ยืมคอมพิวเตอร์เหรอ
อาจารย์เติ้งอึ้งไปชั่วขณะ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร “ได้ รอครูเดี๋ยวนะ”
เธอพยักหน้าให้อาจารย์สวีแล้วเดินออกจากห้องพักครูไป
อาจารย์สวีขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ขัดจังหวะ
เขาเป็นอาจารย์ประจำชั้นคลาสเด็กอัจฉริยะมานานขนาดนี้ รู้จักเด็กแต่ละคนดี
อิ๋งจื่อจินเรียนแย่ นิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยพูดจา ปกติจะเดินก้มหน้าด้วยความระมัดระวัง ไม่ถูกรังแกก็ถือว่าดีมากแล้ว
แต่ก่อนหน้านี้เขาโทรหาคุณนายอิ๋ง ตระกูลอิ๋งกลับมีท่าทีเย็นชาไม่สนใจ
คล้ายกับว่าแน่ใจแล้วว่าเรื่องนี้อิ๋งจื่อจินเป็นคนทำ
อาจารย์สวีไม่เข้าใจเลยจริงๆ
คุณนายอิงเห็นท่าทางของอิ๋งจื่อจินยังคงไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่มีความละอายใจและสำนึกผิดแม้แต่น้อย เธอจึงโมโหยิ่งกว่าเดิม
“เธอจะเอาคอมพิวเตอร์มาทำอะไรหา ยังไม่ขอโทษอีกเหรอ” ขณะพูดก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
“ในเมื่อเธอหน้าไม่อาย งั้นตอนนี้ฉันจะเอาวีรกรรมที่เธอทำไปโพสต์ลงในเวยปั๋ว”
กระแสวิจารณ์อาจถึงขั้นทำลายคนคนหนึ่งได้
พอได้ยินแบบนั้นอิ๋งจื่อจินก็หันหน้าไป เงยหน้าเล็กน้อย
ผิวพรรณขาวผ่องช่วยขับให้ดวงตาหงส์ดูเย็นยะเยือก
พอเห็นสายตานั้น อยู่ๆ อิงเฟยเฟยก็นึกเรื่องที่ก่อนหน้านี้ตัวเองถูกจับยัดถังขยะยังไง ถูกบังคับให้กินขยะทีละคำยังไง ร่างกายก็สั่นเทาขึ้นมา
เธอยื่นมือสั่นๆ ออกไป “คุณแม่ อย่าเพิ่ง…”
“เฟยเฟยไม่ต้องกลัวนะ” คุณนายอิงปลอบลูกสาวต่อ พูดด้วยความเคียดแค้น “แม่จะช่วยหนูเอาคืนเองลูก”
“คุณนายอิงครับ” อาจารย์สวีจำต้องเอ่ยปาก “หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าตัว ถือว่าคุณทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงนะครับ”
มือของคุณนายอิงหยุดชะงัก สีหน้าร้อนรนอย่างบอกไม่ถูกท่ามกลางสายตาจำนวนมาก
เวลานี้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น อาจารย์เติ้งที่ไปเอาคอมพิวเตอร์เดินกลับมาแล้ว
“ขอบคุณค่ะอาจารย์เติ้ง” อิ๋งจื่อจินรับคอมพิวเตอร์มา ใช้มือประคองไว้ “รบกวนแล้วค่ะ”
“ไม่รบกวนจ้ะ” อาจารย์เติ้งอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้ “เธอจะทำอะไรเหรอ”
“เปล่าค่ะ” อิ๋งจื่อจินเปิดคอมพิวเตอร์ ล้วงแฟลชไดร์ฟออกมาจากกระเป๋าเสื้อพลางพูด “จะคัดลอกภาพจากกล้องวงจรปิดมาแบ่งปันกันนะคะ”
กล้องวงจรปิดเหรอ
คำๆ นี้ทำให้อาจารย์สวีต้องให้ความสำคัญขึ้นมาแล้ว
เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “มันเรื่องอะไรกันแน่”
อิงเฟยเฟยกลับเบิกตาโพลง มือเต็มไปด้วยเหงื่อ
เธอมาถึงโรงเรียนตั้งแต่หกโมงสิบห้าเพื่อต้องการสั่งสอนอิ๋งจื่อจิน
ตอนนั้นในโรงเรียนไม่มีใคร แต่กล้องวงจรปิดทำงานอยู่ตลอด ถ้า…ไม่ เป็นไปไม่ได้แน่นอน
ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดแม้แต่อาจารย์ยังเข้าไปตามอำเภอใจไม่ได้ อิ๋งจื่อจินเป็นนักเรียนจะเข้าไปในห้องนั้นได้ยังไง
อิงเฟยเฟยใจชื้นขึ้นมาแล้ว เธอแสยะยิ้มในใจ
“ดูกล้องวงจรปิดเหรอ” คุณนายอิงก็ยิ้มเยาะอย่างได้ใจ “เอาสิ งั้นก็ดูเลย ดูซิว่านักเรียนอย่างเธอรังแกเฟยเฟยของเรายังไงกันแน่!”
น้ำเสียงของเธอแหลมสูง ทำให้จงจือหว่านที่กำลังจะเคาะประตูก็ได้ยินเช่นกัน อดชะงักไปไม่ได้
“ทำไมไม่เข้าไปล่ะ”
เสียงทุ้มของผู้ชายดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“ไม่มีอะไรค่ะอาจารย์เฮ่อ” จงจือหว่านตกใจเล็กน้อย พอเห็นคนที่มาจึงยิ้มให้ “ก็แค่ห้องเรามีเรื่องกันนิดหน่อย อาจารย์สวีกำลังแก้ปัญหา เลยให้พวกเราเรียนด้วยตัวเองไปก่อนค่ะ”
เฮ่อสวินหน้านิ่ว “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“อันที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” จงจือหว่านอึกอัก เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ฟังอย่างคร่าวๆ “หนูเลยมาดูว่าเป็นยังไงบ้างแล้วค่ะ”
พอฟังจบสีหน้าของเฮ่อสวินก็เย็นชาลง แต่น้ำเสียงยังคงสุขุม “เธอกลับไปก่อนเถอะ ครูจะไปดูหน่อย อย่าให้กระทบการเรียน”
จงจือหว่านพยักหน้า ไม่ปฏิเสธ “งั้นก็รบกวนอาจารย์เฮ่อด้วยค่ะ”
เฮ่อสวินเปิดประตูเข้าไปก็เห็นอิ๋งจื่อจินงอขาอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ควางบนแขน
ก้มหน้าลงเล็กน้อย ใช้มืออีกข้างกดแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเฮ่อสวินเย็นชาลงทันที เจือไปด้วยความรังเกียจ
ผู้ถูกกระทำอยู่ด้านข้าง ส่วนเธอทำเหมือนกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ไม่สำนึกผิดแม้แต่น้อย
เขาสอนหนังสือมาสองปี ไม่เคยเจอนักเรียนแบบนี้มาก่อน
“อาจารย์สวีครับ” เฮ่อสวินไม่มองอิ๋งจื่อจินอีก “ผมมาถามแทนเด็กนักเรียนคลาสเด็กอัจฉริยะว่าจัดการเรื่องนี้เสร็จหรือยังครับ”
“ยังอีกสักพักครับ” อาจารย์สวีค่อนข้างแปลกใจกับการมาของเฮ่อสวิน แต่เขาไม่พูดอะไร “ในคลาสมีจือหว่านดูอยู่”
เฮ่อสวินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อาจารย์สวีไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหรอกครับ”
ทำผิดก็ตัดคะแนน ให้ทั้งห้องมารอได้ยังไง
เวลาของคนสี่สิบกว่าคนชดใช้ไหวเหรอ
“นั่นสิคะ” คุณนายอิงวางตัวเหนือกว่า “ยังจะดูกล้องวงจรปิด ยังขายหน้าไม่พอหรือไง”
พอพูดประโยคนี้จบ ทันใดนั้นโปรเจคเตอร์ภายในห้องทำงานก็ถูกเปิด ภาพวิดีโอถูกฉายไปยังฉากขาวเบื้องหน้า
เป็นภาพส่วนหนึ่งจากกล้องวงจรปิด ภาพนั้นไม่ค่อยชัด แต่ก็พอมองออกว่าเป็นใคร
เวลาตรงมุมขวาบนของภาพแสดงนาทีและวินาทีอย่างชัดเจน
พอเห็นตัวเองอยู่ในภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ในที่สุดอิงเฟยเฟยก็เริ่มลนลาน อยากเข้าไปดึงเสื้อคุณนายอิง
แต่ทุกคนภายในห้องพักครูต่างมองไป รวมถึงเฮ่อสวินด้วย
ภาพวิดีโอดำเนินไป ภาพที่ปรากฏคือ
เวลาหกโมงสิบห้านาทียี่สิบเจ็ดวินาที อิงเฟยเฟยเดินเข้าประตูโรงเรียน
เวลาหกโมงยี่สิบนาทีสี่สิบหกวินาที อิงเฟยเฟยมาถึงห้องเรียนของคลาสเด็กอัจฉริยะ หยิบหนังสือออกมาจากลิ้นชักของอิ๋งจื่อจินแล้วฉีกโยนทิ้งถังขยะ จากนั้นก็ออกไป
เวลาหกโมงสามสิบห้านาทีสิบสี่วินาที อิงเฟยเฟยถือน้ำเต้าหู้หนึ่งถุงกับก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามกลับเข้ามาในห้องเรียนอีกครั้งแล้วเอาทั้งหมดเทลงถังขยะ
เวลาหกโมงสี่สิบนาทีสามสิบสี่วินาที อิงเฟยเฟยย้ายถังขยะใบหนึ่งไปไว้ด้านหลังห้องเรียน
เวลาหกโมงสี่สิบห้านาทีสิบสองวินาที อิงเฟยเฟยเข้าห้องเรียนมาเป็นครั้งที่สี่ เอาแมงมุมสองตัวไปใส่ไว้ในลิ้นชักของอิ๋งจื่อจิน