สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! – ตอนที่ 192.3 ท่านอ๋องเขา…ตกเหวตาย (3) (รีไรท์)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

ตอนที่ 192 ท่านอ๋องเขา…ตกเหวตาย (3) (รีไรท์)

แม้พวกเขาจะจะไม่ใช่บิดามารดาแท้ๆ ของเธอ แต่เล่อเหยาเหยาเชื่อว่านี่คือลิขิตของสวรรค์

เธอตอนนี้ รู้สึกตนมีความสุขยิ่งนัก

ข้างกายมีบิดามารดา และชายหนุ่มคนรักที่เธอต้องแต่งงานกับเขา

ชีวิตนี้เธอยังต้องการสิ่งใดอีก!

ตอนกลางวันสนทนาเรื่องในอดดีตกับฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งต้าเซี่ย หลังสนทนาอยู่นาน เล่อเหยาเหยาโล่งอกและดีใจเป็นที่สุด

เพราะขณะที่สนทนากับพวกเขา บรรยากาศดูสนิทสนมเป็นกันเองอย่างยิ่ง และจากอารมณ์ของพวกเขา ทำให้เล่อเหยาเหยารู้สึกว่านิสัยก่อนหน้านี้ของหลูลู่นั้น น่าจะคล้ายคลึงกับเธอไม่น้อย เพราะไม่เห็นพวกเขามีสีหน้าแปลกใจเลยสักนิด

ดังนั้นเล่อเหยาเหยาที่เดิมทีหวาดหวั่นใจ ก็โล่งอกลงในที่สุด

ขณะนี้เป็นยามราตรี!

แสงจันทร์น่าหลงใหล ดวงดาวเปล่งประกาย สายลมยามเย็นพัดเอื่อย

แสงจันทร์กระจ่างใส สาดส่องอย่างอ่อนโยนลงบนหลังคาจนเกิดชั้นแสงสีเงิน ดุจอยู่ในความฝันในอดีตยิ่งนัก

หากตอนนี้ไม่ได้ตั้งครรภ์ เล่อเหยาเหยาอยากปีนขึ้นไปบนหลังคา ลองนอนอยู่บนนั้นว่าจะรู้สึกเช่นไรจริงๆ

ความรู้สึกนอนอยู่ด้านบนมองท้องฟ้ายามราตรี คงไม่เลวเป็นแน่!

ดีที่สุดต้องมีชายคนรักอยู่ข้างกายตน พร้อมกาสุราและกับแกล้ม!

พอคิดถึงตรงนี้ มุมปากเล่อเหยาเหยาประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ พร้อมแววตาคาดหวัง

ตอนนี้อยากให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋อยู่ข้างกายเธอจริงๆ

ไม่รู้ในราตรีดุจในบทกวีภาพวาดเช่นนี้ เขาจะยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองพระจันทร์เพราะคิดถึงเธอเช่นเดียวกันหรือไม่!

ขณะเล่อเหยาเหยาคิดในใจ พลันได้ยินเสียงคนผลักประตูเข้ามา จากนั้นเสียงอ่อนหวานคุ้นหูดังขึ้น

“คิดอยู่แล้วว่าเจ้ายังไม่พักผ่อน”

“เสด็จแม่ ดึกเช่นนี้ เหตุใดยังไม่บรรทมอีกเพคะ!”

เล่อเหยาเหยาหมุนกายไปมองฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยที่สวมชุดฝ่ายใน ก่อนอดเอ่ยถามอย่างแปลกใจไม่ได้

เห็นเพียงหลังฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยเข้ามา ก็สั่งให้ขันทีและบ่าวรับใช้ออกไป ก่อนยิ้มอย่างอ่อนโยนค่อยๆ เดินตรงเข้ามาหาเธอ

จากนั้นดึงมือเล่อเหยาเหยา ก่อนนั่งลงบนเก้าอี้

“เพราะเจ้ากลับมา ข้าจึงดีใจมากเกินไปจนนอนไม่หลับ ดังนั้นจึงมาดูเจ้า”

“เสด็จแม่”

เมื่อได้ยินคำพูดของเสด็จแม่ เล่อเหยาเหยาจึงแสบจมูก

แม้เธอจะไม่ใช่หลูลู่ตัวจริง แต่เมื่อพบหน้าฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยครั้งแรก เธอยิมยอมพร้อมใจเป็นบุตรสาวที่จะคอยปรนนิบัติดูแลพระองค์อย่างกตัญญู

เพราะชาติที่แล้ว เธอยังไม่ได้แสดงความกตัญญูต่อบิดามารดาก็ข้ามเวลามาที่นี่ เดิมทีคิดว่าชีวิตนี้เธอคงไม่สามารถเป็นลูกกตัญญูได้แน่ คิดไม่ถึงสวรรค์กลับมอบโอกาสให้เธออีกครั้ง ช่างดีจริงๆ!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาแนบศีรษะลงสู่อ้อมกอดของฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยอย่างซาบซึ้ง สองมือกอดพระองค์ไว้แน่น ดุจเธอเคยกอดมารดาตนที่บ้านในอดีต

“อ้อมกอดของเสด็จแม่อบอุ่นจริงๆ” เล่อเหยาเหยาอุทานขึ้นมา

“ฮ่า ๆ” ฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยได้ยินทรงสรวลอย่างอ่อนโยน ก่อนยื่นมือขาวเนียนที่บำรุงเป็นอย่างดีนั้น ลูบผมยาวนุ่มลื่นของเล่อเหยาเหยาอย่างเบามือ พร้อมกล่าวยิ้มๆ อย่างอ่อนโยนว่า

“อีกไม่กี่เดือน ลู่เอ๋อร์จะเป็นแม่คนแล้ว ข้าไม่กล้าคิดถึงภาพเลยจริงๆ จำได้ว่าครั้งแรกที่ข้าพบเจ้า เจ้ายังเป็นเด็กน้อยที่เพิ่งหัดเดิน เพียงพริบตาเดียว เจ้าเติบโตขึ้นถึงขนาดนี้แล้ว”

ฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยถอนหายใจออกมาพลางมองเล่อเหยาเหยาในอ้อมกอด พลันเกิดความรู้สึก ‘บุตรสาวตนได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว’ ออกมา

เมื่อได้ยินคำพูดของฮองเฮาแห่งต้าเซี่ย เล่อเหยาเหยาอดยื่นมือลูบไล้หน้าท้องนูนเล็กน้อยของตนไม่ได้

ลูกของเธอและอวี๋จะถูกอบรมเลี้ยงดูอยู่ที่นี่!

เมื่อนึกถึงอีกไม่กี่เดือนลูกของเธอจะคลอดออกมา เล่อเหยาเหยาคิดอย่างดีใจ

และเมื่อเธอกลับมายังต้าเซี่ย ภายในวังหลวงก็จัดเตรียมงานอภิเษกของเธอกว่าเจ็ดแปดส่วนแล้ว

ตอนนี้รอเพียงอีกไม่กี่วัน เธอจะแต่งออกไปอย่างสมเกียรติ

เพียงนึกถึงการเป็นเจ้าสาวของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยารู้สึกชื่นมื่นในใจ

ร่างกายดุจจมดิ่งอยู่ในวังวนแห่งความสุข

พอคิดถึงตรงนี้ มุมปากเล่อเหยาเหยายกยิ้มกว้างทั่วใบหน้า เปิดความสุขอิ่มอกอิ่มใจออกมา

ฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยเห็นเช่นนั้น อดเอ่ยขึ้นอีกรอบไม่ได้

“เห็นท่าทางมีความสุขเช่นนี้ของเจ้า ข้าก็วางใจ ก่อนหน้านี้เจ้าโวยวายจะอภิเษกกับซีเอ๋อร์ให้ได้ ข้าเองก็ดีใจที่เจ้าและซีเอ๋อร์จะอภิเษกกัน เพราะเจ้าอยู่ข้างกายข้ามาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยห่างจากข้าแม้แต่ก้าวเดียว ข้าจึงกลัวว่าหลังเจ้าเติบใหญ่แล้วจะอภิเษกกับชายอื่น จะถูกข่มเหงรังแกจึงไม่วางใจ และข้าตัดใจให้เจ้าหายไปจากข้างกายข้าไม่ได้ ตอนนี้แม้เรื่องจะเกินความคาดหมาย เจ้าไม่ได้อภิเษกกับซีเอ๋อร์ ก็ช่างเถิด เพียงเห็นเจ้ามีความสุข ข้าก็พอใจแล้ว”

“เสด็จแม่”

เมื่อได้ยินคำพูดอ่อนโยนของฮองเฮาแห่งต้าเซี่ย เล่อเหยาเหยาซาบซึ้งในใจ

และเธอก็รู้ว่าแม้เธอและฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยจะไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยปฏิบัติกับเธอด้วยใจจริง

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยากลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลรินลงมาไม่ไหวอีกต่อไป

ฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยที่มองอยู่ด้านข้างอดตาแกงด่ำไม่ได้ ก่อนรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้เธอ

“ดูเจ้าสิ อย่าร้องไห้อีกเลย ร้องจนหน้าตาดูไม่ได้แล้ว”

“เสด็จแม่ หม่อมฉันรักพระองค์เพคะ” เมื่อกอดฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยแน่น เล่อเหยาเหยาอดเอ่ยปากออดอ้อนไม่ได้

ฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยได้ยิน คิ้วตาโค้งขึ้น ยิ้มอย่างอ่อนโยนทั่วใบหน้า

“ฮ่า ๆ ข้าก็รักเจ้า เด็กดี เข้านอนเถิด เจ้าตั้งครรภ์ต้องพักผ่อนให้เร็ว”

“แต่เสด็จแม่ คืนนี้ข้าอยากนอนกับพระองค์เพคะ”

เพราะหาได้ยากที่จะพบคนที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับบิดามารดาราวคนเดียวกันเช่นนี้ เล่อเหยาเหยาจึงคิดว่า นี่คือลิขิตของสวรรค์แน่นอน

เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าเหลือเชื่อเกินไป ดังนั้นเธอจึงตัดใจให้เสด็จแม่จากไปไม่ได้

ฮองเฮาแห่งต้าเซี่ยได้ยิน และเห็นสายตาอ้อนวอนของเล่อเหยาเหยาจึงปฏิเสธไม่ลง เอ่ยว่า

“เอาเถิด เช่นนั้นข้าจะนอนกับเจ้าลู่เอ๋อร์”

“ดียิ่งเพคะเสด็จแม่ ทว่าฝ่าบาทจะอนุญาตหรือไม่เพคะ”

เล่อเหยาเหยารู้ว่า คืนนี้ฮ่องเต้แห่งต้าเซี่ยจะทรงบรรทมในตำหนักของฮองเฮา

แม้ที่นี่ ‘บิดา’ ของเธอจะไม่ได้มีเพียง ‘มารดา’ คนเดียว แต่เธอมองออกว่าบิดาของเธอในตอนนี้รักมารดาเธอยิ่งนัก

ก่อนจะมาที่นี่ เล่อเหยาเหยาเคยได้ยินจากปากเซี่ยลี่และเซี่ยผิงว่า แม้ฮ่องเต้ต้าเซี่ยจะมีสาวงามกว่าสามพันคน แต่หนึ่งเดือนเวลาส่วนใหญ่จะพำนักอยู่ที่ตำหนักเฟิ่งเฉาของฮองเฮา แม้เหล่านางสนมจะประสูติพระโอรสพระธิดาให้แก่พระองค์ แต่ไม่มีผู้ใดเทียบกับฮองเฮาได้

เรื่องนี้ในอดีตถือว่าหาได้ยากยิ่งนัก มีเพียงฮ่องเต้แห่งต้าเซี่ยที่รักใคร่ลุ่มหลงต่อฮองเฮา

แม้ฮ่องเต้แคว้นต้าเซี่ยจะไม่สามารถเป็นแม่น้ำรั่วสามพันลี้ เพียงหนึ่งจอกก็ดับกระหายได้[1] แต่จากในอดีตเมื่อเป็นฮ่องเต้ นั่งอยู่บนตำแหน่งที่สูงสุด ก็มีสิ่งที่พระองค์ทรงจนปัญญาและไม่ได้ดั่งใจมากมาย

ขณะเล่อเหยาเหยาคิดในใจ ได้ยินฮองเฮาที่อยู่ด้านข้างกล่าวยิ้มๆ ว่า

“เด็กน้อยของข้า จะไปเปรียบเทียบกับพระองค์ได้เช่นไร!”

“ฮ่า ๆ”

เมื่อได้ยิน เล่อเหยาเหยาอดหัวเราะไม่ได้

และคืนนี้เธอหลับสนิทอย่างมีความสุข

และฝันหวาน

ภายในความฝันเธออยู่ข้างทุ่งหญ้าเชียวชอุ่ม กลางทุ่งหญ้ามีบ้านสีขาวสวยงามหลังหนึ่ง ด้านในมีบิดามารดาที่เธอรัก และชายที่เธอรักที่สุด เท้าด้านล่างยังมีเด็กแฝดชายหญิงน่ารักคู่หนึ่งเกาะพันกอดขาของเธอไม่หยุด ยิ้มแย้มเอ่ยเรียกเธอ

วันถัดมา

อาจเพราะหลับฝันดี เช้าวันที่สองที่ตื่นขึ้นมา เล่อเหยาเหยาจึงกระปรี้กระเปร่าอย่างยิ่ง ใบหน้าก็แดงระเรื่อ แม้จะไม่ปัดชาดแดง งดงามจับใจ น่ารักอ่อนช้อย

เมื่อตื่นตอนเช้า เซี่ยผิงและเซี่ยลี่เข้ามาปรนนิบัตล้างหน้าหวีผมให้แก่เล่อเหยาเหยา ก่อนจะไปทานอาหารเช้ากับฮองเฮาแห่งต้าเซี่ย

และสถานที่ทานอาหารเช้าคือ ห้องโถงในตำหนักเฟิ่งเฉา

ที่นี่ไม่เสียแรงที่เป็นสถานที่พำนักของฮองเฮา ทุกอย่างที่ใช้ทั้งหมดต่างเป็นของดีที่สุด

ผ้าม่านโปร่งบาง ม่านลูกปัดห้อยระย้า ผนังมีภาพวาดหมึกราคาสูงล่มเมืองภาพหนึ่งแขวนอยู่

ด้านข้างวางเก้าอี้ลายสลักทำจากไม้จื่อถานชั้นดี บนโต๊ะจัดวางพวกแจกันดอกไม้โบราณมีค่ามหาศาล

และพื้นปูด้วยพรมปักลายดอกไม้นานาพันธุ์ แสงถึงความสูงส่ง

ทว่าฮองเฮาชื่นชอบดอกคามิลเลีย ดังนั้นทุกวันเหล่านางกำนัลต้องตื่นแต่เช้าตรู่ จากนั้นไปเก็บดอกคามิลเลียที่บานสะพรั่งสวยสดมาวางไว้รอบทิศของห้องโถง

ดังนั้นเมื่อเล่อเหยาเหยามาถึงห้องโถงของตำหนักเฟิ่งเฉา ก็สามารถได้กลิ่นหอมของดอกคามิลเลียนั้น ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีตามไปด้วยไม่ได้

เวลานี้ ฮองเฮานั่งอยู่ในห้องโถงรอทานอาหารเช้ากับเธอแล้ว

“อืม หอมยิ่งนัก วันนี้เสด็จแม่ทำของอร่อยใดให้หม่อมฉันหรือเพคะ”

“ฮ่า ๆ เด็กตะกละคนนี้ หิวแล้วรีบมาทานเร็วเข้า”

เมื่อเข้ามาเล่อเหยาเหยาพยายามดมกลิ่น มือหนึ่งลูบไล้หน้าท้อง ทำปากตะกละ สร้างความขบขันให้กับเหล่านางกำนัลด้านข้าง จนอดอุดปากแอบหัวเราะไม่ได้

เล่อเหยาเหยาไม่สนใจคนอื่นที่แอบหัวเราะอยู่ด้านข้าง กลับนั่งลงยังตำแหน่งของตนอย่างใจกว้าง จากนั้นทานอาหารเช้าร่วมกับฮองเฮา

เพราะตั้งครรภ์ เล่อเหยาเหยาจึงทานปริมาณมาก ฮองเฮาไม่นานทรงอิ่ม หลังใช้ผ้าเช็ดมุมปากเสร็จ ก็ยังคีบอาหารให้แก่เล่อเหยาเหยาอย่างเอาใจ

“ลองนี่ อาหารเหล่านี้ต่างเป็นของชอบของเจ้า!”

“อืม ขอบพระทัยเพคะเสด็จแม่”

เมื่อทานอาหารที่เสด็จแม่คีบให้ เล่อเหยาเหยาทานอย่างเอร็ดอร่อย

หลังผ่านไปนาน เมื่ออิ่ม ในที่สุดเล่อเหยาเหยาก็วางตะเกียบลง

เหล่านางกำนัลเห็นเช่นนั้น รีบลำเลียงอาหารที่เหลือบนโต๊ะลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนเปลี่ยนนำผลไม้หลังอาหารขึ้นมาวางแทน

หลังเล่อเหยาเหยาและฮองเฮาดื่มชาและผลไม้เสร็จ จึงไปเดินเล่นภายในวังหลวงกัน

ทว่าฮองเฮาเป็นนายหญิงแห่งวังหลัง จึงมีเรื่องในวังหลังมากมายต้องจัดการ ดังนั้นหลังจากพาเล่อเหยาเหยาเดินเล่นอย่างสบายใจ ก็กลับไปยังตำหนักเฟิ่งเฉา

เล่อเหยาเหยาที่ไม่เหน็ดเหนื่อย พาเซี่ยลี่และเซี่ยผิงเดินไปรอบๆ

เพราะวังหลวงของต้าเซี่ย เธอยังไม่เคยได้มาเยี่ยมชม!

และตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงวันอภิเษกของเธอ เรื่องชุดเครื่องแบบพิธีการภายในวังได้จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว

เดิมทีฮองเฮามีใจอยากให้เล่อเหยาเหยาอภิเษกกับพระโอรสของตน ดังนั้นพวกชุดเครื่องแบบพิธีการจึงถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า

[1] แม่น้ำรั่วสามพันลี้ เพียงหนึ่งจอกก็ดับกระหาย เปรียบเปรยถึง ผู้คนในโลกนี้มีมากมาย แต่ข้าต้องการเพียงเจ้าคนเดียว

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

Status: Ongoing
เมื่อเด็กสาวจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดข้ามเวลามายุคโบราณ อยู่ในร่างขันทีที่เป็นสตรีปลอมตัวมา ทว่าต้องปรนนิบัติพญายมผู้เกลียดชังผู้หญิงยิ่งกว่าสิ่งใด… งานนี้จะมี ‘รัก’ หรือมี ‘รอด’ กันนะ!นิยายแปลจีนโบราณ โรแมนติก-คอเมดี้ สุดฟิน จิกหมอนไปขำไป!จู่ๆ ‘เล่อเหยาเหยา’ เด็กสาวที่ข้ามเวลามาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดฟื้นขึ้นมาในร่างของผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นขันที ใช้ชีวิตอยู่ในยุคเทียนหยวนที่ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์แถมยังได้รับหน้าที่ปรนนิบัติ ‘เหลิ่งจวิ้นอวี๋’ ท่านอ๋องแห่งวังรุ๋ยอ๋องผู้ที่อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แย้มยิ้มสนทนาขณะสังหารคนโดยไม่กะพริบตา จนทุกคนต่างขนานว่า ‘พญายม’ทั้งยังมีเสียงเล่าลือกันอีกว่า รุ่ยอ๋องคนนี้เกลียดชังผู้หญิง ชนิดที่ห้ามผู้หญิงเข้าใกล้เกินห้าก้าว!ทว่า วันหนึ่งพญายมเกิดสนใจในตัวเธอขึ้นมาเธอจะทำเช่นไร เพื่อรักษาชีวิต และความลับที่ว่าแท้จริงแล้วเธอคือ ‘ผู้หญิง’…รวมไปถึง เรื่องที่จู่ๆ ผู้หญิงในร่างขันทีน้อยคนนี้เกิดตั้งครรภ์โดยไม่คาดคิดได้เสียนี่!สวรรค์! ได้โปรดให้ฟ้าผ่าแล้วพาเธอกลับไปโลกเดิมที!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท