอกาสวันหยุดสองวันนี้ประเมิน [ความสง่างาม] ให้เสร็จเถอะ”

สุนัขจิ้งจอกนิ่งไป [คุณจะมาตอนนี้เลยเหรอ?]

“ใช่สิ ฉันจะให้คนขับรถไปรับ ฉันจะแวะไปดูบ้านของฮันเจ๋อหยางด้วยตอนไปรับนาย”

[อย่ามานะ] สุนัขจิ้งจอกรีบพูดขึ้น

หืม?

“ทำไม?” ซูโย่วอี๋ได้ยินถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ

[คุณถ่ายรายการมาเหนื่อยแล้ว ฉันอยากให้คุณรีบกลับบ้านไปพักไว ๆ อีกอย่างนะคุณมาแค่ชั้นล่าง ฉันก็สามารถกลับไปยังระบบได้แล้ว คุณไม่ต้องขึ้นมาหรอก]

เดิมทีซูโย่วอี๋จะขึ้นไปหรือไม่ก็ได้หมด เพียงแต่ว่าพอทบทวนถึงสุนัขจิ้งจอกและฮันเจ๋อหยางที่อาจจะยังมีโอกาสได้พบกันอีกในอนาคต จึงตั้งใจไปหาที่หน้าประตูก็พอ

แต่ไม่คิดว่าสุนัขจิ้งจอกจะมีปฏิกิริยาตอบกลับขนาดนี้

จะต้องมีอะไรแน่ ๆ!

ซูโย่วอี๋จึงจะต้องไปให้ได้

รถขับเข้าไปยังโรงจอดรถ ซูโย่วอี๋ทำตามความตั้งใจเดิมคืออยู่แค่ชั้นล่าง

ติ๊ง!

ประตูลิฟต์เปิดออก

สุนัขจิ้งจอกตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ซู่จู่ ทำไมไม่ฟังกันบ้างเลย?”

“เด็กน้อยอย่างนายพึ่งออกมาได้ไม่กี่วันก็หัดมีความลับแล้วหรอ?”

“ฉันจะมีความลับอะไรได้?”

“เหรอ? ดูเหมือนว่าความลับนี้จะเกี่ยวกับฉันนะ?”

สุนัขจิ้งจอกกระโดดไปมาด้วยความโกรธ “ซู่จู่ คุณกำลังล้อฉัน! คุณรังแกเด็กผู้ชายน่ารักใสซื่ออย่างฉัน ทำได้ยังไง?”

ซูโย่วอี๋เคาะประตู

สุนัขจิ้งจอกเลิกดิ้นรน “ซู่จู่ ฉันพึ่งจะได้เรียนรู้ประโยคหนึ่งจากมนุษย์อย่างพวกคุณ”

“อะไร?”

“การรับฟังคนอื่นด้วยใจที่เปิดกว้าง จะทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด”

ทั้งเกียรติยศและความอัปยศอดสูรวมเป็นหนึ่งกับระบบและซู่จู่ เขาไม่มีทางทำร้ายเธอได้

เมื่อประตูเปิดออก คนที่ยืนอยู่ข้างในก็คือ… ฮันเอินจี

ตอนนี้ ซูโย่วอี๋เข้าใจในเจตนาของสุนัขจิ้งจอกอย่างชัดเจน

เธอไม่ควรมาที่นี่จริง ๆ

ฮันเอินจีเย้ยหยันขึ้น “เธอมาทำอะไรที่นี่?”

ฮันเจ๋อหยางโผล่หัวมาจากห้องนั่งเล่น “น้องสาว ใครมาเหรอ?”

“พี่เรียกใครว่าน้องสาวล่ะ?” ฮันเอินจียกแขนทั้งสองข้างขึ้นกอดอก สายตามองอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง

ฮันเจ๋อหยางเดินเข้ามา พอเห็นซูโย่วอี๋ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

ทั้งตอนเช้าตอนเย็นก็ว่างแท้ ๆ ทำไมถึงได้มาตอนที่ฮันเอินจีอยู่กันนะ

“น้องสาว…”

คำพูดที่พึ่งออกจากปาก ทำให้ฮันเอินจีจ้องเขาในทันที “พี่เรียกใคร?”

ฮันเจ๋อหยางทำตัวกลบเกลื่อน “อากาศเย็นขนาดนี้ ให้โย่วอี๋เข้ามาก่อนเถอะ”

“หายากนะที่เธอจะมาที่นี่สักครั้ง”

ฮันเอินจีหันไปด้านข้าง “ได้ ให้เธอเข้ามา แต่ฉันพูดไปชัดเจนแล้วนะ มีฉันไม่มีเธอ มีเธอไม่มีฉัน ถ้าพี่คิดดีแล้วก็ให้เธอเข้ามา”

“ฉันจะได้ไปเก็บข้าวของตอนนี้แล้วไปเลย”

ฮันเจ๋อหยางยืนอยู่ตรงนั้นอย่างอึดอัด เขาดึงแขนเสื้อของฮันเอินจีเอาไว้ “น้องสาว ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ โย่วอี๋ก็เป็นน้องสาวของพี่เหมือนกัน”

สุนัขจิ้งจอกเข้ามาอยู่ระหว่างทั้งสองคนเพื่อแยกทั้งสองออกจากกัน

และชี้ไปยังซูโย่วอี๋ “เฮ้ นี่สิถึงจะเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนาย”

“นายไม่ต้องการน้องสาวแท้ ๆ ก็ได้ แต่ฉันต้องการพี่สาวแท้ ๆ”

“พี่สาว พี่มารับผมแล้วใช่ไหม?”

เขากระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของซูโย่วอี๋อย่างกระตือรือร้น แถมยังใช้ผมถู ๆ ไปที่แก้มของซูโย่วอี๋อีกด้วย

ฮันเจ๋อหยางเห็นเช่นนั้นก็ระเบิดลง “มู่ป๋าย กล้ามากนะแก รีบปล่อยเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

“ไม่ปล่อย นี่คือพี่สาวของฉัน ทำไมฉันต้องปล่อยด้วย?”

“ใช่ไหม พี่สาว”

ซูโย่วอี๋รู้ว่าสุนัขจิ้งจอกโกรธแทนเธอ จึงเอื้อมมือไปลูบหัวเขา “อืม”

เธอค่อย ๆ ขมวดคิ้ว

“ทำไมผมของนายถึงให้ความรู้สึกแย่กว่าขนของสุนัขจิ้งจอกอีกนะ”

สุนัขจิ้งจอกกลอกตาไปมา “ซู่จู่ มันใช่เวลามาพูดตอนนี้ไหมเนี่ย?”

ฮันเจ๋อหยางก้าวออกมาสองก้าวและดึงสุนัขจิ้งจอกออกไป “มู่ป๋าย นายลองลวนลามน้องสาวฉันดูอีกทีสิ ฉันจะต่อยนายให้ฟันร่วงหมดปากเลย”

ชายหนุ่มมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา ราวกับว่ากำลังโกรธจัด

มู่ป๋ายตอบกลับอย่างไม่กลัวตาย “โอ้ ตอนนี้รู้แล้วเหรอว่าใครคือน้องสาวของนาย? มัวทำอะไรอยู่ได้ตั้งนาน?”

ใบหน้าของฮันเอินจีดูแย่ลงในทันที

มู่ป๋ายมองไปยังซูโย่วอี๋อย่างกลัว ๆ “พี่สาว ทำไมหน้าของคน ๆ นี้ถึงได้บึ้งตึงขนาดนี้ล่ะ น่ากลัวชะมัด”

“รีบพาผมกลับบ้านเถอะ”

“กลับบ้าน?” คำพูดสองคำนี้เหมือนตกลงบนทุ่นระเบิดของฮันเจ๋อหยาง เขาไม่มีทางอนุญาตให้ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่แล้วอยู่กับซูโย่วอี๋แน่นอน

ถ้าพ่อกับแม่และพี่ใหญ่รู้เข้า ต้องฆ่าเขาแน่

ฮันเจ๋อหยางไม่สนใจว่าฮันเอินจีจะคิดอย่างไร เขาดึงให้ซูโย่วอี๋เข้าไปในบ้านและปิดประตูลง

“อย่าเอาแต่ยืนอยู่หน้าประตูสิ เข้ามาข้างในเร็ว”

แต่กลับไม่มีใครขยับไปไหนแม้แต่คนเดียว

ฮันเอินจีหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันรู้แล้ว ไม่ว่ายังไงฉันก็เทียบกับผู้หญิงที่มีสายเลือดของตระกูลฮันไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ”

“ฉันออกจากบ้านไปตั้งนาน พ่อกับแม่ไม่เคยโทรศัพท์มาหาฉันเลย แม้แต่บัตรธนาคารของฉันก็ถูกพี่ใหญ่อายัดไปแล้ว”

“พี่รอง ตอนนี้แม้แต่พี่ก็ยังเลือกผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม?”

“ได้ ฉันจะไปตอนนี้เลย”

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไม่มีเงิน เธอคงไม่มีทางก้มหัวและหันกลับมาหาฮันเจ๋อหยางหรอก

ฮันเจ๋อหยางอยากจะร้องไห้ออกมา “น้องสาว ฉันไม่มีทางเลือก เธอเป็นน้องสาวของพี่ แล้วโย่วอี๋เองก็เป็นน้องสาวของพี่ พวกเราไม่จำเป็นจะต้องเอาใครมาเปรียบเทียบอะไรกันเลยนะ”

“ทำไมถึงต้องให้ฉันเลือกด้วยล่ะ อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไม่ได้เหรอ?”

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

Status: Ongoing
ซูโย๋วอี่เพิ่งถูกสามีที่เป็นทั้งชีวิตนอกใจ แต่แล้วกลับมีระบบสุดยอดเทพธิดาปรากฏขึ้นตรงหน้า แถมบอกอีกว่าเธอจะต้องกลายเป็นดาราสุดฮอตได้แน่!‘ซูโย๋วอี่’ สาวอ้วนหนักกว่าแปดสิบแปดกิโลกรัม ถูกสามีที่เป็นทั้งชีวิตนอกใจ แต่เมื่อเธออับจนหนทางกลับมีระบบสุดยอดเทพธิดาปรากฎขึ้นตรงหน้า แถมบอกว่าเธอต้องสวยขึ้นแล้วกลับไปแก้แค้นสามีที่กล้านอกใจ ด้วยเส้นทางสู่ดาราสุดฮอตเบอร์ต้นของประเทศ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน